
TITLE: Monkey Man (2024) : เดือด! เดือดจนต้องบอกต่อ แอ็คชั่นโคตรมันส์ แก่นเรื่องดี โคตรของโคตร!!!
สวัสดีครับชาว Pantip ทุกท่าน วันนี้ผมมีหนังดี หนังมันส์ หนังที่ดูแล้วต้องบอกต่อมาแนะนำครับ ชื่อเรื่องก็คือ "Monkey Man" (2024) ครับ ฟังชื่ออาจจะนึกว่าหนังเกี่ยวกับลิง แต่ไม่ใช่เลยครับ นี่มันหนังแอ็คชั่น ดิบ เถื่อน โหด ที่จะทำให้คุณนั่งไม่ติดเบาะตลอด 2 ชั่วโมงแน่นอน
ก่อนอื่นเลย ต้องบอกว่าผมเป็นคนชอบดูหนังแอ็คชั่นอยู่แล้วครับ แต่เรื่องนี้คือยกระดับความมันส์ไปอีกขั้นเลยครับ ฉากแอ็คชั่นมันดีไซน์มาได้โคตรสร้างสรรค์เลยครับ ไม่ใช่แค่เตะต่อยธรรมดา แต่มีลูกเล่น มีความดิบ มีความรุนแรงที่สมจริงมากๆ ดูแล้วลุ้นตามทุกฉากเลยครับ การต่อสู้แต่ละครั้งคือใส่เต็ม ไม่ยั้งจริงๆ ใครที่ชอบหนังแอ็คชั่นดิบๆ แบบ John Wick หรือ The Raid บอกเลยว่าต้องไม่พลาดเรื่องนี้ครับ
พระเอกของเรื่อง คือ Dev Patel ครับ ผมรู้จักเขาจากหนังอย่าง Slumdog Millionaire ที่เขาแสดงเป็นเด็กสลัม แต่ในเรื่องนี้ เขาพลิกบทบาทมาเป็นตัวละครที่โคตรเท่ โคตรดุดัน แสดงได้ถึงบทบาทมากๆ ครับ สีหน้า แววตา ท่าทางการต่อสู้ คือสื่ออารมณ์ออกมาได้หมดเลย ยิ่งฉากที่เขาต้องเจอความอยุติธรรม เจอการกดขี่ ยิ่งทำให้คนดูอินตามครับ การแสดงของเขาคือจุดแข็งสำคัญของหนังเรื่องนี้เลยก็ว่าได้
นอกเหนือจากแอ็คชั่นที่จัดเต็มแล้ว "Monkey Man" ยังมีแก่นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ ครับ หนังพูดถึงเรื่องของความเหลื่อมล้ำทางสังคม การคอร์รัปชั่น อำนาจมืด และการแก้แค้นของคนตัวเล็กๆ ที่ถูกกดขี่มานาน การที่ตัวเอกต้องต่อสู้กับระบบที่ใหญ่กว่าตัวเอง มันทำให้หนังมีมิติมากขึ้น ไม่ใช่แค่หนังแอ็คชั่นบู๊ล้างผลาญอย่างเดียว แต่ยังมีข้อคิดให้เราได้กลับมาคิดตามด้วยครับ
บรรยากาศของหนังก็ทำออกมาได้ดีครับ การถ่ายทำ มุมกล้อง การตัดต่อ คือส่งเสริมให้หนังดูดิบ ดูจริง ดูมีพลังมากๆ ครับ โดยเฉพาะฉากแอ็คชั่นที่ถ่ายทำในพื้นที่แคบๆ หรือในที่ที่ดูอึดอัด มันยิ่งเพิ่มความรู้สึกกดดันและความเข้มข้นให้กับฉากนั้นๆ ครับ เพลงประกอบก็ช่วยเสริมอารมณ์ได้ดีมากๆ ครับ ฟังแล้วฮึกเหิม ดูแล้วอิน
เรื่องราวของ "Monkey Man" จะเล่าถึงตัวละครหลักที่ไม่มีชื่อ ไม่มีอดีตที่ชัดเจน แต่เขามีเป้าหมายเดียวคือการแก้แค้นให้กับคนที่เขารักที่ถูกพรากไป เขาใช้ชีวิตด้วยการต่อสู้ในค่ายใต้ดิน แต่เบื้องหลังการต่อสู้เหล่านั้น คือการวางแผนอันแยบยล้ำเพื่อเข้าไปสู่โลกของผู้มีอำนาจที่เคยทำร้ายเขา การเดินทางของเขาเต็มไปด้วยอุปสรรคและการทรยศหักหลัง แต่เขาก็ไม่เคยยอมแพ้
