JJNY : ภาพคู่ ‘เบน สมิธ’ อาจไม่ชี้ชัดโยงทุนเทา│แพท สาปคนโกงงบซีเกมส์ 2025│น้ำท่วมอยุธยายังหนัก│จับตา! สหรัฐเล็งแบนอีก

กระทู้ข่าว

รัฐศาสตร์ การเมือง ข่าวกีฬา อุทกภัย ข่าวต่างประเทศ

นักวิชาการชี้ ภาพคู่ ‘เบน สมิธ’ อาจไม่ชี้ชัดโยงทุนเทา แนะติดตามเส้นเงินผิดกม. สำคัญกว่า

https://www.matichon.co.th/politics/news_5489754

นักวิชาการชี้ ภาพ เบน สมิธ กับนักการเมืองไทยอาจไม่ใช่ข้อมูลที่ช่วยสรุปความเชื่อมโยงทุนสีเทาได้ชัดเจน ย้ำควรให้ความสำคัญกับการติดตามเส้นเงินผิดกฎหมายมากกว่า

ดร.สติธร ธนานิธิโชติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความเห็นต่อกรณีมีการเผยแพร่ภาพเก่าของนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมกับนักการเมืองไทยหลายราย จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในทางการเมืองอย่างกว้างขวางว่า การใช้ภาพถ่ายเก่าเป็นข้อสรุปเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมืองกับขบวนการทุนเทา เป็นการตีความที่ด่วนสรุปเกินไป และไม่ใช่หลักฐานที่เพียงพอในการดำเนินคดีกับขบวนการทุนเทาได้

ดร.สติธร ระบุว่า ภาพที่ปรากฏมีอายุเกิน 10 ปี ในช่วงเวลาที่ “ตัวละครทางการเมือง” ยังอยู่ในสถานะที่แตกต่างจากปัจจุบัน เช่น ภาพที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล อยู่ร่วมเฟรมกับเบน สมิธ ในเวลานั้น ยังเป็นช่วงที่นายอนุทิน น่าจะยังเว้นวรรคทางการเมือง หรือหากกลับมาแล้ว ก็ยังไม่มีอำนาจแต่อย่างใด ยังมีสถานะเป็นนักธุรกิจเสียมากกว่าด้วยซ้ำ และแน่นอนว่าไม่มีใครคาดคิดว่าอีกหลายปีต่อมา นายอนุทินจะก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

เช่นเดียวกับกรณีภาพนายทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกเผยแพร่ในช่วงกลางปี ดร.สติธร ยืนยันว่า ไม่สามารถนำภาพถ่ายมาฟันธงได้ว่าเป็นความเกี่ยวข้องเชิงธุรกิจ หรือเป็นการสนับสนุนเครือข่ายสีเทา พร้อมระบุว่า ภาพถ่ายหนึ่งภาพ ไม่ใช่หลักฐานยืนยันความสัมพันธ์เชิงลึกได้

นักวิชาการชี้ว่า ประเด็นที่สังคมควรให้ความสำคัญ ไม่ใช่การจับผิดจากภาพถ่าย แต่ควรให้ความสนใจต่อ เส้นทางการเงินของเครือข่ายทุนเทา ว่ามีการไหลเข้าสู่กลุ่มบุคคลหรือองค์กรใดในประเทศไทยบ้าง โดยเน้นว่า หากต้องการตรวจสอบเพื่อประโยชน์สาธารณะ ควรเริ่มจากข้อมูลที่เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่พิสูจน์ได้ มากกว่าการสรุปหรือตีความจากหลักฐานเทียบเคียงอื่น ๆ ซึ่งไม่สามารถยืนยันอะไรที่นำมาใช้ในทางกฎหมายได้

ดร.สติธร ระบุว่า ในช่วงที่สังคมกำลังตื่นตัวกับประเด็นทุนสีเทาและแก๊งสแกมเมอร์ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการติดตามเส้นเงินเทาของเครือข่ายเบน สมิธ ซึ่งจะชี้ชัดได้ว่ามีบุคคลหรือหน่วยงานใดเข้าไปเกี่ยวข้องกับเงินผิดกฎหมายเหล่านี้ โดยย้ำว่า นี่คือแก่นของปัญหาที่ควรเร่งดำเนินการตรวจสอบ ก่อนที่หลักฐานสำคัญจะถูกทำลายหรือตัดเส้นทางความเชื่อมโยงไปเสียก่อน

ดร.สติธรทิ้งท้ายว่า เจ้าหน้าที่รัฐ หน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ และประชาชนที่มีข้อมูลควรร่วมด้วยช่วยกันติดตามเส้นทางการเงินเทาอย่างรอบด้าน เพราะจะเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโปงความเชื่อมโยงที่แท้จริง และเป็นข้อมูลที่สามารถนำไปสู่การดำเนินการเอาผิดลงโทษผู้กระทำความผิดตามกฎหมายได้อย่างชัดเจน

