รู้จัก "โดรนพลีชีพ FPV UAV" ยุทธวิธีกัมพูชา ดัดแปลงติดระเบิด พุ่งชนทำลายเป้าหมาย ภัยคุกคามรูปแบบใหม่ต่อประเทศไทย
จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชารอบล่าสุด ที่ปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ (9 ธ.ค.) กองทัพภาคที่ 2 รายงานว่า กัมพูชามีการใช้ “โดรนพลีชีพ” เข้ามาโจมตีในพื้นที่ประเทศไทยหลายจุด ได้แก่ พญาสัตบรรณ, ช่องอานม้า และ เนิน 561
สำหรับ
“โดรนพลีชีพ” ที่กัมพูชาใช้งาน กองทัพบกไทยระบุว่า เป็น
“FPV UAV” โดย
UAV ย่อมาจาก Unmanned Aerial Vehicle หรือ อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน และ
FPV ย่อมาจาก First-Person View หรือมุมมองบุคคลที่ 1 หมายความว่า โดรนจะมีการติดกล้องและผู้บังคับโดรนจะสามารถรับสัญญาณภาพสดๆ บังคับให้โจมตีไปยังเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ
FPV UAV มักดัดแปลงจากโดรนพาณิชย์ทั่วไปให้สามารถติดวัตถุระเบิดได้ มีขนาดเล็กและคล่องตัวสูง ต้นทุนต่ำกว่าโดรนที่เป็นอาวุธทางการทหารโดยเฉพาะ จึงถูกใช้เป็นโดรนพลีชีพใช้แล้วทิ้งในสงคราม โดยแพร่หลายมากในสงครามรัสเซีย-ยูเครน
นายอนาลโย กอสกุล เจ้าของเพจ thaiarmedforce เปิดเผยว่า โดรนพลีชีพ คือโดรนที่พุ่งเข้าชนเป้าหมายและระเบิดทำลายไปพร้อมกัน ส่วนมากจะนำ “ลูก ค.” ที่ปกติใช้ยิงจากเครื่องยิงลูกระเบิด มาผูกติดกับโดรน ซึ่งของกัมพูชาที่ตรวจพบก็เป็นลักษณะนี้ สำหรับการบังคับโดรนพลีชีพทำได้หลักๆ 2 วิธีคือ
1. โดรน FPV ผู้บังคับสวมแว่น มองภาพผ่านกล้องที่ติดอยู่กับโดรน และบังคับพุ่งชนเป้าหมาย
2. ใช้โดรน Master ควบคุม และมีโดรนพลีชีพวิ่งตาม ซึ่งโดรน Master จะส่งสัญญาณกลับไปที่ผู้ควบคุมเพื่อระบุเป้าหมาย ให้ควบคุมโดรนพลีชีพพุ่งชน หรือหากทันสมัยกว่านั้นก็จะมีการใช้ AI หาว่าเป้าหมายไหนเป็นมนุษย์ เมื่อกดสั่งการ โดรนก็จะวิ่งเข้าหาอัตโนมัติ
นายอนาลโย เปิดเผยต่อว่า โดรนพลีชีพไม่สามารถควบคุมได้ไกลมากนัก ใช้ในระยะประมาณ 1-2 กม. แต่ปฏิบัติการจริงส่วนใหญ่ใช้ในระยะแค่ 500-600 เมตรเท่านั้น โดยเน้นโจมตีเป้าหมายที่อยู่ไม่ไกลจากหน้าแนวเท่าไหร่ และเป็นทหารหน่วยสนับสนุน
ในส่วนของการป้องกันโดรนพลีชีพนั้นทำได้ยาก แม้แต่ประเทศมหาอำนาจทุกวันนี้ก็ยังเจอปัญหาอยู่ เนื่องจากโดรนเหล่านี้เป็นโดรนดัดแปลง จึงปรับปรุงหนีวิธีป้องกันใหม่ๆ ได้เสมอ
“มีหลายวิธีมากในการป้องกัน แต่โดรนมีการแก้ไขอยู่ตลอด เช่น สามารถใช้เครื่องแจมเมอร์รบกวนสัญญาณโดรนได้ แต่อย่างในยูเครนก็มีการหาวิธีแก้โดยติดสายไฟเบอร์ออปติกติดไปกับโดรน ทำให้ตัดสัญญาณไม่ได้”
ในส่วนของการยิงสกัดก็ทำได้ยาก เพราะโดรนบินค่อนข้างเร็ว เกือบ 100 กม.ต่อชั่วโมง และเป็นการบินฉวัดเฉวียนไปมา เล็งเป้าลำบาก หรือหากจะใช้ปืนลูกซองต่อต้านโดรนที่กระสุนกระจาย ก็ต้องยิงในระยะใกล้มาก 30-40 เมตร
กัมพูชาใช้ FPV UAV อย่างไร
ข้อมูลจาก กองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ตรวจพบโดรน FPV หลายลำลอบเข้ามาโจมตีเป้าหมายภาคพื้นดิน และมีการเสริมการยิงสนับสนุน เช่น จรวดหลายลำกล้อง (BM-21)
รูปแบบการเข้าโจมตีคือ ใช้ “อากาศยานนำร่อง (Lead Drone)” นำฝูงเข้ามา ล่อหลอกหรือระบุเป้าหมาย โดยลักษณะของโดรนพลีชีพมีการติดตั้งวัตถุระเบิด เช่น ค. 82 มม., ติดตั้งกล่องสัญญาณ GPS เพื่อเพิ่มความแม่นยำ และอาจใช้ระบบควบคุมพิเศษเพื่อติดตามพิกัดอัตโนมัติ
ทั้งนี้แนะนำประชาชน หากพบวัตถุต้องสงสัยห้ามแตะต้อง ให้แจ้งหน่วยงานความมั่นคงเข้าตรวจสอบ
มาดู “โดรน FPV” ที่กัมพูชาใช้ส่งมาโจมตีแผ่นดินไทย
สำหรับ “โดรนพลีชีพ” ที่กัมพูชาใช้งาน กองทัพบกไทยระบุว่า เป็น “FPV UAV” โดย UAV ย่อมาจาก Unmanned Aerial Vehicle หรือ อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน และ FPV ย่อมาจาก First-Person View หรือมุมมองบุคคลที่ 1 หมายความว่า โดรนจะมีการติดกล้องและผู้บังคับโดรนจะสามารถรับสัญญาณภาพสดๆ บังคับให้โจมตีไปยังเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