สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
แล้วที่ผ่านมา คุณคิดว่าเขาเป็นตัวอะไรเหรอคะ
พิมพ์มานี่ดูไม่ชอบเขาเลย
แต่คุณลืมไปหรือเปล่าว่าตอนที่บ้านคุณมีปัญหา เขาเป็นคนเข้ามาช่วยทุกอย่าง
ดูแลพวกคุณทั้งบ้าน ทำหน้าที่แทนแม่คุณ จนคุณโต
พอโตมา ต้องตอบแทนเขาคืนบ้าง แค่ให้เกียรติเขา รับฟังเขา คุณยังไม่คิดจะทำ
เท่าที่ฟังเขาก็ไม่ได้มาขอเงินหรือสร้างความเดือดร้อนอะไร
แต่คุณกลับรู้สึกไม่ชอบเขาเหลือเกิน เพราะเขาไม่ใช่สายเลือดเดียวกันกับคุณ
คนเราต้องมีสำนึกนะคะ
ไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องเป็นญาติหรือไม่ ดูแค่ว่าเขาดีกับคุณหรือไม่
ตลอดมา เขาดูแลคุณใช่ไหม หรือพ่อแม่คุณจ้างเขาเหรอคะ
ถ้าพ่อคุณยอมเขาขนาดนี้ แม่คุณก็เห็นดีให้เขามาอยู่ด้วยและช่วยดูแลกัน
แสดงว่าพวกเขามีเรื่องที่คอยพึ่งพาอาศัยกันมาค่ะ ซึ่งคุณเองอาจจะไม่รู้
พิมพ์มานี่ดูไม่ชอบเขาเลย
แต่คุณลืมไปหรือเปล่าว่าตอนที่บ้านคุณมีปัญหา เขาเป็นคนเข้ามาช่วยทุกอย่าง
ดูแลพวกคุณทั้งบ้าน ทำหน้าที่แทนแม่คุณ จนคุณโต
พอโตมา ต้องตอบแทนเขาคืนบ้าง แค่ให้เกียรติเขา รับฟังเขา คุณยังไม่คิดจะทำ
เท่าที่ฟังเขาก็ไม่ได้มาขอเงินหรือสร้างความเดือดร้อนอะไร
แต่คุณกลับรู้สึกไม่ชอบเขาเหลือเกิน เพราะเขาไม่ใช่สายเลือดเดียวกันกับคุณ
คนเราต้องมีสำนึกนะคะ
ไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องเป็นญาติหรือไม่ ดูแค่ว่าเขาดีกับคุณหรือไม่
ตลอดมา เขาดูแลคุณใช่ไหม หรือพ่อแม่คุณจ้างเขาเหรอคะ
ถ้าพ่อคุณยอมเขาขนาดนี้ แม่คุณก็เห็นดีให้เขามาอยู่ด้วยและช่วยดูแลกัน
แสดงว่าพวกเขามีเรื่องที่คอยพึ่งพาอาศัยกันมาค่ะ ซึ่งคุณเองอาจจะไม่รู้
ความคิดเห็นที่ 12
ญาติ ๆ เรามีคนนอกคนนอกที่สนิทสนมราวกับญาติพี่น้องหลายครอบครัวเลย
เราเลยไม่คิดว่ามันแปลกอะไร บางคนดีกว่าญาติแท้ ๆ อีก คบกันดูแลกันจนตายจาก
คุณไม่ชอบเขาคุณไม่ผิด สำหรับคุณคงถือว่าเลือดข้นกว่าน้ำ
แต่พ่อแม่คุณเขาผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ เขามองน้าเป็นญาติคนนึง
