รีวิวนี้ขอแซงรีวิว รีวิวอาหารฮ่องกงที่ไปตลุยกินเช่นเดิมก่อนครับ
กับชีวิตใน Terminal 1 ... 30 ชั่วโมงเต็มๆ โดยประมาณ



เริ่มจากทริปกินทริปนี้ผมเดินทางด้วยสายการบิน HK Airline ตัวคนเดียวเช่นที่เคยๆ
โดยบินตี 3 ของเช้าวันเสาร์ และกลับ 21.45 ของคืนวันจันทร์  เวลาค่อนข้างดี (ถ้ากลับเวลาเดิมแบบทุกครั้งก็รอด 555)
โดยข่าวพายุก็เริ่มมาเรือยๆทั้งวันจนเย็นวันจันทร์ผมกำลังจะกลับแวะ Citygate Outlet เพื่อจะซื้อของฝาก
ท้องฟ้าสงบ ไม่มีวี่แววของฝนยิ่งนอนใจ นึกในใจไหนบอกว่าจะมาลูกใหญ่ สงสัยไม่มาตามนัด



จนพี่แป๋ว เข้าของเพจ eatlike852 ได้หลังไมค์มาว่าให้เช็คด้วยว่าดีเลย์มั้ยเพราะเหมือนจะโดนเต็มๆ
หลังจากเช็ครอบแรก ..  HX761  ไฟลท์ที่ผมกลับนั้นรอด



บอกเพื่อนไป .. เฮ้ยรอดว่ะ หวุดหวิด
แต่สักพักมันส่งกลับมา



จิตตก รั่ว ... หลอน เกิดขึ้น... ของฝาก หมู เห็ด เป็ด ไก่ กำลังจะลงไปซื้อ ยกเลิกทุกแผน มุ่งสู่ท่ารถสาย S1
แล้วรถมันก็รอน้านนาน แถวก็ยาวมากกว่าทุกที ใจคอเริ่มไม่ดีแล้ว



ถึงสนามบิน Bording ก็ยังไม่ขึ้น



เลยรีบไปหน้า เค้าเตอร์ .. คนทะลัก แล้วก็มีคนมุงๆที่ป้าย .. เรียบร้อย Canceled







เคว้งสิครับเนี่ย เคว้งคือ ทำไงดีฟระ ..
ตอนนั้นเวลาใกล้จะทุ่ม ท้องฟ้าก็ยังไม่มีอะไร (ใจยังคิด เผื่อมันจะบินได้)



ถาม จนท.บอกเพียงว่า ให้โทรไป Call Center แต่ก็สายไม่ว่างตลอด...
เพื่อนที่อยู่ที่ไทยก็ช่วยเช็ค แต่ก็ติดต่ออะไรไม่ได้เช่นกัน
ส่วนพี่จีน นั้นเมื่ออยู่รวมตัวกันเยอะๆ พลังดูมีจริงๆครับ มีการปะทะคารมกับ จนท. ตลอดเวลา
จนมี นักข่าว TV มารุมถ่ายกันก็มี จะสามทุ่มแล้ว .. ฝนก็ยังไม่มีสักเม็ด







แล้วสวรรค์ก็ส่งนางฟ้ามาบอกผมว่า พี่ๆ เค้าเตอร์เปิดให้ไป สแตนบายเอาตั๋วกลับแล้ว (น้องคนนี้ผมไปเจอในกลุ่มคนไทยที่มากับทัวร์ครับ)
ไปต่อคิวอีก 2 ชั่วโมงเลยได้ Bording Pass ไฟลท์กลับของอีกวัน ลงเวลาเดิมไว้คือ 21.45 น.
ผมเอาของใช้จำเป็นออกจากกระเป๋าลาก แล้วก็โหลดกระเป๋าไปทันที
โดยในตัวสะพายเป้ใบเดียว เพื่อความสะดวกสบาย



ได้ตั๋วแล้วทำไงดี ... คนที่มาเป็นกลุ่ม (ส่วนมากชาวจีน)ก็จองพื้นที่ด้านข้าง ขอบทั้งหมด ที่มีเก้าอี้ไปหมดแล้ว
บ้างก็นอนหลับกันแล้ว บ้างก็นั่งเล่นโทรศัพท์ บางคนก็ยังไล่จับโปเกม่อน
บางกลุ่มก็เข้าไปใน Gate เลย ส่วนผมยังไม่เข้าเพราะกลัวร้านปิดหมด หิวจะทำไง 55
ข้างนอกยังมี 7-11 ครับ หรือ Mc cafe
5ทุ่มกว่า ฝนก็ยังไม่ตก



แต่ล่ะคนต่างมีที่ของตัวเอง







ผมเลือกที่จะอยู่ตรงกลาง ... ดีกว่า 555



หลังจากกินอะไรรองท้อง ก็นอนครับ นอนไม่ค่อยหลับ เพราะระแวงจริงๆ
หลับๆตื่นๆ เมื่อยด้วย.. ตื่นมาก็เจอภาพแบบนี้บ้าง   555 อุ่นใจดี



ดูเวลาปาไปตี 4 .. นอนไม่หลับ เลยออกไปเดินเล่นทัวร์สนามบินมันซะเลย
ตอนนี้สนามบินเงียบมากๆ เลยออกไปดูด้านนอกก่อนเลย
ฝนเริ่มตก เบาๆ ..





ป้ายนี่แดงเถือก ...



เริ่มสว่าง ฝนเริ่มตกหนักครับ ลมแรงมากครับฟังจากเสียงลมในคลิป ไต้ฝุ่นระดับ 8
เดินมาได้ไม่ไกลมากต้องเดินถอยครับ


ดูทรงแล้ว เข้าเมืองไม่ได้แน่ๆครับ (ยังคิดจะกลับเข้าเมืองครับ)
หลายคนยังอยู่ข้างนอก และหลายๆคนเข้าไปใน Gate แล้ว
ศูนย์รวมความบันเทิงของสนามบินตอนนี้คือ เสาปลั๊กครับ









หลังจากจริงๆรู้อยู่แล้วว่าจะกินอะไรที่นี่ แล้วเข้าเมืงก็ไม่ได เลยเข้าไปใน Gate มันซะเลย

จบโหมดผจญภัย .. ต่อไปก็เข้าสู่โหมด ผจญกินล่ะครับ

... หลังจากหลุด ตม.มาได้ก็ใกล้เที่ยงพอดี
คนใน Gate ยังหลวมๆครับ เลยเดินดูร้านมันให้ทั่วๆเสียก่อน ..

















และเมื่อทัวร์ครบฝั่ง Food ... เราก็มาร้านที่เล็งไว้ตั้งแต่แรกกันดีกว่าครับ
นั่นคือร้าน Tasty Congee & Wantun Noodles ครับ





ร้านนี้เป็นร้านในเครื่อ ร้านที่ผมกินผัดซีอิ๊วเนื้อคราก่อน Ho Hung Kee
เป็นร้านที่มิชลีนแนะนำ บางสาขาติดดาว บางสาขาได้ระดับ BIB บางปีหลุดดาวตามพี่แป๋วว่าครับ
เข้าแถว เลือกเมนู จ่ายตังค์และยืนรอตามคิวครับ



มื่อแรกของวันขอจัดเบาๆไปก่อน ราตรีนี้ยังอีกยาวไกลครับ
โจ๊ก & หลอดโก๋ ครับ



โจ๊กเนื้อเนียนที่สุดที่เคยกินมาเจ้านึงเลยทีเดียวครับ เนียนแบบเกาะเครื่องกันเลยทีเดียว
ลื่นหอม ผมไม่ได้ใส่อะไรเพิ่ม ให้มายังไงก็กินแบบนั้นเลยครับ







