[ คำเตือน : กระทู้มีเนื้อหายาวเกิน 8 บรรทัด ] ผู้ชายกำลังคิดอะไร .​ . ตอนที่คุณชวนแฟนเก่าไปงานแต่งงานของตัวเอง ?

กระทู้สนทนา
อมยิ้ม33
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว . .
เพื่อนคนหนึ่งของเราโทรมาชวนไปกินข้าว แต่เราปฎิเสธด้วยเหตุผลเรื่องงานที่กำลังยุ่งมากในเวลานี้
" ไปด้วยกันดิ มีเพื่อนเก่าไปด้วยกันตั้งหลายคนนะ  " เขาพยายามโน้มน้าวเราด้วยรายชื่อเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายปี
เราลังเลใจอยู่แป้บนึงก่อนจะตอบตกลง  " เออ ๆ ไปก็ได้ . . แต่ไม่อยู่นานนะ "
" โอเค . . เดี๋ยวจะโทรไปเตือนอีกทีละกัน  " เขาทำน้ำเสียงร่าริงมากจนเราอดสงสัยไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้สนใจนัก

บุน คือชื่อเล่นของเขา จนถึงวันนี้ . . เราก็ยังนึกชื่อจริง ๆ ของเขาไม่ออกสักที พยายามเท่าไรก็ยังหาคำตอบไม่ได้
เพราะตั้งแต่ครั้งแรกที่เราได้รู้จักกัน เราก็เรียกเขาว่า  " บุญทิ้ง " มาตลอดหลายปีที่เป็นเพื่อนกัน

บุน เป็นผู้ชายเรียนเก่ง เตะบอลเก่ง ชู๊ตบาสก็เก่ง
เขาเป็นผู้ชายร่าเริงและยิ้มสวยคนหนึ่ง
รอยยิ้มของเขา . . กับแววตาเศร้า ๆ มันดูขัดกันมาก
แต่มันคือสิ่งเดียวที่ทำให้หัวใจของเราเต้นไม่เป็นจังหวะทุกครั้งที่ได้เห็นมัน

ตอนสมัยเรียนปีหนึ่ง . .
ทุกคนในภาคจะถูกรุ่นพี่ตั้งฉายาให้เรียกกันสนุก ๆ บางคนได้ชื่อที่ไม่กล้าบอกใครเลยทีเดียวล่ะ
ตอนนั้นเราเป็นพวกบ้าบทละคอน ชอบร่ายบทกวีให้คนอื่นฟัง
ก็เลยได้ฉายาว่าเป็นลูกสาวของเชคสเปียร์ ซึ่งมีรุ่นพี่คนหนึ่งเรียกเราว่าจูเลียต
ไม่สิ ! มันไม่ดูสวย ๆ แบบนั้นหรอก เขาเรียกเราว่า จู - ลี - เอ็ต ต่างหากล่ะ ( มาจากการอ่านทีละพยางค์ของ JU-LI-ET )

เย็นวันนั้นเราเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง ( พวกเราเป็นเพื่อนต่างคณะที่ได้รู้จักกันในงานรับน้องมหาลัยก่อนเปิดเทอม )
บุน ก็เลยอยากมีชื่อตลก ๆ บ้าง เราหันไปมองหน้าตาหล่อ ๆ ของเขา ในใจสับสน คิดอะไรไม่ออกเลย
" เร็ว ๆ ดิ ตั้งชื่อให้หน่อย หน้าตาอย่างเราต้องชื่ออะไรดี  " เขารบเร้า  
เราเอื้อมมือทั้งสองข้างไปแนบที่สองแก้มของเขา แล้วมองลึกเข้าไปในดวงตาเศร้า ๆ คู่นั้น  
" บุญทิ้ง "
" เอาชื่อนี้นะ ต่อไปจะได้ไม่ถูกทิ้ง  " เราพูดพร้อมกับจับหน้าเขาส่ายไปมา
" จำไว้นะ . . ถ้าถูกทิ้งอีกเมื่อไร . . โทรมาหาเรา  "
" ทำไมวะ แกจะรับเลี้ยงมันรึไง ?  "  เพื่อนคนหนึ่งแซว
แล้วทุกคนก็หัวเราะกันลั่นโต๊ะ

