Taiwan 1st time
Day 3/5
**สามารถติดตาม Taiwan 1st time ใน 2 วันแรก ได้ที่นี่เลยครับ**
Day 1 :
https://pantip.com/topic/43891637
Day 2 :
https://pantip.com/topic/43892663
วันนี้เราลืมตาตื่นมาแบบสบาย ๆ ประมาณ 09.00 น. เหมือนเดิม ไม่ได้เร่งรีบมากนัก เพราะแผนการของเราวันนี้จะตระเวนเที่ยวกันเฉพาะในเมือง ที่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT เข้าถึงเท่านั้น เนื่องจาก 2 วันที่ผ่านมา เราใช้กำลังขาในการเดินค่อนข้างเยอะมาก
เริ่มต้นมื้อเช้าด้วยการหมายมั่นจะไปกินบะหมี่เนื้อร้าน Liu Shandong ที่เราพลาดไปเมื่อวานอีกรอบ โดยเฉพาะวันนี้เราออกกันสายตะวันโด่งแล้ว คิดว่าคงไม่มีใครมาต่อคิว แต่เมื่อเลี้ยวเข้าตรอกที่ร้านตั้งอยู่นั้น เจ้ากรรมจริง ๆ วันนี้ร้านปิดทำการ ใครมันจะไปคิดว่าร้านปิดวันอาทิตย์กันล่ะพ่อ เราเลยเดินซมซานด้วยความผิดหวังไปกินอีกร้าน ที่ปักหมุดไว้เช่นกัน นั่นคือร้านขายอาหารเช้า ชื่อร้านว่า "美好美快餐" ไม่รู้ชื่อภาษาอังกฤษเหมือนกัน ร้านจะตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้าน Ching Chuang Lu Ro Fun ที่เรากินเช้าเมื่อวาน เป็นร้านอาหารเช้าแบบตะวันตก คล้ายร้านออนล๊อกหยุ่นที่ไทย แต่ร้านนี้เน้นเป็นเบอเกอร์ แซนด์วิชต่าง ๆ เราจำไม่ได้ว่าเคยอ่านรีวิวที่ไหนหรือเปล่า แต่คุณผู้หญิงจำได้ว่าเคยเห็นรีวิวบอกว่าร้านนี้อร่อย ประกอบกับเช้าเมื่อวาน เห็นคนต่อคิวร้านนี้เยอะมาก แต่วันนี้เราออกมาค่อนข้างสาย เลยได้โอกาสนั่งกิน แต่ก็เป็นเพราะออกสาย อาหารบางส่วนจึงหมดแล้ว
บรรยากาศหน้าร้าน นั่งกันบนทางเดินเลย
พนักงานรับออเดอร์สื่อสารภาษาอังกฤษพอได้บ้าง แต่ลักษณะการเสิร์ฟ และการพูดจา ค่อนข้างดุดันไม่เกรงใจใครนิดนึง แต่ก็คิดว่าเป็นสไตล์ของคนท้องถิ่นที่นี่
เราสั่งเบอเกอร์ชีสหมูหรือไก่ซักอย่างและกาแฟเย็น ส่วนคุณผู้หญิงสั่งเมนูคล้ายกับโรตีแฮมชีสและน้ำเต้าหู้ โรตีแฮมชีสกับเบอเกอร์หน้าตาและรสชาติค่อนข้างโอเค รสชาติน่าจะถูกปากชาวไทย รวมทั้งปริมาณที่ให้มาค่อนข้างเยอะ จึงสามารถอิ่มได้เหมือนการกินข้าวหนึ่งจาน รวมไปถึงทุกโต๊ะจะมีเครื่องเคียงอย่างนึง คล้ายกับพริกดองเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ใส่ปลาทอดตัวเล็กตัวน้อย กินคู่กับอาหารสไตล์ตะวันตกแล้วรสชาติตัดกันดีเหลือเกิน
