เราไปสัมภาษณ์งานบริษัทโครงสร้างเหล็กขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง เป็นตำแหน่งหน้าที่วิศวกรซัพพอร์ตงานขายค่ะ สโคปดูแลเรื่องแบบก่อนส่งไปฝ่ายประมาณราคาก่อนทำใบเสนอราคา คุยสเปค และตรวจสอบเรื่องสัญญา ประกบคู่เซลล์ไปพบลูกค้าเพื่อซัพพอร์ทในเรื่องเทคนิคทางวิศวกรรม เป็นเนื้องานที่น่าสนใจค่ะ ปัจจุบันเราไม่ได้ทำงานประจำ และรับงานมาทำที่บ้าน คือ freeland
ประเด็นอยู่ที่ว่า ตอนไปสัมภาษณ์งานเราก็แนะนำตัว เล่าประวัติการทำงานต่างๆ จนปัจจุบันบอกทำงานที่บ้านไปเพราะมีคำถามว่าในระหว่างไม่ได้ทำงานประจำทำอะไรอยู่ ที่ตอบไปความตั้งใจคืออยากสื่อว่ายังอยู่ในสายงานอาชีพ พอพูดถึงตรงนี้ ทางผู้สัมภาษณ์เบรคขึ้นมาเลยว่า ขอบคุณที่พูดตรงๆนะ แต่ทางเค้ามีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับพนักงานที่ทำงานประจำไปด้วยรับงานตัวเองไปด้วย เพราะกลัวจะไม่เต็มที่กับงาน แต่เค้าบอกว่าโอเคกับเราหมดเลยติดแค่เรื่องนี้ เค้าอยากให้เราเลือกสักอย่าง เราเข้าใจในด้านบริษัทค่ะ แล้วตอนนั้นก็คิดว่าคงไม่ได้งานแล้ว และเราคงทำตามคำขอของบริษัทไม่ได้ เราต้องการมีรายได้หลายทาง (ในใจคิดว่าไม่น่าพูดถึงเรื่องนี้เลย ไว้เป็นประสบการณ์ครั้งหน้าแล้วกัน)
วันต่อมา ทาง hr โทรมาบอกว่ายังสนใจให้เราทำงานอยู่ แต่ก็ถามย้ำว่าติดอะไรไหมถ้าต้องกลับมาทำงานประจำ 100% มีปัญหาการเงินรึเปล่า เราก็เลยตอบไปในแนวหารายได้หลายทาง(ตอนนั้นไม่กล้าตอบรับปากว่าจะกลับมาทำประจำ 100% จริงๆปากพูดไม่ออก ถึงแม้จะเป็นการตอบไปก่อน) แต่เรื่องเวลางานเราก็ต้องทำหน้าที่เต็มที่ ทาง hr กังวลเรื่องถ้าออกข้างนอกไปพบลูกค้า กลัวว่าจะเอาเวลานี้ไปทำงานส่วนตัว เราเลยย้ำให้เค้ามั่นใจว่า ถ้างานในเวลาไม่เสร็จเราก็ไม่สบายใจเหมือนกัน ส่วนงานส่วนตัวเราก็ใช้ในเวลาส่วนตัว แล้วก็คุยเรื่อง offer ต่างๆ สรุปว่าได้งานค่ะ
แต่สถานการณ์ที่ยังไม่แน่ใจคือ แบบนี้ถ้าเข้าไปทำงานจริงเราจะโดนเพ่งเล็งเกินไปไหม เงินเดือนลดลงจากฐานเดิมหลายพัน และทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ เราต่อรองเรื่องฐานเงินเดือน และสอบถามเรื่องค่าอินเซ็นทิฟ ทาง hr พูดคล้ายๆว่าก็เป็นงานถอดแบบ,ออกแบบ ที่เราทำไง เราเลยไม่แน่ใจว่าเค้าพูดถึงงานส่วนตัวเราไหม หรือแค่พูดผิด เพราะในสโคปงานที่คุยไม่มีหน้าที่นี้
อยากสอบถามมีสัญญาณอะไรที่แปลกๆไหม จากเดิมมั่นใจเลือกทำงาน ตอนนี้เริ่มลังเลกลัวว่าจะมีสัญญาณไม่ดีเท่าไหร่ ใครมีประสบการณ์เรื่องนี้ อยากขอคำแนะนำค่ะ
มีสัญญาณอะไรแปลกๆตอนสัมภาษณ์ก่อนเริ่มงานไหม
ประเด็นอยู่ที่ว่า ตอนไปสัมภาษณ์งานเราก็แนะนำตัว เล่าประวัติการทำงานต่างๆ จนปัจจุบันบอกทำงานที่บ้านไปเพราะมีคำถามว่าในระหว่างไม่ได้ทำงานประจำทำอะไรอยู่ ที่ตอบไปความตั้งใจคืออยากสื่อว่ายังอยู่ในสายงานอาชีพ พอพูดถึงตรงนี้ ทางผู้สัมภาษณ์เบรคขึ้นมาเลยว่า ขอบคุณที่พูดตรงๆนะ แต่ทางเค้ามีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับพนักงานที่ทำงานประจำไปด้วยรับงานตัวเองไปด้วย เพราะกลัวจะไม่เต็มที่กับงาน แต่เค้าบอกว่าโอเคกับเราหมดเลยติดแค่เรื่องนี้ เค้าอยากให้เราเลือกสักอย่าง เราเข้าใจในด้านบริษัทค่ะ แล้วตอนนั้นก็คิดว่าคงไม่ได้งานแล้ว และเราคงทำตามคำขอของบริษัทไม่ได้ เราต้องการมีรายได้หลายทาง (ในใจคิดว่าไม่น่าพูดถึงเรื่องนี้เลย ไว้เป็นประสบการณ์ครั้งหน้าแล้วกัน)
วันต่อมา ทาง hr โทรมาบอกว่ายังสนใจให้เราทำงานอยู่ แต่ก็ถามย้ำว่าติดอะไรไหมถ้าต้องกลับมาทำงานประจำ 100% มีปัญหาการเงินรึเปล่า เราก็เลยตอบไปในแนวหารายได้หลายทาง(ตอนนั้นไม่กล้าตอบรับปากว่าจะกลับมาทำประจำ 100% จริงๆปากพูดไม่ออก ถึงแม้จะเป็นการตอบไปก่อน) แต่เรื่องเวลางานเราก็ต้องทำหน้าที่เต็มที่ ทาง hr กังวลเรื่องถ้าออกข้างนอกไปพบลูกค้า กลัวว่าจะเอาเวลานี้ไปทำงานส่วนตัว เราเลยย้ำให้เค้ามั่นใจว่า ถ้างานในเวลาไม่เสร็จเราก็ไม่สบายใจเหมือนกัน ส่วนงานส่วนตัวเราก็ใช้ในเวลาส่วนตัว แล้วก็คุยเรื่อง offer ต่างๆ สรุปว่าได้งานค่ะ
แต่สถานการณ์ที่ยังไม่แน่ใจคือ แบบนี้ถ้าเข้าไปทำงานจริงเราจะโดนเพ่งเล็งเกินไปไหม เงินเดือนลดลงจากฐานเดิมหลายพัน และทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ เราต่อรองเรื่องฐานเงินเดือน และสอบถามเรื่องค่าอินเซ็นทิฟ ทาง hr พูดคล้ายๆว่าก็เป็นงานถอดแบบ,ออกแบบ ที่เราทำไง เราเลยไม่แน่ใจว่าเค้าพูดถึงงานส่วนตัวเราไหม หรือแค่พูดผิด เพราะในสโคปงานที่คุยไม่มีหน้าที่นี้
อยากสอบถามมีสัญญาณอะไรที่แปลกๆไหม จากเดิมมั่นใจเลือกทำงาน ตอนนี้เริ่มลังเลกลัวว่าจะมีสัญญาณไม่ดีเท่าไหร่ ใครมีประสบการณ์เรื่องนี้ อยากขอคำแนะนำค่ะ