บทความที่น่าสนใจ สำหรับชาวจักรยานมาฝาก ตัดสินใจมาปั่นจักรยานกันเถอะ (เรื่องเก่ามาเล่าใหม่)

เราอาจขี่จักรยานเพื่อช่วยให้โลกสะอาดขึ้น นั่นคือเหตุผลเบื้องต้นที่ทำให้ใครๆหันมาขี่จักรยาน แต่เมื่อพิจารณาให้ลึกลงไปกว่านั้น เจาะให้ลึกด้วยหลักวิทยาศาสตร์ คุณจะพบว่าตัวเองสามารถรักษาเซลสมองไว้ได้ จะใช้มันเพื่อสานสัมพันธ์ในครอบครัวก็ได้ ที่เห็นชัดๆคือการออกกำลังกายแบบแอโรบิคแบบนี้ช่วยขยายความจุของปอดได้ดี ตามมาด้วยการหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขหรือเอนดอร์ฟีน ถ้างั้นแล้วการขี่จักรยานกันสม่ำเสมอจะไม่ดีหรือ? มันดีแน่ๆด้วยเหตุผลต่อไปนี้

1. เดินทางได้เร็วขึ้นด้วยจักรยาน : ถ้ามีวันไหนที่ว่างขอให้ลองขี่จักรยานไปทำงาน จับเวลาแล้วคุณจะพบว่าใช้เวลาน้อยกว่าการเดินทางด้วยรถยนต์จริงๆ โดยเฉพาะในเมืองหลวงที่การจราจรเคลื่อนตัวช้าหรือติดขัด การใช้จักรยานวิบากหรือเสือหมอบปั่นลัดเลาะเข้าซอยก่อนถึงจุดหมายจะช่วยย่นระยะเวลาได้มาก

2. หลับได้สนิท : การออกไปควบจักรยานตอนเช้าตรู่อาจรู้สึกทรมานบ้างในช่วงแรกๆ แต่เมื่อทำให้ชินแล้วมันจะช่วยเร่งกระบวนการเมตาบอลิซึ่มให้เผาผลาญสารอาหารช่วงเช้าได้ดี มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดแห่งสหรัฐฯได้วิจัยโดยให้คนมีอาการนอนไม่หลับปั่นจักรยานวันละ 20-30 นาทีทุกวันนานเป็นเดือน ผลคือคนพวกนี้หลับสนิทเร็วขึ้นกว่าเดิมเป็นครึ่ง เดิมทีต้องข่มตาหลับนานถึงสองสามชั่วโมงลดลงมาเหลือแค่ชั่วโมงกว่าเท่านั้น

3. คงความอ่อนเยาว์ไว้ได้นานกว่า : นักวิทยาศาสตร์จากสแตนฟอร์ดเจ้าเดิมพบว่าการขี่จักรยานเป็นประจำสามารถทำให้ผิวหนังปรับตัวป้องกันตัวเองจากรังสียูวีได้ รวมทั้งทำให้แก่ช้าลงด้วยรายละเอียดว่าการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดด้วยการออกกำลังกาย จะช่วยให้ทั้งออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ผิวหนังได้ดีขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งขับของเสียและสารพิษต่างๆออกไปด้วย นอกจากนี้การออกกำลังยังเป็นการสร้างสภาพภายในร่างกายให้เหมาะสมต่อการผลิตคอลลาเจนอันเป็นสารเคมีให้ความชุ่มชื้นต่อผิวพรรณลงไปเร่งกระบวนการซ่อมแซมผิวส่วนที่สึกหรอกระนั้นก็ยังอดเตือนไม่ได้ว่าควรทาครีมกันแดด SPF30 ทุกครั้งก่อนออกแดด เพราะเดี๋ยวนี้แดดแรงมาก แรงจริงๆ

4. ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานเป็นปกติ : จากการวิจัยของทีมนักวิทยาสาสตร์มหาวิทยาลัยบริสตอล อังกฤษ การขี่จักรยานเป็นประจำจะทำให้ระบบทางเดินอาหารแข็งแรง ด๊อกเตอร์อานา ไรมุนโต แห่งทีมนักวิจัยบอกว่า “การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะทำให้อาหารไหลเวียนได้คล่อง ลดปริมาณน้ำที่ร่างกายจะดูดซึมกลับ อาหารจะไหลเข้าสู่ระบบต่างๆได้ง่าย ร่างกายดูดซึมได้ง่ายเช่นกัน”

