EP.2: พบอาการผิดปกติ เมื่อเข้าสัปดาห์ที่ 5-6
หลังจากการผ่าตัด อาการคุณแม่ดีขึ้นเรื่อย ๆ คะ สามารถเดินได้ดีขึ้น โดยไม่ใช้ walker ตั้งแต่ผ่าออกมาได้ 3-4 วัน
แผลแห้งดี ทุกอย่างดูเรียบร้อยไปหมด แต่โดยอาการแล้ว ก็จะยังไม่ได้สามารถเดินได้นาน แผลข้างในก็คงยังต้องใช้เวลาคะ
จนมาช่วงกลางคืนของวันที่ 2/8/25 คุณแม่มีอาการปวดขา มีไข้ (หลังจากการผ่าตัดข่อเข้าได้ 5 สัปดาห์)
- 3/8/25: ช่วงเช้าทางครอบครัวได้รับทราบอาการ จึงได้สอบถามเบื้องต้น จึงสงสัยว่า อาจจะเกิดจากคุณแม่ประมาท ไปยกของหนัก (พวกอิฐ ถุงปูน) เมื่อเช้าวันก่อนหน้า (คือ วันที่ 2/8/25) ขนจากหน้าบ้าน เข้ามาในตัวบ้านเอง ซึ่งจริง ๆ วัสดุพวกนี้รอช่างมายกจัดการ (*คุณแม่ปกติ ชอบทำงาน แกให้เหตุผลว่า กลัวของจะหาย เพราะบ่ายวันนั้นจะไปนอกบ้านกัน) จากอาการเจ็บดังกล่าว จึงให้คุณแม่นอนพัก ทานยาพาราแก้ปวดเบื้องต้น
- 4/8/25: อาการคุณแม่ไม่ดีขึ้น คุณแม่เริ่มกลับมาใช้ walker ในการเดินในบ้าน (ทางครอบครัวสังเกตุความผิดปกติดังกล่าว เพราะปกติคุณแม่ชอบจะเป็นคนที่อดทนสูง เจ็บป่วยอะไรจะไม่ค่อยบอก หรือแม้การไม่ใช้ walker เพราะแกคิดว่าเดินทำอะไรได้สะดวกกว่า เว้นแต่จะเจ็บมากจริง ๆ)
- 5/8/25: พาคุณแม่พบคุณหมอท่านเดิม (รพ.รัฐ เดิม) ที่ทำการผ่าตัดเข่าให้ คุณหมอให้ X-Ray และไม่พบสิ่งผิดปกติในเข่า จึงวินิจฉัยว่า น่าจะเป็นกล้ามเนื้ออักเสบ คุณหมอให้ยาคลายเส้นประสาท ยาแก้ปวด แก้ไข้มาทาน และดูอาการอีกครั้ง
เวลาผ่านไปอีก 2-3 วัน หัวเข่าข้างที่ผ่าเริ่มมีอาการบวมแดง อาการคุณแม่โดยรวมไม่ดีขึ้น เช่นการเดินเริ่มแย่ลง เดินได้ช้าลง
- 10/8/25: ทางครอบครัว พาคุณแม่พบคุณหมอท่านเดิม (ที่รพ.เอกชน ที่คุณหมอมีเวรเข้าในวันนั้น)
พยาบาลตรวจพบว่าคุณแม่ความดันต่ำมาก จึงพาไปนอนที่ห้องรอพัก เพื่อรอพบคุณหมอ
คุณหมอสงสัยอาการลิ่มเลือดอุดตัน จึงส่งคุณแม่ ultrasound
ผลออกมา ว่าไม่พบลิ่มเลือดดำอุดตัน แต่พบถุงน้ำในบริเวณเข่าที่เคยผ่า ขนาดประมาณ 10cm*2cm. (= 20ลบซ.)
คุณหมอแจ้งว่า ควรทำการเจาะเพื่อตรวจเชื้อ แต่คุณหมอติดสัมมนาต้องเดินทางคืนนั้นแล้วกลับมาอีกที วันที่ 14/8/25
จึงนัดให้พาคุณแม่กลับไปตรวจเชื้ออีกทีที่ รพ รัฐในเช้าวันที่ 14/8/25
ทางญาติแย้งว่า อาการคุณแม่ดูไม่ค่อยดี น่าจะทนอาการที่เป็นอยู่ไม่ไหว จึงอยากจะให้เจาะตรวจเชื้อเลยที่ รพ.เอกชนดังกล่าว หรือ กลับไปที่ รพ.รัฐเดิมทันทีก็ได้
แต่คุณหมอยืนยันว่า ให้รอกลับไปตรวจเชื้ออีกทีที่ รพ รัฐในเช้าวันที่ 14/8/25 โดยคุณหมอยืนยันจะเป็นคนทำการเจาะหาเชื้อให้เอง โดยคุณหมออธิบายว่าการเจาะหาเชื้อควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญ (เข้าใจว่าคุณหมออยากจะช่วยทางครอบครัวประหยัด คชจ หรือใด ๆ และอยากเป็นผู้ดูแลเคสนี้ด้วยตัวเอง)
สุดท้ายทางครอบครัวพาคุณแม่กลับบ้าน และพบว่าจริงอย่างที่คาดคิด คุณแม่เริ่มลุกขึ้นยืนเองไม่ไหว จึงติดต่อคุณหมอท่านเดิมทางโทรศัพท์ผ่านทาง รพ.เอกชนที่ไปพบในช่วงเช้า คุณหมอแนะนำให้ญาติพาคุณแม่ไปที่ฉุกเฉินที่ รพ รัฐดังกล่าวเลยก็ได้ โดยทางญาติสอบถามเรื่องของผู้เชี่ยวชาญที่จำเป็นในการเจาะตรวจเชื้อว่าจะโอเคใช่มั้ย ทางคุณหมอยืนยันว่าให้ไปได้
