เจ้าพ่อคาเวียร์จีน กำไรแรงแซงเหมาไถ เดินหน้ารุกตลาดฮ่องกง
.
บริษัท Xunlong Sci-tech (鲟龙科技) เจ้าของแบรนด์ Kaluga Queen (卡露伽) ผู้ผลิตคาเวียร์รายใหญ่ของจีน ยังคงขยายอิทธิพลในอุตสาหกรรมอาหารพรีเมียมอย่างต่อเนื่อง แม้เส้นทางสู่การเข้าตลาดทุนจะไม่ได้ราบรื่นนัก โดยข้อมูลจากหลายสำนักระบุว่า บริษัทกำลังเร่งเตรียมความพร้อมเพื่อยื่นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง หลังเคยพลาดการทำ IPO ในจีนถึงสามครั้งติดต่อกัน
.
หวังปิน ผู้ก่อตั้งบริษัทฯ จบจากมหาวิทยาลัยการประมงต้าเหลียน สาขาประมงน้ำจืด เขาเริ่มทำวิจัยการเพาะพันธุ์ปลาสเตอร์เจียนแบบครบวงจรที่ชานเมืองปักกิ่งในปี 1998 ก่อนที่จะก่อตั้ง Xunlong Sci-tech ในเดือนเมษายน 2003
.
ทีมของหวังปิน ต้องเผชิญกับความท้าทายแรก คือการแก้ปัญหา “เพาะเลี้ยงปลาสเตอร์เจียนจากจีนเหนือในภูมิภาคจีน” ซึ่งถือเป็นงานหนักอย่างยิ่ง ช่วงแรกพวกเขาย้ายฐานเพาะเลี้ยงจากปักกิ่งลงมาที่ทะเลสาบเฉียนเต่าในมณฑลเจ้อเจียง แต่ในปี 2005 กลับเกิดคลื่นความร้อนรุนแรง ส่งผลให้ฟาร์มได้รับความเสียหายหนักและกลายเป็นเรื่องที่ยังคงฝังใจเขามาจนถึงวันนี้
.
ปี 2016 บริษัทร่วมกับสถาบันประมงเฮยหลงเจียง สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการพัฒนาสายพันธุ์สเตอร์เจียนลูกผสมตัวแรกของจีน “ซุนหลงหมายเลข 1”
.
มีการใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อปรับปรุงการคัดเลือกสายพันธุ์และสูตรอาหาร ทำให้ช่วยเพิ่มปริมาณไข่ปลาได้อย่างชัดเจน ขณะที่เทคโนโลยีตรวจดีเอ็นเอทำให้แยกเพศได้ ทำให้กระบวนการเก็บไข่และคัดเกรดแปรรูปคาเวียร์เสร็จได้ใน 15 นาที และได้มาตรฐานยุโรป
.
แม้ว่าปริมาณการผลิตและการส่งออกจะเพิ่มขึ้นมาก แต่คำถามสำคัญคือ ตลาดจะยอมรับได้แค่ไหน และจะขายสินค้าให้ดีขึ้นได้อย่างไร
.
ในรอบสิบปีที่ผ่าน Xunlong Sci-tech เป็นบริษัทคาเวียร์รายใหญ่ที่สุดของโลกในแง่ปริมาณการขายสินค้า โดยบริษัทมุ่งเน้นผลิตสินค้าคุณภาพสูงส่งออกไปยังประเทศต่างๆแต่สำหรับในจีน บริษัทรับจ้างผลิตให้แบรนด์ระดับพรีเมียม
.
เส้นทางสู่การเป็นที่รู้จักของ Xunlong Sci-tech เกิดขึ้นหลังสายการบินลุฟท์ฮันซ่าของเยอรมัน พบว่าคาเวียร์แบรนด์เยอรมันที่ขายในซูเปอร์มาร์เก็ตพรีเมี่ยม ได้รับการผลิตจากแบรนด์ Kaluga ของ Xunlong Sci-tech จนตัดสินใจเลือกบริษัทเป็นผู้จัดหาคาเวียร์ในชั้นหนึ่ง
.
ต่อมาในปี 2017 Xunlong Sci-tech ยังได้รับเลือกเป็นซัพพลายเออร์แบบเอ็กซ์คลูซีฟในทุกเส้นทางบินของลุฟท์ฮันซ่า พร้อมทั้งได้รับโอกาสโลดแล่นในงานระดับโลก เช่น งานออสการ์และการประชุม G20 ส่งผลให้ภาพลักษณ์แบรนด์แข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด
.
