ซาวน่ากับสุขภาพใจของชาวฟินแลนด์
ทำไมความร้อนถึงเยียวยาความเหงาได้
บทสนทนากับมาร์ยา คืนที่ฉันคิดว่าเหงื่อคือความเข้าใจมนุษย์
สัปดาห์ก่อนฉันลืมเล่าให้คุณฟังว่า
มาร์ยา เพื่อนสนิทชาวฟินแลนด์ของฉัน
เธอเพิ่งเปิดกิจการซาวน่าที่ริมเลคเจนีวาค่ะคุณ
และเมื่อคืนนี้…ฉันก็มีเรื่องมาเล่าให้คุณฟังอีกแล้วค่ะ 😉
ให้คุณนึกภาพตาม
ข้างนอกเป็นอุณหภูมิที่ถ้าตกใจแรงไปหน่อยลมหายใจอาจแข็งเป็นน้ำแข็งได้ค่ะคุณ
มาร์ยาถอดผ้าพันคอ โยนเสื้อแจ็กเก็ตใส่เก้าอี้
แล้วพูดประโยคที่ฉันได้ยินครั้งแรกในชีวิตว่า:
“วันนี้ขอซาวน่านะ…ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย”
ฉันหัวเราะ
“มาร์ยา นี่มันสามทุ่มนะ”
เธอถอนหายใจแรงมาก
“ยิ่งดี…ยิ่งดึกยิ่งคิดลึก”
แล้วเธอก็ยกถุงอะไรสักอย่างขึ้นมา
เปิดดูคือผ้าเช็ดตัว น้ำ ขนมปัง ขวดไวน์
เหมือนคนเดินทางมาพักฟื้นจิตใจด้วยซาวน่าโดยเฉพาะ
ฉันยืนมองแล้วคิดว่า…
โอเค คืนนี้เราจะได้คุยอะไรที่อยู่นอกเหนือความเข้าใจของสามัญมนุษย์แน่นอน
ตอนที่ 1: ซาวน่าในฟินแลนด์ = ห้องปรับสภาวะจิตใจของประเทศ
พอเรานั่งในซาวน่าที่ร้อนจนไฟหน้าแทบละลายได้
ฉันก็ถามแบบไม่รอให้เหงื่อซึมก่อนด้วยซ้ำ:
“ทำไมพวกเธอถึงอินกับซาวน่าขนาดนี้?
คือมันร้อนไม่มีเหตุผลมากนะสำหรับคนที่อากาศข้างนอก -10 องศา”
มาร์ยาหัวเราะเบา ๆ
“ไม่ใช่หรอก ซาวน่าคือที่ที่เรากลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง
มันคือห้องที่ทำให้หัวใจได้รีสตาร์ท”
ฉัน:
“โอเค นี่เริ่มลึกตั้งแต่นาทีแรกเลย”
เธอพูดต่ออย่างใจเย็น
แม้เหงื่อจะหยดลงมาจากคาง:
“ซาวน่าในฟินแลนด์ไม่ใช่กิจกรรม
มันคือพิธีกรรม
ทั้งประเทศมีห้องซาวน่ามากกว่าจำนวนรถยนต์อีก”
ฉันผงะ
“จริงเหรอ!?”
เธอพยักหน้า
“ฟินแลนด์มีประชากร 5.5 ล้านคน แต่มีห้องซาวน่า 3.3 ล้านห้อง
เราเข้าซาวน่าตั้งแต่เด็กจนโต
บางทีคนฟินน์ได้เรียนรู้ปรัชญาชีวิตในซาวน่ามากกว่าในห้องเรียนอีกนะ”
ฉันฟังแล้วทึ่งมาก
เติบโตมากับศาสนาหรือสถาบันอะไรก็ตาม
แต่ไม่เคยคิดว่าประเทศหนึ่งจะเติบโตมากับ “ความร้อน” แบบนี้
ตอนที่ 2: ความร้อนทำให้คนพูดความจริง
ฉันถามต่อ
“แล้วซาวน่าเกี่ยวอะไรกับความสุข หรือความคิดลึก ๆ ยังไง?”
