คือก็คิดแหละว่ามันน่าจะพีคหลังจากดูอีพี 5 จบ เพราะมันแทบจะเป็นจุดเปลี่ยนของแต่ละตัวละคร
แต่ turning point จริงๆ ของตัวละครหลักอย่างใบข้าวไม่ได้อยู่ที่อีพี 5 แต่อยู่ที่อีพี 6 นี้นี่แหละ
เอาดีดี คือแทบจะเป็นซีรีส์แนว horror อยู่แล้ว ใบข้าวน่ากลัวว่าผีแล้วตอนนี้
จากซีรีส์ที่หน้าปก เหมือน ซีรีส์วัยรุ่น เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ตัวละครเหมือนมีความแค้นและมาแก้แค้นเฉยๆ มันไปยิ่งกว่านั้นไปแล้ว
คือบทมันดาร์กไปไกลมากแล้ว เหมือนเรากำลังสำรวจตัวละครที่ ป่วยทางจิต โดยที่ไม่บอกเราว่ากำลังทำอยู่
เซอร์ไพร์สกับ เอมี่ ทสร มากนะ คือจริงๆดู mouse มาก็พอรู้แหละว่าเล่นดีเป็นธรรมชาติ แต่เรื่องนี้มันค่อนข้างจะแรงแล้วต้องมาชนกับแพตที่บทพีคมาก
แอบห่วงว่าจะไหวมั้ยเพราะคนนำเรื่องคือแพตก็จริงแต่เส้นเรื่องคนดูจะเอาใจช่วยที่ทิวลิปมากกว่า
แต่อีพีที่ 6 นี้ คือพิสูจน์เลยว่า เอมี่รอด ไม่จม ไม่หายแล้วประชันกับแพตได้แบบสูสี และ เดือดมาก
คือมีของเลยอ่ะ และดูท่าแล้วบทนี้ยังสามารถพัฒนาไปได้อีก และน่าจะมีอีกหลายซีนที่ได้ประชันกัน
คือตัวละครทิวลิปมันคือตัวละครที่เก็บ เป็นตัวที่ต้องเล่นน้อยแต่ได้มาก แล้วพอมันระเบิด
มันเลยอิมแพค ซึ่งเอมี่ กับพี่กู่คือใช้จุดตรงนี้ได้ดีมาก และคิดว่าน่าจะได้เห็นอีก
แต่ซีนเปิดของอีพีนี้คือให้เลย เล่นกระชากอารมณ์คนดูได้ดีและเรียลมาก
มันอาจจะไม่ได้ดูรุนแรงเหมือนเวอร์ชั่นไพลอต (ณ ตอนนี้อ่ะนะ) แต่นี่ว่าแบบนี้แหละพอดีแล้ว
เพราะมันคือการประชันระหว่าง "คนปกติ" กับ "คนไม่ปกติ"
พอ เอมี่ ปล่อยของเสร็จ แพต โซโล่ที่เหลือต่อ
แพต ชญานิษฐ์ คือ... โห เหมือนอวยแหละแต่ก็ใช่
คือ เล่นออกมาได้ธรรมชาติมาก เนียนไปกับตัวละคร ไม่ได้เล่นเยอะจนรู้สึกว่าเป็นการแสดง มันเป็นคาแรกเตอร์ที่ทำให้ดูเรียล ยากนะ
อีพีที่แล้วก็ว่าว้าวแล้ว อีพีนี้คือทำให้เข้าใจเลยว่าทำไมถึงเลือกแพต
และทำไมแพตถึงเลือกเล่นบทนี้
เราเคยบอกว่า บทนี้สำหรับเราน่าจะเป็นบทนำหญิง ที่ซับซ้อนที่สุดของปีนี้ ก็ยังคิดแบบนั้นอยู่
เพราะเราก็แอบคิดว่าตัวละครใบข้าวน่าจะมาถึงจุดนี้ แต่ไม่คิดว่าบทจะขยี้ขนาดนี้และเร็วแบบนี้
คือตัวพล็อตช่วงแรก ดูเผินๆ มันเหมือนทับไลน์คาแรกเตอร์เดิมที่แพตเคยเล่นไว้ ซึ่งก็คือบทวันวันในด้วยรักและหักหลัง
ก็เป็นเพื่อนรักหักหลังเหมือนกัน คนดูมองผ่านมันก็ไม่ได้ต่าง
แต่จริงๆตัวคาแรกเตอร์ใบข้าวที่แพตดีไซน์ออกมา มันแตกต่างนะ ค่อนข้างเยอะด้วย ทั้งวิธีการเดิน การจ้องมองคู่เล่น ที่ไม่ใช่การจ้องแบบคนปกติมอง
รวมถึงน้ำเสียงที่ใช้ในการพูดปกติ ที่จะมีความแบ้วมากขึ้น
