สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มอ่าน ตามได้ที่
บทนำ
http://pantip.com/topic/32046546
บทที่ 1
http://pantip.com/topic/32102961
บทที่ 2
http://pantip.com/topic/32333496
บทที่ 3
http://pantip.com/topic/32342880
***เนื่องจากนิยายเรื่องนี้ผ่านการรีไรท์มา หากเคยอ่านสี่ตอนที่ผ่านมาแล้ว กรุณากลับไปอ่านบทนำใหม่เพื่อจูนด้วยค่ะ
The guardian-เกมรักพิทักษ์ใจ
โดย พิมพ์สราญ
บทที่ 4
“ฉันเห็นสายตาคุณพิชญ์สินีแล้วขนลุกชอบกล” พัชภิชาบอกภรต โชว์แขนเรียวที่พ้นออกมาจากชุดราตรีแบบสั้นด้านหน้าแต่มีชายผ้ายาวด้านหลังสีแดงเลือดนกให้ชายหนุ่มดูว่าเป็นอย่างที่เธอบอก
“หนาวมากกว่าปะ ออกมาข้างนอกแบบนี้ ริมน้ำอีก” ตอนนี้ทั้งคู่กำลังยืนอยู่บริเวณสระน้ำของโรงแรมห้าดาวซึ่งเป็นกิจการที่ตระกูลเฉินและตระกูลเหยียนร่วมหุ้นส่วนกัน วันนี้ทั้งสระน้ำขนาดใหญ่ซึ่งเชื่อมต่อกับชั้นบอลรูมขนาดกว้างขวางในชั้นสามสิบห้าถูกเนรมิตให้เป็นสถานที่จัดงานต้อนรับลูกค้าวีไอพีของเฉิน เป่า ฮู่ คอร์ปปอเรชัน แขกส่วนมากยังอยู่ในห้องแกรนด์บอลรูม
สาเหตุที่ต้องมาอยู่ที่ริมสระน้ำก็เพราะพิชญ์สินีที่เป็นทั้งลูกเพื่อนของคุณอรรณพบิดาของภรต พ่วงด้วยตำแหน่งลูกค้าวีไอพีของบริษัทก็มางานนี้เช่นกัน ที่สำคัญเธอดูจะให้ความสนใจกับทั้งคู่เป็นอย่างมาก ถามคำถามจี้ใจดำก็หลายรอบจนพัชภิชาต้องสะกิดเพื่อนให้พาออกมาพักก่อน
“หนาวกายไม่เท่าหนาวจากลมเพชรหึงหรอกย่ะ” เธอบอก “เลิกพูดเรื่องนี้ก่อนเถอะ ของเรื่องเบาๆบ้างชื่อจีนของซันแปลว่าอะไรเหรอ เราได้ยินคุณหนูกุ้ยหลันเรียก หยางอะไรซักอย่าง”
“หยาง ชุน” เขาตอบ “แปลว่าแสงแห่งการเริ่มต้น” เขาขยายความ พัชภิชายิ้มออกมาเมื่อนึกได้ว่าเชื่อจีนของเขาพ้องความหมายกับเชื่อเล่น ซัน ในภาษาอังกฤษก็แปลว่าพระอาทิตย์เช่นกัน
“แล้วซันรู้จักคู่หมั้นของคุณเฉินนานหรือยัง” เธอถาม “รู้สึกเหมือนจะสนิทกัน”
“ตั้งแต่เด็กแล้ว ป้าของเราเป็นแม่นมของคุณหนู” เขาตอบ พัชภิชาสังเกตุว่าทุกครั้งที่พูดถึงเหยียนกุ้ยหลันชายหนุ่มมักจะมีรอยยิ้มพาดผ่านใบหน้าเสมอ ทั้งสองคงสนิทและมีมิตรภาพที่ดีต่อกันทีเดียว
“อ้าว อยู่นี่เองหนุ่มสาว” คุณอรรณพทักลูกชายและคนรัก “มาเข้าไปในงานเถอะ ท่านประธานมีเซอร์ไพรซ์พรีเซนต์ด้วย พ่อไม่รู้เรื่องมาก่อนเลย”
หลังจากที่โดนเรียกตัวสองหนุ่มสาวจึงเดินเข้าไปในงานจนได้พบกับเหยียนกุ้ยหลันที่เพิ่งมาถึง หญิงสาวอยู่ในชุดราตรีแบบยาวสีฟ้าขับผิวที่เนียนสวยให้ผ่องงามมากขึ้นไปอีก น่าเสียดายที่สาวสวยไม่อาจเดินเหินเคียงคู่กับคู่หมั้นได้
“คุณพาย” เหยียนกุ้ยหลังโบกมือให้เธอเป็นเชิงทักทาย หญิงสาวจึงเดินเขาไปหาและย่อตัวคุกเข่าเพื่อให้ระดับสายตาตรงกัน
“เมื่อกลางวันว่าสวยแล้ว ตอนนี้สวยกว่าอีกค่ะ” พัชภิชาชมอย่างจริงใจ เรียกรอยยิ้มหวานจากหญิงสาวอีกคน
“คุยกับคุณทีไรชั้นรู้สึกว่าตัวเองสวยมาก” กุ้ยหลันพูดยิ้มๆ “แต่ทำไม...”
ท้ายประโยคของเธอไม่ชัดเพราะพิธีกรได้กล่าวเชิญเฉินหย่งเหอขึ้นไปบนเวทีแล้ว
“เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะคะ” เธอถาม แต่กุ้ยหลันกลับส่ายหัว มองไปทางเวทีและพยักหน้าเป็นเชิงให้เธอกลับไปสนใจบนเวที พัชภิชาจึงยืนขึ้นโดยมีภรตช่วยดึงแขน
เฉินหย่งเหอที่อยู่ในชุดทักซิโด้ซึ่งช่วยขับความองอาจที่ชายหนุ่มมีมากอยู่แล้วให้มีเพิ่มขึ้นไปอีกทุกก้าวย่างของเขานั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจ ในมือชายหนุ่มถือแผงเครื่องมือที่สั่งการด้วยระบบสัมผัสก่อนจะเรียกเสียงฮือฮาจากคนในห้องด้วยการฉายภาพสามมิติของมนุษย์
“เครื่องช็อตไฟฟ้า แม้จะไม่ได้สร้างอันตรายถึงตาย แต่ก็ดีกว่าไหมถ้าเราจะจัดการกับบมันได้” เขาพูดก่อนจะเริ่มอธิบายกลไกของของอุปกรณ์ลดผลกระทบจากเครื่องช็อตไฟฟ้า พัชภิชารู้สึกแปลกอีกแล้ว
“คุณเฉินเรียนจบวิศวะกรรมจากเอ็มไอที จบด็อกเตอร์ตั้งแต่อายุยังน้อย” ภรตบอก “เขาเลยคิดค้นอะไรหลายๆอยากที่สามารถอำนวยความสะดวก หรือการปฏิบัติงานของบริษัทให้ง่ายยิ่งขึ้น” เขาขยายความถึงหัวเรือใหญ่ของตระกูลเฉิน
“อืม เก่งมานานแล้ว” พัชภิชาแปลกใจที่ได้ยินเสียงตัวเอง เช่นเดียวกันกับภรตที่มองอย่างฉงน “ก็ถ้าไม่เก่งจะดูแลกิจการได้ไงล่ะ ใหญ่มากเลยนะ”
“อ๋อ” ภรตตอบรับเสียงเบาในลำคอ พัชภิชาหันไปให้ความสนใจกับการนำเสนอบนเวที การนำเสนอนั้นเธอรู้สึกคุ้นเคยเหมือนเคยเห็นมันมาก่อน
‘โคตร เจ๋ง’ เสียงเล็กพูดขึ้นเมื่อมองภาพในจอมอนิเตอร์ตรงหน้าที่บรรจุข้อมูลสิ่งประดิษฐ์ที่รังสรรค์ขึ้น โดยชายหนุ่มผู้ สวมเสื้อ แจ็คเก็ตแบบมีฮู๊ดสีม่วงที่กำลังพิมพ์โค๊ดเพิ่มบนแลปท็อปบนตัก
‘มันแน่อยู่แล้ว เธอคิดว่ากำลังพูดกับใคร ยัยอ้วน’ เสียงทุ้มพูดแบบกวนๆ จนเจ้าของเสียงเล็กอดจะหงุดหงิดไม่ได้
‘พูดอยู่ได้ เดี๋ยวคอยดูนะ จะผอมเป็นเสาไฟฟ้าเลย’ เธอพูด อยากจะงอนเหมือนเด็กผู้หญิงคนอื่นบ้าง แต่ตานี่ไม่มีวันง้อเธอแน่ ‘จริงๆต้องยกความดีความชอบให้ฉันนะ นี่ไอเดียของฉันไง ตอนนั้นฉันพูดว่า’
‘ถ้าไม่โดนช็อตล่ะ’ สองเสียงประสานพร้อมกันก่อนเสียงทุ้มจะพูด
