TITLE: ดู Seven Samurai (1954) แล้วแบบ... นี่มันไม่ใช่หนังซามูไรธรรมดาๆ แน่นอนครับ!
สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคนนะครับ วันนี้ผมมีหนังสุดคลาสสิกที่ผมเพิ่งมีโอกาสได้ดูมาเล่าให้ฟังครับ เป็นเรื่อง Seven Samurai หรือเจ็ดเซียนซามูไร ของผู้กำกับอากิระ คุโรซาว่า นั่นเองครับ เห็นชื่อแล้วหลายคนอาจจะคิดว่า "เออ หนังซามูไรนี่หว่า คงบู๊ๆ ดาบๆ ดราม่าเข้มข้น" ซึ่งก็ถูกส่วนหนึ่งครับ แต่พอได้ดูจริงๆ แล้ว ผมบอกเลยว่ามันมากกว่านั้นเยอะครับ มันคือมหากาพย์ที่ผสมผสานหลายอย่างเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวมากๆ
เรื่องมันเริ่มจากหมู่บ้านชาวนาเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ต้องตกอยู่ภายใต้ความหวาดผวาของเหล่าโจรป่า ที่คอยจะปล้นข้าวของไปทุกปี และปีนี้ก็ใกล้เข้ามาอีกครั้ง ชาวบ้านสิ้นหวัง ไม่มีกำลังทรัพย์ ไม่มีอาวุธ ไม่มีแม้แต่จะต่อสู้ พวกเขาจึงตัดสินใจครั้งใหญ่ คือการเดินทางไปยังเมืองเพื่อขอความช่วยเหลือจากเหล่าซามูไรที่ตกอับ เพื่อมาปกป้องหมู่บ้านของพวกเขา แต่ปัญหาคือ ซามูไรพวกนี้ก็ไม่ได้มีเงินทองอะไรมากมาย แล้วจะเอาอะไรไปจ้างพวกเขาได้ล่ะ? คำตอบคือ "อาหาร" ครับ ชาวบ้านเสนอจะแบ่งปันข้าวปลาอาหารที่พวกเขามีให้เหล่าซามูไรเป็นการตอบแทน
นี่แหละครับจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจมากๆ แทนที่จะเป็นเรื่องของเกียรติยศศักดิ์ศรีแบบซามูไรที่เราคุ้นเคย นี่กลับเป็นเรื่องของการเอาชีวิตรอด การเห็นคุณค่าของชีวิตธรรมดาๆ ของชาวนาที่ต้องดิ้นรนเพื่ออยู่รอด และการตัดสินใจของซามูไรบางคนที่มองเห็นอะไรมากกว่าแค่เงินทองหรือชื่อเสียง พวกเขามองเห็นความทุกข์ยาก เห็นความกล้าหาญของชาวบ้านที่กล้าจะลุกขึ้นสู้ ทำให้เกิดเป็นทีมซามูไร 7 คน ที่มีภูมิหลังและบุคลิกแตกต่างกันสุดขั้ว
ตัวละครซามูไรแต่ละคนนี่โคตรมีเสน่ห์เลยครับ ไล่ไปตั้งแต่ คัมเบย์ หัวหน้าทีม ผู้แบกรับภาระอันหนักอึ้ง มีความสุขุม เยือกเย็น เป็นที่พึ่งของทุกคน คนนี้คือสุดยอดของความเป็นผู้นำจริงๆ ครับ แล้วก็มี คิคุจิโร่ ที่เป็นเหมือนตัวแทนของความไร้เดียงสาของชาวนาที่อยากเป็นซามูไร แต่จริงๆ แล้วเป็นคนตลกหน้าตาย สร้างสีสันให้เรื่องได้ดีมากๆ ส่วน โกเฮย์ ก็เป็นซามูไรแก่ๆ ที่ผ่านโลกมาเยอะ มีความรู้ แต่ก็มีมุมมองที่น่าสนใจ ส่วน ชิโร่ ยูโกะ หรือ "ลูกเป็ดน้อย" คนนี้ก็น่ารักมากๆ ครับ เป็นซามูไรหนุ่มที่ไฟแรง แต่ก็ยังขาดประสบการณ์ ต้องค่อยๆ เรียนรู้ไปกับสถานการณ์
ที่ผมชอบมากๆ คือความสัมพันธ์ระหว่างซามูไรกับชาวบ้านครับ มันไม่ได้เป็นแค่การจ้างวานแล้วจบไป แต่กลายเป็นการที่ซามูไรต้องลงไปคลุกคลีกับชาวบ้าน เรียนรู้วิถีชีวิตของพวกเขา เข้าใจความทุกข์ยากของพวกเขา และชาวบ้านเองก็เริ่มมีความหวัง เริ่มที่จะเรียนรู้วิธีการต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเอง มันคือการผสมผสานที่ลงตัวของชนชั้นที่แตกต่างกัน
