ปรัชญาเศรษฐศาสตร์สุขวิชโนมิกส์—🇹🇭🇰🇭 สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา หรือ สะพานอรัญประเทศ–ปอยเปต ล่าช้าไปเกิน 20 ปี ปัจจัยหนึ่งของความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา 2543-2568 ความล่าช้า เนื่องจากการแต่งตั้งนายวันนอร์ เป็น รัฐมนตรีคมนาคม แทนฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ตามคำเชิญของหัวหน้าพรรคทานตะวัน ในรัฐบาลพรรคชาติไทย 2538-2539
Epigraph: มิตรภาพไร้พรมแดน
"มิตรภาพไร้พรมแดน ไม่ใช่แค่การข้ามเส้นพรมแดนทางภูมิศาสตร์ แต่เป็นการข้ามพรมแดนของความเข้าใจ ความเชื่อมโยง และการพัฒนาร่วมกัน เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและเต็มไปด้วยความร่วมมือ."
— ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล, ปรัชญาเศรษฐศาสตร์สุขวิชโนมิกส์
บทคัดย่อ
ปรัชญาเศรษฐศาสตร์สุขวิชโนมิกส์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ
ปรัชญาสร้างคน สร้างชาติด้วยการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม ขอ
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล มีวิสัยทัศน์ระดับรัฐบุรุษ และ เป็นผู้มีคุณูปการสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืนในหลายด้าน ทั้งในด้านการขยายสิทธิการศึกษาของพลเมืองไทย ผ่านมาตรา 43และ 80 ในรัฐธรรมนูญ 2540 ด้านสิทธิในการรักษาพยาบาลสำหรับทุกคน ผ่านรัฐธรรมนูญ2540 มาตรา 52 62 และ 82 และ อีกหลายประการ รวมทั้งการกระจายโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและขนส่ง เพื่อความเสมอภาค สำหรับคนในเมืองหลวง ชนบท และ ภูมิภาค เพื่อสร้างสรรค์การพัฒนาที่ยั่งยืนสำหรับอนาคตของประเทศ
ในบทความนี้จะนำเสนอการวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดการล่าช้าในการสร้าง
สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา หรือ
สะพานอรัญประเทศ-ปอยเปต ซึ่งเป็นโครงการสำคัญที่มีจุดมุ่งหมายในการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและกัมพูชา ทั้งด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ
การล่าช้าดังกล่าวเกิดจาก
การแต่งตั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งขาดประสบการณ์ในรัฐบาลพรรคชาติไทยช่วงปี2538-2539 ซึ่งส่งผลให้เกิดความล่าช้าเกิน 20 ปี
บทความนี้จึงมุ่งเน้นการศึกษาถึงผลกระทบจากการล่าช้าในการสร้างสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา, โดยเฉพาะในบริบทของ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งขาดประสบการณ์
การ "Put the right man to the right job" จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยเฉพาะในบทบาทของรัฐมนตรี ซึ่งต้องมีประสบการณ์ ความรู้ และทักษะที่เหมาะสมในการบริหารจัดการโครงการที่ซับซ้อนและมีผลกระทบต่อสาธารณะ ไม่ใช่แค่เพียงการแต่งตั้งจากปัจจัยภายนอกหรือการเมืองเท่านั้น แต่ต้องให้ความสำคัญกับความเชี่ยวชาญที่ตรงกับลักษณะของงาน
บทความนี้ วิเคราะห์การแต่งตั้ง
นายวันนอร์ มะทา ในฐานะรัฐมนตรีคมนาคม สาเหตุของความล่าช้าของ สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เกิน 20 ปี พร้อมทั้งเชื่อมโยงไปยังปรัชญาเศรษฐศาสตร์สุขวิชโนมิกส์: นวัตกรรมเพื่อสันติภาพผ่านสะพานมิตรภาพ
บทนำ
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความยั่งยืนในทุกๆ ด้านของการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจและสังคม การสร้างสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา หรือ
สะพานอรัญประเทศ-ปอยเปต จึงถือเป็นโครงการที่มีความสำคัญต่อการเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศในแง่ของการค้าขาย การท่องเที่ยว และการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันผ่านโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถเชื่อมโยงการเดินทางและการค้าผ่านพรมแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม โครงการนี้กลับประสบปัญหาความล่าช้ามากกว่า 20 ปี ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาในช่วงเวลาแห่งความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ ตั้งแต่ปี 2543 จนถึงปี 2568 ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดความล่าช้าคือการแต่งตั้ง
