🛠 สเปกหลัก (Key Specifications):
* รุ่น: CH-47F Block II (Standard Range)
* น้ำหนักบินขึ้นสูงสุด (Max Gross Weight): 24,500 กิโลกรัม (เพิ่มขึ้นจากรุ่นเก่าเกือบ 2 ตัน)
* ขีดความสามารถยกหิ้ว (Sling Load): รองรับได้สูงสุดถึง 12,000 กิโลกรัม (ยกปืนใหญ่ M777 หรือรถฮัมวี่ได้สบาย)
* ระบบเชื้อเพลิง: ออกแบบถังน้ำมันใหม่ น้ำหนักเบาลงแต่จุได้เยอะขึ้น บินได้ไกลขึ้น
* ห้องนักบิน: Digital Glass Cockpit พร้อมระบบ CAAS ช่วยให้นักบินลอยตัวนิ่งๆ (Hover) เพื่อเกี่ยวของได้แม่นยำแม้ลมแรง
🛡 ระบบป้องกันตัว (Survivability Suite) - จุดขายสำคัญ:
ในยุคที่ภัยคุกคามเยอะ รุ่นนี้สามารถติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศเต็มรูปแบบ (ASE) เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของกำลังพลครับ:
* AN/AAR-57 CMWS: เซนเซอร์รอบตัวเครื่อง แจ้งเตือนทันทีที่จับความร้อนจากจรวดที่พุ่งเข้ามา
* AN/ALE-47: ระบบปล่อยเป้าลวง (Chaff/Flare) อัตโนมัติ
* AN/AAQ-24(V) LAIRCM: (ทีเด็ด) ป้อมเลเซอร์ใต้ท้องเครื่อง ยิงลำแสง Jammer ใส่ตาของจรวดนำวิถีให้ตาบอดและเลี้ยวหนีไปเอง (ระบบเดียวกับที่ใช้ใน Air Force One)
💰 อ้างอิงราคาและดีลที่เกิดขึ้นจริง (Real World Deals):
เพื่อให้เห็นภาพงบประมาณ ลองดูดีลล่าสุดที่ต่างประเทศสั่งซื้อกันครับ:
1. เยอรมนี (ปี 2023) - สเปก Full Option
* สั่งซื้อ 60 ลำ (รุ่น Block II Standard Range + เติมน้ำมันกลางอากาศได้)
* มูลค่าสัญญา: ~8.5 พันล้านเหรียญ
* ราคาเฉลี่ยต่อลำ: ประมาณ 4,900 - 5,000 ล้านบาท
(ราคานี้รวมค่าลิขสิทธิ์ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ, สร้างโรงซ่อม, และระบบ LAIRCM ครบชุด)
2. เกาหลีใต้ (ปี 2023) - สเปกมาตรฐาน
* สั่งซื้อ 18 ลำ (รุ่น CH-47F)
* มูลค่าสัญญา: ~1.5 พันล้านเหรียญ
* ราคาเฉลี่ยต่อลำ: ประมาณ 2,800 - 3,000 ล้านบาท
(ราคาจัดหาแบบ FMS มาตรฐาน)
CH-47F Block II รุ่นล่าสุด
🛠 สเปกหลัก (Key Specifications):
* รุ่น: CH-47F Block II (Standard Range)
* น้ำหนักบินขึ้นสูงสุด (Max Gross Weight): 24,500 กิโลกรัม (เพิ่มขึ้นจากรุ่นเก่าเกือบ 2 ตัน)
* ขีดความสามารถยกหิ้ว (Sling Load): รองรับได้สูงสุดถึง 12,000 กิโลกรัม (ยกปืนใหญ่ M777 หรือรถฮัมวี่ได้สบาย)
* ระบบเชื้อเพลิง: ออกแบบถังน้ำมันใหม่ น้ำหนักเบาลงแต่จุได้เยอะขึ้น บินได้ไกลขึ้น
* ห้องนักบิน: Digital Glass Cockpit พร้อมระบบ CAAS ช่วยให้นักบินลอยตัวนิ่งๆ (Hover) เพื่อเกี่ยวของได้แม่นยำแม้ลมแรง
🛡 ระบบป้องกันตัว (Survivability Suite) - จุดขายสำคัญ:
ในยุคที่ภัยคุกคามเยอะ รุ่นนี้สามารถติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศเต็มรูปแบบ (ASE) เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของกำลังพลครับ:
* AN/AAR-57 CMWS: เซนเซอร์รอบตัวเครื่อง แจ้งเตือนทันทีที่จับความร้อนจากจรวดที่พุ่งเข้ามา
* AN/ALE-47: ระบบปล่อยเป้าลวง (Chaff/Flare) อัตโนมัติ
* AN/AAQ-24(V) LAIRCM: (ทีเด็ด) ป้อมเลเซอร์ใต้ท้องเครื่อง ยิงลำแสง Jammer ใส่ตาของจรวดนำวิถีให้ตาบอดและเลี้ยวหนีไปเอง (ระบบเดียวกับที่ใช้ใน Air Force One)
💰 อ้างอิงราคาและดีลที่เกิดขึ้นจริง (Real World Deals):
เพื่อให้เห็นภาพงบประมาณ ลองดูดีลล่าสุดที่ต่างประเทศสั่งซื้อกันครับ:
1. เยอรมนี (ปี 2023) - สเปก Full Option
* สั่งซื้อ 60 ลำ (รุ่น Block II Standard Range + เติมน้ำมันกลางอากาศได้)
* มูลค่าสัญญา: ~8.5 พันล้านเหรียญ
* ราคาเฉลี่ยต่อลำ: ประมาณ 4,900 - 5,000 ล้านบาท
(ราคานี้รวมค่าลิขสิทธิ์ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ, สร้างโรงซ่อม, และระบบ LAIRCM ครบชุด)
2. เกาหลีใต้ (ปี 2023) - สเปกมาตรฐาน
* สั่งซื้อ 18 ลำ (รุ่น CH-47F)
* มูลค่าสัญญา: ~1.5 พันล้านเหรียญ
* ราคาเฉลี่ยต่อลำ: ประมาณ 2,800 - 3,000 ล้านบาท
(ราคาจัดหาแบบ FMS มาตรฐาน)