ผมขอตั้งคำถามก่อนว่า ในกรณีแบบนี้ถ้าเกิดเป็นคุณ คุณควรวางตัวอย่างไรครับ และควรจะมีวิธีจัดการเรื่องนี้ยังไงครับ? อ่านเรื่องราวของผมแล้วค่อยกลับมาแสดงความคิดเห็นนะครับ
เรื่องมีอยู่ว่า ผมมีครอบครัวอยู่กัน4คน ประกอบด้วย พ่อ แม่ พี่ชาย และตัวผม ตั้งแต่เกิดจนตอนนี้ผมอายุ 20+ปี ผมจำความได้ว่าครอบครัวผมมี4คนมาโดยตลอด ตัวละครสำคัญคือน้าสาว ซึ่งในกระทู้นี้ผมจะขอแทนตัวสั้นๆว่า “น้า” ครับ น้าอยู่กับครอบครัวผมมาตั้งแต่ก่อนผมและพี่ชายจะเกิด ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ ผมเข้าใจว่าน้าคือญาติหรือครอบครัวผมมาตลอด น้าจะคอยทำทุกอย่างเหมือนแม่เลยครับจะมาๆไปๆ คอยเลี้ยงผมกับพี่ชายแทนพ่อแม่เวลาไม่อยู่ ตอนเด็กผมจะได้รับความรักน้อยกว่าพี่ชาย พ่อแม่จะใส่ใจพี่ชายมากกว่า ต่างจากผมที่ ไม่ค่อยสนใจผม ผมจึงใช้ชีวิตคนเดียวมาตลอด จะไปไหนทำอะไร พ่อแม่ไม่เคยห้ามเรียกได้ว่าไม่สนใจมากกว่าเลี้ยงแบบปล่อย จนวันหนึ่งผมกับพี่เป็นไข้เลือดออก เหตุการณ์นี้พี่ผมตายตอนประมาณ 12 ปี แม่กับพ่อเสียใจหนักมาก จนแม่ผมแทบเสียสติก็ว่าได้ น้าจึงเป็นคนเข้ามาดูแลทุกอย่างในหน้าที่ของแม่เปรียบเสมือนเป็นแม่อีกคน มาอาศัยอยู่ในครอบครัวผมถาวร พอแม่เริ่มทำใจได้และกลับมาปกติเหมือนเดิม น้าผมก็ยังคอยทำหน้าที่นั่นอยู่ พอถึงตรงนี้คุณคงคิดว่าก็ดูปกติใช่ไหมครับ ญาติกันพี่น้องกันก็ต้องมาคอยดูแลกันถูกแล้ว? แต่ไม่เลยครับ เพราะผมเพิ่งมารู้ว่าจริงประมาณ 15-16 ปี ว่าจริงๆแล้วน้าคนนี้ที่มาอยู่กับครอบครัวผมแบบ “ถาวร” คือเขาไม่ใช่ญาติทางสายเลือดในครอบครัวผมเลยไม่ว่าฝั่งไหน แต่เป็นเพื่อนของแม่สมัยทำงานด้วยกันใหม่ๆซึ่งก็คือ10กว่าปีก่อนผมเกิด เป็นเพื่อนสนิทกันมากๆคนหนึ่งแหละ ไม่แปลกครับที่เขาจะสามารถเข้ามามีบทบาทในครอบครัวผมมาคอยดูแลทุกอย่างได้เหมือนคนในครอบครัว และคุณจำไว้ให้ดีนะครับ ว่าน้าเขามาอาศัยกับครอบครัวผมถาวรเลย ไม่ว่าจะย้ายบ้านไปไหน น้าก็จะไปด้วยเหมือนเป็นครอบครัวคนหนึ่งเลย จนผมเข้า19-20ปี ผมมีแฟนครับ แน่นอนครับพ่อแม่ผมไม่ขัดผมรักใครพ่อแม่รักด้วย แต่ช่วงแรกที่คบกัน กลับเป็นน้าเองที่จะคอยห้ามผมไม่ให้ไปเจอแฟนผม คอยตั้งคำถามเรื่องแฟนผม คอยพูดแต่เรื่องการโดนหลอก การนอกใจ ผู้หญิงอาจจะเป็นคนไม่ดี ง่ายๆคือเขาตัดสินแฟนผมไปแล้วทั้งที่ยังไม่เคยเจอและพ่อแม่ผมยังไม่พูดอะไรเลย แต่ผมก็รักกันดีมาตลอดจนได้หมั้นกัน น้ายังเป็นคนมาทำหน้าที่เหมือนเป็นตัวกลางคุยกับพ่อแม่แฟนทั้งที่ พ่อแม่ผมกับพ่อแม่แฟนต้องคุยกันเองเรื่องงาน น้าจัดแจงทุกอย่างเลยว่างานต้องออกมาเป็นแบบไหนสินสอดเท่าไหร่ อะไรยังไง พ่อแม่ผมทำได้แค่เออออตามน้ำไป แต่สุดท้ายผมกับแฟนก็ตัดสินใจกันได้ว่าผมจะช่วยกันเก็บตังมีเมื่อไหร่ค่อยแต่งกันจบ ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วอาจจะยังคิดว่าปกติงั้นผมเหตุการณ์หลักจากนี้ครับ หลังจากงานหมั้นจบไป ผมกับแฟนย้ายมาอยู่ด้วยกันหาเช่าห้องถูกๆช่วยกันทำงานเก็บเงินชีวิตกำลังไปได้ดี ผมก็ได้ข่าวจากน้าว่าพ่อกับแม่ทะเลาะกันแล้วแม่ก็ได้ย้ายออกไป ตอนนี้เหลือแค่พ่อกับน้าอยู่ คุณคิดว่ามันเหมาะสมไหมครับที่เพื่อนเมียจะอยู่บ้านหลังเดียวกันทั้งที่เมียตัวเองไม่อยู่ พ่อผมไม่คิดอะไรอยู่แล้ว แต่คนนอกที่มองมาก็อาจคิดว่าน้าเป็นเมียอีกคนของพ่อ ผมกลับไปเยี่ยมพ่อก็เห็นน้าทำทุกอย่างที่เป็นหน้าที่ของแม่ คอยดูแลพ่อหาข้าวหาน้ำจัดการงานบ้านหมด เสมือนทำทุกอย่างแทนแม่ พักหลังเริ่มมามีบทบาทกับผมมากกว่าเดิม กดดันผมให้เป็นตัวกลางคุยกับแม่ พอกดดันผมไม่ได้ก็ไปกดดันแฟนผมให้เขาโทรหาแม่คุยกับแม่บอกให้แม่กลับมาหาพ่อ และล่าสุดพ่อผมย้ายไปเช่าบ้านหลังใหม่ น้าก็ยังตามไปอาศัยอยู่ด้วยกับพ่อแค่2คน ทั้งที่แกก็มีญาตินะ ผมเคยถามทำไมไม่ไปอยู่กับญาติ แล้วแกบอกญาติแกก็มีครอบครัวของตัวเองไม่อยากไปรบกวนเขา เอ้า แต่มาอยู่กับพ่อแม่ผมตั้ง30ปีทั้งที่ไม่ใช่ญาติกัน แถมตอนนี้พ่อเลิกกับแม่แล้วแกยังกล้าอยู่กับพ่อผมอีกแบบนี้ไม่รบกวนใช่ไหม ทุกวันนี้แกยังส่งข้อความมาบ่งการชีวิตยิ่งกว่าแม่ผมอีก ไม่พอยังส่งข้อความไปหาแฟนผมกดดันให้เขาทำตัวแบบที่น้าอยากให้เป็น ทีนี้กลับไปที่คำถามผมต้นกระทู้เลยครับ คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง?
ไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่คนในครอบครัว แต่อยู่กับครอบครัวมาแล้วเกือบ30ปี!
เรื่องมีอยู่ว่า ผมมีครอบครัวอยู่กัน4คน ประกอบด้วย พ่อ แม่ พี่ชาย และตัวผม ตั้งแต่เกิดจนตอนนี้ผมอายุ 20+ปี ผมจำความได้ว่าครอบครัวผมมี4คนมาโดยตลอด ตัวละครสำคัญคือน้าสาว ซึ่งในกระทู้นี้ผมจะขอแทนตัวสั้นๆว่า “น้า” ครับ น้าอยู่กับครอบครัวผมมาตั้งแต่ก่อนผมและพี่ชายจะเกิด ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ ผมเข้าใจว่าน้าคือญาติหรือครอบครัวผมมาตลอด น้าจะคอยทำทุกอย่างเหมือนแม่เลยครับจะมาๆไปๆ คอยเลี้ยงผมกับพี่ชายแทนพ่อแม่เวลาไม่อยู่ ตอนเด็กผมจะได้รับความรักน้อยกว่าพี่ชาย พ่อแม่จะใส่ใจพี่ชายมากกว่า ต่างจากผมที่ ไม่ค่อยสนใจผม ผมจึงใช้ชีวิตคนเดียวมาตลอด จะไปไหนทำอะไร พ่อแม่ไม่เคยห้ามเรียกได้ว่าไม่สนใจมากกว่าเลี้ยงแบบปล่อย จนวันหนึ่งผมกับพี่เป็นไข้เลือดออก เหตุการณ์นี้พี่ผมตายตอนประมาณ 12 ปี แม่กับพ่อเสียใจหนักมาก จนแม่ผมแทบเสียสติก็ว่าได้ น้าจึงเป็นคนเข้ามาดูแลทุกอย่างในหน้าที่ของแม่เปรียบเสมือนเป็นแม่อีกคน มาอาศัยอยู่ในครอบครัวผมถาวร พอแม่เริ่มทำใจได้และกลับมาปกติเหมือนเดิม น้าผมก็ยังคอยทำหน้าที่นั่นอยู่ พอถึงตรงนี้คุณคงคิดว่าก็ดูปกติใช่ไหมครับ ญาติกันพี่น้องกันก็ต้องมาคอยดูแลกันถูกแล้ว? แต่ไม่เลยครับ เพราะผมเพิ่งมารู้ว่าจริงประมาณ 15-16 ปี ว่าจริงๆแล้วน้าคนนี้ที่มาอยู่กับครอบครัวผมแบบ “ถาวร” คือเขาไม่ใช่ญาติทางสายเลือดในครอบครัวผมเลยไม่ว่าฝั่งไหน แต่เป็นเพื่อนของแม่สมัยทำงานด้วยกันใหม่ๆซึ่งก็คือ10กว่าปีก่อนผมเกิด เป็นเพื่อนสนิทกันมากๆคนหนึ่งแหละ ไม่แปลกครับที่เขาจะสามารถเข้ามามีบทบาทในครอบครัวผมมาคอยดูแลทุกอย่างได้เหมือนคนในครอบครัว และคุณจำไว้ให้ดีนะครับ ว่าน้าเขามาอาศัยกับครอบครัวผมถาวรเลย ไม่ว่าจะย้ายบ้านไปไหน น้าก็จะไปด้วยเหมือนเป็นครอบครัวคนหนึ่งเลย จนผมเข้า19-20ปี ผมมีแฟนครับ แน่นอนครับพ่อแม่ผมไม่ขัดผมรักใครพ่อแม่รักด้วย แต่ช่วงแรกที่คบกัน กลับเป็นน้าเองที่จะคอยห้ามผมไม่ให้ไปเจอแฟนผม คอยตั้งคำถามเรื่องแฟนผม คอยพูดแต่เรื่องการโดนหลอก การนอกใจ ผู้หญิงอาจจะเป็นคนไม่ดี ง่ายๆคือเขาตัดสินแฟนผมไปแล้วทั้งที่ยังไม่เคยเจอและพ่อแม่ผมยังไม่พูดอะไรเลย แต่ผมก็รักกันดีมาตลอดจนได้หมั้นกัน น้ายังเป็นคนมาทำหน้าที่เหมือนเป็นตัวกลางคุยกับพ่อแม่แฟนทั้งที่ พ่อแม่ผมกับพ่อแม่แฟนต้องคุยกันเองเรื่องงาน น้าจัดแจงทุกอย่างเลยว่างานต้องออกมาเป็นแบบไหนสินสอดเท่าไหร่ อะไรยังไง พ่อแม่ผมทำได้แค่เออออตามน้ำไป แต่สุดท้ายผมกับแฟนก็ตัดสินใจกันได้ว่าผมจะช่วยกันเก็บตังมีเมื่อไหร่ค่อยแต่งกันจบ ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วอาจจะยังคิดว่าปกติงั้นผมเหตุการณ์หลักจากนี้ครับ หลังจากงานหมั้นจบไป ผมกับแฟนย้ายมาอยู่ด้วยกันหาเช่าห้องถูกๆช่วยกันทำงานเก็บเงินชีวิตกำลังไปได้ดี ผมก็ได้ข่าวจากน้าว่าพ่อกับแม่ทะเลาะกันแล้วแม่ก็ได้ย้ายออกไป ตอนนี้เหลือแค่พ่อกับน้าอยู่ คุณคิดว่ามันเหมาะสมไหมครับที่เพื่อนเมียจะอยู่บ้านหลังเดียวกันทั้งที่เมียตัวเองไม่อยู่ พ่อผมไม่คิดอะไรอยู่แล้ว แต่คนนอกที่มองมาก็อาจคิดว่าน้าเป็นเมียอีกคนของพ่อ ผมกลับไปเยี่ยมพ่อก็เห็นน้าทำทุกอย่างที่เป็นหน้าที่ของแม่ คอยดูแลพ่อหาข้าวหาน้ำจัดการงานบ้านหมด เสมือนทำทุกอย่างแทนแม่ พักหลังเริ่มมามีบทบาทกับผมมากกว่าเดิม กดดันผมให้เป็นตัวกลางคุยกับแม่ พอกดดันผมไม่ได้ก็ไปกดดันแฟนผมให้เขาโทรหาแม่คุยกับแม่บอกให้แม่กลับมาหาพ่อ และล่าสุดพ่อผมย้ายไปเช่าบ้านหลังใหม่ น้าก็ยังตามไปอาศัยอยู่ด้วยกับพ่อแค่2คน ทั้งที่แกก็มีญาตินะ ผมเคยถามทำไมไม่ไปอยู่กับญาติ แล้วแกบอกญาติแกก็มีครอบครัวของตัวเองไม่อยากไปรบกวนเขา เอ้า แต่มาอยู่กับพ่อแม่ผมตั้ง30ปีทั้งที่ไม่ใช่ญาติกัน แถมตอนนี้พ่อเลิกกับแม่แล้วแกยังกล้าอยู่กับพ่อผมอีกแบบนี้ไม่รบกวนใช่ไหม ทุกวันนี้แกยังส่งข้อความมาบ่งการชีวิตยิ่งกว่าแม่ผมอีก ไม่พอยังส่งข้อความไปหาแฟนผมกดดันให้เขาทำตัวแบบที่น้าอยากให้เป็น ทีนี้กลับไปที่คำถามผมต้นกระทู้เลยครับ คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง?