"เขียนเสือที่แก้ม" รักษาโรคคางทูมได้จริงหรือ 🐯🐅
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้⁉️"เขียนเสือที่แก้ม" รักษาโรคคางทูมได้จริงหรือ
🐯
:คำตอบ
ไม่จริงเลย การเขียนรูปเสือหรือรูปใดๆ บนแก้มไม่สามารถรักษาโรคคางทูมได้ เป็นความเชื่อที่แพร่หลายในบางพื้นที่ แต่ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ใดยืนยันว่าวิธีนี้มีประสิทธิภาพในการรักษาคางทูมได้จริง
"เขียนเสือที่แก้ม" เป็นความเชื่อพื้นบ้านที่ทำกันในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในสมัยก่อนที่วิทยาการทางการแพทย์ยังไม่ก้าวหน้ามากนัก เมื่อเด็กๆ หรือบางครั้งผู้ใหญ่เป็นคางทูม ซึ่งมีอาการบวมที่บริเวณข้างแก้มหรือขากรรไกร ทำให้มองดูเหมือนหน้าบวมเป่งคล้ายหัวเสือ คนโบราณจึงเกิดความเชื่อว่าการเขียนรูปเสือไว้ที่แก้ม โดยอาจจะใช้หมึก ปูนแดง ดินสอพอง หรือสมุนไพรบางชนิดแต้มเป็นรูปเสือ จะช่วยขับไล่โรคหรือทำให้โรคหายเร็วขึ้น
ความเชื่อนี้อาจมีที่มาจากแนวคิดเรื่องการสะกดหรือขับไล่สิ่งที่ไม่ดีออกไปจากร่างกาย หรือเป็นการเล่นทางจิตวิทยาให้ผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีผลต่อการรักษาโรคทางกายเลย
👨⚕️🩺
#โรคคางทูม
(Mumps) เป็นโรคติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ติดต่อกันได้ง่าย มักพบในเด็ก แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถเป็นได้ครับ ไวรัสคางทูมจะเข้าสู่ร่างกายผ่านการหายใจเอาละอองฝอยจากผู้ป่วยที่ไอ จาม หรือพูดคุยกัน
อาการสำคัญของโรคคางทูม คือ
▪️ต่อมน้ำลายบวมโตและปวด โดยเฉพาะต่อมน้ำลายพาโรติด (Parotid Gland) ที่อยู่บริเวณข้างแก้มและหน้าหู อาจบวมข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ การบวมนี้ทำให้บริเวณใบหน้าดูบวมผิดรูป
▪️มักมีไข้ต่ำๆ ถึงปานกลาง
ปวดศีรษะ
ปวดเมื่อยตามตัว
เบื่ออาหาร
เจ็บคอ
กลืนลำบาก
▪️แม้ส่วนใหญ่คางทูมจะเป็นโรคที่ไม่รุนแรงและหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่บางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) พบได้บ่อยที่สุดในภาวะแทรกซ้อนของคางทูม
ตับอ่อนอักเสบ (Pancreatitis)
อัณฑะอักเสบ (Orchitis) พบในเพศชายวัยเจริญพันธุ์ ทำให้ลูกอัณฑะบวมและปวด ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะมีบุตรยากได้
รังไข่อักเสบ (Oophoritis) พบในเพศหญิง แต่พบน้อยกว่า
หูหนวกถาวร เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบน้อยมากแต่รุนแรง
ปัจจุบันยังไม่มียาที่ใช้รักษาโรคคางทูมโดยเฉพาะ การรักษาจึงเป็นการรักษาตามอาการเพื่อบรรเทาความไม่สบายต่างๆ เช่น
พักผ่อนให้เพียงพอ
ดื่มน้ำมากๆ
ทานอาหารอ่อนๆ ที่กลืนง่าย
ประคบเย็นบริเวณที่บวมเพื่อลดอาการปวด
รับประทานยาแก้ปวดลดไข้ เช่น พาราเซตามอล
วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคคางทูมคือ การฉีดวัคซีนป้องกันโรคคางทูม (MMR vaccine) ซึ่งเป็นวัคซีนรวมป้องกันโรคหัด คางทูม และหัดเยอรมัน ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัย
หากมีอาการสงสัยว่าเป็นคางทูม ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับคำแนะนำในการดูแลรักษาที่ถูกต้อง ไม่ควรพึ่งพาความเชื่อพื้นบ้านที่ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์รองรับ
The Earth
"เขียนเสือที่แก้ม" รักษาโรคคางทูมได้จริงหรือ 🐯🐅