สิ่งที่ผมชอบมากๆ คือความกล้าของทีมผู้สร้างครับ ที่หยิบยกเอาเรื่องราวที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนในสังคมอินเดียมานำเสนอในรูปแบบของหนังแอ็คชั่น มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ แต่เขาก็ทำออกมาได้อย่างทรงพลัง และทำให้คนดูอย่างเราๆ ได้เห็นมุมมองที่น่าสนใจ
ถ้าถามว่ามีข้อเสียไหม? ส่วนตัวผมมองว่ามันไม่ได้มีอะไรที่น่าตำหนิเป็นพิเศษนะครับ อาจจะมีบางฉากที่ความรุนแรงอาจจะดูเยอะไปสำหรับบางคน แต่สำหรับผม มันคือส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่ต้องการสื่อสารออกมาครับ
โดยรวมแล้ว "Monkey Man" เป็นหนังแอ็คชั่นที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ มันมอบประสบการณ์การชมหนังที่โคตรมันส์ โคตรเดือด และยังแฝงไปด้วยข้อคิดดีๆ อีกด้วย ใครที่กำลังมองหาหนังดีๆ สักเรื่องดู ผมแนะนำเรื่องนี้เลยครับ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
ผมให้คะแนนเรื่องนี้ไปเลย 9/10 ครับ หักไป 1 คะแนน เพราะอยากให้มีภาคต่ออีกเยอะๆ เลยครับ!
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณชาว Pantip ทุกท่านที่เข้ามาอ่านรีวิวนะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกชมภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ ใครที่ไปดูมาแล้ว มาคุยกันได้นะครับว่าชอบหรือไม่ชอบตรงไหนบ้าง!
Monkey Man (2024) : เดือด! เดือดจนต้องบอกต่อ แอ็คชั่นโคตรมันส์ แก่นเรื่องดี โคตรของโคตร!!!
TITLE: Monkey Man (2024) : เดือด! เดือดจนต้องบอกต่อ แอ็คชั่นโคตรมันส์ แก่นเรื่องดี โคตรของโคตร!!!
สวัสดีครับชาว Pantip ทุกท่าน วันนี้ผมมีหนังดี หนังมันส์ หนังที่ดูแล้วต้องบอกต่อมาแนะนำครับ ชื่อเรื่องก็คือ "Monkey Man" (2024) ครับ ฟังชื่ออาจจะนึกว่าหนังเกี่ยวกับลิง แต่ไม่ใช่เลยครับ นี่มันหนังแอ็คชั่น ดิบ เถื่อน โหด ที่จะทำให้คุณนั่งไม่ติดเบาะตลอด 2 ชั่วโมงแน่นอน
ก่อนอื่นเลย ต้องบอกว่าผมเป็นคนชอบดูหนังแอ็คชั่นอยู่แล้วครับ แต่เรื่องนี้คือยกระดับความมันส์ไปอีกขั้นเลยครับ ฉากแอ็คชั่นมันดีไซน์มาได้โคตรสร้างสรรค์เลยครับ ไม่ใช่แค่เตะต่อยธรรมดา แต่มีลูกเล่น มีความดิบ มีความรุนแรงที่สมจริงมากๆ ดูแล้วลุ้นตามทุกฉากเลยครับ การต่อสู้แต่ละครั้งคือใส่เต็ม ไม่ยั้งจริงๆ ใครที่ชอบหนังแอ็คชั่นดิบๆ แบบ John Wick หรือ The Raid บอกเลยว่าต้องไม่พลาดเรื่องนี้ครับ
พระเอกของเรื่อง คือ Dev Patel ครับ ผมรู้จักเขาจากหนังอย่าง Slumdog Millionaire ที่เขาแสดงเป็นเด็กสลัม แต่ในเรื่องนี้ เขาพลิกบทบาทมาเป็นตัวละครที่โคตรเท่ โคตรดุดัน แสดงได้ถึงบทบาทมากๆ ครับ สีหน้า แววตา ท่าทางการต่อสู้ คือสื่ออารมณ์ออกมาได้หมดเลย ยิ่งฉากที่เขาต้องเจอความอยุติธรรม เจอการกดขี่ ยิ่งทำให้คนดูอินตามครับ การแสดงของเขาคือจุดแข็งสำคัญของหนังเรื่องนี้เลยก็ว่าได้