5. ช่วยให้สมองปลอดโปร่ง แจ่มใส : ถ้าอยากให้สมองโปร่งคิดอะไรออกง่ายๆ ทางอกง่ายๆคือการปั่นจักรยาน คณะวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์พบว่าการได้ออกกำลังกายแบบแอโรบิคโดนเฉพาะปั่นจักรยานจะช่วยให้คนทำแบบทดสอบเกี่ยวกับสมองและความจำทำคะแนนดีขึ้นถึง 15 เปอร์เซ็นต์ เมื่อการปั่นจักรยานกระตุ้นให้หัวใจสูบฉีดเลือดมันจึงสูบเลือดไปเลี้ยงสมองด้วยโดยปริยาย มีเลือดไปเลี้ยงมากขึ้นก็ทำงานได้ดีขึ้นอยู่แล้วเป็นปกติและจะดียิ่งขึ้นเมื่อคุณอายุเลย 30 ไปซึ่งเซลสมองเสื่อมลงตามวัย การปั่นจักรยานสม่ำเสมอจะช่วยให้สมองเสื่อมช้าลง

6. ร่างกายแข็งแรงขึ้น : เมื่อก่อนมีคำพูดว่าให้กินแอปเปิ้ลวันละลูกแล้วจะไม่ต้องไปหาหมอ ตอนนี้ต้องคิดใหม่แล้วว่าถ้าการกินแต่แอปเปิ้ลโดยไม่ออกกำลังคงไม่มีทางแข็งแรง ต้องออกกำลังบ่อยๆแล้วจะทำให้เซลภูมิป้องกันแข็งแรงเอง ลดอาการติดเชื้อ ตามคำยืนยันของแคธ คอลลินส์หัวหน้านักโภชนาการแห่งโรงพยาบาลเซนต์จอร์จ ลอนดอน มหาวิทยาลัยนอร์ธ แคโรไลนายังเสนอผลงานวิจัยสนันสนุนอีกด้วยว่าเอาแค่ขี่จกัรยานให้ได้วันละ 30 นาทีอาทิตย์ละห้าวันคุณก็จะแข็งแรงจนแทบสะกดคำว่า “หมอ” ไม่ถูกแล้ว จะจริงหรือไม่ก็ลองปั่นจักรยานดูเถอะ

7. อายุยืน : คิงส์ คอลเลจแห่งลอนดอนได้เปรียบเทียบแฝดแท้จำนวน 2,400 คู่ที่ออกกำลังและไม่ได้ออกกำลัง พบว่าฝ่ายที่ปั่นจักรยานครั้งละ 45 นาทีอาทิตย์ละสามวันติดต่อกันมาเก้าปี จะคงความอ่อนเยาว์ไว้ได้มากกว่าแฝดคนที่ไม่ได้ปั่น คนปั่นบ่อยจะลดอัตราการเสี่ยงโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดลงได้มาก เช่น โรคหัวใจ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด เบาหวาน มะเร็งทุกประเภท รวมทั้งความดันเลือดสูงและโรคอ้วน ร่างกายคุณจะปกป้องตัวเองจากอันตรายภายนอกทั้งจากสภาพแวดล้อมและเชื้อโรค นี่จึงเป็นเหตุให้นักจักรยานมีอายุยืน

8. ช่วยลดมลภาวะ ช่วยให้โลกน่าอยู่ขึ้น : ความจริงเรื่องเนื้อที่ คือจักรยานยี่สิบคันสามารถจอดได้ในที่ว่างที่จอดรถยนต์เพียงคันเดียวได้ ใช้พลังงานและวัตถุดิบเพียงห้าเปอร์เซ็นต์ของที่ใช้สร้างรถยนต์หนึ่งคันเพื่อสร้างจักรยานคันเดียวและที่สำคัญจักรยานไม่ก่อมลพิษเลยแม้แต่น้อย จักรยานเป็นพาหนะที่มีประสิทธิภาพสูง เราเดินทางด้วยจักรยานเร็วกว่าเท้าถึงสามเท่าด้วยพลังงานเท่ากันเทียบกับการเติมน้ำมันรถยนต์แล้วคือจักรยานใช้พลังงานเมื่อขี่ไกล 2,24 แกลลอนต่อไมล์ ที่เราไม่ค่อยได้คิดกันคือ เรื่องสัดส่วนน้ำหนก โดยเฉลี่ยนคนขี่จะหนักกว่าจักรยานหกเท่าในขณะที่รถยนต์หนักกว่าตัวเราถึงยี่สิบเท่า