มาร์ยันั่งพิงผนังไม้
เหมือนกำลังถ่ายทอดบทความวิชาการเวอร์ชันเพื่อนซี้:
“พอร่างกายร้อน จิตใจก็ปล่อยเกราะลง”
ฉันเลิกคิ้ว
“เกราะ?”
เธออธิบายแบบง่ายมาก:
“อุณหภูมิที่สูงทำให้ร่างกายเหนื่อยเร็ว
พอเหนื่อย…อัตตาก็พัก
ใจเลยซื่อสัตย์มากขึ้น
นี่คือเหตุผลว่าทำไมคนฟินน์คุยเรื่องจริงจังในซาวน่าโดยไม่ทะเลาะ”
ฉันหัวเราะ
“เพราะไม่มีแรงใช่ไหม?”
มาร์ยาหัวเราะตาม
“ใช่! จะทะเลาะไปทำไม…ร้อนจะตายอยู่แล้ว”
แล้วเธอพูดประโยคที่ทำฉันนิ่งไปสิบวินาที:
“ซาวน่าคือที่ที่ไม่มีใครเหนือกว่าใคร
ทุกคนเหงื่อเท่ากัน
ทุกคนเหนื่อยเท่ากัน“
ฉันพยักหน้า
นี่มันสังคมในอุดมคติชัด ๆ
ใจยังไม่ค่อยเชื่อตาม แต่ก็อยากฟังต่อ
ตอนที่ 3: ความร้อนทำให้ความเหงาถูกปล่อยออกทีละหยด
ฉันถามมาร์ยาว่า
“งั้นทำไมบางคนถึงบอกว่าซาวน่าช่วยเรื่องสุขภาพใจ?”
มาร์ยาหยิบผ้าซับเหงื่อแล้วพูดเบา ๆ แต่ชัดมาก:
“เพราะบางทีเราไม่ได้ร้องไห้ด้วยน้ำตา
แต่ร้องไห้ด้วยเหงื่อ”
ฉันอ้าปากค้าง
ประโยคนี้คือบทกวีแห่งความร้อนเลย
เธอเล่าต่อ:
“คนฟินแลนด์ส่วนใหญ่ไม่ชอบเล่าเรื่องเศร้า
ไม่ชอบระบายออกมาผ่านคำพูด
แต่ซาวน่าคือที่ที่เราปล่อยทุกอย่างโดยไม่ต้องพูด
น้ำร้อน ๆ มันช่วยล้างความคิดฟุ้งซ่าน
ช่วยให้เรากลับมาตรงกลางอีกครั้ง”
ฉันถาม
“แล้วเธอคิดว่ามันช่วยจริงไหม?”
มาร์ยาหัวเราะ
“ถ้ามันไม่ช่วย ฟินแลนด์คงไม่สร้างซาวน่าทุกหลังคาบ้านหรอก”
ตอนที่ 4: ซาวน่าคือพื้นที่ที่ ‘ไม่มีใครต้องเก่ง’
ฉันถามต่อว่า
“ซาวน่านี่เป็นเหมือนห้องบำบัดของทุกวัยเลยไหม?”
มาร์ยาพยักหน้า
“ใช่…ตั้งแต่เด็กจนแก่
เราเข้าไปโดยไม่ต้องแต่งตัวสวย
ไม่ต้องเก่ง
ไม่ต้องสนใจว่ามีใครคิดอะไร
เป็นเราที่สมบูรณ์ที่สุด”
ฉันยิ้ม
“แค่ฟังฉันยังรู้สึกเบาเลยนะ”
เธอพูดต่อว่า:
“โลกข้างนอกมันมีบทบาทเต็มไปหมด
ลูกที่ดี
พ่อแม่ที่ดี
พนักงานที่ดี
หัวหน้าที่ดี
แต่ในซาวน่า…เราเป็นแค่คนหนึ่งคน
ที่มีหัวใจเต้นเหมือนกัน
และร้อนเหมือนกัน”
ฉันฟังแล้วเข้าใจเลยว่า
ความสุขของฟินแลนด์ไม่ใช่ความสุขแบบสนุกสนาน
แต่มันเป็นความสุขแบบ…
ความเป็นมนุษย์ที่ไม่ต้องอธิบายให้ใครฟัง
ตอนที่ 5: บทสนทนาที่ลึกที่สุดมักเกิดในความร้อนที่สุด
ฉันถามเธอเล่น ๆ
“งั้นเธอคิดว่าบทสนทนาที่ดีที่สุดของเธอเกิดที่ไหน?”
