ระหว่าง "ตาชั่ง" กับ "ชามข้าว" เราวางหัวใจไว้ที่ไหน

เคยสงสัยไหมครับว่า ทำไมนาฬิกาเรือนเดิม ถึงเดินเร็วช้าไม่เท่ากันในแต่ละวัน
บางวันเข็มวินาทีวิ่งเร็วจี๋จนเราตามไม่ทัน แต่บางวัน... เข็มสั้นกลับดูเหมือนขี้เกียจขยับตัว ทั้งที่เวลาทางฟิสิกส์เท่าเดิม แต่เวลาทาง "ความรู้สึก" กลับยืดหดได้ตามจังหวะหัวใจ
ในโลกของการทำงาน เรามักได้ยินคำสองคำที่ดูเหมือนจะอยู่คนละขั้ว คำหนึ่งดูเท่ ทันสมัย คือ Work-Life Balance อีกคำหนึ่งดูเก่าคร่ำครึ และถูกมองในแง่ลบ คือ เช้าชามเย็นชาม
ถ้ามองแบบผิวเผิน อย่างแรกคือคนขยันที่รักตัวเอง อย่างหลังคือคนขี้เกียจที่ไม่รักงาน
แต่ถ้าเราลองหยิบแว่นขยายมาส่องดูใกล้ๆ หรือลองนั่งลงคุยกับคนที่ใช้ชีวิตแบบนั้นจริงๆ เราอาจพบความต่างที่ลึกซึ้งกว่าแค่เรื่องของ "ปริมาณงาน"
...
มนุษย์เช้าชามเย็นชาม ไม่ได้หมายถึงคนที่ไม่ทำงานนะครับ เขายังคงตอกบัตรตรงเวลา นั่งประจำโต๊ะ และทำงานที่ได้รับมอบหมายจนเสร็จ แต่สิ่งที่หายไปคือ "วิญญาณ"
เหมือนหุ่นยนต์ที่ถูกตั้งโปรแกรม เช้า... ยกชามข้าวมาวาง (เริ่มงาน) เย็น... ยกชามข้าวไปเก็บ (เลิกงาน) ระหว่างวันคือการทำเพื่อให้มันจบๆ ไป ทำเพื่อให้รอดพ้นจากการถูกตำหนิ ทำเพื่อรอคอยวันศุกร์ และเกลียดชังวันจันทร์
ความน่าเศร้าของ "เช้าชามเย็นชาม" ไม่ใช่เพราะเขาทำงานน้อย แต่เพราะเขา "ไม่ได้ใช้ชีวิต" ในขณะทำงาน เขาตัดเวลา 8 ชั่วโมงนั้นทิ้งไปจากความหมายของชีวิต เหมือนกลั้นหายใจดำน้ำ แล้วค่อยโผล่มาหายใจตอน 5 โมงเย็น
ในขณะที่ มนุษย์ Work-Life Balance หลายคนเข้าใจผิดว่า คือการแบ่งเค้กให้เท่ากัน งาน 50 ส่วนตัว 50 ต้องกลับบ้านตรงเวลาเป๊ะ ต้องปิดมือถือทันทีที่ก้าวพ้นออฟฟิศ
แต่ในมุมมองของผม ความสมดุล (Balance) ไม่ใช่การเอาไม้บรรทัดมาตีเส้นแบ่งเขตแดนที่ชัดเจน แต่มันคือการ "เต้นรำ"
นักเต้นรำรู้ว่า จังหวะไหนต้องก้าวไปข้างหน้า (ลุยงาน) จังหวะไหนต้องถอยหลัง (พักผ่อน) และจังหวะไหนที่ต้องหมุนตัวอย่างอิสระ
คนที่รักษาสมดุลได้ดี ไม่ใช่คนที่เกลียดงาน แต่คือคนที่ "เคารพ" ทั้งงานและตัวเอง เขาทำงานเต็มที่ เพราะรู้ว่างานคือส่วนหนึ่งที่เติมเต็มคุณค่า และเขาพักผ่อนเต็มที่ เพราะรู้ว่าร่างกายและจิตใจคือเครื่องมือเดียวที่มีอยู่
ความต่างจึงไม่ได้อยู่ที่ "เวลา" ที่ใช้ แต่อยู่ที่ "เจตนา" ของใจในขณะที่ทำ
แบบ เช้าชามเย็นชาม คือการปล่อยให้ชีวิตไหลไปตามราง เหมือนใบไม้ที่ลอยตามน้ำ ไปเรื่อยๆ ไม่รู้ทิศทาง ขอแค่ไม่จมเป็นพอ
แบบ Work-Life Balance คือการพายเรือ เรารู้ว่าจะออกแรงพายตอนไหน และรู้ว่าจะวางพายเพื่อมองดูพระอาทิตย์ตกดินตอนไหน เราเป็นคนกำหนดจังหวะ ไม่ใช่กระแสน้ำ
...
โลกนี้อาจไม่ได้ต้องการคนขยันจนตัวตาย และโลกก็คงไม่อยากได้คนที่หายใจทิ้งไปวันๆ
สิ่งที่โลก (และตัวเราเอง) ต้องการ อาจจะเป็นแค่ใครสักคน ที่ตื่นมาตอนเช้า แล้วรู้ว่า... วันนี้เราจะยกชามข้าวขึ้นมาตักกินอย่างละเมียดละไม หรือเราจะออกไปเต้นรำกับปัญหาที่ดาหน้าเข้ามา
ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบไหน อย่าลืมถามตัวเองบ่อยๆ นะครับว่า ใน 8 ชั่วโมงของวันนี้ คุณได้พก "หัวใจ" มาทำงานด้วยหรือเปล่า

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่