และยิ่งต่างขึ้นเรื่อยๆเมื่อ อีพีมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งอาการของใบข้าวชัดขึ้นเท่าไหร่ยิ่งต่างขึ้นเท่านั้น
จนวันวัน แทบจะเป็นเด็กน้อยไปแล้วสำหรับ บทสายนี้ที่แพตรับมา วันวัน คือยังเป็นตัวละครที่มีความเป็นเส้นตรงอยู่บ้าง
ตลอดทุกอีพีที่ผ่านมาแพต กดอาการความไม่ปกติของตัวละครเอาไว้ แล้วเล่นหลายเลเยอร์ ด้วยดวงตาแทน ปากพูดอย่างแต่ตาพูดอีกอย่าง
ปากบอกไม่เป็นไรนะแต่ดวงตาดูสะใจ เป็นต้น ซึ่งมันไม่ง่ายนะ เพราะถ้าเล่นน้อยคนดูไม่รู้สึก แต่ถ้าเล่นเยอะคนจะรู้สึกว่าไม่จริง
แต่ความยากและซับซ้อนไม่ได้จบแค่นี้ เพราะว่าเวลาอยู่กับทิวลิป มันไม่ใช่เพราะแค้นอย่างเดียว
แต่ใบข้าวดูจะเห็นทิวลิปเป็นตัวแทนน้องสาวที่เสียไปด้วย คือมันเป็นตัวละครที่มีความคิดสองแบบที่บิดเบี้ยวอยู่ในหัว
เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่แค่ 2 เลเยอร์มันมากกว่านั้น
และเวลาที่โกหกหรือร้องไห้ มันไม่ใช่แค่ นสด มาพูดโกหกหรือมาร้องไห้ แต่มันคือใบข้าวพูดโกหก และใบข้าวแกล้งร้องไห้
คือตัวละครแทบจะเล่นซ้อนเลเยอร์เกือบจะตลอดเวลา
และเวลาที่เป็นซีนอารมณ์ ตัวละครตัวนี้เหมือนต้องสับสวิตซ์ได้ ขึ้นได้ก็ลงได้และเปลี่ยนเป็นอารมณ์อื่นได้อย่างรวดเร็ว
คือซีนนึงเหมือนต้องเล่นหลายอารมณ์ที่ต่างกันภายในซีน
อย่างตอนอีพี 5 ที่เป็นซีนปาดน้ำตาเปลี่ยนอารมณ์เป็นเย็นชา ร้องไห้อยู่ปาดปุ๊บแววตาเปลี่ยน
หรือตอนที่โกรธเพราะเต๋าดันไปชอบทิวลิปจริงๆ คือพอได้รับคำตอบเหมือนเปิดสวิตซ์แล้วขึ้นทันที จนโกรธตัวสั่น
นั่นว่าสุดแล้ว เจอแต่ละซีนในอีพี 6 เข้าไปนี่ ได้แต่ร้องโอ้โห
คือไม่รู้จะว้าวตรงไหนก่อนดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เปิดมาก็ประชันกับเอมี่ ที่คนนึงโกรธจนปากสั่น อีกคน ร้องไห้เพราะผิดแผนและต้องหว่านล้อมให้ทิวลิปยอมฟังจนตัวแดง
หรือตอนประชันหน้าอีกทีตอนไปหาทิวลิป เพื่อขอโอกาสแต่กลายเป็นต้องโกรธจนต่างคนต่างน้ำตาไหล
หรือจะซีนแพต กับ พี่เฟรช ที่เหมือนคนไม่ปกติสองคนสาดอารมณ์ใส่กัน ที่ต่างคนต่างเล่นเต็ม จนนางจิกแขนตัวเองเพื่อระงับอารมณ์
หรือจะซีน MVP ของอีพีนี้ ทั้งการแสดงและการตัดต่อ
ซีนหน้ากระจกที่หลังจากที่ทำบางอย่างเป็นครั้งแรก อารมณ์ที่ค่อยๆเปลี่ยนจากเหมือนจะไม่รู้สึกอะไร แต่จริงๆข้างในคือพัง
จนร้องไห้ไปหัวเราะไป และเหลือแต่หัวเราะอย่างสะใจกับตัวเอง เพราะคิดได้ว่าถ้าทำแบบนี้ตั้งแต่แรกกับวาววาก็จบ
เสร็จเช็คน้ำตาเปลี่ยนแววตาเป็นเยือกเย็น เป็นการ cross the line โดยสมบูรณ์