มาร์ยาตอบทันที
“ในซาวน่าแน่นอน”
ฉันหัวเราะ
“แต่ถ้าร้อนมาก พูดไม่ออกนี่?”
เธอส่ายหัว
“ซาวน่าไม่ทำให้พูดไม่ได้
มันทำให้ ‘พูดแต่สิ่งที่สำคัญ’ ต่างหาก”
ฉันฟังแล้วรู้สึกว่าเพื่อนฉันนี่ล้ำมาก
เหมือนเอาหิมะมาผ่านเตาแล้วได้ปรัชญาชีวิตออกมาเป็นไอน้ำ
ตอนที่ 6: ซาวน่าคือ Working Space ของความคิดลึก
ฉันถามต่อ
“คนฟินแลนด์คิดอะไรเวลาอยู่ในซาวน่า?”
เธอตอบง่าย ๆ:
“ทุกอย่าง…ตั้งแต่เรื่องโลก ไปจนถึงเรื่องทำแพนเค้กเช้าวันพรุ่งนี้”
ฉันหลุดหัวเราะ
“สุดท้ายก็เรื่องกิน!”
เธอหัวเราะตาม
“ใช่ แต่ประเด็นคือ ในซาวน่า สมองมันเดินช้าลง
เราจึงคิดเป็นเส้น ไม่ใช่กระโดดไปมา
เลยคิดได้ลึกกว่าปกติ”
โอ้…ฉันเพิ่งเข้าใจเลยว่า
ความร้อนทำให้ความคิดนิ่ง
และความนิ่งนี่แหละคือแหล่งกำเนิดของความลึก
ตอนที่ 7: ซาวน่าคือบทเรียนเรื่อง ‘ทนร้อนได้ ก็ทนโลกได้’
ฉันถามเธอว่า
“แล้วเด็ก ๆ เข้าไปทำไม? ร้อนไปไหม?”
เธอตอบทันที
“เพราะมันคือบทเรียนเรื่องความทนทาน
และมันเชื่อมกับ Sisu ที่เธอเพิ่งเรียนรู้เมื่อวันก่อน”
ฉันรีบถาม
“ยังไง?”
มาร์ยาอธิบายว่า:
“ซาวน่าสอนให้เรารู้ว่า ความไม่สบายใจเป็นเพียงชั่วคราว
และถ้าผ่านไปได้ เราจะสงบขึ้นกว่าเดิม”
ฉันต้องปรบมือให้เธอในใจ
เพราะนี่คือพื้นฐานของ resilience ทั้งหมดในมนุษย์เลย
ตอนที่ 8: ความร้อนที่ทำให้คนฟินแลนด์ไม่แตกตื่นง่าย
ฉันพูดขึ้นว่า
“ฉันสังเกตว่าคนฟินแลนด์ไม่ตื่นตระหนกง่ายเลยนะ”
มาร์ยาพยักหน้า
“ใช่ เพราะเราชินกับการนั่งในความร้อนจนใจนิ่ง
เราฝึกความใจเย็นมาตั้งแต่เด็กแบบเนียน ๆ
ซาวน่าคือคลาสสมาธิเพื่อความนิ่งของคนทั้งประเทศโดยไม่ต้องเรียกว่าคลาสสมาธิ”
ฉันนี่พ่นลมหายใจออกมา
แล้วนึกถึงตัวเองว่า ติดชอบนั่งสมาธิ ในห้องแอร์เย็นๆ ตลอดเลย 😅 เป็นฝั่งตรงกันข้าม ที่ติดสุข…โดยสิ้นเชิง
ตอนที่ 9: ความเหงาหนักแค่ไหน ซาวน่าก็เอาอยู่
ฉันถามตรง ๆ
“งั้นเวลาคนฟินน์เศร้า เขาหายยังไง?”
