รีวิวริมทาง@อินเดีย : ภาค 1 พาเที่ยวตลาดโลนาฟลา และ อาหารเพื่อสุขภาพในโรงเรียน

สวัสดีค่ะ ไม่ได้เข้าพันทิปมาสองเดือนได้ เพราะไปเรียนอินเดียมาค่ะ ถ่ายรูปอาหารมาเยอะเลย ตั้งใจเอามาฝากเพื่อน ๆ ในพันทิป เมืองที่ไปก็คือเมืองโลนาฟลา (Lonavala เรียกได้ทั้งโลนาฟลา และ โนลาวาลา) อยู่ในเขตมุมไบ มหารัชตะ อยู่เมืองนี้เดือนครึ่ง และ ไปเที่ยวต่อที่สิกขิม

ภาค 2 http://pantip.com/topic/30252772
ภาค 3 http://pantip.com/topic/30256578
ภาค 4 http://pantip.com/topic/30259728
ภาค 5 http://pantip.com/topic/30268526
ภาค 6 http://pantip.com/topic/30280818
ภาค 7 http://pantip.com/topic/30323474

ช่วงที่ไปโลนาฟลาเป็นกลางเดือนมกราคม ตอนกลางวันร้อน แดดจัด กลางคืนหนาว โรงเรียนอยู่ห่างจากตลาด ต้องนั่งตุ๊ก ๆ ไปประมาณ 40 รูปี

เดินทางด้วยสายการบิน Indigo เป็นสายการบิน low cost ของอินเดีย บริการดีทีเดียวแถมราคาถูกมาก



รูปเป็นแขกโพกหัว น่ารักดี



ตอนจองเค้ามีให้เลือกซื้อบริการเสริม มีอาหารและจองที่นั่งผ่านเว็บไซต์ได้ ด้วยความอยากลองเราก็เลยลองจ่ายเพิ่มไปประมาณ 1 พันบาท อยากรู้ว่าจะเป็นยังไง เค้าก็ให้สั่งอาหารจากในเมนู อันไหนก็ได้ เราสั่งแซนวิชซับมารีนอะไรซักอย่าง เป็นมังสวิรัติ ซึ่งในเมนูมันราคา 6 ดอลล่าร์เอง แล้วจะเสียมาพันนึงเพื่อไร >< อุตส่าห์มีน้ำผลไม้ให้ด้วย 1 กล่อง



หน้าตามันเป็นเยี่ยงนี้ รสชาติไม่ต้องบรรยาย กล้ำกลืนกินมากค่ะ ไม่มีความอร่อยเลยโดยเฉพาะขนมปังที่เปื่อยยุ่ยมาก



ไปถึงสนามบินตอนเย็น ๆ หิวโฮกมาก ซื้อเบอร์เกอร์ผักที่หน้าประตูสนามบินมากินรองท้องแบบรีบ ๆ เพราะคนขับรถมารอรับอยู่นานแล้ว ช่วงเย็นรถติดมาก และ โรงเรียนก็อยู่ห่างจากสนามบินเยอะทีเดียวใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง เบอร์เกอร์ผัก อร่อยกว่าอาหารบนเครื่องอย่างมาก มีอุ่นร้อนให้ด้วย



ไปถึงโรงเรียนก็ดึกแล้ว เช้ามาเพื่อน ๆ ที่ไปถึงก่อนล่วงหน้าแล้วพาไปเดินตลาด



มาถึงตลาดคนเยอะมากมาย ดูแล้วเหมือนบ้านเราเลย





เพือน ๆ บอกว่าอยากกินไก่ เลยพามาร้านนี้ ร้านอะไรเอ่ย



เนื่องจากเราไม่กินไก่ และ ปรกติเนื้อสัตว์ทีกินก็คือกุ้งหอยปูปลา มาอยู่เมืองนี้เลยเป็นมังสวิรัติเต็มตัว และ ร้านอาหารในเมืองนี้ ทุกที่จะมีเมนูมังสวิรัติ และ ร้านอาหารส่วนใหญ่ก็จะเป็นร้านอาหารมังสวิรัติ อย่างที่ KFC ก็จะมีเมนูมังสวิรัติด้วย เราเลือกชุด veg rizo เป็นผักปั้นเป็นแท่ง ๆ ชุบเกล็ดขนมปังทอด, ข้าว และ แกง เครื่องดื่ม 1 แก้ว ข้าวอร่อย แต่ว่าแกงเผ็ดมาก และ ผักก้อนทอด พอกินกับข้าวมันดูทุกอย่างเป็นแป้งไปหมด เลี่ยนอ่ะค่ะ ชุดนี้ 155 รูปี คิดเรท .55 นะคะ ประมาณ 85 บาท



ส่วนเพือ่นที่กินไก่บอกว่าไก่ KFC ที่นี่อร่อยมาก ไม่เหมือนที่เมืองไทย เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอร่อยกว่ามั๊ย



