สวัสดีค่ะ อยากได้ความคิดเห็นจากทุกคนมากๆ เพราะตอนนี้เราหนักใจมากค่ะ
เราอายุ 36 ปี เป็นผู้หญิงที่ออกจะลุยๆหน่อย คือไม่ใช่สาวหวานอะไร ออกแนวจะแมนๆคุยกันด้วยซ้ำ เพราะเราชอบแต่งตัวทะมัดทะแมงนิดนึง จนคนเข้าใจว่าเป็นทอมอยู่บ่อยๆ
เรื่องเกิดขึ้นตอนที่เราไปช่วยเป็นสต๊าฟงานวิ่งให้กับเพื่อนที่รับทำงานอีเว้นท์ค่ะ ทำให้บังเอิญได้เจอน้องสาวคนหนึ่งที่น่ารักมาก ตั้งแต่เจอกันในวันนั้นเราก็สนิทสนมกันระดับนึง มีพบกันตามงานสังสรรค์ ไปดื่มไปดริ้งค์ ไปเจอกันตามงานวิ่งต่างๆ อารมณ์เหมือนกับเป็นเพื่อนของเพื่อนอีกที
จนวันนึง เราไปเจอกันที่ร้านเหล้า จังหวะผีผลักอะไรไม่รู้ น้องมาเปิดตัวว่าตัวเองไม่ได้ชอบผู้ชาย และเป็นวันเดียวกันกับที่น้องบอกว่าชอบเรา ตั้งใจเข้าหาและตั้งใจจะมาจีบเราตั้งแต่วันแรกที่คุยกัน ไอ้เราเองก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้อินกับเรื่องรักๆอะไร ทำงานอย่างเดียวจนมาเจอกับเด็กคนนี้ ซึ่งคุยไปคุยมา เราก็ตกหลุมรักน้องสาวคนนี้เข้าซะแล้วค่ะ
แต่สิ่งนึงที่เรายังไม่เคยบอกกับน้องเลย ก็คือ เรามีครอบครัวแล้วค่ะ ลูกชายเราอายุ 4 ขวบแล้ว อาศัยอยู่ที่ต่างจังหวัดกับสามี ส่วนเราทำงานอยู่อีกที่นึง ซึ่งเรากับสามีก็ยัง In relationship กันอยู่ แต่ไม่ได้มีสัมพันธ์ทางกายกันแล้ว ตั้งแต่คลอดลูกชาย และบอกตามตรงว่าตอนนี้เราไม่ได้อินเลิฟกับเค้าอีกแล้วค่ะ ความรักมันจืด น่าจะเพราะระยะทาง และอะไรหลายๆอย่าง
เราเองก็นิสัยไม่ดี พอมีคนเข้ามาคุย เราก็ลองคุยเล่นๆ และไม่ได้เปิดเผยกับน้อง ว่ามีครอบครัวแล้ว ซึ่งปรากฏว่าตอนนี้ความสัมพันธ์เริ่มพัฒนามาระดับนึงแล้ว คือเราก็ชอบน้องมากๆ จนขาดเขาไม่ได้เข้าซะแล้วค่ะ
เพื่อนๆมีความเห็นยังไงคะ เราควรทำยังไงกับสถานการณ์ตอนนี้ดี ความจริงกับสามีเราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลย ทั้งหมดคือ เรารู้สึกเฉยๆ อยู่กันเหมือนเพื่อนไปแล้วด้วยซ้ำค่ะ แต่เค้าเลี้ยงลูกให้เราเป็นอย่างดี และเราก็ยังไม่เคยมีความคิดที่จะเลิกกับเค้าเลย
แต่กับน้องสาวคนนี้ เราแอบเห็นแก่ตัว อยากให้ความสัมพันธ์มันไปต่อได้ค่ะ ก่อนหน้านี้เราคุยๆคบๆไป เพราะมองว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะต่างคนก็ต่างไม่รู้เรื่องอะไร รวมถึงอยู่กันคนละที่ละทาง โอกาสที่จะเจอกันคงมีน้อยมาก
แต่ตอนนี้ค่อนข้างสับสน ระหว่างศีลธรรมอันดี กับความรู้สึกลึกๆของตัวเองค่ะ ถ้าเป็นทุกคนจะทำยังไงคะ เราควรเลิกกับสามีไหม หรือควรทำยังไงดี ทุกคนช่วยเราคิดหน่อยค่ะ พอดีเราคุยกับตัวเองมาหลายเดือนจนหัวจะแตกแล้วค่ะ 😭😭😭
มาค้นพบว่าตัวเองเป็น Lgbtq+ ตอนที่มีลูก มีครอบครัวแล้ว ทำยังไงดีคะ?