นายวันนอร์ มะทา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในช่วงปี 2538-2539 ซึ่งเป็นการแต่งตั้งที่ขาดประสบการณ์ในการบริหารจัดการโครงการที่มีความสำคัญและซับซ้อน
ปรัชญาเศรษฐศาสตร์สุขวิชโนมิกส์ ซึ่งได้รับการพัฒนาจาก
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล คือปรัชญาที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศผ่านการศึกษาและการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีประโยชน์ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะการพัฒนาในด้านการขยายสิทธิการศึกษา การรักษาพยาบาล และการกระจายโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมเพื่อสร้างความเสมอภาคในสังคม ความล่าช้าที่เกิดขึ้นในโครงการสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จึงเป็นการสะท้อนถึงความสำคัญของการเลือกบุคคลที่เหมาะสมกับตำแหน่งที่มีความรับผิดชอบสูง โดยต้องมีทักษะและประสบการณ์ที่ตรงกับลักษณะของโครงการนั้นๆ
บทความนี้จะทำการวิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้เกิดความล่าช้าในการสร้างสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ซึ่งมีผลกระทบอย่างมากต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะการศึกษาผลกระทบจากการแต่งตั้ง
นายวันนอร์ มะทา ในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมที่ขาดประสบการณ์ในการบริหารจัดการโครงการใหญ่ๆ การศึกษานี้จะเชื่อมโยงกับ
ปรัชญาเศรษฐศาสตร์สุขวิชโนมิกส์ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเลือกบุคคลที่เหมาะสมกับตำแหน่ง "Put the right man to the right job" เพื่อให้การบริหารโครงการต่างๆ เกิดผลสำเร็จและสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ประเทศ
ในที่สุด,
สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ไม่เพียงแค่เป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังเป็นนวัตกรรมที่สะท้อนการสร้างสันติภาพและความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนในภูมิภาคนี้
ทบทวนวรรณกรรม: คำสัมภาษณ์ลูกสาวของ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล
คำสัมภาษณ์นี้ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ศิษย์เก่ารุ่นที่ 1 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยเน้นถึงการที่
ศาสตราจารย์พันตรี หม่อมเจ้าลักษณ์เลิศ ชยางกูร คณบดีคณะรัฐศาสตร์ในขณะนั้น ได้เป็นผู้แนะนำให้
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล เข้าศึกษาต่อที่คณะรัฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งท่านปู่ลักษณ์เลิศ ชยางกูรได้ตระหนักถึงความเฉลียวฉลาดและไหวพริบของ
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก จึงได้แนะนำให้เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ในภาคราชการและช่วยพัฒนาประเทศ
การสนับสนุนและการแนะนำจากท่านปู่
คำสัมภาษณ์นี้ยังเผยให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของ
ศาสตราจารย์พันตรี หม่อมเจ้าลักษณ์เลิศ ชยางกูร ซึ่งเป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพงษาดิศรมหิป และเป็นพระราชนัดดาของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านได้สังเกตเห็นศักยภาพของ
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ในการรับราชการและการมีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศ จึงให้การสนับสนุนและแนะนำให้เรียนคณะรัฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพื่อเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการทำงานในกระทรวงมหาดไทย ซึ่งในช่วงนั้นต้องการบุคลากรที่มีความรู้และความสามารถเพื่อช่วยพัฒนาชนบทไทยที่ยังล้าหลัง
ความสำคัญของการศึกษาในยุคอภิวัฒน์การศึกษา
คำสัมภาษณ์ดังกล่าวยังเชื่อมโยงกับ
ปรัชญาเศรษฐศาสตร์สุขวิชโนมิกส์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ปรัชญาสร้างคน สร้างชาติ ด้วยการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม" ซึ่ง
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ได้พัฒนาขึ้น เพื่อมุ่งเน้นการใช้การศึกษาที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย การศึกษาเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างบุคลากรที่มีความรู้และสามารถบริหารจัดการงานราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน การที่