และเราเชื่อเลย ว่าถัาพ่อแม่คุณแก่ไป เผลอ ๆ จะพึ่งพาเขาได้มากกว่าลูกอีก
เพราะลูกก็ออกไปมีครอบครัวของตน
อีกหน่อยคุณก็ต้องไปนับญาติกับของแฟนคุณ ซึ่งคนเหล่านั้นเคยเป็น “คนอื่น”
เช่นเดียวกับน้าที่อยู่กับพ่อแม่คุณแหละค่ะ
คุณอาจเคารพญาติแฟนและไปมาหาสู่ ในขณะที่ที่พ่อแม่ของคุณอาจไม่ได้อินอะไรด้วย
และอาจไม่นับญาติกับคนเหล่านั้นด้วย ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องแปลกเลยค่ะ เพราะเขาไม่สนิท
อะนนี้เราแค่ชี้ให้เห็นหลาย ๆ มุมนะคะ
เอาเป็นว่า ต่างคนต่างเคารพกันไป นึกซะว่าทำเพื่อพ่อแม่คุณ น้าคนนั้นเค้าคงเคยเลี้ยงคุณ
แล้วใจเขาผูกพันเหมือนคุณเป็นลูกคนนึง เลยเผลอล้ำเส้นไปเสียหมด
แต่ถ้ามองลึกเข้าไปมันคือความหวังดี ก็บอกเค้าดี ๆ ว่าปล่อยให้ผมโตเองเลือกเองเถอะ
แต่อย่าไปอคติเค้าเลยค่ะ
เราเลยไม่คิดว่ามันแปลกอะไร บางคนดีกว่าญาติแท้ ๆ อีก คบกันดูแลกันจนตายจาก
คุณไม่ชอบเขาคุณไม่ผิด สำหรับคุณคงถือว่าเลือดข้นกว่าน้ำ
แต่พ่อแม่คุณเขาผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ เขามองน้าเป็นญาติคนนึง
และเราเชื่อเลย ว่าถัาพ่อแม่คุณแก่ไป เผลอ ๆ จะพึ่งพาเขาได้มากกว่าลูกอีก
เพราะลูกก็ออกไปมีครอบครัวของตน
อีกหน่อยคุณก็ต้องไปนับญาติกับของแฟนคุณ ซึ่งคนเหล่านั้นเคยเป็น “คนอื่น”
เช่นเดียวกับน้าที่อยู่กับพ่อแม่คุณแหละค่ะ
คุณอาจเคารพญาติแฟนและไปมาหาสู่ ในขณะที่ที่พ่อแม่ของคุณอาจไม่ได้อินอะไรด้วย
และอาจไม่นับญาติกับคนเหล่านั้นด้วย ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องแปลกเลยค่ะ เพราะเขาไม่สนิท
อะนนี้เราแค่ชี้ให้เห็นหลาย ๆ มุมนะคะ
เอาเป็นว่า ต่างคนต่างเคารพกันไป นึกซะว่าทำเพื่อพ่อแม่คุณ น้าคนนั้นเค้าคงเคยเลี้ยงคุณ
แล้วใจเขาผูกพันเหมือนคุณเป็นลูกคนนึง เลยเผลอล้ำเส้นไปเสียหมด
แต่ถ้ามองลึกเข้าไปมันคือความหวังดี ก็บอกเค้าดี ๆ ว่าปล่อยให้ผมโตเองเลือกเองเถอะ
แต่อย่าไปอคติเค้าเลยค่ะ
ความคิดเห็นที่ 6
วางตัวยังไง .....