มาร์ยาตอบเบา ๆ แต่ชัดมาก:
“เราเข้าซาวน่า
เพราะความร้อนมันบีบความเหงาออกมาทีละนิด
มันทำให้เราได้อยู่กับตัวเองแบบไม่หนี
และพอเราไม่หนี เราก็ไม่จม”
ฉันฟังแล้วรู้สึกว่า
นี่คือเหตุผลจริง ๆ ที่ทำให้ฟินแลนด์ผ่านฤดูหนาวยาว ๆ ได้
ทั้งอากาศหนาว และหัวใจบางฤดูกาลหนาวตาม
บทส่งท้าย — ความร้อนคือภาษาที่ไม่ต้องแปล
ตอนเราออกจากซาวน่า
ทั้งตัวเปียกเหงื่อ
ผมยุ่ง
หน้าแดง
แต่หัวใจเบาแบบแปลกมาก
ฉันหันไปถามมาร์ยาเบา ๆ ว่า:
“เธอคิดว่าซาวน่าทำให้คนฟินแลนด์สุขกว่าเดิมไหม?”
เธอยิ้มบาง ๆ แล้วตอบว่า:
“มันไม่ได้ทำให้เราสุขกว่าเดิม
มันทำให้เราไม่ทุกข์เกินไป
และบางที…นั่นแหละคือความสุขที่สุดแล้ว”
และฉันก็เชื่อเธอ
เต็มหัวใจ นางเป็นมนุษย์แบบนั้นจริง
ไม่ได้พูดเอาเท่ห์
คืนที่เราเข้าไปในห้องร้อนร่วมกัน
ฉันได้เข้าใจมนุษย์อีกหนึ่งแบบ
เข้าใจว่าบางครั้งเราต้องทุกข์พอสมควรก่อน
ถึงจะกลับมานิ่งได้อีกครั้ง
และซาวน่าก็คือบทเรียนของฟินแลนด์ที่บอกเราว่า:
“ความร้อนบางครั้งทำให้ใจมนุษย์เย็นลงได้มากกว่าอะไรทั้งหมด”
นี่ฉันมาสายปรัชญาตั้งแต่เมื่อไหร่คะคุณ
แอนนาเบล
CR
https://www.facebook.com/share/17awegR88T/?mibextid=wwXIfr
ทำไมความร้อน ถึงเยียวยาความเหงาได้….“ห้องซาวน่า”
ทำไมความร้อนถึงเยียวยาความเหงาได้
บทสนทนากับมาร์ยา คืนที่ฉันคิดว่าเหงื่อคือความเข้าใจมนุษย์
สัปดาห์ก่อนฉันลืมเล่าให้คุณฟังว่า
มาร์ยา เพื่อนสนิทชาวฟินแลนด์ของฉัน
เธอเพิ่งเปิดกิจการซาวน่าที่ริมเลคเจนีวาค่ะคุณ
และเมื่อคืนนี้…ฉันก็มีเรื่องมาเล่าให้คุณฟังอีกแล้วค่ะ 😉
ให้คุณนึกภาพตาม
ข้างนอกเป็นอุณหภูมิที่ถ้าตกใจแรงไปหน่อยลมหายใจอาจแข็งเป็นน้ำแข็งได้ค่ะคุณ
มาร์ยาถอดผ้าพันคอ โยนเสื้อแจ็กเก็ตใส่เก้าอี้
แล้วพูดประโยคที่ฉันได้ยินครั้งแรกในชีวิตว่า:
“วันนี้ขอซาวน่านะ…ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย”
ฉันหัวเราะ
“มาร์ยา นี่มันสามทุ่มนะ”
เธอถอนหายใจแรงมาก
“ยิ่งดี…ยิ่งดึกยิ่งคิดลึก”
แล้วเธอก็ยกถุงอะไรสักอย่างขึ้นมา
เปิดดูคือผ้าเช็ดตัว น้ำ ขนมปัง ขวดไวน์
เหมือนคนเดินทางมาพักฟื้นจิตใจด้วยซาวน่าโดยเฉพาะ
ฉันยืนมองแล้วคิดว่า…
โอเค คืนนี้เราจะได้คุยอะไรที่อยู่นอกเหนือความเข้าใจของสามัญมนุษย์แน่นอน
ตอนที่ 1: ซาวน่าในฟินแลนด์ = ห้องปรับสภาวะจิตใจของประเทศ
พอเรานั่งในซาวน่าที่ร้อนจนไฟหน้าแทบละลายได้
ฉันก็ถามแบบไม่รอให้เหงื่อซึมก่อนด้วยซ้ำ:
“ทำไมพวกเธอถึงอินกับซาวน่าขนาดนี้?
