จับตา Mega Trend ที่อยู่อาศัยผู้สูงวัย
เนิร์สซิ่งโฮม VS ซีเนียร์เฮาซิ่ง
เทรนด์ภาคบังคับมีแนวโน้มเติบโตทั้งเช่าและซื้อ
• ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด
(Super Aged Society) ภายในปี 2574
โดยมีประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัยมีแนวโน้มเติบโต
อย่างโดดเด่นทั้งในรูปแบบการซื้อและการเช่า
• ตลาดเนิร์สซิ่งโฮม ซึ่งให้บริการดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิง
พบว่าแม้จำนวนโครงการและเตียงโดยรวมจะลดลงในปี 2568
แต่มีแนวโน้มการแข่งขันที่ลดลงและอัตราการเช่าเฉลี่ยสูงขึ้นถึง 81%
โดยเฉพาะกลุ่มราคาค่าเช่าไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน
ซึ่งมีความต้องการสูงแต่ซัพพลายยังไม่เพียงพอ
• สำหรับตลาดเนิร์สซิ่งโฮมระดับ Luxury ที่มีค่าเช่าเกิน 100,000 บาทต่อเดือน
พบว่ามีซัพพลายเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 127%
และมีอัตราการเช่าสูงถึง 88% ในปี 2568
ซึ่งบ่งชี้ถึงความต้องการที่พักที่มีคุณภาพระดับโรงพยาบาล
• ส่วนตลาดซีเนียร์เรสซิเดนซ์เพื่อขาย มีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะในกลุ่มราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท (Mass-mid Market)
ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเติบโตรวดเร็ว
ตามมาด้วยตลาดกลาง-บน (Mid-upper)
ที่เน้นคุณภาพโครงการและสิ่งอำนวยความสะดวก
• อย่างไรก็ตาม ตลาดซีเนียร์เรสซิเดนซ์ระดับไฮเอนด์ (7.5-20 ล้านบาท)
ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก ทำให้มีอัตราการขายลดลงอย่างมาก
โดยเฉพาะในปี 2568 อัตราการขายอยู่ที่ 44%
• ในทางกลับกัน ตลาดซีเนียร์เรสซิเดนซ์ให้เช่ามีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ
โดยซัพพลายเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ในขณะที่ความต้องการเช่าเติบโตเร็วกว่า
ส่งผลให้อัตราการเช่าสูงถึง 94% ในปี 2568
ซึ่งสะท้อนพฤติกรรมผู้สูงอายุที่เลือกเช่าแทนซื้อมากขึ้น
• ข้อสรุปสำคัญคือ ตลาดเช่าที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัยเติบโตเร็วกว่าการซื้อ
และกำลังอยู่ในช่วงขยายตัว โครงการที่ประสบความสำเร็จมักเป็นการนำเสนอรูปแบบ Community + Care ที่มีบริการทางการแพทย์และพยาบาล 24 ชั่วโมง
ควบคู่กับกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ
ขอบคุณข้อมูลจาก : ประชาชาติธุรกิจ
(อ่านเพิ่มเติม :
https://www.prachachat.net/property/news-1926514 )
CR
https://www.facebook.com/share/1Rxqdn8GMj/?mibextid=wwXIfr
เทรนด์ เนอรสซิ่งโฮม vs ซีเนียร์เฮาส์ซิ่ง กำลังมา🏘️
เนิร์สซิ่งโฮม VS ซีเนียร์เฮาซิ่ง
เทรนด์ภาคบังคับมีแนวโน้มเติบโตทั้งเช่าและซื้อ
• ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด
(Super Aged Society) ภายในปี 2574
โดยมีประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัยมีแนวโน้มเติบโต
อย่างโดดเด่นทั้งในรูปแบบการซื้อและการเช่า
• ตลาดเนิร์สซิ่งโฮม ซึ่งให้บริการดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิง
พบว่าแม้จำนวนโครงการและเตียงโดยรวมจะลดลงในปี 2568
แต่มีแนวโน้มการแข่งขันที่ลดลงและอัตราการเช่าเฉลี่ยสูงขึ้นถึง 81%
โดยเฉพาะกลุ่มราคาค่าเช่าไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน
ซึ่งมีความต้องการสูงแต่ซัพพลายยังไม่เพียงพอ
• สำหรับตลาดเนิร์สซิ่งโฮมระดับ Luxury ที่มีค่าเช่าเกิน 100,000 บาทต่อเดือน
พบว่ามีซัพพลายเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 127%
และมีอัตราการเช่าสูงถึง 88% ในปี 2568
ซึ่งบ่งชี้ถึงความต้องการที่พักที่มีคุณภาพระดับโรงพยาบาล
• ส่วนตลาดซีเนียร์เรสซิเดนซ์เพื่อขาย มีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะในกลุ่มราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท (Mass-mid Market)
ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเติบโตรวดเร็ว
ตามมาด้วยตลาดกลาง-บน (Mid-upper)
ที่เน้นคุณภาพโครงการและสิ่งอำนวยความสะดวก
• อย่างไรก็ตาม ตลาดซีเนียร์เรสซิเดนซ์ระดับไฮเอนด์ (7.5-20 ล้านบาท)
ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก ทำให้มีอัตราการขายลดลงอย่างมาก
โดยเฉพาะในปี 2568 อัตราการขายอยู่ที่ 44%
• ในทางกลับกัน ตลาดซีเนียร์เรสซิเดนซ์ให้เช่ามีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ
โดยซัพพลายเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ในขณะที่ความต้องการเช่าเติบโตเร็วกว่า
ส่งผลให้อัตราการเช่าสูงถึง 94% ในปี 2568
ซึ่งสะท้อนพฤติกรรมผู้สูงอายุที่เลือกเช่าแทนซื้อมากขึ้น
• ข้อสรุปสำคัญคือ ตลาดเช่าที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัยเติบโตเร็วกว่าการซื้อ
และกำลังอยู่ในช่วงขยายตัว โครงการที่ประสบความสำเร็จมักเป็นการนำเสนอรูปแบบ Community + Care ที่มีบริการทางการแพทย์และพยาบาล 24 ชั่วโมง
ควบคู่กับกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ
ขอบคุณข้อมูลจาก : ประชาชาติธุรกิจ
(อ่านเพิ่มเติม : https://www.prachachat.net/property/news-1926514 )
CR https://www.facebook.com/share/1Rxqdn8GMj/?mibextid=wwXIfr