อยู่ที่เราคิดกับเขายังไง เป็นแม่อีกคน เป็นญาติ หรือเป็นแค่ผู้อาศัย
สมัยก่อนตอนเด็กๆครอบครัวผมก็มี ผมเรียกเขาป้า อายุพอๆกับแม่
เป็นคนเวียดนามหรือลูกครึ่งเวียดนามนี่แหล่ะหนีภัยสงครามมาไม่มีบ้าน ครอบครัวผมเขารับมาอยู่ในบ้านด้วยกัน
ผมก็ถือเขาเป็นญาติคนนึง จนวันนึงเขาก็ย้ายออกไป เราก็มีไปมาหาสู่กันบ้าง ไปนอนบ้านเขาบ้าง
จนกระทั่งคนรุ่นพ่อรุ่นแม่เสีย เลยค่อยๆห่างๆกันไปจนไม่ได้พบกันอีก
และยังมีอีกหลายคน ที่เป็นคนงาน กินอยู่ด้วยกัน เลี้ยงดูกันจนเสมือนญาติสนิท ทุกวันนี้เจอหน้าเราก็ไหว้หวัดดีเขา ปกติ
วกกลับมาเรื่องคุณ ถ้าคุณไม่รักเคารพเขา คุณมองเขาเป็นคนนอก นั่นมันส่วนของความคิดคุณ
แต่พวกผู้ใหญ่ที่เขาอยู่กันมา เขาอาจไม่ได้คิดแบบนั้น เขาอาจคิดเคารพนับถือเป็นญาติสนิทกัน
และเขาก็อาจคิดกับคุณเสมือนลูกหลานตัวเอง อย่าไปคิดอะไรอกุศลทำร้ายจิตใจกัน ควรให้เกรียติเขาบ้าง ให้เกรียติพ่อบ้าง
ถ้าไม่อยากให้เขาล้ำเส้น ก็แค่ฟัง แต่ไม่ต้องทำตาม เราโตแล้ว มีความคิดเป็นของตัวเอง ทุกสิ่งอย่างอยู่ที่เราเลือก
กับพ่อแม่ก็เหมือนกัน โตแล้ว ใช้วิจารณญาณเป็นของตัวเอง เขาจะว่าเขาจะเตือนอะไร เราก็ฟังไว้ อะไรที่คิดว่าไม่ใช่ ก็ไม่ต้องไปทำตาม
อย่าไปทำร้ายจิตใจกัน
อยู่ที่เราคิดกับเขายังไง เป็นแม่อีกคน เป็นญาติ หรือเป็นแค่ผู้อาศัย
สมัยก่อนตอนเด็กๆครอบครัวผมก็มี ผมเรียกเขาป้า อายุพอๆกับแม่
เป็นคนเวียดนามหรือลูกครึ่งเวียดนามนี่แหล่ะหนีภัยสงครามมาไม่มีบ้าน ครอบครัวผมเขารับมาอยู่ในบ้านด้วยกัน
ผมก็ถือเขาเป็นญาติคนนึง จนวันนึงเขาก็ย้ายออกไป เราก็มีไปมาหาสู่กันบ้าง ไปนอนบ้านเขาบ้าง
จนกระทั่งคนรุ่นพ่อรุ่นแม่เสีย เลยค่อยๆห่างๆกันไปจนไม่ได้พบกันอีก
และยังมีอีกหลายคน ที่เป็นคนงาน กินอยู่ด้วยกัน เลี้ยงดูกันจนเสมือนญาติสนิท ทุกวันนี้เจอหน้าเราก็ไหว้หวัดดีเขา ปกติ
วกกลับมาเรื่องคุณ ถ้าคุณไม่รักเคารพเขา คุณมองเขาเป็นคนนอก นั่นมันส่วนของความคิดคุณ
แต่พวกผู้ใหญ่ที่เขาอยู่กันมา เขาอาจไม่ได้คิดแบบนั้น เขาอาจคิดเคารพนับถือเป็นญาติสนิทกัน
และเขาก็อาจคิดกับคุณเสมือนลูกหลานตัวเอง อย่าไปคิดอะไรอกุศลทำร้ายจิตใจกัน ควรให้เกรียติเขาบ้าง ให้เกรียติพ่อบ้าง
ถ้าไม่อยากให้เขาล้ำเส้น ก็แค่ฟัง แต่ไม่ต้องทำตาม เราโตแล้ว มีความคิดเป็นของตัวเอง ทุกสิ่งอย่างอยู่ที่เราเลือก
กับพ่อแม่ก็เหมือนกัน โตแล้ว ใช้วิจารณญาณเป็นของตัวเอง เขาจะว่าเขาจะเตือนอะไร เราก็ฟังไว้ อะไรที่คิดว่าไม่ใช่ ก็ไม่ต้องไปทำตาม
อย่าไปทำร้ายจิตใจกัน
แสดงความคิดเห็น
ไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่คนในครอบครัว แต่อยู่กับครอบครัวมาแล้วเกือบ30ปี!