‘เดี๋ยวจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้น่า ยัยอ้วนงกเอ้ย’ เขาพูดพร้อมดีดหน้าผากมนเบาๆ เจ้าของฉายา’อ้วนงก’ มองใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มกว้างอย่างหมั่นไส้
ใบหน้าที่เหมือนกับคนคนหนึ่ง เพียงแต่อ่อนวัยกว่า และยังเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา
...เฉินหย่งเหอ
______จบตอนที่ 4_______
คุยกันนิดนึง
ตอนนี้เกมรักพิทักษ์ใจดำเนินมาถึงบทที่สี่ ได้ตั้งกระทู้ใหม่แล้ว เย่ แม้จะสั้นไปนิดสำหรับตอนนี้ก็ตาม ฮว่า
ก่อนหน้านี้ยอมรับเลยคะว่าเขียนแล้วก็ตันไปเลย แต่ก็อึดอัดใจมาก มันแน่นอก เลยต้องยกออกโดยการเปลี่ยนความสัมพันธ์ของตัวละครหลายๆคนในเรื่องนี้ เพื่อให้การเล่าเรื่องผ่านไปได้โดยตลอดรอดฝั่งค่ะ
ยังไงขอฝากเกมรักพิทักษ์ใจไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ คอมเมนท์ติชมได้ตามสะดวก จะลงต่อเนื่องงดดองเค็มจ๊ะ
ด้วยรัก
ตฤณภัทร AKA ชะนีฟรีแลนซ์ คิคิ
อ่านต่อบทที่ 5 ที่
http://pantip.com/topic/32956425
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ติดตามข่าวสารและนิยายของเราได้ที่
https://www.facebook.com/chanee.freelance[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
The guardian-เกมรักพิทักษ์ใจ บทที่ 4
บทนำ http://pantip.com/topic/32046546
บทที่ 1 http://pantip.com/topic/32102961
บทที่ 2 http://pantip.com/topic/32333496
บทที่ 3 http://pantip.com/topic/32342880
***เนื่องจากนิยายเรื่องนี้ผ่านการรีไรท์มา หากเคยอ่านสี่ตอนที่ผ่านมาแล้ว กรุณากลับไปอ่านบทนำใหม่เพื่อจูนด้วยค่ะ
“ฉันเห็นสายตาคุณพิชญ์สินีแล้วขนลุกชอบกล” พัชภิชาบอกภรต โชว์แขนเรียวที่พ้นออกมาจากชุดราตรีแบบสั้นด้านหน้าแต่มีชายผ้ายาวด้านหลังสีแดงเลือดนกให้ชายหนุ่มดูว่าเป็นอย่างที่เธอบอก
