กกต. แจงวิธีคำนวณส.ส.เขต-ปาร์ตี้ลิสต์ ยันยึดหลักกฎหมาย-คำวินิจฉัยศาลรธน.เคร่งครัด
https://www.matichon.co.th/politics/news_5492321
.

.
กกต. แจงย้ำวิธีคำนวณสส.เขต-ปาร์ตี้ลิสต์ ใช้จำนวนราษฎรสัญชาติไทย ณ 31 ธ.ค.ก่อนปีที่จะเลือกตั้ง
.
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่เอกสารข่าวระบุว่า กรณีการประกาศจำนวน ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและจำนวนเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดจะพึงมี ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2568 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 โดยมีสาระสำคัญดังนี้
.
1. การกำหนดจำนวน ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 400 เขต เป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 86 (1) ซึ่งบัญญัติให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้ง เฉลี่ยด้วยจำนวน ส.ส. 400 คน โดยได้นำจำนวนราษฎรสัญชาติไทยทั่วราชอาณาจักร ณ วันที่ 31 ธ.ค.2567 จำนวน 64,953,661 คน มาใช้เป็นฐานคำนวณ แล้วหารด้วยจำนวน ส.ส. 400 คน ส่งผลให้มีค่าเฉลี่ย 162,384 คน ต่อ สส. 1 คน (รายละเอียดตามประกาศ กกต.จำนวน สส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง)
.
2. กรณีที่มีการยุบสภาและต้องจัดให้มีการเลือกตั้งเป็นการทั่วไป ปี พ.ศ. 2569 และสำนักทะเบียนกลางได้มีประกาศ เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักรตามหลักฐานทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2568 จะกำหนดจำนวน ส.ส. และเขตเลือกตั้ง ส.ส. ในแต่ละจังหวัดใหม่ โดยนำจำนวนราษฎรสัญชาติไทย ณ วันที่ 31 ธ.ค.68 มาใช้เป็นฐานคำนวณตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ อาจส่งผลให้บางจังหวัดมีจำนวน สส. และเขตเลือกตั้งเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้
.
3. จำนวน ส.ส. และจำนวนเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดพึงมี ใช้ข้อมูลจำนวนราษฎรที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น โดยไม่ได้นำข้อมูลจำนวนราษฎรที่ไม่มีสัญชาติมาใช้ในการคำนวณจำนวน ส.ส.และจำนวนเขตเลือกตั้ง (ซึ่งเป็นไปตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 2/2566 เมื่อวันที่ 3 มี.ค.66 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยว่า การกำหนดจำนวน ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 86 (1) ที่กำหนดให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้ง นั้น คำว่า “ราษฎร” ไม่รวมถึงผู้ไม่ได้สัญชาติไทย) รายละเอียดตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
.
สำนักงาน กกต. ขอเรียนว่า การกำหนดจำนวน ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เป็นการดำเนินการโดยยึดหลักกฎหมาย รัฐธรรมนูญ และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด
.
.
ฮุน เซน สวนชาวเน็ตไทย โวกัมพูชาไม่ได้ใช้เงินจีนจัดซีเกมส์
.
ฮุน เซน สวนชาวเน็ตไทย โวกัมพูชาไม่ได้ใช้เงินจีนจัดซีเกมส์
.
สำนักข่าว “พนมเปญ โพสต์” รายงานว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาตำหนิชาวไทย ที่แสดงความคิดเห็นว่า การที่กัมพูชาเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 เมื่อ 2 ปีก่อนนั้น ใช้เงินทุนจากประเทศจีน ต่างจากประเทศไทยที่เป็นเจ้าภาพด้วยเงินของตัวเอง
.
ฮุน เซน ได้โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้โพสต์วิดีโอพิธีปิดกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ในเพจเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของตัวเอง ไม่ได้มีเจตนาจะดูหมิ่นประเทศไทย ซึ่งเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และไม่ได้ต้องการจะเอากัมพูชาไปเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ เพราะแต่ละประเทศก็มีวิธีจัดการปัญหาของตนเอง และไม่กล้าไปเปรียบเทียบกับประเทศไทย ที่มีบางคนออกมาอ้างว่าประเทศไทยเป็นประเทศร่ำรวย และดูถูกกัมพูชาว่าเป็นประเทศยากจน มีคนขอทานครึ่งประเทศ
.