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ตามคำแนะนำของท่านปู่ จึงไม่ใช่แค่เพียงการศึกษาธรรมดา แต่เป็นการลงทุนเพื่อการพัฒนาประเทศในอนาคต
บทบาทของ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ในการพัฒนาประเทศ
หลังจากที่
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่านได้เข้ารับราชการในตำแหน่งต่างๆ และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจและการศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาของท่านที่เชื่อว่า การพัฒนาประเทศจะเกิดขึ้นได้เมื่อประเทศมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในการบริหารงาน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสังคม การศึกษาของ
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล จึงเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาไปข้างหน้า
การสนับสนุนจากครอบครัว
นอกจากการสนับสนุนจาก
ศาสตราจารย์พันตรี หม่อมเจ้าลักษณ์เลิศ ชยางกูร แล้ว การสนับสนุนจากครอบครัวของ
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการผลักดันให้ท่านสามารถประสบความสำเร็จในเส้นทางการศึกษาของท่าน การได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ที่มีวิสัยทัศน์และความเข้าใจในด้านการพัฒนาประเทศ ทำให้
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ได้รับการฝึกฝนและเตรียมตัวในการเป็นผู้นำที่มีคุณภาพ และสามารถใช้การศึกษาที่ได้มาในการพัฒนาชาติบ้านเมือง
สรุป
การที่
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ได้รับการแนะนำให้เรียนที่คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์โดยท่านปู่
ศาสตราจารย์พันตรี หม่อมเจ้าลักษณ์เลิศ ชยางกูร เป็นการตัดสินใจที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศไทยในด้านการบริหารราชการและเศรษฐกิจ การศึกษาของท่าน
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล จึงเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ท่านสามารถสร้างปรัชญาเศรษฐศาสตร์สุขวิชโนมิกส์และมีส่วนสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการบริหารราชการของประเทศอย่างยั่งยืน
อ้างอิง
Matichon. (2024.). คำสัมภาษณ์ลูกสาวของ
ฯพณฯ
สุขวิช
รังสิตพล. [url=https://www.matichon.co.th/advertorial/news_4944248]
https://www.matichon.co.th/advertorial/news_4944248[/url]
—🇹🇭🇰🇭 สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา หรือ สะพานอรัญประเทศ–ปอยเปต ล่าช้าไปเกิน 20 ปี
— ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล, ปรัชญาเศรษฐศาสตร์สุขวิชโนมิกส์
บทคัดย่อ
ปรัชญาเศรษฐศาสตร์สุขวิชโนมิกส์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ปรัชญาสร้างคน สร้างชาติด้วยการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม ขอ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล มีวิสัยทัศน์ระดับรัฐบุรุษ และ เป็นผู้มีคุณูปการสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืนในหลายด้าน ทั้งในด้านการขยายสิทธิการศึกษาของพลเมืองไทย ผ่านมาตรา 43และ 80 ในรัฐธรรมนูญ 2540 ด้านสิทธิในการรักษาพยาบาลสำหรับทุกคน ผ่านรัฐธรรมนูญ2540 มาตรา 52 62 และ 82 และ อีกหลายประการ รวมทั้งการกระจายโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและขนส่ง เพื่อความเสมอภาค สำหรับคนในเมืองหลวง ชนบท และ ภูมิภาค เพื่อสร้างสรรค์การพัฒนาที่ยั่งยืนสำหรับอนาคตของประเทศ
ในบทความนี้จะนำเสนอการวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดการล่าช้าในการสร้าง สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา หรือ สะพานอรัญประเทศ-ปอยเปต ซึ่งเป็นโครงการสำคัญที่มีจุดมุ่งหมายในการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและกัมพูชา ทั้งด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ
การล่าช้าดังกล่าวเกิดจาก การแต่งตั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งขาดประสบการณ์ในรัฐบาลพรรคชาติไทยช่วงปี2538-2539 ซึ่งส่งผลให้เกิดความล่าช้าเกิน 20 ปี
บทความนี้จึงมุ่งเน้นการศึกษาถึงผลกระทบจากการล่าช้าในการสร้างสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา, โดยเฉพาะในบริบทของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งขาดประสบการณ์