“หนาวมากกว่าปะ ออกมาข้างนอกแบบนี้ ริมน้ำอีก” ตอนนี้ทั้งคู่กำลังยืนอยู่บริเวณสระน้ำของโรงแรมห้าดาวซึ่งเป็นกิจการที่ตระกูลเฉินและตระกูลเหยียนร่วมหุ้นส่วนกัน วันนี้ทั้งสระน้ำขนาดใหญ่ซึ่งเชื่อมต่อกับชั้นบอลรูมขนาดกว้างขวางในชั้นสามสิบห้าถูกเนรมิตให้เป็นสถานที่จัดงานต้อนรับลูกค้าวีไอพีของเฉิน เป่า ฮู่ คอร์ปปอเรชัน แขกส่วนมากยังอยู่ในห้องแกรนด์บอลรูม
สาเหตุที่ต้องมาอยู่ที่ริมสระน้ำก็เพราะพิชญ์สินีที่เป็นทั้งลูกเพื่อนของคุณอรรณพบิดาของภรต พ่วงด้วยตำแหน่งลูกค้าวีไอพีของบริษัทก็มางานนี้เช่นกัน ที่สำคัญเธอดูจะให้ความสนใจกับทั้งคู่เป็นอย่างมาก ถามคำถามจี้ใจดำก็หลายรอบจนพัชภิชาต้องสะกิดเพื่อนให้พาออกมาพักก่อน
“หนาวกายไม่เท่าหนาวจากลมเพชรหึงหรอกย่ะ” เธอบอก “เลิกพูดเรื่องนี้ก่อนเถอะ ของเรื่องเบาๆบ้างชื่อจีนของซันแปลว่าอะไรเหรอ เราได้ยินคุณหนูกุ้ยหลันเรียก หยางอะไรซักอย่าง”
“หยาง ชุน” เขาตอบ “แปลว่าแสงแห่งการเริ่มต้น” เขาขยายความ พัชภิชายิ้มออกมาเมื่อนึกได้ว่าเชื่อจีนของเขาพ้องความหมายกับเชื่อเล่น ซัน ในภาษาอังกฤษก็แปลว่าพระอาทิตย์เช่นกัน
“แล้วซันรู้จักคู่หมั้นของคุณเฉินนานหรือยัง” เธอถาม “รู้สึกเหมือนจะสนิทกัน”
“ตั้งแต่เด็กแล้ว ป้าของเราเป็นแม่นมของคุณหนู” เขาตอบ พัชภิชาสังเกตุว่าทุกครั้งที่พูดถึงเหยียนกุ้ยหลันชายหนุ่มมักจะมีรอยยิ้มพาดผ่านใบหน้าเสมอ ทั้งสองคงสนิทและมีมิตรภาพที่ดีต่อกันทีเดียว
“อ้าว อยู่นี่เองหนุ่มสาว” คุณอรรณพทักลูกชายและคนรัก “มาเข้าไปในงานเถอะ ท่านประธานมีเซอร์ไพรซ์พรีเซนต์ด้วย พ่อไม่รู้เรื่องมาก่อนเลย”
หลังจากที่โดนเรียกตัวสองหนุ่มสาวจึงเดินเข้าไปในงานจนได้พบกับเหยียนกุ้ยหลันที่เพิ่งมาถึง หญิงสาวอยู่ในชุดราตรีแบบยาวสีฟ้าขับผิวที่เนียนสวยให้ผ่องงามมากขึ้นไปอีก น่าเสียดายที่สาวสวยไม่อาจเดินเหินเคียงคู่กับคู่หมั้นได้
“คุณพาย” เหยียนกุ้ยหลังโบกมือให้เธอเป็นเชิงทักทาย หญิงสาวจึงเดินเขาไปหาและย่อตัวคุกเข่าเพื่อให้ระดับสายตาตรงกัน
“เมื่อกลางวันว่าสวยแล้ว ตอนนี้สวยกว่าอีกค่ะ” พัชภิชาชมอย่างจริงใจ เรียกรอยยิ้มหวานจากหญิงสาวอีกคน
“คุยกับคุณทีไรชั้นรู้สึกว่าตัวเองสวยมาก” กุ้ยหลันพูดยิ้มๆ “แต่ทำไม...”