9. จักรยานคือเครื่องแสดงสถานะ : เปล่า มันไม่ได้แสดงว่าคุณรวยเลยถ้าได้ขี่จักรยานแพวๆ แต่ที่เห็นได้ชัดๆคือมันแสดงให้รู้ว่าคุณคือคนใส่ใจสุขภาพ เป็นชนชั้นที่เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์พลังงานจริงๆ ทำให้ใครๆเห็นบ่อยๆแล้วเขาจะเข้าใจจริงๆว่าคุณไม่ได้ทำเอาหน้าการขี่จักรยานบ่อยๆอาจทำให้เกิดการเลียนแบบได้และในที่สุด “ชนชั้นจักรยาน” จะเกิดขึ้นและแพร่ออกไปเป็นกลุ่มใหญ่

10. ช่วยให้เรื่องบนเตียงดีขึ้น : การเป็นคนแอ๊คทีฟ ออกกำลังกายบ่อยๆโดยเฉพาะขี่จักรยานจะทำให้ระบบหลอดเลือดทำงานดีขึ้น ส่งผลให้กิจกรรมทางเพศดีขึ้นด้วยทั้งระยะเวลาและอายุการใช้งาน รายงานการวิจัยชิ้นหนึ่งจากมหาวิทยาลัยคอร์เนล สหรัฐฯ ระบุว่านักกีฬาชายที่เล่นกีฬาอย่างสม่ำเสมอจะมีความสามารถทางเพศเทียบเท่ากับเพศเดียวกันที่อ่อนกว่าสองถึงห้าปี ยืดระยะเวลาการถึงวัยทองต่อไปได้อีกมากมาย

อีกชิ้นหนึ่งคือรายงานการวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ค พบว่าผู้ชายวัย 50 กว่าๆที่ปั่นจักรยานได้อาทิตย์ละสามชั่วโมงจะมีความเสี่ยงต่ออาการไม่แข็งตัวน้อยลง 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับพวกไม่ชอบปั่นซ้ำยังดื่มเหล้าสูบบุหรี่

11. เป็นแม่พันธ์ที่ดี : ใครจะเชื่อบ้างว่าการขี่จักรยานเป็นประจำจะทำให้คุณเป็นพ่อคนแม่คนที่มีสุขภาพดี ตามรายงานการวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน พบว่าหญิงตั้งครรภ์ชาวสหรัฐที่ออกกำลังสม่ำเสมอระหว่างตั้งท้องจะคลอดลูกง่ายกว่าปกติ คลอดแล้วยังฟื้นสภาพกลับมาเป็นปกติได้เร็วกว่า อารมณ์ก็ไม้ขึ้นๆลงๆเหมือนแม่ทั่วไปที่เอาแต่กินด้วยระหว่างเก้าเดือนแห่งการตั้งครรภ์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการออกกำลังกายสม่ำเสมอระหว่างการตั้งครรภ์นั้นทำให้แม่แข็งแรงซึ่งผลพลอยได้คือเธอสามารถป้องทารกในครรภ์ได้ดี ผลพวงจากแม่แข็งแรงนี้ส่งผลกระทบไปถึงลูกด้วยซึ่งจะแข็งแรงนี้ส่งผลกระทบไปถึงตัวลูกด้วยซึ่งจะแข็งแรงตามกันเมื่อเขาลืมตาดูโลก