เรื่องมีอยู่ว่า ผมมีครอบครัวอยู่กัน4คน ประกอบด้วย พ่อ แม่ พี่ชาย และตัวผม ตั้งแต่เกิดจนตอนนี้ผมอายุ 20+ปี ผมจำความได้ว่าครอบครัวผมมี4คนมาโดยตลอด ตัวละครสำคัญคือน้าสาว ซึ่งในกระทู้นี้ผมจะขอแทนตัวสั้นๆว่า “น้า” ครับ น้าอยู่กับครอบครัวผมมาตั้งแต่ก่อนผมและพี่ชายจะเกิด ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ ผมเข้าใจว่าน้าคือญาติหรือครอบครัวผมมาตลอด น้าจะคอยทำทุกอย่างเหมือนแม่เลยครับจะมาๆไปๆ คอยเลี้ยงผมกับพี่ชายแทนพ่อแม่เวลาไม่อยู่ ตอนเด็กผมจะได้รับความรักน้อยกว่าพี่ชาย พ่อแม่จะใส่ใจพี่ชายมากกว่า ต่างจากผมที่ ไม่ค่อยสนใจผม ผมจึงใช้ชีวิตคนเดียวมาตลอด จะไปไหนทำอะไร พ่อแม่ไม่เคยห้ามเรียกได้ว่าไม่สนใจมากกว่าเลี้ยงแบบปล่อย จนวันหนึ่งผมกับพี่เป็นไข้เลือดออก เหตุการณ์นี้พี่ผมตายตอนประมาณ 12 ปี แม่กับพ่อเสียใจหนักมาก จนแม่ผมแทบเสียสติก็ว่าได้ น้าจึงเป็นคนเข้ามาดูแลทุกอย่างในหน้าที่ของแม่เปรียบเสมือนเป็นแม่อีกคน มาอาศัยอยู่ในครอบครัวผมถาวร พอแม่เริ่มทำใจได้และกลับมาปกติเหมือนเดิม น้าผมก็ยังคอยทำหน้าที่นั่นอยู่ พอถึงตรงนี้คุณคงคิดว่าก็ดูปกติใช่ไหมครับ ญาติกันพี่น้องกันก็ต้องมาคอยดูแลกันถูกแล้ว? แต่ไม่เลยครับ เพราะผมเพิ่งมารู้ว่าจริงประมาณ 15-16 ปี ว่าจริงๆแล้วน้าคนนี้ที่มาอยู่กับครอบครัวผมแบบ “ถาวร” คือเขาไม่ใช่ญาติทางสายเลือดในครอบครัวผมเลยไม่ว่าฝั่งไหน แต่เป็นเพื่อนของแม่สมัยทำงานด้วยกันใหม่ๆซึ่งก็คือ10กว่าปีก่อนผมเกิด เป็นเพื่อนสนิทกันมากๆคนหนึ่งแหละ ไม่แปลกครับที่เขาจะสามารถเข้ามามีบทบาทในครอบครัวผมมาคอยดูแลทุกอย่างได้เหมือนคนในครอบครัว และคุณจำไว้ให้ดีนะครับ ว่าน้าเขามาอาศัยกับครอบครัวผมถาวรเลย ไม่ว่าจะย้ายบ้านไปไหน น้าก็จะไปด้วยเหมือนเป็นครอบครัวคนหนึ่งเลย จนผมเข้า19-20ปี ผมมีแฟนครับ แน่นอนครับพ่อแม่ผมไม่ขัดผมรักใครพ่อแม่รักด้วย แต่ช่วงแรกที่คบกัน กลับเป็นน้าเองที่จะคอยห้ามผมไม่ให้ไปเจอแฟนผม คอยตั้งคำถามเรื่องแฟนผม คอยพูดแต่เรื่องการโดนหลอก