ท้ายประโยคของเธอไม่ชัดเพราะพิธีกรได้กล่าวเชิญเฉินหย่งเหอขึ้นไปบนเวทีแล้ว
“เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะคะ” เธอถาม แต่กุ้ยหลันกลับส่ายหัว มองไปทางเวทีและพยักหน้าเป็นเชิงให้เธอกลับไปสนใจบนเวที พัชภิชาจึงยืนขึ้นโดยมีภรตช่วยดึงแขน
เฉินหย่งเหอที่อยู่ในชุดทักซิโด้ซึ่งช่วยขับความองอาจที่ชายหนุ่มมีมากอยู่แล้วให้มีเพิ่มขึ้นไปอีกทุกก้าวย่างของเขานั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจ ในมือชายหนุ่มถือแผงเครื่องมือที่สั่งการด้วยระบบสัมผัสก่อนจะเรียกเสียงฮือฮาจากคนในห้องด้วยการฉายภาพสามมิติของมนุษย์
“เครื่องช็อตไฟฟ้า แม้จะไม่ได้สร้างอันตรายถึงตาย แต่ก็ดีกว่าไหมถ้าเราจะจัดการกับบมันได้” เขาพูดก่อนจะเริ่มอธิบายกลไกของของอุปกรณ์ลดผลกระทบจากเครื่องช็อตไฟฟ้า พัชภิชารู้สึกแปลกอีกแล้ว
“คุณเฉินเรียนจบวิศวะกรรมจากเอ็มไอที จบด็อกเตอร์ตั้งแต่อายุยังน้อย” ภรตบอก “เขาเลยคิดค้นอะไรหลายๆอยากที่สามารถอำนวยความสะดวก หรือการปฏิบัติงานของบริษัทให้ง่ายยิ่งขึ้น” เขาขยายความถึงหัวเรือใหญ่ของตระกูลเฉิน
“อืม เก่งมานานแล้ว” พัชภิชาแปลกใจที่ได้ยินเสียงตัวเอง เช่นเดียวกันกับภรตที่มองอย่างฉงน “ก็ถ้าไม่เก่งจะดูแลกิจการได้ไงล่ะ ใหญ่มากเลยนะ”
“อ๋อ” ภรตตอบรับเสียงเบาในลำคอ พัชภิชาหันไปให้ความสนใจกับการนำเสนอบนเวที การนำเสนอนั้นเธอรู้สึกคุ้นเคยเหมือนเคยเห็นมันมาก่อน
‘โคตร เจ๋ง’ เสียงเล็กพูดขึ้นเมื่อมองภาพในจอมอนิเตอร์ตรงหน้าที่บรรจุข้อมูลสิ่งประดิษฐ์ที่รังสรรค์ขึ้น โดยชายหนุ่มผู้ สวมเสื้อ แจ็คเก็ตแบบมีฮู๊ดสีม่วงที่กำลังพิมพ์โค๊ดเพิ่มบนแลปท็อปบนตัก
‘มันแน่อยู่แล้ว เธอคิดว่ากำลังพูดกับใคร ยัยอ้วน’ เสียงทุ้มพูดแบบกวนๆ จนเจ้าของเสียงเล็กอดจะหงุดหงิดไม่ได้
‘พูดอยู่ได้ เดี๋ยวคอยดูนะ จะผอมเป็นเสาไฟฟ้าเลย’ เธอพูด อยากจะงอนเหมือนเด็กผู้หญิงคนอื่นบ้าง แต่ตานี่ไม่มีวันง้อเธอแน่ ‘จริงๆต้องยกความดีความชอบให้ฉันนะ นี่ไอเดียของฉันไง ตอนนั้นฉันพูดว่า’
‘ถ้าไม่โดนช็อตล่ะ’ สองเสียงประสานพร้อมกันก่อนเสียงทุ้มจะพูด
‘เดี๋ยวจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้น่า ยัยอ้วนงกเอ้ย’ เขาพูดพร้อมดีดหน้าผากมนเบาๆ เจ้าของฉายา’อ้วนงก’ มองใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มกว้างอย่างหมั่นไส้
ใบหน้าที่เหมือนกับคนคนหนึ่ง เพียงแต่อ่อนวัยกว่า และยังเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา
...เฉินหย่งเหอ
______จบตอนที่ 4_______
คุยกันนิดนึง
ตอนนี้เกมรักพิทักษ์ใจดำเนินมาถึงบทที่สี่ ได้ตั้งกระทู้ใหม่แล้ว เย่ แม้จะสั้นไปนิดสำหรับตอนนี้ก็ตาม ฮว่า
ก่อนหน้านี้ยอมรับเลยคะว่าเขียนแล้วก็ตันไปเลย แต่ก็อึดอัดใจมาก มันแน่นอก เลยต้องยกออกโดยการเปลี่ยนความสัมพันธ์ของตัวละครหลายๆคนในเรื่องนี้ เพื่อให้การเล่าเรื่องผ่านไปได้โดยตลอดรอดฝั่งค่ะ
ยังไงขอฝากเกมรักพิทักษ์ใจไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ คอมเมนท์ติชมได้ตามสะดวก จะลงต่อเนื่องงดดองเค็มจ๊ะ
ด้วยรัก
ตฤณภัทร AKA ชะนีฟรีแลนซ์ คิคิ
อ่านต่อบทที่ 5 ที่ http://pantip.com/topic/32956425
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้