นอกเหนือจากแอ็คชั่นที่จัดเต็มแล้ว "Monkey Man" ยังมีแก่นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ ครับ หนังพูดถึงเรื่องของความเหลื่อมล้ำทางสังคม การคอร์รัปชั่น อำนาจมืด และการแก้แค้นของคนตัวเล็กๆ ที่ถูกกดขี่มานาน การที่ตัวเอกต้องต่อสู้กับระบบที่ใหญ่กว่าตัวเอง มันทำให้หนังมีมิติมากขึ้น ไม่ใช่แค่หนังแอ็คชั่นบู๊ล้างผลาญอย่างเดียว แต่ยังมีข้อคิดให้เราได้กลับมาคิดตามด้วยครับ
บรรยากาศของหนังก็ทำออกมาได้ดีครับ การถ่ายทำ มุมกล้อง การตัดต่อ คือส่งเสริมให้หนังดูดิบ ดูจริง ดูมีพลังมากๆ ครับ โดยเฉพาะฉากแอ็คชั่นที่ถ่ายทำในพื้นที่แคบๆ หรือในที่ที่ดูอึดอัด มันยิ่งเพิ่มความรู้สึกกดดันและความเข้มข้นให้กับฉากนั้นๆ ครับ เพลงประกอบก็ช่วยเสริมอารมณ์ได้ดีมากๆ ครับ ฟังแล้วฮึกเหิม ดูแล้วอิน
เรื่องราวของ "Monkey Man" จะเล่าถึงตัวละครหลักที่ไม่มีชื่อ ไม่มีอดีตที่ชัดเจน แต่เขามีเป้าหมายเดียวคือการแก้แค้นให้กับคนที่เขารักที่ถูกพรากไป เขาใช้ชีวิตด้วยการต่อสู้ในค่ายใต้ดิน แต่เบื้องหลังการต่อสู้เหล่านั้น คือการวางแผนอันแยบยล้ำเพื่อเข้าไปสู่โลกของผู้มีอำนาจที่เคยทำร้ายเขา การเดินทางของเขาเต็มไปด้วยอุปสรรคและการทรยศหักหลัง แต่เขาก็ไม่เคยยอมแพ้
สิ่งที่ผมชอบมากๆ คือความกล้าของทีมผู้สร้างครับ ที่หยิบยกเอาเรื่องราวที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนในสังคมอินเดียมานำเสนอในรูปแบบของหนังแอ็คชั่น มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ แต่เขาก็ทำออกมาได้อย่างทรงพลัง และทำให้คนดูอย่างเราๆ ได้เห็นมุมมองที่น่าสนใจ
ถ้าถามว่ามีข้อเสียไหม? ส่วนตัวผมมองว่ามันไม่ได้มีอะไรที่น่าตำหนิเป็นพิเศษนะครับ อาจจะมีบางฉากที่ความรุนแรงอาจจะดูเยอะไปสำหรับบางคน แต่สำหรับผม มันคือส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่ต้องการสื่อสารออกมาครับ
โดยรวมแล้ว "Monkey Man" เป็นหนังแอ็คชั่นที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ มันมอบประสบการณ์การชมหนังที่โคตรมันส์ โคตรเดือด และยังแฝงไปด้วยข้อคิดดีๆ อีกด้วย ใครที่กำลังมองหาหนังดีๆ สักเรื่องดู ผมแนะนำเรื่องนี้เลยครับ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
ผมให้คะแนนเรื่องนี้ไปเลย 9/10 ครับ หักไป 1 คะแนน เพราะอยากให้มีภาคต่ออีกเยอะๆ เลยครับ!
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณชาว Pantip ทุกท่านที่เข้ามาอ่านรีวิวนะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกชมภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ ใครที่ไปดูมาแล้ว มาคุยกันได้นะครับว่าชอบหรือไม่ชอบตรงไหนบ้าง!