คืนนั้นทางครอบครัวค่อนข้างเป็นกังวลคะ เพราะด้วยประเด็นที่คุณหมอเคยท้วงไว้ + เนื่องจากช่วงนั้นเป็นช่วงวันหยุดยาว + คุณหมอท่านนี้ก็จะไม่ได้เข้าอีกหลายวัน เราเลยไม่แน่ใจว่า เคสคุณแม่จะได้รับการแก้ไข จึงไม่กล้าพาคุณแม่กลับไปที่ รพ.รัฐเดิมตามที่คุณหมอแนะนำ
- 11/8/25: เช้าวันรุ่งขึ้น ทางญาติตัดสินใจ พาคุณแม่กลับไป รพ. (เอกชนเดิมที่ไปมาเมื่อวาน) อีกครั้ง ตัดสินใจเปลี่ยนคุณหมอที่ทำการรักษา และอ้างอิงผลตรวจ ultra sound ที่พบถุงน้ำอยู่เดิม ณ รพ ดังกล่าว คุณหมอท่านใหม่ วินิจฉัยแล้วขอให้ทำการเจาะตรวจเชื้อทันที ลักษณะของน้ำในถุงน้ำเบื้องต้นคือน้ำหนองทั้งหมด และคุณหมอขอให้ทำการผ่าตัดเปิดหัวเข่าอีกครั้ง เพื่อทำการล้างเข่าทันที เพื่อป้องกันเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด
*ผลเชื้อที่เจาะไปตรวจยังคงต้องรอผลอีก 3-4 วัน แต่ในระหว่างนี้ ทางคุณหมอให้ยาฆ่าเชื้อที่ครอบคลุมไปก่อน**
ในระหว่างการเจาะเชื้อใด ๆ ในวันนั้น ตั้งแต่เช้าคุณแม่มีอาการซึม ลอย เริ่มโต้ตอบน้อยลง
ช่วงค่ำ พบว่า ออกซิเจนในเลือดคุณแม่ต่ำ คุณหมอแนะนำให้คุณแม่ให้นอนพักฟื้นในห้อง ICU เพื่อรอทำการผ่าตัดในวันถัดไป
- 12/8/25: เช้าคุณหมอทำการผ่าตัดเปิดหัวเข่า ล้างข้อเข่า โดยทำการเปลี่ยนวัสดุแผ่นรองพลาสติกใหม่เพื่อป้องกันเชื้อที่สะสม แต่ยังคงวัสดุที่เหลือตัวเดิม การผ่าตัดเป็นไปได้ด้วยดี คุณแม่กลับออกมาพักฟื้น....
--------จบ EP.2 ว่าด้วยการผ่าตัดรอบที่สองเพื่อล้างข้อเข่าที่มีการติดเชื้อ เราหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่น พวกเราแค่ต้องรอดูอาการฟื้นตัวกลับมาหายอีกครั้ง-------
เมื่อคุณแม่ติดเชื้อในกระแสเลือด จากการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า สู่การผ่าตัด 5 ครั้งเพื่อรักษาชีวิตในช่วงเวลา 3 เดือน...EP.2
แผลแห้งดี ทุกอย่างดูเรียบร้อยไปหมด แต่โดยอาการแล้ว ก็จะยังไม่ได้สามารถเดินได้นาน แผลข้างในก็คงยังต้องใช้เวลาคะ
เวลาผ่านไปอีก 2-3 วัน หัวเข่าข้างที่ผ่าเริ่มมีอาการบวมแดง อาการคุณแม่โดยรวมไม่ดีขึ้น เช่นการเดินเริ่มแย่ลง เดินได้ช้าลง
พยาบาลตรวจพบว่าคุณแม่ความดันต่ำมาก จึงพาไปนอนที่ห้องรอพัก เพื่อรอพบคุณหมอ
คุณหมอสงสัยอาการลิ่มเลือดอุดตัน จึงส่งคุณแม่ ultrasound
ผลออกมา ว่าไม่พบลิ่มเลือดดำอุดตัน แต่พบถุงน้ำในบริเวณเข่าที่เคยผ่า ขนาดประมาณ 10cm*2cm. (= 20ลบซ.)
จึงนัดให้พาคุณแม่กลับไปตรวจเชื้ออีกทีที่ รพ รัฐในเช้าวันที่ 14/8/25
แต่คุณหมอยืนยันว่า ให้รอกลับไปตรวจเชื้ออีกทีที่ รพ รัฐในเช้าวันที่ 14/8/25 โดยคุณหมอยืนยันจะเป็นคนทำการเจาะหาเชื้อให้เอง โดยคุณหมออธิบายว่าการเจาะหาเชื้อควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญ (เข้าใจว่าคุณหมออยากจะช่วยทางครอบครัวประหยัด คชจ หรือใด ๆ และอยากเป็นผู้ดูแลเคสนี้ด้วยตัวเอง)
--------จบ EP.2 ว่าด้วยการผ่าตัดรอบที่สองเพื่อล้างข้อเข่าที่มีการติดเชื้อ เราหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่น พวกเราแค่ต้องรอดูอาการฟื้นตัวกลับมาหายอีกครั้ง-------