กินข้าวเสร็จก็ไปซื้อผลไม้กัน ผลไม้ที่ตลาดมีเยอะเลยค่ะราคาไม่แพง ที่มีเยอะเลยก็คือองุ่น หวาน กรอบ ไม่มีเมล็ดด้วย กิโลละ 180 รูปี และ ส้มที่เราซื้อประจำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง โลละ 60 รูปี ส้มลูกใหญ่ รสจัด ชอบมากค่ะ และที่เห็นทั่วไปก็คือมะเดื่อ กินทั้งเปลือกเลย หวานดีตอนแรกนึกว่าเปรี้ยว ร้านนี้ก็เป็นร้านประจำ เพราะผลไม้สด และ คนขายให้เลือกได้ บางร้านคนขายจะรีบ ๆ หยิบ ๆ ใส่ถุงให้ อีกอย่างก็คือทับทิม ที่อร่อยทีเดียว โรงเรียนเอาใส่สลัดประจำ เคี้ยวได้ทั้งเม็ด สีแดงจัดหวานอร่อย สตอเบอร์รี่ที่เห็นทางซ้าย กล่องละ 100 รูปีเอง





ระหว่างทางเดินไปเรียกสามล้อกลับโรงเรียน ก็แวะกินลาสซี่กันก่อน เจ้านี้เพื่อน ๆ ว่าเป็นเจ้าประจำ เราว่าหวานไปนิดแต่ก็อร่อยดี แก้วละ 20 รูปี



ที่โรงเรียนมีอาหารให้ทุกมื้อ เป็นอาหารมังสวิรัติ รสชาติกลาง ๆ ไม่เผ็ดร้อนมาก ตอนเช้าตรู่จะเป็นน้ำสมุนไพร กับนมร้อน มื้อเช้าประมาณ 9.00 น. มื้อกลางวันตอนเที่ยง บ่ายสองครึ่งมีผลไม้ และ นมร้อน และ มื้อเย็น 18.30 น. โดยประมาณ เราชอบอาหารโรงเรียนที่สุด เพราะรสชาติกลาง ๆ กินแล้วสบายท้อง อาหารที่นี่ไม่ใส่หัวหอม และ กระเทียมด้วยค่ะ

มาดูกันว่าอาหารเช้ามีอะไรบ้าง

มื้อเช้ามื้อแรกที่ได้กินที่โรงเรียน เป็นถั่วงอกอ่อนที่มีหางเล็ก ๆ เคี้ยวเพลินดี อาหารเช้าเค้ามักจะปรุงด้วยเครื่องเทศ มะเขือเทศ และ กะหล่ำปลี



อันนี้หน้าตาเหมือนข้าวฟ่าง มีมะเขือเทศ และ เครื่องเทศ  



ถั่วอะไรซักอย่าง ใส่มะเขือเทศ และ กละหล่ำปลี



จานนี้คือชัชนีย์ วันที่เห็นจานนี้วันแรก พวกเราไม่รู้ว่าคืออะไร เข้าใจว่าเขียว ๆ นี่คือซุป ก็เลยเอาจานหลุมมา ตักน้ำเขียว ๆ และ ผักสลัด กับขนมปังสีน้ำตาล แยกใส่หลุม แต่โรหิต หัวหน้าห้องครัวร้องบอกว่าให้ใช้จานเล็กสองใบ เราก็งง ๆ ว่าทำไม พอตักมาแล้ว นั่งอยู่ใกล้ ๆ กับคนอินเดียที่มาคอร์สธรรมชาติบำบัดที่นี่ เค้าบอกว่า เขียว ๆ นี่ไม่ใช่ซุป และ ไม่ควรกินเยอะเพราะมีมะพร้าวมาก ใช้ปาดขนมปังนิดเดียวพอ คล้าย ๆ กับแซนวิช มิน่ามันถึงไม่ร้อน รสออกถั่ว ๆ มีมะพร้าว และ เผ็ดนิด ๆ



ครั้งต่อมาก็กินเป็นแล้วเลยตักมาแบบนี้



จานนี้เราชอบซุปแต่ไม่ชอบแป้ง มันเป็นแป้งจืด ๆ แล้วเอาซุปราด ซุปที่นี่รสคล้าย ๆ กัน พอบีบมะนาวลงไปแล้วจะคล้ายต้มยำที่ไม่เผ็ด มีมะรุมด้วย





อีกจาน บอกไม่ถูกกว่าคืออะไร เหมือนข้าวต้มใส่มะเขือเทศและกะหล่ำปลี



จานนี้เราชอบสุดจำชื่อได้ว่า Poha เหมือนเป็นข้าวเม่า มีถั่วลิสง บีบมะนาวลงไป คล้ายข้าวทอดที่ใส่ในยำแหนมเลยค่ะ