แต่ที่ชอบน้อยที่สุดของมื้อเช้าวันนี้คือเครื่องดื่มที่เราสั่งมา ได้แก่ น้ำเต้าหู้และกาแฟเย็น คือเราก็ทำใจแล้วว่าเครื่องดื่มในราคาแก้วละ 20 NTD ก็คงไม่ได้อร่อยเริ่ดอะไรขนาดนั้น แต่ในกรณีนี้เรายังรู้สึกเสียดาย 20 NTD ที่เสียไปเลย กาแฟจืดมาก รับรู้ได้เพียงรสนมกับกลิ่นกาแฟจาง ๆ เท่านั้น ส่วนน้ำเต้าหู้เช่นเดียวกัน ได้กลิ่นเต้าหู้แบบจางมาก ๆ กินแล้วคิดถึงน้ำเต้าหู้ที่ไทยเลย
โรตีแฮมชีสของคุณผู้หญิง และเบอเกอร์ของคนขับรถ

เครื่องเคียงกินคู่กับอาหารตะวันตก เป็นพริกดองกับปลาเล็กปลาน้อย ตัดเลี่ยนได้ดีมาก
น้ำเต้าหู้ & กาแฟเย็น แนะนำว่าไปคาเฟ่ดี ๆ หรืออย่างน้อยไปซื้อที่ร้านสะดวกซื้อดีกว่า
พิกัดร้านอาหารเช้า :
https://maps.app.goo.gl/jyRYZWjQd26Puhs68
จบมื้อเช้าอิ่มหนำสำราญแล้ว เป้าหมายแรกของวันคือ การไปชมพิพิธภัณฑ์ Land Bank Exhibition Hall ที่เราพลาดไปเมื่อวาน จึงต้องจ่ายอีกคนละ 30 NTD เนื่องจากบัตรเมื่อวานใช้ได้วันต่อวัน ที่นี่เราจึงสแกน Easy card เข้าไปเลยเพื่อความสะดวก
สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพิพิธภัณฑ์แห่งชาติไต้หวัน โดยมีถนน Xiangyang คั่นกลาง ถ้าเข้าใจไม่ผิดน่าจะเคยเป็นอาคารของธนาคารมาก่อน และรีโนเวทให้เป็นพิพิธภัณฑ์ภายหลัง โดยชั้น 1 - 2 เป็นโซนจัดแสดงเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ในช่วงยุคต่าง ๆ คล้ายกับที่เราดูที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติไต้หวันเมื่อวาน แต่ที่นี่จะเน้นเรื่องของวิวัฒนาการ ว่าจากอดีตจนถึงปัจจุบัน สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ มีเส้นทางวิวัฒนาการอย่างไรบ้าง เหมือนเราได้มาเดินดูและทวนเลกเชอร์ วิชาชีววิทยา สมัยปริญญาตรี
ในส่วนของการจัดแสดงของที่นี่จะเป็นแบบจำลองเสียเป็นส่วนมาก แต่ก็ทดแทนด้วยการนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจ มีการทำข้อมูลเป็นภาพมากกว่าการเขียนบรรยาย ทำให้ดูได้ง่าย มองภาพแปปเดียวก็สามารถเข้าใจได้ทันที
โครงกระดูกไดโนเสาร์ตั้งอยู่ใจกลางพิพิธภัณฑ์ คิดว่าคงเป็นแบบจำลอง ไม่น่าใช่ของจริง เพราะสมบูรณ์มากๆ และไม่มีรั้วรอบขอบชิดเสียเท่าไหร่
แสดงหุ่นจำลองของสัตว์โบราณต่าง ๆ