อย่างไรก็ตาม เส้นทางสู่การเข้าตลาดฮ่องกงยังเผชิญความท้าทายหลายด้าน ทั้งข้อจำกัดด้านทรัพยากรน้ำเย็นที่จำเป็นต่อการเลี้ยงปลาสเตอร์เจียน และข้อจำกัดด้านพื้นที่ เพราะต้องอาศัยพื้นที่ที่มีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมและสภาพแวดล้อมเหมาะสม รวมถึงการที่แบรนด์ยังคงพึ่งพาซัพพลายเออร์ในระดับสูง ขณะที่ตลาดคาเวียร์ภายในจีนก็ยังจำกัดเฉพาะผู้บริโภคระดับบน อีกทั้งภาคการบริโภคอาหารหรูในจีนมีแนวโน้มชะลอตัวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
.
ต้นทุนการผลิตเองก็ยังเป็นความเสี่ยงหลัก เนื่องจากปลาสเตอร์เจียนต้องได้รับการเลี้ยงดูระยะยาวเพื่อเก็บไข่คาเวียร์หลายรอบ ทำให้บริษัทต้องแบกรับต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การขยายกำลังผลิตไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งถูกมองว่าเป็นกุญแจสำคัญต่อการเติบโต ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้
.
ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในฮ่องกงมองว่ าXunlong Sci-tech ยังคงต้องบริหารความเสี่ยงหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นมูลค่าสินทรัพย์ชีวภาพที่มีความผันผวน ความปลอดภัยด้านอาหาร ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และวัฏจักรของตลาดสินค้าแบรนด์หรู แต่ด้วยศักยภาพในฐานะผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดของโลก บริษัทก็ยังถูกจับตามองว่าอาจกลายเป็นหนึ่งในหุ้นอาหารพรีเมียมที่น่าจับตาที่สุดในตลาดฮ่องกงปีหน้า
.
.
📧 ติดต่อเรา Email: info@jeenthainews.com
.
#KalugaQueen #ไข่ปลาคาเวียร์
🐟เจ้าพ่อคาเวียร์จีน กำไรแรงแซงเหมาไถ เดินหน้ารุกตลาดฮ่องกง
.
บริษัท Xunlong Sci-tech (鲟龙科技) เจ้าของแบรนด์ Kaluga Queen (卡露伽) ผู้ผลิตคาเวียร์รายใหญ่ของจีน ยังคงขยายอิทธิพลในอุตสาหกรรมอาหารพรีเมียมอย่างต่อเนื่อง แม้เส้นทางสู่การเข้าตลาดทุนจะไม่ได้ราบรื่นนัก โดยข้อมูลจากหลายสำนักระบุว่า บริษัทกำลังเร่งเตรียมความพร้อมเพื่อยื่นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง หลังเคยพลาดการทำ IPO ในจีนถึงสามครั้งติดต่อกัน
.
หวังปิน ผู้ก่อตั้งบริษัทฯ จบจากมหาวิทยาลัยการประมงต้าเหลียน สาขาประมงน้ำจืด เขาเริ่มทำวิจัยการเพาะพันธุ์ปลาสเตอร์เจียนแบบครบวงจรที่ชานเมืองปักกิ่งในปี 1998 ก่อนที่จะก่อตั้ง Xunlong Sci-tech ในเดือนเมษายน 2003
.
ทีมของหวังปิน ต้องเผชิญกับความท้าทายแรก คือการแก้ปัญหา “เพาะเลี้ยงปลาสเตอร์เจียนจากจีนเหนือในภูมิภาคจีน” ซึ่งถือเป็นงานหนักอย่างยิ่ง ช่วงแรกพวกเขาย้ายฐานเพาะเลี้ยงจากปักกิ่งลงมาที่ทะเลสาบเฉียนเต่าในมณฑลเจ้อเจียง แต่ในปี 2005 กลับเกิดคลื่นความร้อนรุนแรง ส่งผลให้ฟาร์มได้รับความเสียหายหนักและกลายเป็นเรื่องที่ยังคงฝังใจเขามาจนถึงวันนี้
.