การสร้างสถานการณ์ การวางแผนการรบ การเตรียมตัวของทั้งสองฝ่าย นี่คือจุดที่คุโรซาว่าแกเก่งมากๆ ครับ เราจะได้เห็นวิธีการที่ซามูไรสอนชาวบ้านให้รู้จักการใช้หอก การสร้างเครื่องป้องกัน การวางกับดัก การสื่อสารกันระหว่างการรบ มันทำให้เรารู้สึกว่านี่ไม่ใช่แค่การต่อสู้ แต่เป็นการวางแผนที่ละเอียดอ่อน เป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดจริงๆ
ฉากแอ็คชั่นนี่ไม่ต้องพูดถึงครับ แม้จะเป็นหนังปี 1954 แต่ฉากต่อสู้มันโคตรจะสมจริงและดุเดือดมากๆ ครับ เราจะเห็นภาพความเหนื่อยล้าของซามูไร ความกลัวของชาวบ้าน และความโหดเหี้ยมของเหล่าโจร มันไม่ได้มีแค่ความเท่ของดาบ แต่มีความรู้สึกของการต่อสู้เพื่อชีวิตจริงๆ อยู่ในนั้น
สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจมากๆ คือข้อคิดที่แฝงอยู่ในหนังครับ มันไม่ได้มีแค่พระเอกผู้เก่งกาจแล้วชนะไปง่ายๆ แต่มันคือการต่อสู้ที่ต้องแลกมาด้วยความสูญเสีย มีทั้งคนตาย มีทั้งความเจ็บปวด แต่นั่นแหละคือชีวิต มันคือความจริง และถึงแม้สุดท้ายแล้ว การต่อสู้จะจบลง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าปัญหาทุกอย่างจะหมดไป มันคือการเปลี่ยนแปลงที่จะต้องดำเนินต่อไป
ผมว่า Seven Samurai เป็นหนังที่มากกว่าแค่หนังซามูไรครับ มันคือหนังที่พูดถึงความเป็นมนุษย์ การดิ้นรนเพื่ออยู่รอด ความหวัง ความกล้าหาญ มิตรภาพ และการเสียสละ มันเป็นหนังที่ดูจบแล้วยังคงมีอะไรให้คิดต่ออีกเยอะมากๆ ครับ ถ้าใครยังไม่เคยดู ผมอยากแนะนำให้ลองหามาดูกันนะครับ รับรองว่าคุ้มค่ากับเวลาแน่นอนครับ เป็นหนังที่ทำให้ผมเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับหนังญี่ปุ่นไปเลยครับ!
ดู Seven Samurai (1954) แล้วแบบ... นี่มันไม่ใช่หนังซามูไรธรรมดาๆ แน่นอนครับ!
TITLE: ดู Seven Samurai (1954) แล้วแบบ... นี่มันไม่ใช่หนังซามูไรธรรมดาๆ แน่นอนครับ!
สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคนนะครับ วันนี้ผมมีหนังสุดคลาสสิกที่ผมเพิ่งมีโอกาสได้ดูมาเล่าให้ฟังครับ เป็นเรื่อง Seven Samurai หรือเจ็ดเซียนซามูไร ของผู้กำกับอากิระ คุโรซาว่า นั่นเองครับ เห็นชื่อแล้วหลายคนอาจจะคิดว่า "เออ หนังซามูไรนี่หว่า คงบู๊ๆ ดาบๆ ดราม่าเข้มข้น" ซึ่งก็ถูกส่วนหนึ่งครับ แต่พอได้ดูจริงๆ แล้ว ผมบอกเลยว่ามันมากกว่านั้นเยอะครับ มันคือมหากาพย์ที่ผสมผสานหลายอย่างเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวมากๆ
เรื่องมันเริ่มจากหมู่บ้านชาวนาเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ต้องตกอยู่ภายใต้ความหวาดผวาของเหล่าโจรป่า ที่คอยจะปล้นข้าวของไปทุกปี และปีนี้ก็ใกล้เข้ามาอีกครั้ง ชาวบ้านสิ้นหวัง ไม่มีกำลังทรัพย์ ไม่มีอาวุธ ไม่มีแม้แต่จะต่อสู้ พวกเขาจึงตัดสินใจครั้งใหญ่ คือการเดินทางไปยังเมืองเพื่อขอความช่วยเหลือจากเหล่าซามูไรที่ตกอับ เพื่อมาปกป้องหมู่บ้านของพวกเขา แต่ปัญหาคือ ซามูไรพวกนี้ก็ไม่ได้มีเงินทองอะไรมากมาย แล้วจะเอาอะไรไปจ้างพวกเขาได้ล่ะ? คำตอบคือ "อาหาร" ครับ ชาวบ้านเสนอจะแบ่งปันข้าวปลาอาหารที่พวกเขามีให้เหล่าซามูไรเป็นการตอบแทน