ในส่วนของชั้น 3 จะเป็นโซนจัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับธนาคารและการเงินไต้หวัน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ว่ามีความสำคัญอย่างไรบ้าง โดยถึงแม้ว่าเรื่องของการเงิน การธนาคาร อาจมีความเป็นนามธรรม จับต้องและทำความเข้าใจได้ยาก พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็ยังหาจุดเด่นและเรื่องราวมาจัดแสดงได้อย่างน่าสนใจ เช่น การจัดสถานที่จำลอง ทั้งโต๊ะทำงาน ตราประทับสัญลักษณ์ของธนาคาร ลูกคิดที่ใช้ทำงาน ไปจนถึงเครื่องคิดเลขสมัยก่อนที่มีขนาดเท่าเครื่องพิมพ์ดีด การนำเสนอสวัสดิการของพนักงานธนาคาร ภาพของรถบัสที่ใช้รับส่งพนักงาน / เครื่องแต่งกายของพนักงานในยุคนั้น ทำให้เราเห็นอีกมุมที่ไม่ใช่เรื่องของวิชาการมากนัก
การจำลองห้องทำงานของพนักงานธนาคารในอดีต
โซนสุดท้ายเป็นการนำเสนอในส่วนของวิธีการรีโนเวทอาคารแห่งนี้ ผ่านการนำเสนอเป็นฟุตเทจที่ถ่ายทำกันตั้งแต่การวางแผนงาน การดำเนินการ โดยช่างจากประเทศญี่ปุ่น มีการจัดแสดงบล็อกที่ใช้ขึ้นโครงอาคาร อธิบายเทคนิคการก่อสร้าง ไปจนถึงตะปูที่ใช้ในการรีโนเวทอาคาร ก็ยังนำมาแสดง ถ้าใครเป็นสายออกแบบภายใน หรือสถาปนิก น่าจะถูกใจไม่น้อยเลย
พิพิธภัณฑ์ Land Bank :
https://maps.app.goo.gl/8KR5MrfLZgm2krKQ7
เมื่อเดินเตร็ดเตร่เยี่ยมชมจนสิ้นสงสัยแล้ว เป้าหมายถัดไปของเราคือ Huashan 1914 Creative Park ในอดีตพื้นที่แห่งนี้เป็นสถานที่สำหรับผลิตไวน์และบุหรี่ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของไต้หวัน แต่โรงงานได้ย้ายออกไปอยู่นอกเมือง จึงมีการปรับปรุงพื้นที่บริเวณนี้ ให้เป็นพื้นที่สำหรับศิลปินที่ให้มาจัดแสดงงานศิลปะ หรือมาแสดงความสามารถได้ รวมไปถึงจัดนิทรรศการต่าง ๆ ได้ด้วย
เราจับรถไฟ MRT จาก Taipei main station มุ่งสู่สถานี Zhongxiao Xinsheng สายสีน้ำเงิน เมื่อมาถึง และเดินต่อไปอีกประมาณ 300 เมตร ก็ถึงจุดหมายปลายทาง เมื่อมาถึงแล้ว เราได้รับการต้อนรับจากสายฝนที่เย็นฉ่ำ ในรูปแบบของละอองฝน ที่ทำให้ชวนป่วยปี่แป่กอ ตราลูกกตัญญูได้เหลือเกิน เราจึงรีบเดินผ่านโซนสนามหญ้าด้านหน้าเข้าไปในอาคารด้านหลัง
อดีตเคยเป็นที่ผลิตไวน์ ที่รีโนเวทเป็นโซนจัดนิทรรศการ
อาคารภายใน แบ่งออกเป็นหลายๆหลัง วันนี้มีคนมาเที่ยวเยอะมาก
พื้นที่ของ Creative Park แห่งนี้ จะแบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก ได้แก่ โซนสนามหญ้าด้านหน้า จะเปิดเป็นบูธขายของต่าง ๆ ทั้งของกิน ของใช้ และมีเวทีกลาง เป็นพื้นที่ให้ศิลปินหน้าใหม่ขึ้นมาโชว์พลังเสียงไมค์ทองคำ ถัดไปด้านหลังเป็นโกดังที่เรียงรายอยู่ซ้ายขวา ลักษณะเป็นโกดังใหญ่ 1 ชั้น คล้ายกับโรงเก็บเครื่องบิน ที่ปัจจุบันรีโนเวท พร้อมติดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ พร้อมต้อนรับผู้มาเยือน