หรือจะซีน แพต กับ เจมี่ ที่ใบข้าวไม่รู้สึกอะไรแล้ว เพราะ cross the line ไปแล้วไม่ใช่การพลั้งมืออีกต่อไป และทำไปแบบเอาสะใจและเพื่อแผนการ
หรือจะซีนแกล้งร้องไห้ แกล้งช็อค ตอนให้ปากคำกับตำรวจ
และยังเหลืออีก 2 อีพี ที่ไม่รู้แล้วว่า ตัวละครตัวนี้จะไปสุดที่ตรงไหน แต่ที่แน่ๆ ที่ผ่านมาไม่มีซักซีนที่เบาสำหรับแพต
พัฒนาการของตัวละครใบข้าวไม่เคยหยุดอยู่กับที่มีแต่จะมากขึ้นและมากขึ้น
คือ แพต ชญานิษฐ์ ควรได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิง ในปีหน้าจริงๆอ่ะ
เพื่อนสนิทพิษสหาย EP6 - โห มันขนาดนี้เลยหรอ
แต่ turning point จริงๆ ของตัวละครหลักอย่างใบข้าวไม่ได้อยู่ที่อีพี 5 แต่อยู่ที่อีพี 6 นี้นี่แหละ
เอาดีดี คือแทบจะเป็นซีรีส์แนว horror อยู่แล้ว ใบข้าวน่ากลัวว่าผีแล้วตอนนี้
จากซีรีส์ที่หน้าปก เหมือน ซีรีส์วัยรุ่น เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ตัวละครเหมือนมีความแค้นและมาแก้แค้นเฉยๆ มันไปยิ่งกว่านั้นไปแล้ว
คือบทมันดาร์กไปไกลมากแล้ว เหมือนเรากำลังสำรวจตัวละครที่ ป่วยทางจิต โดยที่ไม่บอกเราว่ากำลังทำอยู่
เซอร์ไพร์สกับ เอมี่ ทสร มากนะ คือจริงๆดู mouse มาก็พอรู้แหละว่าเล่นดีเป็นธรรมชาติ แต่เรื่องนี้มันค่อนข้างจะแรงแล้วต้องมาชนกับแพตที่บทพีคมาก
แอบห่วงว่าจะไหวมั้ยเพราะคนนำเรื่องคือแพตก็จริงแต่เส้นเรื่องคนดูจะเอาใจช่วยที่ทิวลิปมากกว่า
แต่อีพีที่ 6 นี้ คือพิสูจน์เลยว่า เอมี่รอด ไม่จม ไม่หายแล้วประชันกับแพตได้แบบสูสี และ เดือดมาก
คือมีของเลยอ่ะ และดูท่าแล้วบทนี้ยังสามารถพัฒนาไปได้อีก และน่าจะมีอีกหลายซีนที่ได้ประชันกัน
คือตัวละครทิวลิปมันคือตัวละครที่เก็บ เป็นตัวที่ต้องเล่นน้อยแต่ได้มาก แล้วพอมันระเบิด
มันเลยอิมแพค ซึ่งเอมี่ กับพี่กู่คือใช้จุดตรงนี้ได้ดีมาก และคิดว่าน่าจะได้เห็นอีก
แต่ซีนเปิดของอีพีนี้คือให้เลย เล่นกระชากอารมณ์คนดูได้ดีและเรียลมาก
มันอาจจะไม่ได้ดูรุนแรงเหมือนเวอร์ชั่นไพลอต (ณ ตอนนี้อ่ะนะ) แต่นี่ว่าแบบนี้แหละพอดีแล้ว
เพราะมันคือการประชันระหว่าง "คนปกติ" กับ "คนไม่ปกติ"
พอ เอมี่ ปล่อยของเสร็จ แพต โซโล่ที่เหลือต่อ
แพต ชญานิษฐ์ คือ... โห เหมือนอวยแหละแต่ก็ใช่
คือ เล่นออกมาได้ธรรมชาติมาก เนียนไปกับตัวละคร ไม่ได้เล่นเยอะจนรู้สึกว่าเป็นการแสดง มันเป็นคาแรกเตอร์ที่ทำให้ดูเรียล ยากนะ
อีพีที่แล้วก็ว่าว้าวแล้ว อีพีนี้คือทำให้เข้าใจเลยว่าทำไมถึงเลือกแพต
และทำไมแพตถึงเลือกเล่นบทนี้
เราเคยบอกว่า บทนี้สำหรับเราน่าจะเป็นบทนำหญิง ที่ซับซ้อนที่สุดของปีนี้ ก็ยังคิดแบบนั้นอยู่