แต่แล้ว . . เขาก็ไม่เคยยกหัวใจของเขาให้กับใครเอาไปทิ้งเล่นอีกแล้ว
จนกระทั่งวันหนึ่งในคืนพระจันทร์เต็มดวงเปล่งแสงแสงนวลประกายบนท้องฟ้า

คืนนั้น . .
พวกเรานัดกันไปเที่ยวงานลอยกระทงของมหาลัย
คนเยอะมาก ซึ่งเราไม่ค่อยชอบเท่าไรนัก
แต่ได้มาเที่ยวเล่นกับเพื่อน ๆ มันก็สนุกสนานดี
พวกเราทั้งหมดเกือบสิบคนลอยกระทงอันเดียวกัน อธิษฐานด้วยกัน พร้อม ๆ กัน
( มันเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก ๆ เลยนะ ซึ่งเรายังจำได้ถึงวันนี้ )

ขณะที่เดินเล่นกันอยู่อย่างเพลิดเพลิน
เราก็เดินไปเจอกับรุ่นพี่คนหนึ่ง . . เขาชวนเราไปเดินเที่ยวด้วยกันตามลำพัง
เขาบอกกับเพื่อน ๆ เราว่าจะขอยืมตัวเราสักชั่วโมงแล้วจะเอามาส่ง ณ จุดที่นัดกัน
เพื่อนคนอื่น ๆ วี๊ดวิ้วแซวเรากันยกใหญ่ แต่บุน . . ชักสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
เขาบอกรุ่นพี่คนนั้นว่า " พี่ครับ . . ถ้าพี่อยากเที่ยว พี่เดินไปกับพวกเราก็ได้นี่ครับ ทำไมต้องไปกันสองต่อสอง  "
ทุกคนหันไปมองหน้าเขาเป็นตาเดียวกัน
ตอนนั้น . . เราก็ตกใจนะ ไม่คิดว่าเขาจะทำอะไรแบบนั้นออกมา
ยังไม่ทันได้ทำอะไรหรือพูดอะไรออกไป เขาก็หันมาถามเราว่า
" รึว่าเธออยากไปพี่เขาสองคน พวกเราจะได้แยกย้ายกันกลับบ้านตอนนี้เลย  "
ทีนี้ทุกคนก็หันหน้ามามองหน้าเรากันหมดสิ
" เอ่อ . .   ( ยอมรับว่าเราพูดอะไรไม่ออกจริง ๆ  เพราะเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วจริง ๆ )  "
แล้วเราก็จบเรื่องนี้ทันทีที่ตั้งสติได้
" ไม่หรอกน่า . . มาด้วยกันก็ต้องไปด้วยกันสิ "  แล้วก็พยายามหัวเราะกลบเกลื่อนเหตุการณ์ชวนอึดอัดนั้นซะ

คืนนั้น . .
รุ่นพี่คนนั้นก็ไปเดินเที่ยวด้วยกันนะ แต่ไม่ได้มีเหตุการณ์ชวนต่อยปากกันอีก
ทุกคนสนุกสนานกันดี รวมถึง   .​ .  " บุญทิ้ง "  ก็ด้วย

ก่อนแยกย้ายกลับบ้าน . .
บุนถามเราว่า เราจะกลับบ้านยังไง ?
เราตอบไปว่าพี่ชายเราจะมาแวะรับจะได้กลับบ้านร้อมกัน ( พี่ชายเราไปเที่ยวกับแฟน + เพื่อน ๆ น่ะ )
หลังจากแยกย้ายกับเพื่อนคนอื่น ๆ หมดแล้ว เขาก็มารอพี่ชายเราเป็นเพื่อน
ระหว่างนั้นได้คุยอะไรกันมากมายเกี่ยวกับทุกสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวในคืนนี้
เราถามเขาว่า วันนี้เขามีเรื่องดีและเรื่องร้ายอะไรบ้าง ?
พร้อมกับเล่าให้เขาฟังว่า . .
" ที่บ้านเรา . . พ่อจะถามทุกคนในบ้านตอนกินมื้อเย็นว่ามีเรื่องดีเรื่องร้ายอะไรบ้าง
เรื่องที่ดีหรือร้ายในแต่ละวันต้องเอามาแชร์กัน
หากเราได้แชร์เรื่องดี ๆ ให้กับคนที่ได้เจอกับเรื่องที่ไม่ดี เขาจะได้รู้สึกดีขึ้น
ส่วนเรื่องร้ายที่เราได้เจอ ทุกคนในครอบครัวจะได้ช่วยกันแนะนำวิธีแก้ไข และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
  "
เขาหันมามองหน้าเราพร้อมกับรอยยิ้มและแววตาที่ทำให้หัวใจของเราเต้นไม่เป็นจังหวะ
ตอนนั้นเรารู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจของเรามันสูบฉีดเลือดได้มั่วมาก ซึ่งมันอาจจะทำให้เราหัวใจวายได้เลยนะ
" เรื่องที่ไม่ดีของเราในวันนี้ก็คือ . .  "  เขามองหน้าเรานิ่งมากก่อนจะพูดต่อ
" เราคิดว่าเรารู้สึกแย่มากตั้งแต่ตอนที่ได้เจอกับรุ่นพี่คนนั้น  "
" เราไม่ชอบให้เขาทำท่าทางสนิทสนมกับเธอแบบนั้นเลยจริง ๆ นะ มันน่าหมั่นไส้มาก  " เขากระแทกน้ำเสียง
เรามองหน้าเขาแบบจริงจัง " อย่าบอกนะว่า . .  "
" บุนชอบผู้ชายเหรอ ???
ที่ไม่พอใจก็เพราะพี่เขาทำท่าเหมือนจะมาจีบเราใช่มั้ย ? .​ . ถ้าอยากให้เราเป็นแม่สื่อก็บอกนะ เรายินดีมาก ๆ
  "
เราหัวเราะกันดังลั่นไม่หยุด ตอนนั้นเรารู้สึกดีมากเลยนะที่ทำให้เขาหัวเราะออกมาได้ขนาดนั้น
" ป่าวนะ ไม่ใช่อย่างนั้นเลย แต่เอาเถอะ . . เรามีเรื่องดี ๆ เยอะแยะกว่านั้น เราชอบสิ่งที่พ่อเธอสอนนะ
เรื่องดี ๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้ของเราก็คือได้ออกมาเที่ยวกับเพื่อน ๆ ได้เห็นทุกคนมีความสุข . .
และที่ดีที่สุดคือได้มานั่งหัวเราะกับเธอตรงนี้ ได้รอพี่ชายเป็นเพื่อนธอ
  "
เขาพูดออกมาด้วยแววตามุ่งมั่นและเต็มไปด้วยความสุขจนเราสัมผัสได้จริง ๆ

หลังจากที่เป็นเพื่อนกันมาหลายฤดู ผ่านเรื่องดีและร้ายด่วยกันมากมาย
เราเจอหน้ากันที่มหาลัยทุกวัน คุยกันทุกคืน
ความสนิทสนมมันทำให้เราสองคนเข้าใกล้กันมากขึ้นทุก ๆ นาที ⎯ เราคิดว่าเราชอบเขามากขึ้นทุกวันเลยนะ

" กุว่ามุงสองคนแปลก ๆ ป้ะวะ แอบจีบกันป้ะเนี่ย ???  " เพื่อนคนหนึ่งแซวขึ้นมากลางโต๊ะกินข้าวกลางวัน
เราทำหน้าทะเล้นหัวเราะกลบเกลื่อน ในใจก็คิดว่า " เราก็รอให้เขาพูดคำนั้นออกมาเหมือนกันเว้ยยยยยย ! "

ในงานวันลอยกระทงครั้งที่สองที่เราไปเที่ยวด้วยกันกับเพื่อนกลุ่มเดิม
มีหลายคนที่พาแฟนมาเข้ากลุ่มด้วย ซึ่งมันก็ทำให้สนุกกันมากขึ้น มีอารมณ์หวาน ๆ ให้เพื่อน ๆ ได้แซวกัน

เดินจนทั่วงาน พวกเราก็มาหยุดนั่งพักกันที่หน้าธรรมสถาน ( อาคารสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของมหาลัย )

" จู-ลี-เอ็ต  " เราหันไปตามเสียงเรียก กำลังจะหัวเราะออกมาแล้วเชียวก็เขาทำเสียงตลกซะขนาดนั้น
นานแล้วที่ไม่มีคนเรียกเราแบบนี้ เราคิดว่า " บุญทิ้ง " จะล้อเลียนอะไรเราซะอีก เราเห็นเขาเหม่อมองไปข้างหน้า
ก่อนจะหันมามองเราอีกครั้งแล้วพูดว่า " ถ้าเรามีความรัก และถ้าเราให้เค้าคนนั้นเรียกเราว่าบุญทิ้งตลอดไป . .
ผู้หญิงคนนั้นเค้าจะไม่มีวันทิ้งเราใช่มั้ย ?
  "
พอพูดจบเขาก็หันหน้าเข้าไปข้างในธรรมสถานที่มีพระพุทธรูปมากมายวางตั้งอยู่  " เธอขอพรแบบนี้ให้เราหน่อยสิ "
ตอนนั้นเราสับสนสุด ๆ กลัวว่าเขาจะพูดออกมาให้เราฟังว่าเขาไปแอบชอบใครที่ไหน หรือว่าใคร ? ใครทำให้เขาเสียใจ
เราหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วหันไปมองหน้าเขา ถามเขาออกมาตรง ๆ ว่า " เธอแอบชอบใครอยู่รึไง ?  "
เขาพยายามสบตาเราแล้วยิ้ม ในขณะที่เราเองก็พยายามหลบตา ไม่กล้าจะมองหน้าเขาตรง ๆ ด้วยซ้ำ
" พอพรให้เราก่อนสิ แล้วเราจะบอก  " เขาพูด
ในใจของเราตอนนั้น รู้สึกยังไงก็อธิบายไม่ถูก รู้แต่ว่าเราไม่อยากให้เขาไปรักใครที่ไหน เราไม่อยากให้เขามีความรักกับใคร
หรือถ้ามีจริง ๆ . . เราก็อยากให้เขาโดนผู้หญิงทิ้งทุกวัน ๆ
" อืมม . . เราจะพรให้ก็ได้ "  เราพูดแบบไม่เต็มเสียง  " เพราะเราอยากให้บุนมีความสุขนะ "
เขาลุกขึ้นและดึงแขนเราให้ลุกตาม  . . ถอดรองเท้าและเดินเข้าไปนั่งข้างในต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
" พนมมือสิ " เขายกมือขึ้นพนมและบอกให้เราทำตาม
เขาพยักหน้าส่งสัญญาณให้เราขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ข้างหน้า
เราพยายามทำจิตใจให้สงบก่อนจะพูดว่า
" ในค่ำคืนแห่งความสุขใต้แสงจันทร์นี้ ลูกจะขอพรเพียงข้อเดียวให้กับเพื่อนรักที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ตอนนี้
หากเมื่อใดที่เขามีความรัก และให้คนรักของเขาเรียกเขาว่า " บุญทิ้ง " ตลอดไป  
ขอให้ " บุญทิ้ง " คนนี้  . . ไม่มีวันโดนผู้หญิงคนนั้นทิ้งตลอดกาล
  "
หลังจากที่เราขอพรเสร็จ เขาก็ขอบ้าง . .
" ผมชื่อ บุญทิ้ง  จะขอพรให้  จู-ลี-เอ็ต    ผู้หญิงที่ผมรัก จงมีความสุข - สดชื่น - และประสบความสำเร็จในชีวิต
ผมขอให้เธออยากจะเรียกผมว่า  บุญทิ้ง  ตลอดไป
  "

เราหันหน้าไปมองเขาทั้งน้ำตา พูดอะไรไม่ออกสักคำเดียว
เขายื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้เรา และพูดออกมาลอย ๆ ว่า   " สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นี่จะศักดิ์สิทธิ์อย่างที่เค้าพูดกันมั้ยนะ ? "
เราหัวเราะออกมาเบา ๆ พร้อมกับรอยยิ้ม
" แล้วถ้าไม่ศักดิ์สิทธิ์ล่ะ ต่อไปจะทำยังไง ?  "
เขาทำหน้าตกใจ  " เธอจะไม่เรียกเราว่าบุญทิ้งแล้วเหรอ ???  "
เราลุกขึ้นยืน แล้วเดินออกมาที่หน้าธรรมสถาน โดยมีเขาเดินตามออกมาติด ๆ
" ถ้าบุนเป็นบุญทิ้ง . . เราก็จะเป็น จู-ลี-เอ็ต  . . โอเคป้ะ ? " เราพูดกับเขาพร้อมกับเสียงหัวเราะเบา ๆ


___________________
TO BE CONTINUED
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่