ซึ่งอาคารแรกที่เราเข้าไปเยี่ยมชม เป็นส่วนที่ขายของแฮนด์เมดของศิลปิน ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าผ้า เสื้อเพนท์ลาย พวงกุญแจ ร่มกันฝน สบู่น้ำหอมต่าง ๆ ละลานตาไปหมด ซึ่งของแต่ละชิ้นเรียกได้ว่าราคาไม่เบาเลยทีเดียว ขั้นต่ำต้องมีอย่างน้อย 300 NTD แต่ก็เข้าใจได้ เพราะเป็นของแฮนด์เมดทั้งนั้น เราเดินเที่ยวเล่นอยู่ครู่ใหญ่ ก็เห็นว่าอยู่ต่อไปแล้วอาจกลายเป็นซอยละลายทรัพย์ก็เป็นได้ จึงเดินต่อไปยังอาคารจัดแสดงอื่น ๆ
ภายในมีการแสดงสินค้าต่าง ๆ เยอะมาก มีหลายโซนสุด ๆ
ด้านนอกเป็นบูธขายสินค้าต่าง ๆ ส่วนมากจะเป็นของกินและสินค้าแฮนด์เมด
ในวันนี้มีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย มีบางอาคารต้องต่อคิวซื้อบัตรเข้าชมด้วย เห็นจะเป็นแสดงโชว์คาแรกเตอร์ตัวการ์ตูนบางอย่าง เราจึงหลบเข้าไปอีกอาคารดีกว่า ดูแล้วไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม อาคารนี้ดูจะเป็นงานแสดงสินค้าด้านการแพทย์ และคนพิการ มีอุปกรณ์วัดคลื่นหัวใจ / อุปกรณ์วัดความดัน และอีกโซนเป็นการแสดงเกี่ยวกับรถวีลแชร์ ซึ่งผู้คนที่เดินดูงานอยู่นั้น คะเนจากลักษณะแล้วน่าจะอายุ 60 ขึ้นไปทั้งนั้นเลย เราจึงตัดสินใจเดินออกมาดีกว่า เพราะที่นี่น่าจะไม่ใช่ที่ของเรา
เดินอ้อมไปอีกฝั่ง ก็เป็นโซนแสดงสินค้าอีกแล้ว แต่โซนนี้เป็นสินค้าท้องถิ่นของไต้หวัน มีทั้งเครื่องดื่ม sparkling สกัดจากพืชท้องถิ่น / สุราท้องถิ่นของเมืองฮวาเหลียน เมืองฝั่งตะวันออกของไต้หวัน / ก้านน้ำหอมสกัดจากดอกไม้ท้องถิ่น อารมณ์เหมือนโซน OTOP ของไต้หวันเลย เราจึงเลือกซื้อเป็นสมุดบันทึกแทน เพราะเราคิดว่าจะเอาไว้ใช้เก็บตราประทับ หรือเก็บความทรงจำจากสถานที่ต่าง ๆ ที่เราไปเที่ยว
เราเลือกเป็นสมุดบันทึกแทน เอาไว้ประทับความทรงจำจากสถานที่ต่าง ๆ
หลังจากเสียเงินสบายใจแล้ว เราได้ยินเสียงเพลงดังอยู่ด้านนอก และเสียงคนปรบมือ เราจึงเดินออกไปดูด้วยความสงสัยใคร่รู้ว่าเขาทำอะไรกัน จึงได้เห็นชายวัย 30 กว่า ๆ กำลังแสดงโชว์การเล่น "เคนดามะ" ซึ่งเป็นของเล่นดั้งเดิมของญี่ปุ่น ด้วยวิธี และท่าทางพิสดาร รวมถึงลีลาที่มีลูกล่อลูกชน มีการเล่นกับผู้ชมโดยเฉพาะการสะกดให้เด็ก ๆ สามารถนั่งดูเขาเล่นได้โดยไม่เบื่อเลยแม้แต่น้อย
พื้นที่แสดงความสามารถของนักแสดงท้องถิ่น มีเด็ก ๆ นั่งดูกันเพียบ
อ่านต่อในคอมเมนท์นะครับ