คือมันร้อนไม่มีเหตุผลมากนะสำหรับคนที่อากาศข้างนอก -10 องศา”
มาร์ยาหัวเราะเบา ๆ
“ไม่ใช่หรอก ซาวน่าคือที่ที่เรากลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง
มันคือห้องที่ทำให้หัวใจได้รีสตาร์ท”
ฉัน:
“โอเค นี่เริ่มลึกตั้งแต่นาทีแรกเลย”
เธอพูดต่ออย่างใจเย็น
แม้เหงื่อจะหยดลงมาจากคาง:
“ซาวน่าในฟินแลนด์ไม่ใช่กิจกรรม
มันคือพิธีกรรม
ทั้งประเทศมีห้องซาวน่ามากกว่าจำนวนรถยนต์อีก”
ฉันผงะ
“จริงเหรอ!?”
เธอพยักหน้า
“ฟินแลนด์มีประชากร 5.5 ล้านคน แต่มีห้องซาวน่า 3.3 ล้านห้อง
เราเข้าซาวน่าตั้งแต่เด็กจนโต
บางทีคนฟินน์ได้เรียนรู้ปรัชญาชีวิตในซาวน่ามากกว่าในห้องเรียนอีกนะ”
ฉันฟังแล้วทึ่งมาก
เติบโตมากับศาสนาหรือสถาบันอะไรก็ตาม
แต่ไม่เคยคิดว่าประเทศหนึ่งจะเติบโตมากับ “ความร้อน” แบบนี้
ตอนที่ 2: ความร้อนทำให้คนพูดความจริง
ฉันถามต่อ
“แล้วซาวน่าเกี่ยวอะไรกับความสุข หรือความคิดลึก ๆ ยังไง?”
มาร์ยันั่งพิงผนังไม้
เหมือนกำลังถ่ายทอดบทความวิชาการเวอร์ชันเพื่อนซี้:
“พอร่างกายร้อน จิตใจก็ปล่อยเกราะลง”
ฉันเลิกคิ้ว
“เกราะ?”
เธออธิบายแบบง่ายมาก:
“อุณหภูมิที่สูงทำให้ร่างกายเหนื่อยเร็ว
พอเหนื่อย…อัตตาก็พัก
ใจเลยซื่อสัตย์มากขึ้น
นี่คือเหตุผลว่าทำไมคนฟินน์คุยเรื่องจริงจังในซาวน่าโดยไม่ทะเลาะ”
ฉันหัวเราะ
“เพราะไม่มีแรงใช่ไหม?”
มาร์ยาหัวเราะตาม
“ใช่! จะทะเลาะไปทำไม…ร้อนจะตายอยู่แล้ว”
แล้วเธอพูดประโยคที่ทำฉันนิ่งไปสิบวินาที:
“ซาวน่าคือที่ที่ไม่มีใครเหนือกว่าใคร
ทุกคนเหงื่อเท่ากัน
ทุกคนเหนื่อยเท่ากัน“
ฉันพยักหน้า
นี่มันสังคมในอุดมคติชัด ๆ
ใจยังไม่ค่อยเชื่อตาม แต่ก็อยากฟังต่อ
ตอนที่ 3: ความร้อนทำให้ความเหงาถูกปล่อยออกทีละหยด
ฉันถามมาร์ยาว่า
“งั้นทำไมบางคนถึงบอกว่าซาวน่าช่วยเรื่องสุขภาพใจ?”
มาร์ยาหยิบผ้าซับเหงื่อแล้วพูดเบา ๆ แต่ชัดมาก:
“เพราะบางทีเราไม่ได้ร้องไห้ด้วยน้ำตา
แต่ร้องไห้ด้วยเหงื่อ”
ฉันอ้าปากค้าง
ประโยคนี้คือบทกวีแห่งความร้อนเลย
เธอเล่าต่อ:
“คนฟินแลนด์ส่วนใหญ่ไม่ชอบเล่าเรื่องเศร้า
ไม่ชอบระบายออกมาผ่านคำพูด
แต่ซาวน่าคือที่ที่เราปล่อยทุกอย่างโดยไม่ต้องพูด
น้ำร้อน ๆ มันช่วยล้างความคิดฟุ้งซ่าน
ช่วยให้เรากลับมาตรงกลางอีกครั้ง”
ฉันถาม
“แล้วเธอคิดว่ามันช่วยจริงไหม?”