บางวันก็สีเข้ม



ต่อมาอาหารกลางวัน มักจะเป็นผักผัก, ดาล หรือ แกงถั่ว และ สลัด กินกับข้าว และ จาปาตี เครื่องปรุงมีมะนาว, พริก ซึ่งครูญี่ปุ่นที่เป็นครูสอนเราที่เมืองไทย และ อยู่ที่อินเดียด้วย บอกว่าเป็นมหารัชตะสไตล์ คือมีพริกสดกินกับข้าว และ น้ำตาลอ้อยทำเป็นก้อนคล้ายน้ำตาลปี๊ป คนที่นี่กินน้ำตาลเก่งมาก กินน้ำตาลอ้อยก้อน ๆ กันเปล่า ๆ เลย

วันแรก ๆ ก็ตักมาแบบเกรงใจ สลัดใส่ในถ้วย สลัดวันนี้เป็นถั่วงอกอ่อน ผัดกระเจี๊ยบ เราไม่ค่อยชอบกินแล้วเหนียว ๆ ปาก จาปาตีเค้าจะไม่เหมือนข้างนอก จะออกแห้ง ๆ สาก ๆ ซึ่งคาดว่าคงจะเป็นแป้งไม่ขัดสี เราชินกับอะไรสาก ๆ แบบนี้อยู่แล้วเพราะกินมูสลีเป็นอาหารเช้าประจำ ก็เลยกินอย่างอร่อย แต่เพื่อน ๆ บางคนไม่ชิน



ต่อมาพอเริ่มชินกับอาหารแล้วก็เริ่มตักมากขึ้น อิอิ วันนี้ไม่มีผัดผัก มีแกงมันเทศ กับ แกงถั่ว ดูรสชาติซ้ำซ้อนยังไงก็ไม่รู้ แต่ก็กิน ที่โรยมาบนข้าวคือถั่วลิสงบด



คั่นรายการด้วยบรรยากาศในโรงเรียน



ตึกเรียน ห้องพัก และ ห้องอาหารอยู่คนละมุม เวลาเดินจากห้องพักไปห้องเรียนเราจะใช้ทางลัด อากาศร้อนมาก จนเวลาเดินไปไหนมาไหนต้องคลุมหน้าคุลมแขนไว้ตลอด แต่ก็ยังดำปี๋กลับมา



ในครัวจะมีบอกรายการอาหารประจำวัน



จานนี้เราโปรดสุด แกงถั่วแต่เป็นถั่วเม็ดใหญ่ ไม่รู้เรียกว่าถั่วอะไร มันนุ่ม ๆ ดี ผัดผักรวม และ ข้าวเป็นข้าวหุงกับสมุนไพรและถั่วลันเตา หอมมันอร่อย ตักมาแบบล้น ๆ เลย เค้าล้อเล่น ส่วนจาปาตี ช่วงวันหลัง ๆ เราเริ่มใส่กีลงไปด้วย เพราะอากาศแห้งมาก หลายคนแนะนำให้กินกีเพิ่มความชุ่มชื้นในร่างกาย เราก็เลยกิน ซึ่งได้ผลรึเปล่าไม่รู้แต่ว่าหอมอร่อย



จานนี้ไม่รู้ว่าผักเป็นผักอะไร พยายามวิเคราะห์กันแต่ก็ไม่รู้จริง ๆ



จานนี้ก็ชอบ ผัดมันฝรั่ง ใส่กะหล่ำปลี



ส่วนอาหารเย็นจะคล้าย ๆ อาหารกลางวัน แต่ไม่มีสลัด และ มีน้ำผักอุ่น ๆ จานนี้ทุกคนชอบ เป็นผัดกะหล่ำปลี ถ้าวันไหนมีผัดกระหล่ำปลีจะดีใจกันเป็นพิเศษ เพราะผักอื่น ๆ เรางง ๆ ว่ามันคือผักอะไร รสชาติประมาณซาวเคราท์ ที่กินกับไส้กรอกเยอรมัน



จานโปรดอีกอัน ผัดผักโขมดูเละ ๆ แต่อร่อยค่ะ น้ำแดง ๆ น่าจะเป็นบีทรูท



อยู่ไปนาน ๆ ก็เริ่มชิน บางทีก็ใช้มือเปิปข้าว



อาหารกลางวันวันสุดท้าย แปลกดีที่ไม่เหมือนวันอื่น มี papad หรือแป้งกรอบ มันฝรั่ง และ ถั่วบด ๆ กับสลัดที่หน้าตาไม่เหมือนเดิม เรากิน papad ไป 5 อัน เยี่ยม



ผลไม้ตอนบ่ายสองครึ่งมักจะเป็นมะละกอ หรือ เมล่อน ซึ่งหวานจัดทั้งสองอย่าง และ แตงโม ที่เราชอบมากคือเมลอน ส่วนเพื่อนห้องข้าง ๆ เป็นคนสเปน ชอบมะละกอมาก วันไหนมีมะละกอจะเห็นไมอารีบเดินไปห้องอาหารพอเดินสวนกันก็จะบอกว่า "papaya papaya"



หมดอาหารที่โรงเรียนแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้พาเที่ยวตลาดและกิน street food กันนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่