Taiwan 1st time [Day 3/5]
Day 3/5
**สามารถติดตาม Taiwan 1st time ใน 2 วันแรก ได้ที่นี่เลยครับ**
Day 1 : https://pantip.com/topic/43891637
Day 2 : https://pantip.com/topic/43892663
วันนี้เราลืมตาตื่นมาแบบสบาย ๆ ประมาณ 09.00 น. เหมือนเดิม ไม่ได้เร่งรีบมากนัก เพราะแผนการของเราวันนี้จะตระเวนเที่ยวกันเฉพาะในเมือง ที่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT เข้าถึงเท่านั้น เนื่องจาก 2 วันที่ผ่านมา เราใช้กำลังขาในการเดินค่อนข้างเยอะมาก
เริ่มต้นมื้อเช้าด้วยการหมายมั่นจะไปกินบะหมี่เนื้อร้าน Liu Shandong ที่เราพลาดไปเมื่อวานอีกรอบ โดยเฉพาะวันนี้เราออกกันสายตะวันโด่งแล้ว คิดว่าคงไม่มีใครมาต่อคิว แต่เมื่อเลี้ยวเข้าตรอกที่ร้านตั้งอยู่นั้น เจ้ากรรมจริง ๆ วันนี้ร้านปิดทำการ ใครมันจะไปคิดว่าร้านปิดวันอาทิตย์กันล่ะพ่อ เราเลยเดินซมซานด้วยความผิดหวังไปกินอีกร้าน ที่ปักหมุดไว้เช่นกัน นั่นคือร้านขายอาหารเช้า ชื่อร้านว่า "美好美快餐" ไม่รู้ชื่อภาษาอังกฤษเหมือนกัน ร้านจะตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้าน Ching Chuang Lu Ro Fun ที่เรากินเช้าเมื่อวาน เป็นร้านอาหารเช้าแบบตะวันตก คล้ายร้านออนล๊อกหยุ่นที่ไทย แต่ร้านนี้เน้นเป็นเบอเกอร์ แซนด์วิชต่าง ๆ เราจำไม่ได้ว่าเคยอ่านรีวิวที่ไหนหรือเปล่า แต่คุณผู้หญิงจำได้ว่าเคยเห็นรีวิวบอกว่าร้านนี้อร่อย ประกอบกับเช้าเมื่อวาน เห็นคนต่อคิวร้านนี้เยอะมาก แต่วันนี้เราออกมาค่อนข้างสาย เลยได้โอกาสนั่งกิน แต่ก็เป็นเพราะออกสาย อาหารบางส่วนจึงหมดแล้ว
บรรยากาศหน้าร้าน นั่งกันบนทางเดินเลย
พนักงานรับออเดอร์สื่อสารภาษาอังกฤษพอได้บ้าง แต่ลักษณะการเสิร์ฟ และการพูดจา ค่อนข้างดุดันไม่เกรงใจใครนิดนึง แต่ก็คิดว่าเป็นสไตล์ของคนท้องถิ่นที่นี่
เราสั่งเบอเกอร์ชีสหมูหรือไก่ซักอย่างและกาแฟเย็น ส่วนคุณผู้หญิงสั่งเมนูคล้ายกับโรตีแฮมชีสและน้ำเต้าหู้ โรตีแฮมชีสกับเบอเกอร์หน้าตาและรสชาติค่อนข้างโอเค รสชาติน่าจะถูกปากชาวไทย รวมทั้งปริมาณที่ให้มาค่อนข้างเยอะ จึงสามารถอิ่มได้เหมือนการกินข้าวหนึ่งจาน รวมไปถึงทุกโต๊ะจะมีเครื่องเคียงอย่างนึง คล้ายกับพริกดองเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ใส่ปลาทอดตัวเล็กตัวน้อย กินคู่กับอาหารสไตล์ตะวันตกแล้วรสชาติตัดกันดีเหลือเกิน