มาร์ยาหัวเราะ
“ถ้ามันไม่ช่วย ฟินแลนด์คงไม่สร้างซาวน่าทุกหลังคาบ้านหรอก”
ตอนที่ 4: ซาวน่าคือพื้นที่ที่ ‘ไม่มีใครต้องเก่ง’
ฉันถามต่อว่า
“ซาวน่านี่เป็นเหมือนห้องบำบัดของทุกวัยเลยไหม?”
มาร์ยาพยักหน้า
“ใช่…ตั้งแต่เด็กจนแก่
เราเข้าไปโดยไม่ต้องแต่งตัวสวย
ไม่ต้องเก่ง
ไม่ต้องสนใจว่ามีใครคิดอะไร
เป็นเราที่สมบูรณ์ที่สุด”
ฉันยิ้ม
“แค่ฟังฉันยังรู้สึกเบาเลยนะ”
เธอพูดต่อว่า:
“โลกข้างนอกมันมีบทบาทเต็มไปหมด
ลูกที่ดี
พ่อแม่ที่ดี
พนักงานที่ดี
หัวหน้าที่ดี
แต่ในซาวน่า…เราเป็นแค่คนหนึ่งคน
ที่มีหัวใจเต้นเหมือนกัน
และร้อนเหมือนกัน”
ฉันฟังแล้วเข้าใจเลยว่า
ความสุขของฟินแลนด์ไม่ใช่ความสุขแบบสนุกสนาน
แต่มันเป็นความสุขแบบ…
ความเป็นมนุษย์ที่ไม่ต้องอธิบายให้ใครฟัง
ตอนที่ 5: บทสนทนาที่ลึกที่สุดมักเกิดในความร้อนที่สุด
ฉันถามเธอเล่น ๆ
“งั้นเธอคิดว่าบทสนทนาที่ดีที่สุดของเธอเกิดที่ไหน?”
มาร์ยาตอบทันที
“ในซาวน่าแน่นอน”
ฉันหัวเราะ
“แต่ถ้าร้อนมาก พูดไม่ออกนี่?”
เธอส่ายหัว
“ซาวน่าไม่ทำให้พูดไม่ได้
มันทำให้ ‘พูดแต่สิ่งที่สำคัญ’ ต่างหาก”
ฉันฟังแล้วรู้สึกว่าเพื่อนฉันนี่ล้ำมาก
เหมือนเอาหิมะมาผ่านเตาแล้วได้ปรัชญาชีวิตออกมาเป็นไอน้ำ
ตอนที่ 6: ซาวน่าคือ Working Space ของความคิดลึก
ฉันถามต่อ
“คนฟินแลนด์คิดอะไรเวลาอยู่ในซาวน่า?”
เธอตอบง่าย ๆ:
“ทุกอย่าง…ตั้งแต่เรื่องโลก ไปจนถึงเรื่องทำแพนเค้กเช้าวันพรุ่งนี้”
ฉันหลุดหัวเราะ
“สุดท้ายก็เรื่องกิน!”
เธอหัวเราะตาม
“ใช่ แต่ประเด็นคือ ในซาวน่า สมองมันเดินช้าลง
เราจึงคิดเป็นเส้น ไม่ใช่กระโดดไปมา
เลยคิดได้ลึกกว่าปกติ”
โอ้…ฉันเพิ่งเข้าใจเลยว่า
ความร้อนทำให้ความคิดนิ่ง
และความนิ่งนี่แหละคือแหล่งกำเนิดของความลึก
ตอนที่ 7: ซาวน่าคือบทเรียนเรื่อง ‘ทนร้อนได้ ก็ทนโลกได้’
ฉันถามเธอว่า
“แล้วเด็ก ๆ เข้าไปทำไม? ร้อนไปไหม?”