“ผมยิ่งตกใจไปกว่านั้น เมื่อคนไทยบางคนบอกว่า คงไม่สามารถเทียบการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ของกัมพูชาและไทยได้ เพราะกัมพูชาใช้เงินของจีนในการเป็นเจ้าภาพ มันตอกย้ำถึงทัศนคติของคนไทยที่ชอบดูถูกคนอื่นด้วยการแต่งเรื่องขึ้นมา”
.
อย่างไรก็ตามฮุน เซน ได้ออกมายอมรับว่า รัฐบาลจีนได้ช่วยเหลือในการสร้างสนามกีฬามรดกเตโช ซึ่งเป็นสนามพิธีเปิด-ปิด การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ว่า อยากใช้โอกาสนี้ในการขอบคุณมิตรสหายชาวจีนที่ช่วยสร้างสนามกีฬาแห่งนี้ ซึ่งกัมพูชาจะได้ใช้ประโยชน์ไปอีกในอนาคต
.
นอกจากนั้น ฮุน เซน ยังได้อธิบายถึงงบประมาณในการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ว่า รัฐบาลกัมพูชาได้ใช้งบประมาณตั้งแต่ปี 2018-2022 ตกปีะละประมาณ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(318 ล้านบาท) รวมแล้ว 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(1,593 ล้านบาท) และรวมกับงบประมาณปี 2023 อีก 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(4,781 ล้านบาท) รวมเป็น 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(6,375 ล้านบาท) ไม่นับรวมกับการเป็นเจ้าภาพกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 และเงินรางวัลของนักกีฬา อีก 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(4,143 ล้านบาท) ถึงแม้จะเป็นครั้งแรกที่กัมพูชาจัดซีเกมส์ แต่ก็สร้างความประหลาดใจให้กับทั่วโลก ที่จัดโดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายจากทุกชาติที่มาร่วมแข่งขันเลย
.
“ถึงแม้ว่าเราจะเป็นประเทศที่จน มีทรัพยากรน้อย แต่เราไม่ได้จนที่หัวใจ เราใช้เงินถึง 12 ล้านดอลลาร์ ในการดูแลเพื่อนของเรา หวังว่าคนไทยที่บอกว่าอย่าเอาไทยไปเปรียบเทียบกับกัมพูชา และกัมพูชาใช้เงินของจีนในการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ จะพิจารณาคำพูดของตัวเองใหม่ เพราะไม่ใช่แค่การดูถูกกัมพูชาเท่านั้น แต่เป็นการตบหน้าจีนด้วย” ฮุน เซน ระบุในโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดีย
.
.
4 จว.ใต้ยังท่วม กระทบกว่า 7.9 หมื่นครัวเรือน เร่งช่วยเหลือเยียวยาปชช.ต่อเนื่อง
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_5492173
.
4 จว.ใต้ยังท่วม กระทบกว่า 7.9 หมื่นครัวเรือน เร่งช่วยเหลือเยียวยาปชช.อย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ปัจจุบันยังมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 4 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง และ สงขลา รวม 17 อำเภอ 92 ตำบล 499 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 79,662 ครัวเรือน 222,204 คน ดังนี้
.
จ.สุราษฎร์ธานี มีสถานการณ์ในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ เคียนซา พระแสง บ้านนาสาร พุนพิน และบ้านนาเดิม 13 ตำบล 44 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 786 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
.
จ.นครศรีธรรมราช มีสถานการณ์ในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ ชะอวด เมืองฯ เฉลิมพระเกียรติ ปากพนัง พระพรหม และเชียรใหญ่ 22 ตำบล 72 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,586 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
.
จ.ตรัง มีสถานการณ์ในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ กันตัง และเมืองฯ 19 ตำบล 132 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,274 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
จ.สงขลา มีสถานการณ์ในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ ระโนด กระแสสินธุ์ สทิงพระ และสิงหนคร 38 ตำบล 251 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 69,016 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
.