แต่ที่ชอบน้อยที่สุดของมื้อเช้าวันนี้คือเครื่องดื่มที่เราสั่งมา ได้แก่ น้ำเต้าหู้และกาแฟเย็น คือเราก็ทำใจแล้วว่าเครื่องดื่มในราคาแก้วละ 20 NTD ก็คงไม่ได้อร่อยเริ่ดอะไรขนาดนั้น แต่ในกรณีนี้เรายังรู้สึกเสียดาย 20 NTD ที่เสียไปเลย กาแฟจืดมาก รับรู้ได้เพียงรสนมกับกลิ่นกาแฟจาง ๆ เท่านั้น ส่วนน้ำเต้าหู้เช่นเดียวกัน ได้กลิ่นเต้าหู้แบบจางมาก ๆ กินแล้วคิดถึงน้ำเต้าหู้ที่ไทยเลย
โรตีแฮมชีสของคุณผู้หญิง และเบอเกอร์ของคนขับรถ
เครื่องเคียงกินคู่กับอาหารตะวันตก เป็นพริกดองกับปลาเล็กปลาน้อย ตัดเลี่ยนได้ดีมาก
น้ำเต้าหู้ & กาแฟเย็น แนะนำว่าไปคาเฟ่ดี ๆ หรืออย่างน้อยไปซื้อที่ร้านสะดวกซื้อดีกว่า
พิกัดร้านอาหารเช้า : https://maps.app.goo.gl/jyRYZWjQd26Puhs68
จบมื้อเช้าอิ่มหนำสำราญแล้ว เป้าหมายแรกของวันคือ การไปชมพิพิธภัณฑ์ Land Bank Exhibition Hall ที่เราพลาดไปเมื่อวาน จึงต้องจ่ายอีกคนละ 30 NTD เนื่องจากบัตรเมื่อวานใช้ได้วันต่อวัน ที่นี่เราจึงสแกน Easy card เข้าไปเลยเพื่อความสะดวก
สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพิพิธภัณฑ์แห่งชาติไต้หวัน โดยมีถนน Xiangyang คั่นกลาง ถ้าเข้าใจไม่ผิดน่าจะเคยเป็นอาคารของธนาคารมาก่อน และรีโนเวทให้เป็นพิพิธภัณฑ์ภายหลัง โดยชั้น 1 - 2 เป็นโซนจัดแสดงเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ในช่วงยุคต่าง ๆ คล้ายกับที่เราดูที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติไต้หวันเมื่อวาน แต่ที่นี่จะเน้นเรื่องของวิวัฒนาการ ว่าจากอดีตจนถึงปัจจุบัน สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ มีเส้นทางวิวัฒนาการอย่างไรบ้าง เหมือนเราได้มาเดินดูและทวนเลกเชอร์ วิชาชีววิทยา สมัยปริญญาตรี
ในส่วนของการจัดแสดงของที่นี่จะเป็นแบบจำลองเสียเป็นส่วนมาก แต่ก็ทดแทนด้วยการนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจ มีการทำข้อมูลเป็นภาพมากกว่าการเขียนบรรยาย ทำให้ดูได้ง่าย มองภาพแปปเดียวก็สามารถเข้าใจได้ทันที
โครงกระดูกไดโนเสาร์ตั้งอยู่ใจกลางพิพิธภัณฑ์ คิดว่าคงเป็นแบบจำลอง ไม่น่าใช่ของจริง เพราะสมบูรณ์มากๆ และไม่มีรั้วรอบขอบชิดเสียเท่าไหร่
แสดงหุ่นจำลองของสัตว์โบราณต่าง ๆ