การ "Put the right man to the right job" จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยเฉพาะในบทบาทของรัฐมนตรี ซึ่งต้องมีประสบการณ์ ความรู้ และทักษะที่เหมาะสมในการบริหารจัดการโครงการที่ซับซ้อนและมีผลกระทบต่อสาธารณะ ไม่ใช่แค่เพียงการแต่งตั้งจากปัจจัยภายนอกหรือการเมืองเท่านั้น แต่ต้องให้ความสำคัญกับความเชี่ยวชาญที่ตรงกับลักษณะของงาน
บทความนี้ วิเคราะห์การแต่งตั้ง นายวันนอร์ มะทา ในฐานะรัฐมนตรีคมนาคม สาเหตุของความล่าช้าของ สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เกิน 20 ปี พร้อมทั้งเชื่อมโยงไปยังปรัชญาเศรษฐศาสตร์สุขวิชโนมิกส์: นวัตกรรมเพื่อสันติภาพผ่านสะพานมิตรภาพ
บทนำ
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความยั่งยืนในทุกๆ ด้านของการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจและสังคม การสร้างสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา หรือ สะพานอรัญประเทศ-ปอยเปต จึงถือเป็นโครงการที่มีความสำคัญต่อการเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศในแง่ของการค้าขาย การท่องเที่ยว และการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันผ่านโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถเชื่อมโยงการเดินทางและการค้าผ่านพรมแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม โครงการนี้กลับประสบปัญหาความล่าช้ามากกว่า 20 ปี ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาในช่วงเวลาแห่งความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ ตั้งแต่ปี 2543 จนถึงปี 2568 ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดความล่าช้าคือการแต่งตั้ง นายวันนอร์ มะทา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในช่วงปี 2538-2539 ซึ่งเป็นการแต่งตั้งที่ขาดประสบการณ์ในการบริหารจัดการโครงการที่มีความสำคัญและซับซ้อน
ปรัชญาเศรษฐศาสตร์สุขวิชโนมิกส์ ซึ่งได้รับการพัฒนาจาก ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล คือปรัชญาที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศผ่านการศึกษาและการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีประโยชน์ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะการพัฒนาในด้านการขยายสิทธิการศึกษา การรักษาพยาบาล และการกระจายโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมเพื่อสร้างความเสมอภาคในสังคม ความล่าช้าที่เกิดขึ้นในโครงการสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จึงเป็นการสะท้อนถึงความสำคัญของการเลือกบุคคลที่เหมาะสมกับตำแหน่งที่มีความรับผิดชอบสูง โดยต้องมีทักษะและประสบการณ์ที่ตรงกับลักษณะของโครงการนั้นๆ
บทความนี้จะทำการวิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้เกิดความล่าช้าในการสร้างสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ซึ่งมีผลกระทบอย่างมากต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะการศึกษาผลกระทบจากการแต่งตั้ง นายวันนอร์ มะทา ในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมที่ขาดประสบการณ์ในการบริหารจัดการโครงการใหญ่ๆ การศึกษานี้จะเชื่อมโยงกับ ปรัชญาเศรษฐศาสตร์สุขวิชโนมิกส์ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเลือกบุคคลที่เหมาะสมกับตำแหน่ง "Put the right man to the right job" เพื่อให้การบริหารโครงการต่างๆ เกิดผลสำเร็จและสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ประเทศ
ในที่สุด, สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ไม่เพียงแค่เป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังเป็นนวัตกรรมที่สะท้อนการสร้างสันติภาพและความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนในภูมิภาคนี้
ทบทวนวรรณกรรม: คำสัมภาษณ์ลูกสาวของ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล
คำสัมภาษณ์นี้ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ศิษย์เก่ารุ่นที่ 1 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยเน้นถึงการที่ ศาสตราจารย์พันตรี หม่อมเจ้าลักษณ์เลิศ ชยางกูร คณบดีคณะรัฐศาสตร์ในขณะนั้น ได้เป็นผู้แนะนำให้ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล เข้าศึกษาต่อที่คณะรัฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งท่านปู่ลักษณ์เลิศ ชยางกูรได้ตระหนักถึงความเฉลียวฉลาดและไหวพริบของ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก จึงได้แนะนำให้เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ในภาคราชการและช่วยพัฒนาประเทศ
