สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ชาว Pantip 🧡
ช่วงนี้กลับมาอยู่ในช่วงหน้าหนาวแล้ว ใครที่มีนัดเที่ยวหรือมีกิจกรรมรวมกลุ่มช่วงปีใหม่/ตรุษจีน ต้องอ่านเรื่องนี้ก่อนเลย!
🦠 โรคคางทูม (Mumps) คืออะไร?
โรคคางทูม คือการติดเชื้อไวรัสที่ทำให้ต่อมน้ำลายบริเวณข้างแก้มบวมและเจ็บปวด 😖 โดยมักพบการระบาดมากในช่วง ฤดูหนาวถึงฤดูใบไม้ผลิ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบ หรือมีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น
✔️ เด็กเล็ก
✔️ นักเรียน/นักศึกษา 👩🎓
✔️ คนที่อยู่ในหอพักหรือกิจกรรมที่ใกล้ชิดกันมาก ๆ
➡️ ถึงชื่อจะฟังดูเบา ๆ แต่จริง ๆ แล้วโรคนี้ ยังแพร่ได้ง่าย และสามารถทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ถ้าไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสมเลยค่ะ 🩺
📍 อาการที่พบบ่อย
ใครสงสัยว่าติดหรือไม่ ลองเช็กอาการนี้ได้เลย 👇
🔹 ต่อมน้ำลายบวมใต้ขอบกราม (คางบวม)
🔹 มีไข้ต่ำ ๆ
🔹 ปวดหัว อ่อนเพลีย
🔹 ปวดเมื่อยตามเนื้อ (บางราย)
💡 บางคนอาจไม่มีอาการชัดเลย แต่ยังสามารถแพร่เชื้อได้!
⚠️ อาการแทรกซ้อนที่ควรระวัง
ในบางกรณี โดยเฉพาะผู้ที่ ไม่ได้รับวัคซีน หรือภูมิคุ้มกันต่ำ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น
✔️ อัณฑะอักเสบ (ในผู้ชาย)
✔️ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
✔️ สูญเสียการได้ยิน
ซึ่ง อาการเหล่านี้ไม่ควรละเลยเลยนะคะ เพราะอาจต้องรักษาในโรงพยาบาลเลยทีเดียว ❤️🩹
👥 ใครเสี่ยงที่สุด?
😷 คนที่ยังไม่ได้ฉีด วัคซีน MMR ครบ 2 เข็ม
🏫 เด็กและวัยรุ่นในโรงเรียน/มหาวิทยาลัย
👫 คนอยู่ในสถานที่แออัด เช่น หอพัก
🚶♂️ นักเดินทางไปต่างประเทศที่มีการระบาด
📉 ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
🛡️ วิธีป้องกันง่าย ๆ
✅ ฉีดวัคซีน MMR ให้ครบตามเกณฑ์
✅ งดใช้แก้วน้ำ/จานช้อนร่วมกัน
✅ ล้างมือบ่อย ๆ 🧼
✅ อยู่บ้านเมื่อมีอาการบวมบริเวณคางหรือมีไข้
📌 สรุป
โรคคางทูมไม่ได้เป็นแค่ “โรคเด็กยุคก่อน” อีกต่อไปนะคะ โดยเฉพาะถ้าเราอยู่ในฤดูหนาวและอยู่ในกลุ่มที่เสี่ยง ยังมีโอกาสระบาดได้ง่าย แถมบางคนไม่มีอาการเด่นชัดด้วย!
ดังนั้นอ่านให้เข้าใจ แล้ว ดูแลตัวเอง/ครอบครัวให้ปลอดภัยจากไวรัสนี้กันนะคะ 🙏
🌐 อยากอ่านข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม พร้อมภาพประกอบและคำแนะนำครบถ้วน?
👉 คลิกอ่านจริงได้ที่เว็บไซต์
Med-4U.com
เลยค่ะ
โรคคางทูม (Mumps) ภัยร้ายเฉพาะฤดูหนาว! รู้ทันก่อนแชร์ให้คนรอบตัว!