ในส่วนของชั้น 3 จะเป็นโซนจัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับธนาคารและการเงินไต้หวัน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ว่ามีความสำคัญอย่างไรบ้าง โดยถึงแม้ว่าเรื่องของการเงิน การธนาคาร อาจมีความเป็นนามธรรม จับต้องและทำความเข้าใจได้ยาก พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็ยังหาจุดเด่นและเรื่องราวมาจัดแสดงได้อย่างน่าสนใจ เช่น การจัดสถานที่จำลอง ทั้งโต๊ะทำงาน ตราประทับสัญลักษณ์ของธนาคาร ลูกคิดที่ใช้ทำงาน ไปจนถึงเครื่องคิดเลขสมัยก่อนที่มีขนาดเท่าเครื่องพิมพ์ดีด การนำเสนอสวัสดิการของพนักงานธนาคาร ภาพของรถบัสที่ใช้รับส่งพนักงาน / เครื่องแต่งกายของพนักงานในยุคนั้น ทำให้เราเห็นอีกมุมที่ไม่ใช่เรื่องของวิชาการมากนัก
การจำลองห้องทำงานของพนักงานธนาคารในอดีต
โซนสุดท้ายเป็นการนำเสนอในส่วนของวิธีการรีโนเวทอาคารแห่งนี้ ผ่านการนำเสนอเป็นฟุตเทจที่ถ่ายทำกันตั้งแต่การวางแผนงาน การดำเนินการ โดยช่างจากประเทศญี่ปุ่น มีการจัดแสดงบล็อกที่ใช้ขึ้นโครงอาคาร อธิบายเทคนิคการก่อสร้าง ไปจนถึงตะปูที่ใช้ในการรีโนเวทอาคาร ก็ยังนำมาแสดง ถ้าใครเป็นสายออกแบบภายใน หรือสถาปนิก น่าจะถูกใจไม่น้อยเลย
พิพิธภัณฑ์ Land Bank : https://maps.app.goo.gl/8KR5MrfLZgm2krKQ7
เมื่อเดินเตร็ดเตร่เยี่ยมชมจนสิ้นสงสัยแล้ว เป้าหมายถัดไปของเราคือ Huashan 1914 Creative Park ในอดีตพื้นที่แห่งนี้เป็นสถานที่สำหรับผลิตไวน์และบุหรี่ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของไต้หวัน แต่โรงงานได้ย้ายออกไปอยู่นอกเมือง จึงมีการปรับปรุงพื้นที่บริเวณนี้ ให้เป็นพื้นที่สำหรับศิลปินที่ให้มาจัดแสดงงานศิลปะ หรือมาแสดงความสามารถได้ รวมไปถึงจัดนิทรรศการต่าง ๆ ได้ด้วย
เราจับรถไฟ MRT จาก Taipei main station มุ่งสู่สถานี Zhongxiao Xinsheng สายสีน้ำเงิน เมื่อมาถึง และเดินต่อไปอีกประมาณ 300 เมตร ก็ถึงจุดหมายปลายทาง เมื่อมาถึงแล้ว เราได้รับการต้อนรับจากสายฝนที่เย็นฉ่ำ ในรูปแบบของละอองฝน ที่ทำให้ชวนป่วยปี่แป่กอ ตราลูกกตัญญูได้เหลือเกิน เราจึงรีบเดินผ่านโซนสนามหญ้าด้านหน้าเข้าไปในอาคารด้านหลัง
อดีตเคยเป็นที่ผลิตไวน์ ที่รีโนเวทเป็นโซนจัดนิทรรศการ
อาคารภายใน แบ่งออกเป็นหลายๆหลัง วันนี้มีคนมาเที่ยวเยอะมาก
พื้นที่ของ Creative Park แห่งนี้ จะแบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก ได้แก่ โซนสนามหญ้าด้านหน้า จะเปิดเป็นบูธขายของต่าง ๆ ทั้งของกิน ของใช้ และมีเวทีกลาง เป็นพื้นที่ให้ศิลปินหน้าใหม่ขึ้นมาโชว์พลังเสียงไมค์ทองคำ ถัดไปด้านหลังเป็นโกดังที่เรียงรายอยู่ซ้ายขวา ลักษณะเป็นโกดังใหญ่ 1 ชั้น คล้ายกับโรงเก็บเครื่องบิน ที่ปัจจุบันรีโนเวท พร้อมติดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ พร้อมต้อนรับผู้มาเยือน