12. หัวใจแข็งแรง : รายงานการวิจัยหลายชิ้นจากหมาวิทยาลัยเปอร์ดิวในสหรัฐฯ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าการขี่จักรยานสม่ำเสมอจะทำให้โอกาสเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจลงได้ถึงครึ่งตามรายงานของศูนย์ป้องกันโรคหัวใจแห่งอังกฤษระบุว่าผู้คนชาวอังกฤษสามารถหลีกเลี่ยงการเป็นโรคหัวใจได้หลายหมื่นคน เมื่อพยายามทำให้ตัวเองฟิตอยู่เสมอ แค่ขี่จักรยานให้ได้อาทิตย์ละ 30 ก.ม. เป็นอย่างต่ำเท่านี้ก็ลดโอกาสเป็นโรคหัวใจได้ชะงัดแล้ว

13. การขี่จักรยานสมัยนี้ปลอดภัยกว่าแต่ก่อนมาก : เพราะเทคโนโลยีการสร้างจักรยานในปัจจุบันเจริญก้าวหน้าไปมากนั่นก็ใช่อีกเรื่องคืผู้คนสมัยนี้รู้จักจักรยานมากกว่าเมื่อก่อน และรู้จักด้วยว่ามันเป็นพาหนะทางเลือกที่สามารถใช้แทนยวดยานชนิดอื่นได้ดี มีจักรยานให้เลือกหลากชนิดตั้งแต่เสือหมอบเพื่อแข่งระดับแกรนด์ทัวร์ไปจนถึงจักรยานจ่ายตลาด จักรยานนอนถีบ มีการให้การศึกษาเรื่องการใช้ถนนร่วมกับจักรยานในหลายประเทศ เกือบทุกประเทศมีเลนสำหรับจักรยานหรือแม้แต่ออกกฎหมายเพื่อคุ้มครองคนขี่จักรยาน (เมืองไทยเราด้วยหรือเปล่าหนอ?) การขี่จักรยานทั้งเพื่อออกกำลังและเพื่อใช้เป็นพาหนะจึงปลอดภัยขึ้นกว่าเดิมเมื่อหลายสิบปีก่อนมาก

14. ขี่จักรยานแล้วเจ้านายจะรัก : เปล่า เราไม่ได้หมายถึงเจ้านายหนุ่มๆจะชอบบั้นท้ายของสาวๆในกางเกงจักรยานผ้าไลครา แต่หมายความว่าไม่ว่าจะเป็นช่วงก่อนเข้างานหรือระหว่างพักกลางวันจะให้ผลผลิตได้มากและรู้จักจัดการกับเวลาได้ดีกว่าคนที่ไม่ทำอะไรเลย การศึกษาตัวอย่าง 200 คน ที่กระทำโดยมหาวิทยาลัยบริสตอลของอังกฤษยืนยันคำกล่าวอ้างนี้ได้ดี

15. ปั่นจักรยานห่างไกลมะเร็ง : มีหลักฐานมากมายแสดงให้เห็นว่าการปั่นจักรยานทำให้ห่างมะเร็ง มีอีกหลายชิ้นเหมือนกันที่แสดงว่าการขี่จักรยานเท่านั้นที่เหมาะแก่การจัดเรียงเซลให้ทำงานได้เป็นปกติ การวิจัยระยะยาชิ้นที่กระทำโดยกลุ่มนักวิจัยชาวฟินแลนด์พบว่าชายผู้ขี่จักรยานอย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง มีโอกาสเป็นมะเร็งน้อยลง 50 เปอร์เซ็นต์ ทำได้ไม่ยากเลยแค่ปั่นจักรยานไปทำงาน หรือถ้าปั่นไปทำงานไม่ได้ก็ซื้อเทรนเนอร์ไว้ปั่นที่บ้านก่อนออกไปทำงานสักครึ่งชั่วโมงก็ยังดี ส่วนสาวๆที่มีโอกาสได้ปั่นจักรยานในเวลาเท่ากันยังลดโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมได้ถึง 34 เปอร์เซ็นต์ด้วย

16. ลดน้ำหนักได้ชะงัก : แน่นอนอยู่แล้วว่าการออกกำลังทำให้เราเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าปกติ บางคนอาจคิดว่าการออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งคือหนทางลดน้ำหนักที่ดี แต่ก็ไม้เสมอไป การวิ่งเผาผลาญไขมันไปได้เยอะก็จริงแต่ก็ไม่ใช่หนทางที่ดีสำหรบคนอ้วนน้ำหนักมากเพราะน้ำหนักของคุณนั่นเองแหละที่จะไปทำลายข้อต่อกระดูกหัวเข่า ข้อเท้า จักรยานนี่แหละคือทางเลือกที่หมอแนะนำเพราะมันมีอานมาคอยแบกน้ำหนักตัวอยู่แล้วเกือบทั้งหมด คุณสามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้เท่าเดิมหรือมากกว่าด้วยซ้ำโดยข้อต่อต่างๆไม่เสื่อม ดีกว่าเห็นๆ เพลินกว่าชัดๆเมื่อปั่นได้นานกว่าและสบายกว่า