ปี 2016 บริษัทร่วมกับสถาบันประมงเฮยหลงเจียง สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการพัฒนาสายพันธุ์สเตอร์เจียนลูกผสมตัวแรกของจีน “ซุนหลงหมายเลข 1”
.
มีการใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อปรับปรุงการคัดเลือกสายพันธุ์และสูตรอาหาร ทำให้ช่วยเพิ่มปริมาณไข่ปลาได้อย่างชัดเจน ขณะที่เทคโนโลยีตรวจดีเอ็นเอทำให้แยกเพศได้ ทำให้กระบวนการเก็บไข่และคัดเกรดแปรรูปคาเวียร์เสร็จได้ใน 15 นาที และได้มาตรฐานยุโรป
.
แม้ว่าปริมาณการผลิตและการส่งออกจะเพิ่มขึ้นมาก แต่คำถามสำคัญคือ ตลาดจะยอมรับได้แค่ไหน และจะขายสินค้าให้ดีขึ้นได้อย่างไร
.
ในรอบสิบปีที่ผ่าน Xunlong Sci-tech เป็นบริษัทคาเวียร์รายใหญ่ที่สุดของโลกในแง่ปริมาณการขายสินค้า โดยบริษัทมุ่งเน้นผลิตสินค้าคุณภาพสูงส่งออกไปยังประเทศต่างๆแต่สำหรับในจีน บริษัทรับจ้างผลิตให้แบรนด์ระดับพรีเมียม
.
เส้นทางสู่การเป็นที่รู้จักของ Xunlong Sci-tech เกิดขึ้นหลังสายการบินลุฟท์ฮันซ่าของเยอรมัน พบว่าคาเวียร์แบรนด์เยอรมันที่ขายในซูเปอร์มาร์เก็ตพรีเมี่ยม ได้รับการผลิตจากแบรนด์ Kaluga ของ Xunlong Sci-tech จนตัดสินใจเลือกบริษัทเป็นผู้จัดหาคาเวียร์ในชั้นหนึ่ง
.
ต่อมาในปี 2017 Xunlong Sci-tech ยังได้รับเลือกเป็นซัพพลายเออร์แบบเอ็กซ์คลูซีฟในทุกเส้นทางบินของลุฟท์ฮันซ่า พร้อมทั้งได้รับโอกาสโลดแล่นในงานระดับโลก เช่น งานออสการ์และการประชุม G20 ส่งผลให้ภาพลักษณ์แบรนด์แข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด
.
อย่างไรก็ตาม เส้นทางสู่การเข้าตลาดฮ่องกงยังเผชิญความท้าทายหลายด้าน ทั้งข้อจำกัดด้านทรัพยากรน้ำเย็นที่จำเป็นต่อการเลี้ยงปลาสเตอร์เจียน และข้อจำกัดด้านพื้นที่ เพราะต้องอาศัยพื้นที่ที่มีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมและสภาพแวดล้อมเหมาะสม รวมถึงการที่แบรนด์ยังคงพึ่งพาซัพพลายเออร์ในระดับสูง ขณะที่ตลาดคาเวียร์ภายในจีนก็ยังจำกัดเฉพาะผู้บริโภคระดับบน อีกทั้งภาคการบริโภคอาหารหรูในจีนมีแนวโน้มชะลอตัวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
.
ต้นทุนการผลิตเองก็ยังเป็นความเสี่ยงหลัก เนื่องจากปลาสเตอร์เจียนต้องได้รับการเลี้ยงดูระยะยาวเพื่อเก็บไข่คาเวียร์หลายรอบ ทำให้บริษัทต้องแบกรับต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การขยายกำลังผลิตไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งถูกมองว่าเป็นกุญแจสำคัญต่อการเติบโต ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้
.
ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในฮ่องกงมองว่ าXunlong Sci-tech ยังคงต้องบริหารความเสี่ยงหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นมูลค่าสินทรัพย์ชีวภาพที่มีความผันผวน ความปลอดภัยด้านอาหาร ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และวัฏจักรของตลาดสินค้าแบรนด์หรู แต่ด้วยศักยภาพในฐานะผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดของโลก บริษัทก็ยังถูกจับตามองว่าอาจกลายเป็นหนึ่งในหุ้นอาหารพรีเมียมที่น่าจับตาที่สุดในตลาดฮ่องกงปีหน้า
.
.
📧 ติดต่อเรา Email: info@jeenthainews.com
.
#KalugaQueen #ไข่ปลาคาเวียร์