ซึ่งอาคารแรกที่เราเข้าไปเยี่ยมชม เป็นส่วนที่ขายของแฮนด์เมดของศิลปิน ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าผ้า เสื้อเพนท์ลาย พวงกุญแจ ร่มกันฝน สบู่น้ำหอมต่าง ๆ ละลานตาไปหมด ซึ่งของแต่ละชิ้นเรียกได้ว่าราคาไม่เบาเลยทีเดียว ขั้นต่ำต้องมีอย่างน้อย 300 NTD แต่ก็เข้าใจได้ เพราะเป็นของแฮนด์เมดทั้งนั้น เราเดินเที่ยวเล่นอยู่ครู่ใหญ่ ก็เห็นว่าอยู่ต่อไปแล้วอาจกลายเป็นซอยละลายทรัพย์ก็เป็นได้ จึงเดินต่อไปยังอาคารจัดแสดงอื่น ๆ
ภายในมีการแสดงสินค้าต่าง ๆ เยอะมาก มีหลายโซนสุด ๆ
ด้านนอกเป็นบูธขายสินค้าต่าง ๆ ส่วนมากจะเป็นของกินและสินค้าแฮนด์เมด
ในวันนี้มีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย มีบางอาคารต้องต่อคิวซื้อบัตรเข้าชมด้วย เห็นจะเป็นแสดงโชว์คาแรกเตอร์ตัวการ์ตูนบางอย่าง เราจึงหลบเข้าไปอีกอาคารดีกว่า ดูแล้วไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม อาคารนี้ดูจะเป็นงานแสดงสินค้าด้านการแพทย์ และคนพิการ มีอุปกรณ์วัดคลื่นหัวใจ / อุปกรณ์วัดความดัน และอีกโซนเป็นการแสดงเกี่ยวกับรถวีลแชร์ ซึ่งผู้คนที่เดินดูงานอยู่นั้น คะเนจากลักษณะแล้วน่าจะอายุ 60 ขึ้นไปทั้งนั้นเลย เราจึงตัดสินใจเดินออกมาดีกว่า เพราะที่นี่น่าจะไม่ใช่ที่ของเรา
เดินอ้อมไปอีกฝั่ง ก็เป็นโซนแสดงสินค้าอีกแล้ว แต่โซนนี้เป็นสินค้าท้องถิ่นของไต้หวัน มีทั้งเครื่องดื่ม sparkling สกัดจากพืชท้องถิ่น / สุราท้องถิ่นของเมืองฮวาเหลียน เมืองฝั่งตะวันออกของไต้หวัน / ก้านน้ำหอมสกัดจากดอกไม้ท้องถิ่น อารมณ์เหมือนโซน OTOP ของไต้หวันเลย เราจึงเลือกซื้อเป็นสมุดบันทึกแทน เพราะเราคิดว่าจะเอาไว้ใช้เก็บตราประทับ หรือเก็บความทรงจำจากสถานที่ต่าง ๆ ที่เราไปเที่ยว
เราเลือกเป็นสมุดบันทึกแทน เอาไว้ประทับความทรงจำจากสถานที่ต่าง ๆ
หลังจากเสียเงินสบายใจแล้ว เราได้ยินเสียงเพลงดังอยู่ด้านนอก และเสียงคนปรบมือ เราจึงเดินออกไปดูด้วยความสงสัยใคร่รู้ว่าเขาทำอะไรกัน จึงได้เห็นชายวัย 30 กว่า ๆ กำลังแสดงโชว์การเล่น "เคนดามะ" ซึ่งเป็นของเล่นดั้งเดิมของญี่ปุ่น ด้วยวิธี และท่าทางพิสดาร รวมถึงลีลาที่มีลูกล่อลูกชน มีการเล่นกับผู้ชมโดยเฉพาะการสะกดให้เด็ก ๆ สามารถนั่งดูเขาเล่นได้โดยไม่เบื่อเลยแม้แต่น้อย
พื้นที่แสดงความสามารถของนักแสดงท้องถิ่น มีเด็ก ๆ นั่งดูกันเพียบ
อ่านต่อในคอมเมนท์นะครับ