‘กมธ.แก้ รธน.’จ่อขอมติปรับแก้ถ้อยคำ เนื้อหาระหว่างมาตราขัดกัน ปมคุณสมบัติผู้สมัครกรรมาธิการร่างฯ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5498181
.

.
‘กมธ.แก้ รธน.’ จ่อขอมติปรับแก้ถ้อยคำ กรณีเนื้อหาระหว่างมาตราขัดกัน ปมคุณสมบัติผู้สมัครกรรมาธิการร่างฯ
.
จากนั้นเวลา 18.10 น. วันที่ 10 ธันวาคม ที่รัฐสภา ที่มี นายมงคล สุระสัจจะ รองประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เพื่อกำหนดหมวดการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ภายหลังจากที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา สั่งพักประชุมไป 1 ชั่วโมง เพื่อให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่มีการแก้ไขเนื้อหาร่างหลังจากที่มีเนื้อหาขัดกันระหว่างมาตรา 256/3 และ 256/4 ในอนุมาตราย่อย
.
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานกมธ.ฯ ชี้แจงว่าหลังจากที่ประชุมว่าจะต้องมีการปรับแก้ 3 มาตรา คือ 1.มาตรา 256/4 กรณีบุคคลที่เคยเป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ และพนักงานที่เป็นลูกจ้างหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ รัฐวิสาหกิจและส่วนท้องถิ่นถูกกำหนดเป็นลักษณะต้องห้ามการสมัครเป็นกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ โดยเพิ่มถ้อยคำวรรคสองมาตรา 256/4 ว่าด้วย (12) และ (13) ไม่ใช้บังคับกับกรณีผู้มีสิทธิ์สมัครรับการคัดเลือกตามมาตรา 256/3 (3)ก
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ 2 กรณีผลกระทบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นฯ ในมาตรา 256/8 และ มาตรา 256/9 โดยเพิ่มถ้อยคำในวรรคสองของมาตรา 256/9 ว่า ความใน (12) เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ และ (13) เป็นพนักงานลูกจ้างหรือผู้ปฏิบัติงานอื่นในหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือราชการส่วนท้องถิ่น ไม่ใช้บังคับแก่กรณีผู้มีสิทธิ์สมัครรับการคัดเลือกตามมาตรา 256/8 ที่เป็นผู้สอนในสถาบันอุดมศึกษาหรือผู้วิจัยที่มีรายชื่อในโครงการวิจัยของหน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรม
.
“เป็นข้อความเปิดกว้างไม่ได้จำกัดเฉพาะสาขา เพราะกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นคุณสมบัติพื้นฐานจะกว้างกว่าในส่วนของกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ” นายณัฐวุฒิ กล่าว
.
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังพบถ้อยคำตกหล่น 2/2 มาตรา 256/9 การอยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เพิ่มเติมถ้อยคำเป็นมาตราที่ 2 ส่วนมาตราที่ 3 กรรมาธิการพบว่าตกหล่นในวรรคตอนคือ มาตรา 256/25 ในวรรคสี่ ที่ถ้อยคำ “การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการร่างรัฐธรรมนูญนั้นเว้นวรรค ทำหน้าที่รองประธาน” กรรมาธิการเห็นว่าขอมติที่ประชุมปรับแก้ถ้อยคำให้สมบูรณ์ไม่จำเป็นต้องปรับแก้
.
.
เท้ง ยันหากแก้รธน.ตาม MOA ยุบสภาเร็วไม่เสียหาย ห่วงท่าที อนุทิน ต่อสายตานานาชาติ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5497279
.
‘เท้ง’ ปัดไม่ให้คะแนน ‘อนุทิน’ บริหารประเทศ ในฐานะเป็นฝ่ายค้ำ บอกเรื่องยุบสภาคงต้องถามนายกฯเอง หากเดินตามกรอบ MOA ก็ไม่เสียหาย ขอดูผลโหวต ‘รัฐธรรมนูญ’ วาระ 2-3 นี้ อย่าเพิ่งตั้งข้อสังเกต จะถอยหรือไม่ หาก ส.ว. 1 ใน 3 เตรียมคว่ำร่าง รธน. วางธง จะเลือกตั้งกี่ครั้ง ประเทศก็เดินหน้าไม่ได้ หากไม่แก้กติกา ประกาศกร้าว ‘ปชน.’ ตรวจสอบเต็มที่ แม้ไม่ยื่นซักฟอกเอง ก็พร้อมทำหน้าที่
.
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหากรัฐบาลใช้เหตุผลเรื่องสถานการณ์ชายแดนอยู่ต่อแล้วทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จ รับได้หรือไม่ ว่า เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ การบริหารสถานการณ์ชายแดนหรือการแก้ไขปัญหาอื่นที่มีความสำคัญกับประชาชน อย่างน้ำท่วมภาคใต้ ทุกเรื่อง เราทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ไม่อยากให้ไปผูกกันทุกเรื่อง และสิ่งที่สำคัญสำหรับรัฐบาลคือบริหารสถานการณ์อย่างดีที่สุด และทำตามกรอบ MOA ในสถานะของพรรคฝ่ายค้านเองก็เดินหน้าตรวจสอบอย่างเต็มที่ การแก้รัฐธรรมนูญก็พิจารณาอยู่ในสภา
.