เพราะเราก็แอบคิดว่าตัวละครใบข้าวน่าจะมาถึงจุดนี้ แต่ไม่คิดว่าบทจะขยี้ขนาดนี้และเร็วแบบนี้
คือตัวพล็อตช่วงแรก ดูเผินๆ มันเหมือนทับไลน์คาแรกเตอร์เดิมที่แพตเคยเล่นไว้ ซึ่งก็คือบทวันวันในด้วยรักและหักหลัง
ก็เป็นเพื่อนรักหักหลังเหมือนกัน คนดูมองผ่านมันก็ไม่ได้ต่าง
แต่จริงๆตัวคาแรกเตอร์ใบข้าวที่แพตดีไซน์ออกมา มันแตกต่างนะ ค่อนข้างเยอะด้วย ทั้งวิธีการเดิน การจ้องมองคู่เล่น ที่ไม่ใช่การจ้องแบบคนปกติมอง
รวมถึงน้ำเสียงที่ใช้ในการพูดปกติ ที่จะมีความแบ้วมากขึ้น
และยิ่งต่างขึ้นเรื่อยๆเมื่อ อีพีมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งอาการของใบข้าวชัดขึ้นเท่าไหร่ยิ่งต่างขึ้นเท่านั้น
จนวันวัน แทบจะเป็นเด็กน้อยไปแล้วสำหรับ บทสายนี้ที่แพตรับมา วันวัน คือยังเป็นตัวละครที่มีความเป็นเส้นตรงอยู่บ้าง
ตลอดทุกอีพีที่ผ่านมาแพต กดอาการความไม่ปกติของตัวละครเอาไว้ แล้วเล่นหลายเลเยอร์ ด้วยดวงตาแทน ปากพูดอย่างแต่ตาพูดอีกอย่าง
ปากบอกไม่เป็นไรนะแต่ดวงตาดูสะใจ เป็นต้น ซึ่งมันไม่ง่ายนะ เพราะถ้าเล่นน้อยคนดูไม่รู้สึก แต่ถ้าเล่นเยอะคนจะรู้สึกว่าไม่จริง
แต่ความยากและซับซ้อนไม่ได้จบแค่นี้ เพราะว่าเวลาอยู่กับทิวลิป มันไม่ใช่เพราะแค้นอย่างเดียว
แต่ใบข้าวดูจะเห็นทิวลิปเป็นตัวแทนน้องสาวที่เสียไปด้วย คือมันเป็นตัวละครที่มีความคิดสองแบบที่บิดเบี้ยวอยู่ในหัว
เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่แค่ 2 เลเยอร์มันมากกว่านั้น
และเวลาที่โกหกหรือร้องไห้ มันไม่ใช่แค่ นสด มาพูดโกหกหรือมาร้องไห้ แต่มันคือใบข้าวพูดโกหก และใบข้าวแกล้งร้องไห้
คือตัวละครแทบจะเล่นซ้อนเลเยอร์เกือบจะตลอดเวลา
และเวลาที่เป็นซีนอารมณ์ ตัวละครตัวนี้เหมือนต้องสับสวิตซ์ได้ ขึ้นได้ก็ลงได้และเปลี่ยนเป็นอารมณ์อื่นได้อย่างรวดเร็ว
คือซีนนึงเหมือนต้องเล่นหลายอารมณ์ที่ต่างกันภายในซีน
อย่างตอนอีพี 5 ที่เป็นซีนปาดน้ำตาเปลี่ยนอารมณ์เป็นเย็นชา ร้องไห้อยู่ปาดปุ๊บแววตาเปลี่ยน
หรือตอนที่โกรธเพราะเต๋าดันไปชอบทิวลิปจริงๆ คือพอได้รับคำตอบเหมือนเปิดสวิตซ์แล้วขึ้นทันที จนโกรธตัวสั่น
นั่นว่าสุดแล้ว เจอแต่ละซีนในอีพี 6 เข้าไปนี่ ได้แต่ร้องโอ้โห
คือไม่รู้จะว้าวตรงไหนก่อนดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และยังเหลืออีก 2 อีพี ที่ไม่รู้แล้วว่า ตัวละครตัวนี้จะไปสุดที่ตรงไหน แต่ที่แน่ๆ ที่ผ่านมาไม่มีซักซีนที่เบาสำหรับแพต
พัฒนาการของตัวละครใบข้าวไม่เคยหยุดอยู่กับที่มีแต่จะมากขึ้นและมากขึ้น
คือ แพต ชญานิษฐ์ ควรได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิง ในปีหน้าจริงๆอ่ะ