ช่วงนี้กลับมาอยู่ในช่วงหน้าหนาวแล้ว ใครที่มีนัดเที่ยวหรือมีกิจกรรมรวมกลุ่มช่วงปีใหม่/ตรุษจีน ต้องอ่านเรื่องนี้ก่อนเลย!
🦠 โรคคางทูม (Mumps) คืออะไร?
โรคคางทูม คือการติดเชื้อไวรัสที่ทำให้ต่อมน้ำลายบริเวณข้างแก้มบวมและเจ็บปวด 😖 โดยมักพบการระบาดมากในช่วง ฤดูหนาวถึงฤดูใบไม้ผลิ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบ หรือมีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น
✔️ เด็กเล็ก
✔️ นักเรียน/นักศึกษา 👩🎓
✔️ คนที่อยู่ในหอพักหรือกิจกรรมที่ใกล้ชิดกันมาก ๆ
➡️ ถึงชื่อจะฟังดูเบา ๆ แต่จริง ๆ แล้วโรคนี้ ยังแพร่ได้ง่าย และสามารถทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ถ้าไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสมเลยค่ะ 🩺
📍 อาการที่พบบ่อย
ใครสงสัยว่าติดหรือไม่ ลองเช็กอาการนี้ได้เลย 👇
🔹 ต่อมน้ำลายบวมใต้ขอบกราม (คางบวม)
🔹 มีไข้ต่ำ ๆ
🔹 ปวดหัว อ่อนเพลีย
🔹 ปวดเมื่อยตามเนื้อ (บางราย)
💡 บางคนอาจไม่มีอาการชัดเลย แต่ยังสามารถแพร่เชื้อได้!
⚠️ อาการแทรกซ้อนที่ควรระวัง
ในบางกรณี โดยเฉพาะผู้ที่ ไม่ได้รับวัคซีน หรือภูมิคุ้มกันต่ำ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น
✔️ อัณฑะอักเสบ (ในผู้ชาย)
✔️ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
✔️ สูญเสียการได้ยิน
ซึ่ง อาการเหล่านี้ไม่ควรละเลยเลยนะคะ เพราะอาจต้องรักษาในโรงพยาบาลเลยทีเดียว ❤️🩹
👥 ใครเสี่ยงที่สุด?
😷 คนที่ยังไม่ได้ฉีด วัคซีน MMR ครบ 2 เข็ม
🏫 เด็กและวัยรุ่นในโรงเรียน/มหาวิทยาลัย
👫 คนอยู่ในสถานที่แออัด เช่น หอพัก
🚶♂️ นักเดินทางไปต่างประเทศที่มีการระบาด
📉 ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
🛡️ วิธีป้องกันง่าย ๆ
✅ ฉีดวัคซีน MMR ให้ครบตามเกณฑ์
✅ งดใช้แก้วน้ำ/จานช้อนร่วมกัน
✅ ล้างมือบ่อย ๆ 🧼
✅ อยู่บ้านเมื่อมีอาการบวมบริเวณคางหรือมีไข้
📌 สรุป
โรคคางทูมไม่ได้เป็นแค่ “โรคเด็กยุคก่อน” อีกต่อไปนะคะ โดยเฉพาะถ้าเราอยู่ในฤดูหนาวและอยู่ในกลุ่มที่เสี่ยง ยังมีโอกาสระบาดได้ง่าย แถมบางคนไม่มีอาการเด่นชัดด้วย!
ดังนั้นอ่านให้เข้าใจ แล้ว ดูแลตัวเอง/ครอบครัวให้ปลอดภัยจากไวรัสนี้กันนะคะ 🙏
🌐 อยากอ่านข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม พร้อมภาพประกอบและคำแนะนำครบถ้วน?
👉 คลิกอ่านจริงได้ที่เว็บไซต์ Med-4U.com