17. คนจักรยานรับมลพิษได้น้อยกว่าคนนั่งในรถยนต์ : เวลาเห็นใครขี่จักรยานในถนนเราอาจพากันคิดว่าเขาคงสูดเอาไอพิษเข้าไปเพียบ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เช่นนั้นเพราะเขากลับรับมันได้น้อยกว่าคนขับรถ หลักฐานยืนยันมั่นเหมาะคืองานวิจัยที่กระทำโดยอิมพีเรียล คอลเลจ กรุงลอนดอน ที่นักวิจัยพบว่าผู้โดยสารรสบัส แท๊กซี่และรถยนต์ส่วนตัวนั่นแหละที่สูดก๊าซพิษเข้าไปมากกว่าคนขี่จักรยานและคนเดินทางเท้า โดยเฉลี่ยนแล้วคนนั่งแท๊กซี่จะได้รับอนุภาคขนาดเล็กมากเข้าร่างกายมากกว่าแสนโมเลกุลต่อลูกบาศก์เมตร มันจะไปจับที่ปอดและทำลายเซลต่างๆคนนั่งรถเมล์จะสูดเข้าไปเกือบแสนในขณะที่คนขับรถตามปกติจะดูดซับได้ 40,000 โมเลกุล แต่คนขี่จักรยานจะสูดอนุภาคเหล่านี้เข้าไปแค่ 8,000 โมเลกุลต่อลูกบาศก์เมตรเท่านั้น เพราะนักจักรยานจะขี่อยู่ริมถนนและไม่ได้อยู่ท่ามกลางแถวรถยนต์ที่ปล่อยควันพิษตรงๆ รายงานชิ้นนี้อาจเปลี่ยนไปถ้ามาทำที่ กทม.!

18. ครอบครัวสมัครสมานกันมากกว่าคนที่ไม่ได้ขี่จักรยาน : การขี่จักรยานเป็นกิจกรรมที่ง่ายที่สุดที่ครอบครัวจะทำร่วมกันได้ ขี่จักรยานได้ทั้งพ่อแม่ลูกปู่ย่าตายาย ถ้าลูกๆเห็นคุณพ่อคุณแม่ปั่นจักรยานเป็นประจำอยู่แล้วพวกแกจะคิดว่านี่คือเรื่องธรรมดาและอยากทำบ้าง เวลาไปเที่ยวจะพกจักรยานไปด้วยก็ยังได้ จักรยานพับช่วยให้นำพามันไปไหนๆได้ง่ายขึ้นในปัจจุบัน และแน่นอนที่สุดคอนการขี่จักรยานด้วยกันในครอบครัวต้องใช้เวลาอย่างต่ำหนึ่งชั่วโมงจึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่คนในครอบครัวได้ใช้ร่วมกัน

19. เป็นโอกาสให้ได้กินขนมกรอบเค็ม : แม้ว่าการลดหรืองดอาหารเค็มๆจะเป็นสิ่งที่หมอแนะนำ แต่เมื่อใดที่คุณจะขี่จักรยานได้ไกลหรือแข่ง ก่อนการขี่ครั้งนั้นสองถึงสามวันคุณกินสแน๊คพวกนี้ได้ เพราะเกลือที่ปนอยู่ในอาหารพวกนี้จะช่วยปกป้องร่างกายไว้จากสภาวะสูญเสียความร้อน อันเป็นสภาพที่เกิดจากการดื่มน้ำมากเกินโดยไม่มีเกลือปน พูดง่ายๆคือการรับเกลือโซเดียมเข้าร่างกายเสียก่อนที่จะเสียมันออกมาทางเหงื่อ พอเสียเหงื่อจริงๆจะได้ไม่เสียเกลือมากเกินไปนั่นเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่