ถึงแม้สถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลายลงแล้วในหลายพื้นที่ แต่ความช่วยเหลือยังถูกส่งต่อถึงประชาชนอย่างต่อเนื่องโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) บูรณาการกับทีมมหาดไทยและหน่วยงานเครือข่าย ระดมสรรพกำลังเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ยังได้รับผลกระทบ 4 จังหวัด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน ทั้งแจกจ่ายสิ่งของจำเป็น ถุงยังชีพและถุงยังชีพพระราชทาน ประกอบอาหารกล่องและผลิตน้ำดื่มสะอาด ติดตั้งรถบรรทุกเครื่องสูบน้ำระยะไกลเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ ระบบไฮดรอลิค และรถสูบน้ำกู้ภัยเคลื่อนที่สมรรถนะสูง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ที่น้ำท่วมขัง ทำความสะอาด กำจัดขยะ เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และเร่งจ่ายเงินเยียวยาประชาชนตามระเบียบและกฎหมายที่กำหนด
JJNY : กกต.แจงวิธีคำนวณส.ส.เขต-ปาร์ตี้ลิสต์│ฮุนเซนสวนชาวเน็ตไทย│4จว.ใต้ยังท่วม│ญี่ปุ่นเผย บินรบจีนล็อกยิงอากาศยานญี่ปุ่น
https://www.matichon.co.th/politics/news_5492321
.
.
กกต. แจงย้ำวิธีคำนวณสส.เขต-ปาร์ตี้ลิสต์ ใช้จำนวนราษฎรสัญชาติไทย ณ 31 ธ.ค.ก่อนปีที่จะเลือกตั้ง
.
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่เอกสารข่าวระบุว่า กรณีการประกาศจำนวน ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและจำนวนเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดจะพึงมี ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2568 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 โดยมีสาระสำคัญดังนี้
.
1. การกำหนดจำนวน ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 400 เขต เป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 86 (1) ซึ่งบัญญัติให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้ง เฉลี่ยด้วยจำนวน ส.ส. 400 คน โดยได้นำจำนวนราษฎรสัญชาติไทยทั่วราชอาณาจักร ณ วันที่ 31 ธ.ค.2567 จำนวน 64,953,661 คน มาใช้เป็นฐานคำนวณ แล้วหารด้วยจำนวน ส.ส. 400 คน ส่งผลให้มีค่าเฉลี่ย 162,384 คน ต่อ สส. 1 คน (รายละเอียดตามประกาศ กกต.จำนวน สส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง)
.
2. กรณีที่มีการยุบสภาและต้องจัดให้มีการเลือกตั้งเป็นการทั่วไป ปี พ.ศ. 2569 และสำนักทะเบียนกลางได้มีประกาศ เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักรตามหลักฐานทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2568 จะกำหนดจำนวน ส.ส. และเขตเลือกตั้ง ส.ส. ในแต่ละจังหวัดใหม่ โดยนำจำนวนราษฎรสัญชาติไทย ณ วันที่ 31 ธ.ค.68 มาใช้เป็นฐานคำนวณตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ อาจส่งผลให้บางจังหวัดมีจำนวน สส. และเขตเลือกตั้งเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้
.
3. จำนวน ส.ส. และจำนวนเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดพึงมี ใช้ข้อมูลจำนวนราษฎรที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น โดยไม่ได้นำข้อมูลจำนวนราษฎรที่ไม่มีสัญชาติมาใช้ในการคำนวณจำนวน ส.ส.และจำนวนเขตเลือกตั้ง (ซึ่งเป็นไปตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 2/2566 เมื่อวันที่ 3 มี.ค.66 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยว่า การกำหนดจำนวน ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 86 (1) ที่กำหนดให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้ง นั้น คำว่า “ราษฎร” ไม่รวมถึงผู้ไม่ได้สัญชาติไทย) รายละเอียดตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
.
สำนักงาน กกต. ขอเรียนว่า การกำหนดจำนวน ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เป็นการดำเนินการโดยยึดหลักกฎหมาย รัฐธรรมนูญ และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด
.
.
.
4 จว.ใต้ยังท่วม กระทบกว่า 7.9 หมื่นครัวเรือน เร่งช่วยเหลือเยียวยาปชช.ต่อเนื่อง
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_5492173
.