เราอายุ 36 ปี เป็นผู้หญิงที่ออกจะลุยๆหน่อย คือไม่ใช่สาวหวานอะไร ออกแนวจะแมนๆคุยกันด้วยซ้ำ เพราะเราชอบแต่งตัวทะมัดทะแมงนิดนึง จนคนเข้าใจว่าเป็นทอมอยู่บ่อยๆ
เรื่องเกิดขึ้นตอนที่เราไปช่วยเป็นสต๊าฟงานวิ่งให้กับเพื่อนที่รับทำงานอีเว้นท์ค่ะ ทำให้บังเอิญได้เจอน้องสาวคนหนึ่งที่น่ารักมาก ตั้งแต่เจอกันในวันนั้นเราก็สนิทสนมกันระดับนึง มีพบกันตามงานสังสรรค์ ไปดื่มไปดริ้งค์ ไปเจอกันตามงานวิ่งต่างๆ อารมณ์เหมือนกับเป็นเพื่อนของเพื่อนอีกที
จนวันนึง เราไปเจอกันที่ร้านเหล้า จังหวะผีผลักอะไรไม่รู้ น้องมาเปิดตัวว่าตัวเองไม่ได้ชอบผู้ชาย และเป็นวันเดียวกันกับที่น้องบอกว่าชอบเรา ตั้งใจเข้าหาและตั้งใจจะมาจีบเราตั้งแต่วันแรกที่คุยกัน ไอ้เราเองก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้อินกับเรื่องรักๆอะไร ทำงานอย่างเดียวจนมาเจอกับเด็กคนนี้ ซึ่งคุยไปคุยมา เราก็ตกหลุมรักน้องสาวคนนี้เข้าซะแล้วค่ะ
แต่สิ่งนึงที่เรายังไม่เคยบอกกับน้องเลย ก็คือ เรามีครอบครัวแล้วค่ะ ลูกชายเราอายุ 4 ขวบแล้ว อาศัยอยู่ที่ต่างจังหวัดกับสามี ส่วนเราทำงานอยู่อีกที่นึง ซึ่งเรากับสามีก็ยัง In relationship กันอยู่ แต่ไม่ได้มีสัมพันธ์ทางกายกันแล้ว ตั้งแต่คลอดลูกชาย และบอกตามตรงว่าตอนนี้เราไม่ได้อินเลิฟกับเค้าอีกแล้วค่ะ ความรักมันจืด น่าจะเพราะระยะทาง และอะไรหลายๆอย่าง
เราเองก็นิสัยไม่ดี พอมีคนเข้ามาคุย เราก็ลองคุยเล่นๆ และไม่ได้เปิดเผยกับน้อง ว่ามีครอบครัวแล้ว ซึ่งปรากฏว่าตอนนี้ความสัมพันธ์เริ่มพัฒนามาระดับนึงแล้ว คือเราก็ชอบน้องมากๆ จนขาดเขาไม่ได้เข้าซะแล้วค่ะ
เพื่อนๆมีความเห็นยังไงคะ เราควรทำยังไงกับสถานการณ์ตอนนี้ดี ความจริงกับสามีเราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลย ทั้งหมดคือ เรารู้สึกเฉยๆ อยู่กันเหมือนเพื่อนไปแล้วด้วยซ้ำค่ะ แต่เค้าเลี้ยงลูกให้เราเป็นอย่างดี และเราก็ยังไม่เคยมีความคิดที่จะเลิกกับเค้าเลย
แต่กับน้องสาวคนนี้ เราแอบเห็นแก่ตัว อยากให้ความสัมพันธ์มันไปต่อได้ค่ะ ก่อนหน้านี้เราคุยๆคบๆไป เพราะมองว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะต่างคนก็ต่างไม่รู้เรื่องอะไร รวมถึงอยู่กันคนละที่ละทาง โอกาสที่จะเจอกันคงมีน้อยมาก
แต่ตอนนี้ค่อนข้างสับสน ระหว่างศีลธรรมอันดี กับความรู้สึกลึกๆของตัวเองค่ะ ถ้าเป็นทุกคนจะทำยังไงคะ เราควรเลิกกับสามีไหม หรือควรทำยังไงดี ทุกคนช่วยเราคิดหน่อยค่ะ พอดีเราคุยกับตัวเองมาหลายเดือนจนหัวจะแตกแล้วค่ะ 😭😭😭