การสนับสนุนและการแนะนำจากท่านปู่
คำสัมภาษณ์นี้ยังเผยให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของ ศาสตราจารย์พันตรี หม่อมเจ้าลักษณ์เลิศ ชยางกูร ซึ่งเป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพงษาดิศรมหิป และเป็นพระราชนัดดาของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านได้สังเกตเห็นศักยภาพของ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ในการรับราชการและการมีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศ จึงให้การสนับสนุนและแนะนำให้เรียนคณะรัฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพื่อเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการทำงานในกระทรวงมหาดไทย ซึ่งในช่วงนั้นต้องการบุคลากรที่มีความรู้และความสามารถเพื่อช่วยพัฒนาชนบทไทยที่ยังล้าหลัง
ความสำคัญของการศึกษาในยุคอภิวัฒน์การศึกษา
คำสัมภาษณ์ดังกล่าวยังเชื่อมโยงกับ ปรัชญาเศรษฐศาสตร์สุขวิชโนมิกส์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ปรัชญาสร้างคน สร้างชาติ ด้วยการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม" ซึ่ง ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ได้พัฒนาขึ้น เพื่อมุ่งเน้นการใช้การศึกษาที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย การศึกษาเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างบุคลากรที่มีความรู้และสามารถบริหารจัดการงานราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน การที่ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ตามคำแนะนำของท่านปู่ จึงไม่ใช่แค่เพียงการศึกษาธรรมดา แต่เป็นการลงทุนเพื่อการพัฒนาประเทศในอนาคต
บทบาทของ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ในการพัฒนาประเทศ
หลังจากที่ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่านได้เข้ารับราชการในตำแหน่งต่างๆ และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจและการศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาของท่านที่เชื่อว่า การพัฒนาประเทศจะเกิดขึ้นได้เมื่อประเทศมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในการบริหารงาน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสังคม การศึกษาของ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล จึงเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาไปข้างหน้า
การสนับสนุนจากครอบครัว
นอกจากการสนับสนุนจาก ศาสตราจารย์พันตรี หม่อมเจ้าลักษณ์เลิศ ชยางกูร แล้ว การสนับสนุนจากครอบครัวของ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการผลักดันให้ท่านสามารถประสบความสำเร็จในเส้นทางการศึกษาของท่าน การได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ที่มีวิสัยทัศน์และความเข้าใจในด้านการพัฒนาประเทศ ทำให้ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ได้รับการฝึกฝนและเตรียมตัวในการเป็นผู้นำที่มีคุณภาพ และสามารถใช้การศึกษาที่ได้มาในการพัฒนาชาติบ้านเมือง
สรุป
การที่ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ได้รับการแนะนำให้เรียนที่คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์โดยท่านปู่ ศาสตราจารย์พันตรี หม่อมเจ้าลักษณ์เลิศ ชยางกูร เป็นการตัดสินใจที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศไทยในด้านการบริหารราชการและเศรษฐกิจ การศึกษาของท่าน ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล จึงเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ท่านสามารถสร้างปรัชญาเศรษฐศาสตร์สุขวิชโนมิกส์และมีส่วนสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการบริหารราชการของประเทศอย่างยั่งยืน
อ้างอิง
Matichon. (2024.). คำสัมภาษณ์ลูกสาวของ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล. [url=https://www.matichon.co.th/advertorial/news_4944248]https://www.matichon.co.th/advertorial/news_4944248[/url]