นี่แหละครับจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจมากๆ แทนที่จะเป็นเรื่องของเกียรติยศศักดิ์ศรีแบบซามูไรที่เราคุ้นเคย นี่กลับเป็นเรื่องของการเอาชีวิตรอด การเห็นคุณค่าของชีวิตธรรมดาๆ ของชาวนาที่ต้องดิ้นรนเพื่ออยู่รอด และการตัดสินใจของซามูไรบางคนที่มองเห็นอะไรมากกว่าแค่เงินทองหรือชื่อเสียง พวกเขามองเห็นความทุกข์ยาก เห็นความกล้าหาญของชาวบ้านที่กล้าจะลุกขึ้นสู้ ทำให้เกิดเป็นทีมซามูไร 7 คน ที่มีภูมิหลังและบุคลิกแตกต่างกันสุดขั้ว
ตัวละครซามูไรแต่ละคนนี่โคตรมีเสน่ห์เลยครับ ไล่ไปตั้งแต่ คัมเบย์ หัวหน้าทีม ผู้แบกรับภาระอันหนักอึ้ง มีความสุขุม เยือกเย็น เป็นที่พึ่งของทุกคน คนนี้คือสุดยอดของความเป็นผู้นำจริงๆ ครับ แล้วก็มี คิคุจิโร่ ที่เป็นเหมือนตัวแทนของความไร้เดียงสาของชาวนาที่อยากเป็นซามูไร แต่จริงๆ แล้วเป็นคนตลกหน้าตาย สร้างสีสันให้เรื่องได้ดีมากๆ ส่วน โกเฮย์ ก็เป็นซามูไรแก่ๆ ที่ผ่านโลกมาเยอะ มีความรู้ แต่ก็มีมุมมองที่น่าสนใจ ส่วน ชิโร่ ยูโกะ หรือ "ลูกเป็ดน้อย" คนนี้ก็น่ารักมากๆ ครับ เป็นซามูไรหนุ่มที่ไฟแรง แต่ก็ยังขาดประสบการณ์ ต้องค่อยๆ เรียนรู้ไปกับสถานการณ์
ที่ผมชอบมากๆ คือความสัมพันธ์ระหว่างซามูไรกับชาวบ้านครับ มันไม่ได้เป็นแค่การจ้างวานแล้วจบไป แต่กลายเป็นการที่ซามูไรต้องลงไปคลุกคลีกับชาวบ้าน เรียนรู้วิถีชีวิตของพวกเขา เข้าใจความทุกข์ยากของพวกเขา และชาวบ้านเองก็เริ่มมีความหวัง เริ่มที่จะเรียนรู้วิธีการต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเอง มันคือการผสมผสานที่ลงตัวของชนชั้นที่แตกต่างกัน
การสร้างสถานการณ์ การวางแผนการรบ การเตรียมตัวของทั้งสองฝ่าย นี่คือจุดที่คุโรซาว่าแกเก่งมากๆ ครับ เราจะได้เห็นวิธีการที่ซามูไรสอนชาวบ้านให้รู้จักการใช้หอก การสร้างเครื่องป้องกัน การวางกับดัก การสื่อสารกันระหว่างการรบ มันทำให้เรารู้สึกว่านี่ไม่ใช่แค่การต่อสู้ แต่เป็นการวางแผนที่ละเอียดอ่อน เป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดจริงๆ
ฉากแอ็คชั่นนี่ไม่ต้องพูดถึงครับ แม้จะเป็นหนังปี 1954 แต่ฉากต่อสู้มันโคตรจะสมจริงและดุเดือดมากๆ ครับ เราจะเห็นภาพความเหนื่อยล้าของซามูไร ความกลัวของชาวบ้าน และความโหดเหี้ยมของเหล่าโจร มันไม่ได้มีแค่ความเท่ของดาบ แต่มีความรู้สึกของการต่อสู้เพื่อชีวิตจริงๆ อยู่ในนั้น
สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจมากๆ คือข้อคิดที่แฝงอยู่ในหนังครับ มันไม่ได้มีแค่พระเอกผู้เก่งกาจแล้วชนะไปง่ายๆ แต่มันคือการต่อสู้ที่ต้องแลกมาด้วยความสูญเสีย มีทั้งคนตาย มีทั้งความเจ็บปวด แต่นั่นแหละคือชีวิต มันคือความจริง และถึงแม้สุดท้ายแล้ว การต่อสู้จะจบลง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าปัญหาทุกอย่างจะหมดไป มันคือการเปลี่ยนแปลงที่จะต้องดำเนินต่อไป
ผมว่า Seven Samurai เป็นหนังที่มากกว่าแค่หนังซามูไรครับ มันคือหนังที่พูดถึงความเป็นมนุษย์ การดิ้นรนเพื่ออยู่รอด ความหวัง ความกล้าหาญ มิตรภาพ และการเสียสละ มันเป็นหนังที่ดูจบแล้วยังคงมีอะไรให้คิดต่ออีกเยอะมากๆ ครับ ถ้าใครยังไม่เคยดู ผมอยากแนะนำให้ลองหามาดูกันนะครับ รับรองว่าคุ้มค่ากับเวลาแน่นอนครับ เป็นหนังที่ทำให้ผมเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับหนังญี่ปุ่นไปเลยครับ!