เล่าเรื่องอาหาร กาน้ำชาของอากงและปาท่องโก๋




เมื่อนานมาแล้ว…นาฬิกาชีวิตของวัยรุ่นมัธยมปลายอย่างฉัน เริ่มต้นขึ้นในแสงสลัวของห้องครัวตอนตีห้าครึ่ง
อากาศยามเช้ายังเย็นเยียบแต่สดชื่นเหลือเกิน 

สิ่งแรกที่ฉันต้องทำ คือ เดินไปยังโต๊ะไม้ตัวเก่า เพื่อหยิบกาน้ำชาใบเล็กของอากงมาล้าง
มันคือกิจวัตร... คือหน้าที่ …คือความรัก(แม้ในตอนนั้นยังไม่รับรู้ถึงมันมากนัก)

อากงบอกเสมอว่า กาน้ำชาใบนี้ห้ามใช้น้ำยาล้างจานเด็ดขาด "เดี๋ยวกลิ่นจะไปรบกวนกลิ่นชา"  ดังนั้นฉันจึงทำเพียงแค่…ประคองกาน้ำชาใบเล็กนั้นไว้ เทกากใบชาเก่าที่ค้างในกาออก…เปิดน้ำประปาไหลผ่านเบาๆ ใช้นิ้วถูรอบๆ  ส่วนภายในนั้นล้างด้วยน้ำเปล่า เพื่อรักษา "ยางชา" หรือคราบชาสีเข้มที่สะสมมานานปีเอาไว้

เมื่อล้างเสร็จ วางกาบนถาดไม้ ใส่ใบชาลงไป จำได้ว่าอากงใช้ชาตรา สามม้า ไม่รู้ปัจจุบันยังมีขายไหม กาน้ำร้อนที่อาม่าตั้งบนเตาถ่านไว้ให้ กำลังเดือดปุดๆ …น้ำร้อนสายแรกถูกเทลงกระทบใบชา กลิ่นหอมกรุ่นลอยฟุ้งขึ้นมา เป็นสัญญาณว่าเช้าวันใหม่ของฉันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว… จากนั้นจึงเริ่มต้นภารกิจส่วนตัวสำหรับการไปโรงเรียน

บนโต๊ะไม้มักมี "ปาท่องโก๋" ตัวใหญ่อุ่นๆ ทอด กรอบนอกนุ่มใน น้ำมันเยิ้มชุ่มฉ่ำ ที่คนขายขี่รถจักรยานมาส่งตามบ้านลูกค้าขาประจำแต่เช้า วางคู่กับนมข้นหวานถ้วยเล็ก 

ภาพที่ฉันเห็นจนชินตา คือภาพอากงในชุดเสื้อกล้ามสีขาว กางเกงแพร นั่งบนเก้าอี้ตัวเก่ง…มือเหี่ยวย่นยกถ้วยชาใบจิ๋วขึ้นจิบ ส่งเสียง ซู๊ด... เบาๆ ตามด้วยเสียงวางถ้วย แล้วฉีกปาท่องโก๋จิ้มนมข้นหวานใส่ปากช้า ๆ

"อย่าลืมกินข้าวเช้านะ" อากงมักพูดสั้นๆ ก่อนที่ฉันจะออกจากบ้านในชุดนักเรียน พร้อมสำหรับการเดินทางด้วยรถโดยสารเข้าไปในตัวจังหวัด 

ฉันเรียนที่โรงเรียนประจำจังหวัดใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ถ้าออกจากบ้านสาย รถจะแออัดเต็มไปด้วยเด็กนักเรียน ฉันจึงเลือกที่จะออกจากบ้านแต่เช้า ขึ้นรถเที่ยวแรกของวัน แล้วไปกินอาหารเช้าที่โรงเรียน

 … ซึ่งเมนูโปรดยามเช้าที่โรงเรียนของฉันคือ ปาท่องโก๋กรอบๆ ราดนมข้นหวานฉ่ำๆ ในราคา 10 บาท ซึ่งจะขายหมดอย่างรวดเร็ว ถ้าใครมาโรงเรียนสายละก็ เป็นอันอดกินอาหารแสนอร่อยแบบนี้…เขียนมาขนาดนี้แล้วก็คิดถึงทั้งอากงและปาท่องโก๋ ขอกินเมนูนี้เป็นอาหารเช้าวันนี้ดีกว่า…
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่