เมื่อถามว่าเมื่อวานนี้ (9 ธ.ค.) นายกรัฐมนตรีเปิดใจกับส่วนราชการว่าจะมีการยุบสภาเร็วกว่ากำหนด มองว่าเป็นการวางเกมปูทางเพื่อสร้างคะแนนนิยมหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า คงต้องไปถามที่ตัวนายกรัฐมนตรีเอง ยิ่งยุบสภาเร็ว ตราบใดที่ทุกอย่างยังเดินไปตามกรอบ MOA การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ยังเดินหน้าและทำประชามติไปพร้อมกับการเลือกตั้งได้ จะยุบสภาให้เร็วขึ้นกว่ากรอบที่ตกลงกันไว้ก็ไม่ได้เสียหายแต่อย่างใด
ต่อข้อถามว่าจะไม่กระทบกับรัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ถ้ากระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตาม MOA ยังเดินหน้าได้อยู่ และจะยุบสภาเร็วกว่ากรอบก็ไม่เป็นเรื่องที่เสียหาย
.
เมื่อถามว่า ให้คะแนนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการบริหารราชการแผ่นดินเท่าไหร่ ในฐานะที่เคยโหวตให้นายอนุทินเป็นนายกฯ จากคะแนนเต็มสิบ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า คงไม่ได้เป็นลักษณะการให้คะแนน ตนคิดว่าเป็นเรื่องการตรวจสอบ เรื่องต่อเรื่อง ประเด็นต่อประเด็น อย่างเรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตนเคยบอกไว้แล้ว สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือท่าทีของนายกรัฐมนตรีต่อสายตานานาชาติ ที่มองประเทศไทยว่าเป็นฝ่ายรุกราน ฝ่ายกระหายสงคราม ตนไม่อยากให้เป็นแบบนั้น
.
เมื่อถามว่าหากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่นายกฯชิงยุบสภาก่อน ฉากทัศน์ที่พรรคประชาชนวางไว้เป็นอย่างไร นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ต้องดูผลการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญวาระสองว่าผ่านหรือไม่ และวาระสามเป็นอย่างไร เราพูดมาชัดเจนหลายครั้ง ว่าหากการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่สะดุดลง ไม่เป็นไปตาม MOA เราก็พร้อมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 ทันที
.
เมื่อถามถึง 1 ใน 3 ของ ส.ว. แปรญัตติคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ พรรคประชาชนจะเอาอย่างไร หัวหน้าพรรคประชาชนกล่าวว่า ต้องรอดูการโหวต ซึ่งร่างของกรรมาธิการเสียงข้างมากไม่ได้มีเสียง ส.ว. 1 ใน 3 และการสงวนคำแปรญัตติ เป็นสิทธิของ ส.ว.บางส่วน แต่ก็ต้องดูที่การโหวตสู้ในสภาใหญ่
.
เมื่อถามว่าพรรคประชาชนจะถอยในประเด็นนี้หรือไม่ เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเดินหน้าต่อไปได้ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ดูที่การลงมติดีกว่าว่าถอยหรือไม่ เชื่อว่าพวกเราพร้อมทำหน้าที่ในสภาอย่างเต็มที่เพื่อให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ยึดโยงกับประชาชนให้ได้มากที่สุด
.
ต่อข้อถามว่าจนถึงวันนี้คิดถูกแล้วหรือไม่ที่โหวตนายอนุทินเป็นนายกฯ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ทุกวันนี้กระบวนการทุกอย่างเดินหน้าอยู่ ตราบใดที่เป็นไปตามกรอบ MOA เชื่อว่าสิ่งที่พวกเราได้ตัดสินใจอยู่บนฐานประโยชน์สูงสุดของประเทศเป็นสำคัญ ไม่ได้ดูที่คะแนนนิยมของพรรคเป็นตัวตั้ง 2 ปีที่ผ่านมา เราเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีถึง 3 คน ตราบใดที่ยังไม่แก้ไขกติกาสูงสุดของประเทศ ไม่ได้แก้ไขระบบการเมืองให้ดีขึ้น อนาคตจะเลือกตั้งสักกี่ครั้งก็ไม่สามารถผลักดันประเทศไทยให้ก้าวหน้าไปมากกว่านี้ได้ จึงเป็นที่มาที่เราตัดสินใจในวันนั้น
.