.
แพท วงเคลียร์ โพสต์เดือด! สาปคนโกงงบซีเกมส์ 2025 ขอให้ตกต่ำ-ไม่เจริญ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_10047455
.
แพท วงเคลียร์ ไม่ขอทนแล้ว โพสต์เดือด! ไม่มีอ้อมค้อม สาปคนโกงงบซีเกมส์ 2025 ขอให้ตกต่ำ ไม่เจริญ ทำชาวเน็ตร่วมคอมเมนต์สนั่น
.
ซีเกมส์ 2025 กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไม่เว้นวัน ทั้งประเด็นออร์แกไนซ์พิธีเปิด–ปิดเผยว่า ถูกลอยแพก่อนงานเริ่มเพียงหนึ่งเดือน แถมยังไม่ได้รับเงินที่ควรได้, โปสเตอร์กิจกรรมวิ่งใช้ภาพ AI, ขาดสิ่งอำนวยความสะดวกให้นักกีฬา, ขาดการประชาสัมพันธ์
.
ท่ามกลางเสียงวิจารณ์งบประมาณ ซีเกมส์ 2025 ที่ ผู้ว่า กกท. ระบุว่า บางรายการต้องประหยัดเพราะงบที่ได้น้อยกว่ากัมพูชาหลายพันล้าน ทำให้ยิ่งเกิดคำถามถึงการบริหารจัดการ
.
แพท วงเคลียร์ หรือ รัณนภันต์ ยั่งยืนพูนชัย ได้โพสต์อินสตาแกรม @patklear แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องงบ ซีเกมส์ 2025 แบบไม่อ้อมค้อมใ พร้อมสาปแช่งคนโกงกินเงินหลวงอย่างดุเดือด โดยโพสต์ข้อความระบุว่า

“แพทขอยืมภาพของพี่ต้นนะคะ สุดจะทนแล้วค่ะ ไม่มีความละอายกันบ้างเลย เงินมันหอม เงินมันให้อำนาจให้ความสบายก็จริง แต่เงินที่ร้อน เงินเทา เงินที่โกงกินบ้านเมืองมา มันจะเป็นเงินที่ทำให้ชีวิตคุณร่ำร้อนตลอดชีวิตนี้ไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานคุณ มันจะกลายเป็นกรรมของตระกูล แล้วต่อไปนอกจากประชาชนคนในประเทศจะสาปแช่งพวกคุณแล้ว ลูกหลานคุณจะสาปส่งคุณด้วยเช่นกัน คุณจะเป็นคนแก่ที่ไร้ความสุขแน่นอน”
.
https://www.instagram.com/patklear/p/DR1fPpqAWiL/
.

น้ำท่วมอยุธยายังหนัก ตัวเลขสูงถึง 13 อำเภอ คาดกลับเข้าสู่สภาวะปกติหลังปีใหม่

https://www.thairath.co.th/news/local/2899982

น้ำท่วมอยุธยายังหนัก ตัวเลขยังคงสูงถึง 13 อำเภอ กระทบ 71,670 ครัวเรือน ชาวบ้านริมแม่น้ำน้อยยังถูกน้ำท่วมสูง เผยปีนี้น้ำท่วมนานมาก คาดกลับเข้าสู่สภาวะปกติหลังปีใหม่

วันที่ 5 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท มีการปรับการระบายน้ำลดลง แต่ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย คลองสาขาต่างๆ ยังคงท่วมสูง ระดับน้ำเริ่มลดลงแต่ยังคงท่วมในหลายพื้นที่อยู่ ยิ่งเป็นชาวบ้านริมแม่น้ำยังคงได้รับผลกระทบหนัก

น้ำท่วมส่งผลให้ตอนนี้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม 13 อำเภอ 160 ตำบล 1,017 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนสูงถึง 71,670 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 20 ราย วัดถูกน้ำท่วม 38 แห่ง โรงเรียน 33 แห่ง มัสยิด 2 แห่ง ถนนในหมู่บ้าน 58 สาย สถานที่ราชการ 8 แห่ง

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มี 16 อำเภอ ยังคงได้รับผลกระทบน้ำท่วม 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอบางไทร อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางปะอิน อำเภอบางปะหัน อำเภอบางซ้าย อำเภอบ้านแพรก อำเภอลาดบัวหลวง อำเภอมหาราช อำเภอนครหลวง และอำเภอวังน้อย

ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยัง ชุมชนบ้านหัวเวียง หมู่ที่ 2 ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นชุมชนที่มีลักษณะอยู่ติดริมแม่น้ำน้อย ได้รับผลกระทบน้ำท่วมมานานกว่า 4 เดือน วัดหัวเวียง โรงเรียน บ้านเรือนประชาชน พบว่ายังถูกน้ำท่วมอยู่หลายจุดโดยเฉพาะบ้านที่ปลูกติดริมแม่น้ำยังคงท่วมสูง 1–2 เมตร

แม้สถานการณ์เริ่มดีขึ้นระดับน้ำเริ่มลดลง ประชาชนเริ่มเข้าบ้านพักตัวเองได้แล้ว หลังบ้านบางหลังท่วมสูงถึงชั้น 2 ระดับน้ำในชุมชนเริ่มลด ตามถนนเริ่มแห้ง หลายจุดเริ่มมีการฉีดล้างทำความสะอาดคราบโคลน แต่ที่ที่ชาวบ้านพูดเสียงเดียวกันว่า ปีนี้น้ำท่วมนานมาก อยากให้น้ำลดลงเร็วๆ คาดว่าจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ก็คงต้องหลังปีใหม่แล้ว.