เครืองแต่ล่ะอย่าง เต็มคำสุดๆครับ ทีเด็ดที่ผมชอบเลยคือไส้นุ่ม ไร้กลิ่นเนียนๆเลยครับ
ตามมาด้วยตับ และหมูสับ ส่วนกระเพาะหนึบๆครับไม่ใช่สไตล์นุ่มๆ









หลอดโก๋ รอนานหน่อย ทอดให้ใหมาสดๆครับ



กรอบๆเลย แป้งที่ห่อมาบางๆ แทบไม่รู้สึก 555 น้ำราดออกหวานเค็ม
และได้น้ำจิ้มเหนียวๆเข้มข้น อร่อยดีครับ แบ่งส่วนนึงมาใส่โจ๊กครับ เยี่ยมจริงๆ









หลังจากนั้น ตรงไหนสัญญาณ Wifi อ่อนก็ย้ายทีไปเรื่อย
ออกไปดูฟ้าบ้าง นั่งดูเครื่องบินบ้าง บ่ายสามฝนหยุดสนิทครับ



และก็หิวอีกแล้ว .. กลับมาร้านเดิม เพราะมีอีกหลายเมนูที่อยากลอง ..
มา 2-3 รอบหลัง ไม่ได้กินเลย ข้าวผัดหยางโจว เลยสั่งมาซะ
จานใหญ่จริงๆ ...-*- เต็มถาดพอดี จานเท่าผัดซีอิ๊วเนื้อเลย



ข้าวผัดมาร่วนๆ หอมๆ ไข่เคลือบข้าวนวลๆ ไปทั่ว
รสชาติออกจืดแต่เน้นหอม รสชาติผมเอาจากหมูแดงที่ใส่มาเอาครับ หมูแดงและกุ้งแบบตู้มๆเลย







แต่ล่ะโต๊ะนี่ สหประชาชาติชัดๆ



ตารางไฟลท์บินกลับขึ้นมา .. และก็ดีเลย์ไปอีก เกือบ 2 ชม. ก็ไปหาอะไรกินต่อ



จัดไปที่ร้านเดิม เพราะยังกินไม่ครบที่ต้องการครับ (โอกาสมาแล้ว)
บะหมี่เนื้อตุ๋น และเกี๊ยวน้ำ



เนื้อตุ๋นตรงเอ็นนี่เปื่อนแบบบางชิ้นเอาลิ้นดุนขาดครับ บางอันก็หนึบๆ แต่เนื้อไม่ได้เปื่อยมาก
แต่หอมมากๆครับ น้ำราดมีกลิ่นเนื้อจางๆ เค็มนิดๆ หอมๆ น้ำออกข้นๆครับ









บะหมี่นี่ค่อยข้างเด็ดครับ เส้นเล็ก นุ่มนวลไม่เล็กครับ





เกี๊ยวน้ำ



ตัวเกี๊ยวอร่อยดี กุ้งครึ่งนึง หมู เห็ดหอมและหน่อยไม้อีกครึ่งนึง เต็มคำครับ
น้ำซุปจะออกสไตล์จืดๆ เช็งๆคับ ส่วนซุปที่แถมมากับบะหมี่แห้งเนื้อ รสชาติเข้มข้นกว่า ทั้งที่ผมคิดว่าน่าจะซุปเดียวกันนะ







ค่าเสียหายในแต่ล่ะมื้อ



ขอจบรีวิวไปก่อนแบบมึนๆ
ต้องขอบคุณไต้ฝุ่นนิดาด้วย ที่ทำให้ผมได้ ปสก.ใหม่ๆ และได้ลองร้าน tasty ครบทุกเมนูที่อยากลองเลยครับ
ขอบคุณพี่แป๋ว eatlike852 และเพื่อนๆที่ช่วยทุกช่องทาง

ขอบคุณครับ