เมื่อถามว่าได้คุยกับพรรคเพื่อไทย เรื่องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ในส่วนของพรรคประชาชนได้พูดคุยกันหลายเวทีอยู่แล้ว ยืนยันอีกครั้งว่าไม่เคยมีข้อตกลงใด เพื่อจะบอกว่ายื่นหรือไม่ ซึ่งได้พูดคุยกันมาตลอด แสดงเหตุผลซึ่งกันและกัน การจะยื่นซักฟอกเป็นสิทธิของแต่ละฝ่าย ส่วนเขาจะยื่นหรือไม่ ก็เป็นการตัดสินใจของเขา แต่พรรคประชาชนยืนยันว่าหากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเข้ามา เราพร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มที่
.
เมื่อถามว่าพรรคประชาชนบอกมาตลอดว่าพร้อมตรวจสอบ และบอกว่าพฤติกรรมนายกฯ อันตราย จะตรวจสอบอย่างไรให้มากกว่านี้ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ถ้าพูดถึงเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ นอกจากการอภิปรายแล้ว ต้องดูที่การลงมติ แต่ ณ เวลานี้ ยังมาไม่ถึง คล้ายกับคำถามที่บอกว่า ส.ว. 1 ใน 3 เราจะถอยหรือไม่ถอย ตนว่าอย่าเพิ่งตั้งข้อสังเกตเกินเลยกว่านี้เลย รอดูที่การโหวตในสภาแล้วจะเห็นการทำหน้าที่ของเรา
.
เมื่อถามย้ำว่า ประเทศรอเวลาได้ขนาดนั้นเลยหรือ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เราไม่เคยรอ เราตั้งคำถามผ่านกรรมาธิการ เราเชิญรัฐมนตรีมาชี้แจง แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือจากหลายท่านเท่าที่ควร เราใช้การสื่อสารผ่านสื่อมวลชน ไม่ใช่ตั้งคำถามวิพากษ์วิจารณ์อย่างเดียว ในทุกๆ ทาง เราพยายามประคับประคองสถานการณ์ให้ดีกับประเทศมากที่สุด และทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน
.
.
โรม เชิญ ‘อนุทิน-ไชยชนก’ ถกกมธ.มั่นคงฯ 11 ธ.ค. ปมดีอีทำ MOU บริษัทเครือข่ายเบนสมิธ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5497196
.
โรม เชิญ ‘อนุทิน-ไชยชนก’ ถกกมธ.มั่นคงฯ 11 ธ.ค.นี้ ปมดีอีทำ MOU กับบริษัทเครือเบนสมิธ
.
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อความผ่าน x ระบุว่า
.
“วันนี้พรุ่งนี้ (11 ธ.ค.) 9.30 น. กรรมาธิการตามกันต่อในกรณีของเบน สมิธ-ยิมเลียก และพวก ตลอดจนถึงกรณีของ Prime Opportunity Fund VCC ที่ปรากฎว่าเป็นเครือข่ายของนายเบน สมิธ โดยได้ทำ MOU กับกระทรวง DE มีความคืบหน้าอย่างไรจะได้รายงานพี่น้องประชาชนต่อไปครับ”
.
พร้อมทั้งโพสต์ภาพจดหมาย กมธ.ความมั่นคงฯ นัดเชิญประชุม ครั้งที่ 102 ในวันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2568 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมกรรมาธิการ N 402 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา โดยมีระเบียนวาระการประชุม ดังนี้ 1.เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม (ถ้ามี) 2.รับรองบันทึกการประชุม
.
3. เรื่องพิจารณาศึกษาและติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาการฟอกเงินของกลุ่มทุนกัมพูชาที่เชื่อมโยงกับสแกมเมอร์ กรณีของ Huione Group นายฮุนโต และกรณีการทำ MOU ระหว่างกระทรวงดิจิทัลฯ กับบริษัทไพรม์ ออพพอร์ทูนิตี้ ฟันด์ วีซีซี ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ รวมทั้งติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการกรณีของนายเบน สมิธ และนายยิม เลียก โดยเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ซึ่งปรากฎชื่อ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รมว.ดิจิทัลฯ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผบก.สอท. ผบก.สตม. เป็นต้น
.
https://x.com/RangsimanRome/status/1998613246618775603
JJNY : 5in1 ‘กมธ.แก้รธน.’จ่อขอมติปรับแก้ถ้อยคำ│เท้งห่วงท่าที│โรมเชิญถก│เท่าพิภพยกเคสซีเกมส์│อังกฤษ-ญี่ปุ่น-เวียดนามกังวล
https://www.matichon.co.th/politics/news_5498181
.
.
.
เท้ง ยันหากแก้รธน.ตาม MOA ยุบสภาเร็วไม่เสียหาย ห่วงท่าที อนุทิน ต่อสายตานานาชาติ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5497279
.
.
โรม เชิญ ‘อนุทิน-ไชยชนก’ ถกกมธ.มั่นคงฯ 11 ธ.ค. ปมดีอีทำ MOU บริษัทเครือข่ายเบนสมิธ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5497196
.