การนอกใจ ผู้หญิงอาจจะเป็นคนไม่ดี ง่ายๆคือเขาตัดสินแฟนผมไปแล้วทั้งที่ยังไม่เคยเจอและพ่อแม่ผมยังไม่พูดอะไรเลย แต่ผมก็รักกันดีมาตลอดจนได้หมั้นกัน น้ายังเป็นคนมาทำหน้าที่เหมือนเป็นตัวกลางคุยกับพ่อแม่แฟนทั้งที่ พ่อแม่ผมกับพ่อแม่แฟนต้องคุยกันเองเรื่องงาน น้าจัดแจงทุกอย่างเลยว่างานต้องออกมาเป็นแบบไหนสินสอดเท่าไหร่ อะไรยังไง พ่อแม่ผมทำได้แค่เออออตามน้ำไป แต่สุดท้ายผมกับแฟนก็ตัดสินใจกันได้ว่าผมจะช่วยกันเก็บตังมีเมื่อไหร่ค่อยแต่งกันจบ ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วอาจจะยังคิดว่าปกติงั้นผมเหตุการณ์หลักจากนี้ครับ หลังจากงานหมั้นจบไป ผมกับแฟนย้ายมาอยู่ด้วยกันหาเช่าห้องถูกๆช่วยกันทำงานเก็บเงินชีวิตกำลังไปได้ดี ผมก็ได้ข่าวจากน้าว่าพ่อกับแม่ทะเลาะกันแล้วแม่ก็ได้ย้ายออกไป ตอนนี้เหลือแค่พ่อกับน้าอยู่ คุณคิดว่ามันเหมาะสมไหมครับที่เพื่อนเมียจะอยู่บ้านหลังเดียวกันทั้งที่เมียตัวเองไม่อยู่ พ่อผมไม่คิดอะไรอยู่แล้ว แต่คนนอกที่มองมาก็อาจคิดว่าน้าเป็นเมียอีกคนของพ่อ ผมกลับไปเยี่ยมพ่อก็เห็นน้าทำทุกอย่างที่เป็นหน้าที่ของแม่ คอยดูแลพ่อหาข้าวหาน้ำจัดการงานบ้านหมด เสมือนทำทุกอย่างแทนแม่ พักหลังเริ่มมามีบทบาทกับผมมากกว่าเดิม กดดันผมให้เป็นตัวกลางคุยกับแม่ พอกดดันผมไม่ได้ก็ไปกดดันแฟนผมให้เขาโทรหาแม่คุยกับแม่บอกให้แม่กลับมาหาพ่อ และล่าสุดพ่อผมย้ายไปเช่าบ้านหลังใหม่ น้าก็ยังตามไปอาศัยอยู่ด้วยกับพ่อแค่2คน ทั้งที่แกก็มีญาตินะ ผมเคยถามทำไมไม่ไปอยู่กับญาติ แล้วแกบอกญาติแกก็มีครอบครัวของตัวเองไม่อยากไปรบกวนเขา เอ้า แต่มาอยู่กับพ่อแม่ผมตั้ง30ปีทั้งที่ไม่ใช่ญาติกัน แถมตอนนี้พ่อเลิกกับแม่แล้วแกยังกล้าอยู่กับพ่อผมอีกแบบนี้ไม่รบกวนใช่ไหม ทุกวันนี้แกยังส่งข้อความมาบ่งการชีวิตยิ่งกว่าแม่ผมอีก ไม่พอยังส่งข้อความไปหาแฟนผมกดดันให้เขาทำตัวแบบที่น้าอยากให้เป็น ทีนี้กลับไปที่คำถามผมต้นกระทู้เลยครับ คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง?