สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
กลับบ้านวันเดียวที่บ้านส่งตัวไปโรงพยาบาล แสดงว่าที่บ้านวางแผนไว้กับทางบริษัทมากกว่า
เราว่าตอนนั้นคุณน่าจะอาการหนักมาก แต่ไม่รู้ตัว
แม่คุณจะไปเซ็นให้ทำไม ถ้าบริษัทเอาเปรียบ แม่ย่อมรักลูก ย่อมปกป้องผลประโยชน์ของลูก
ลองคุยกับแม่ดูค่ะ ว่าตอนนั้นอาการคุณเป็นยังไง หรือกลับไปคุยกับหมอที่แอดมิตคุณครั้งแรก ที่ที่บ้านพาไปด้วย
อยู่โรงพยาบาล 20 กว่าวันแล้วดีขึ้น ก็แสดงว่าคุณป่วยจริง ถูกมั้ยคะ?
บริษัทคงไม่ได้กลั่นแกล้ง เค้าไม่ได้อยากได้ล่ามใหม่หรอกค่ะ รับคนใหม่ ต้องทำเอกสารใหม่ งาน hr มันก็จุกจิกนะคะ
แถมงานล่าม กว่าจะเข้าใจเนื้อหางาน ศัพท์เฉพาะทางมันเยอะ รับคนใหม่ งานมันก็ไม่ค่อยต่อเนื่อง
อาการทางจิตบางอย่างเกิดขึ้นเอง อาจเกิดจากความเครียดสะสม และบางอย่างก็เกิดกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิงค่ะ
เราว่าตอนนั้นคุณน่าจะอาการหนักมาก แต่ไม่รู้ตัว
แม่คุณจะไปเซ็นให้ทำไม ถ้าบริษัทเอาเปรียบ แม่ย่อมรักลูก ย่อมปกป้องผลประโยชน์ของลูก
ลองคุยกับแม่ดูค่ะ ว่าตอนนั้นอาการคุณเป็นยังไง หรือกลับไปคุยกับหมอที่แอดมิตคุณครั้งแรก ที่ที่บ้านพาไปด้วย
อยู่โรงพยาบาล 20 กว่าวันแล้วดีขึ้น ก็แสดงว่าคุณป่วยจริง ถูกมั้ยคะ?
บริษัทคงไม่ได้กลั่นแกล้ง เค้าไม่ได้อยากได้ล่ามใหม่หรอกค่ะ รับคนใหม่ ต้องทำเอกสารใหม่ งาน hr มันก็จุกจิกนะคะ
แถมงานล่าม กว่าจะเข้าใจเนื้อหางาน ศัพท์เฉพาะทางมันเยอะ รับคนใหม่ งานมันก็ไม่ค่อยต่อเนื่อง
อาการทางจิตบางอย่างเกิดขึ้นเอง อาจเกิดจากความเครียดสะสม และบางอย่างก็เกิดกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิงค่ะ
ความคิดเห็นที่ 14
ไม่ทราบผลการวินิจฉัยโรคของจขกท. แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าสาเหตุไม่ได้เกิดจากกาแฟ
และไม่ใช่โรคที่จะเกิดได้จากการถูกวางยาในกาแฟหรือการกลั่นแกล้งแน่นอน
เดาว่า ที่บริษัทเลิกจ้างไม่ใช่เพราะลาป่วย
แต่เป็นเพราะจขกท.เป็นโรคนี้ เค้าเลยไม่อยากจ้างต่อ
จากที่เล่ามา ไม่แน่ใจว่ามีพฤติกรรมรุนแรงจนอาจเป็นอันตรายต่อเพื่อนร่วมงานด้วยหรือไม่
ไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายแรงงาน คงแนะนำส่วนนี้ไม่ได้
แต่อยากให้จขกท.เลิกแค้น และเริ่มต้นใหม่ สายงานนี้หางานไม่ยากและยังเป็นที่ต้องการ
อาการป่วยของจขกท.เกิดจากตัวเอง ไม่ใช่คนอื่น ไม่จำเป็นต้องโกรธเคืองใคร
และไม่ใช่โรคที่จะเกิดได้จากการถูกวางยาในกาแฟหรือการกลั่นแกล้งแน่นอน
เดาว่า ที่บริษัทเลิกจ้างไม่ใช่เพราะลาป่วย
แต่เป็นเพราะจขกท.เป็นโรคนี้ เค้าเลยไม่อยากจ้างต่อ
จากที่เล่ามา ไม่แน่ใจว่ามีพฤติกรรมรุนแรงจนอาจเป็นอันตรายต่อเพื่อนร่วมงานด้วยหรือไม่
ไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายแรงงาน คงแนะนำส่วนนี้ไม่ได้
แต่อยากให้จขกท.เลิกแค้น และเริ่มต้นใหม่ สายงานนี้หางานไม่ยากและยังเป็นที่ต้องการ
อาการป่วยของจขกท.เกิดจากตัวเอง ไม่ใช่คนอื่น ไม่จำเป็นต้องโกรธเคืองใคร
ความคิดเห็นที่ 31
บริษัทคงไม่มาว่างยาพนักงานหรอกครับ
การที่คุณกลับบ้านแล้วที่บ้านจับตัวส่งโรงพยาบาล แสดงว่าคนรอบข้างเห็นอาการผิดปกติของคุณมาสักพักแล้วล่ะ
และปกติโรงพยาบาลจิตเวชไม่รับคนไข้แอดมิทมั่วๆ นะครับ
ทั้งหมดมันบ่งบอกว่าอาการป่วยคุณหนักมาก แต่คุณไม่รู้ตัว
ผมว่าอย่าเก็บเรื่องที่ผ่านมาแล้วไปคิดให้เกิดความเครียดเลย ทุกอย่างมันผ่านมาแล้ว และไม่มีใครทำผิดอะไร
รักษาตัวให้เป็นปกติแล้วเดินหน้าต่อ
การที่คุณกลับบ้านแล้วที่บ้านจับตัวส่งโรงพยาบาล แสดงว่าคนรอบข้างเห็นอาการผิดปกติของคุณมาสักพักแล้วล่ะ
และปกติโรงพยาบาลจิตเวชไม่รับคนไข้แอดมิทมั่วๆ นะครับ
ทั้งหมดมันบ่งบอกว่าอาการป่วยคุณหนักมาก แต่คุณไม่รู้ตัว
ผมว่าอย่าเก็บเรื่องที่ผ่านมาแล้วไปคิดให้เกิดความเครียดเลย ทุกอย่างมันผ่านมาแล้ว และไม่มีใครทำผิดอะไร
รักษาตัวให้เป็นปกติแล้วเดินหน้าต่อ
แสดงความคิดเห็น
โดนนายจ้างส่งใบลาออกมาให้เซ็นพร้อมทั้งของใช้ส่วนตัว ระหว่างที่ผมรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล แล้วแม่ดันเซ็นไป...
ขอเท้าความหน่อยนึงนะครับ
ผมเคยเป็นล่ามภาษาญี่ปุ่นอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งในอมตะซิตี้ชลบุรีครับ ตลอดเวลาที่ผ่านมาทำงานได้ดีมาโดยตลอดจนผ่านโปรครับ โปร 90 วัน ซึ่งผมเข้า บ.วันที่ 21 ต.ค. 2024 ผ่านโปรวันที่ 18 ม.ค. 2025 ยิ่งไปกว่านั้น นายจ้างแจ้งว่าในเดือน เม.ย. 2025 จะมีการปรับตำแหน่ง ปรับเงินเดือนผม โดยจะให้ผมไปทำไอทีและเพิ่มเงินให้อีก 5,000 บาท แล้วอยู่ดีๆช่วงวันที่ 10-14 มี.ค. 2025 ผมเริ่มมีอาการหูเซนซิทีฟผิดปกติ ไวต่อเสียงเป็นพิเศษ แล้วเพื่อนร่วมงาน ทำเสียงรบกวน ไม่ว่าจะเป็น คุยกันเสียงดังในออฟฟิศ เปิดก็อกน้ำ กดคีบอร์ดดังๆ คลิ๊กเมาส์ดังๆ ทำให้ผมไม่มีสมาธิในการทำงานและทำงานไม่ได้
เพิ่มเติมครับ ผมเป็นคนชอบกาแฟมาก ดื่มกาแฟทุกวัน และที่บริษัทมีเครื่องดริปกาแฟอยู่ นายญี่ปุ่นบอกให้ผมชงกาแฟเผื่อทุกคน ใครจะดื่มให้มาเทเอา แต่ปรากฎว่า ไม่มีใครดื่มเลย ผมรู้สึกเสียดายเลยดื่มไปแทบจะทุกครั้งทีกาแฟเหลือ คำถามผมคือเป็นไปได้ไหมว่า ผมจะถูกวางยาในกาแฟนั้นและทำให้หูผมเริ่มผิดปกติไป?
ในวันศุกร์ที่ 14 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ผมอยู่ที่บริษัท หูผมยังไม่ปกติ จนวันที่ 15 ผมกลับบ้านต่างจังหวัดและได้ทะเลาะกับที่บ้านรุนแรงมากและจะขอกลับชลบุรีทันที แต่ที่บ้านหลอกผมขึ้นรถไป ผมนึกว่าจะพาผมไปส่งที่ชลบุรี แต่กลับพาผมส่งโรงพยาบาล ผมขัดขืน และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจับผมเข้าไปนอนกับผู้ป่วยจิตเวช เป็นเวลา 20 กว่าวัน เข้าโรงพยาบาลวันที่ 15 มี.ค. 2025 ออกประมาณวันที่ 8 เม.ย. 2025 ระหว่างอยู่ใน รพ. ถูกให้กินยาตลอด จนอาการหูผิดปกติหายไป
หลังจากที่ผมออกจากโรงพยาบาล มาทราบเอาทีหลังจากแม่ว่า นายจ้างส่งใบลาออกมาให้เซ็นพร้อมทั้งส่งของใช้ส่วนตัวกลับมาทั้งหมด แม่ผมบอกว่าแม่เซ็นใบลาออกนั้นไป แถมบอกว่าถ้าไม่เซ็นเขาจะไล่ออก เพราะผมทำงานไม่ได้ ทั้งๆที่ผมผ่านโปรแล้ว ผมรู้ที่หลังตอนลงทะเบียนว่างงานในระบบประกันสังคม ว่าผมลาออกวันที่ 20 มี.ค. 2025
คำถาม
1. เอกสารใบลาออกที่แม่ผมเซ็นมีผลตามกฎหมายไหม?
2. ถ้าไม่มีผลตามกฎหมาย ผมสามารถได้รับเงินชดเชยไหม? เนื่องจากผมทำงานเกิน 119 วันแล้ว (21/10/2024 ถึง 14/03/2025 รวม 144 วัน)
3. กรณีเข้า รพ. ควรเป็นลาป่วยไม่ใช่เหรอครับ? แต่ทำไมนายจ้างทำอย่างงี้
4. โรงพยาบาลไม่ยอมออกเอกสารใบรับรองแพทย์หรือหลักฐานการเข้ารับการรักษาให้ บอกรอดูอาการก่อน อย่างงี้ก็ได้หรือ?
สุดท้ายผมอยากบอกว่าแค้นบริษัทนี้มาก อยากให้มันได้รับกรรม เพราะล่ามก่อนหน้าผมและหลังจากผมไม่มีใครอยู่ได้นานเลย มันน่าสงสัยมากๆว่าเป็นบริษัทที่โปร่งใสหรือไม่
แม้เรื่องจะผ่านมานานแล้ว แต่ก็ยังแค้นอยู่ครับ