เธอตอบทันที
“เพราะมันคือบทเรียนเรื่องความทนทาน
และมันเชื่อมกับ Sisu ที่เธอเพิ่งเรียนรู้เมื่อวันก่อน”
ฉันรีบถาม
“ยังไง?”
มาร์ยาอธิบายว่า:
“ซาวน่าสอนให้เรารู้ว่า ความไม่สบายใจเป็นเพียงชั่วคราว
และถ้าผ่านไปได้ เราจะสงบขึ้นกว่าเดิม”
ฉันต้องปรบมือให้เธอในใจ
เพราะนี่คือพื้นฐานของ resilience ทั้งหมดในมนุษย์เลย
ตอนที่ 8: ความร้อนที่ทำให้คนฟินแลนด์ไม่แตกตื่นง่าย
ฉันพูดขึ้นว่า
“ฉันสังเกตว่าคนฟินแลนด์ไม่ตื่นตระหนกง่ายเลยนะ”
มาร์ยาพยักหน้า
“ใช่ เพราะเราชินกับการนั่งในความร้อนจนใจนิ่ง
เราฝึกความใจเย็นมาตั้งแต่เด็กแบบเนียน ๆ
ซาวน่าคือคลาสสมาธิเพื่อความนิ่งของคนทั้งประเทศโดยไม่ต้องเรียกว่าคลาสสมาธิ”
ฉันนี่พ่นลมหายใจออกมา
แล้วนึกถึงตัวเองว่า ติดชอบนั่งสมาธิ ในห้องแอร์เย็นๆ ตลอดเลย 😅 เป็นฝั่งตรงกันข้าม ที่ติดสุข…โดยสิ้นเชิง
ตอนที่ 9: ความเหงาหนักแค่ไหน ซาวน่าก็เอาอยู่
ฉันถามตรง ๆ
“งั้นเวลาคนฟินน์เศร้า เขาหายยังไง?”
มาร์ยาตอบเบา ๆ แต่ชัดมาก:
“เราเข้าซาวน่า
เพราะความร้อนมันบีบความเหงาออกมาทีละนิด
มันทำให้เราได้อยู่กับตัวเองแบบไม่หนี
และพอเราไม่หนี เราก็ไม่จม”
ฉันฟังแล้วรู้สึกว่า
นี่คือเหตุผลจริง ๆ ที่ทำให้ฟินแลนด์ผ่านฤดูหนาวยาว ๆ ได้
ทั้งอากาศหนาว และหัวใจบางฤดูกาลหนาวตาม
บทส่งท้าย — ความร้อนคือภาษาที่ไม่ต้องแปล
ตอนเราออกจากซาวน่า
ทั้งตัวเปียกเหงื่อ
ผมยุ่ง
หน้าแดง
แต่หัวใจเบาแบบแปลกมาก
ฉันหันไปถามมาร์ยาเบา ๆ ว่า:
“เธอคิดว่าซาวน่าทำให้คนฟินแลนด์สุขกว่าเดิมไหม?”
เธอยิ้มบาง ๆ แล้วตอบว่า:
“มันไม่ได้ทำให้เราสุขกว่าเดิม
มันทำให้เราไม่ทุกข์เกินไป
และบางที…นั่นแหละคือความสุขที่สุดแล้ว”
และฉันก็เชื่อเธอ
เต็มหัวใจ นางเป็นมนุษย์แบบนั้นจริง
ไม่ได้พูดเอาเท่ห์
คืนที่เราเข้าไปในห้องร้อนร่วมกัน
ฉันได้เข้าใจมนุษย์อีกหนึ่งแบบ
เข้าใจว่าบางครั้งเราต้องทุกข์พอสมควรก่อน
ถึงจะกลับมานิ่งได้อีกครั้ง
และซาวน่าก็คือบทเรียนของฟินแลนด์ที่บอกเราว่า:
“ความร้อนบางครั้งทำให้ใจมนุษย์เย็นลงได้มากกว่าอะไรทั้งหมด”
นี่ฉันมาสายปรัชญาตั้งแต่เมื่อไหร่คะคุณ
แอนนาเบล
CR https://www.facebook.com/share/17awegR88T/?mibextid=wwXIfr