🥶 ทุกปีในช่วงฤดูหนาว หลายพื้นที่ของประเทศไทยมักต้องเผชิญกับ
“ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5” ที่ลอยปกคลุมทั่วเมือง โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และภาคเหนือ ค่าฝุ่นในอากาศมักเกินมาตรฐานและส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวทางเดินหายใจ เช่น
โรคภูมิแพ้ เยื่อบุจมูกอักเสบ หรือภาวะคัดจมูกเรื้อรัง
🚨
ฝุ่น PM 2.5 มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมถึง 20 เท่า สามารถแทรกซึมเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่างได้อย่างง่าย จึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัวทางเดินหายใจ เช่น โรคภูมิแพ้หรือโรคหอบหืด
🚫 ผลกระทบของ PM 2.5 ต่อระบบทางเดินหายใจ
⚠️ ผลกระทบระยะสั้น
· ระคายเคืองดวงตา จมูก และลำคอ
· ไอ จาม น้ำมูกไหล หายใจไม่สะดวก
· ปอดทำงานลดลง
· โรคประจำตัว เช่น หอบหืดหรือโรคหัวใจ กำเริบได้ง่าย
⚠️ ผลกระทบระยะยาว
· เสี่ยงเกิดหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
· สมรรถภาพปอดลดลงอย่างถาวร
· เพิ่มความเสี่ยงต่อโรค
มะเร็งปอด เนื่องจาก PM 2.5 จัดเป็น
“สารก่อมะเร็งกลุ่มที่ 1”
· ผู้ป่วย
ภูมิแพ้เรื้อรัง มีแนวโน้มอาการกำเริบบ่อย และเกิดการอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูกซ้ำซ้อน
สูดดม PM2.5 เสี่ยง‼️โรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง จริงหรือไม่?
⛔ สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม
ฝุ่นพิษขนาดเล็กนี้อาจกระตุ้นให้เกิดอาการทางจมูก เช่น
· จาม คันจมูก น้ำมูกไหล
· เสมหะไหลลงคอ
· หายใจไม่โล่ง
คัดจมูกตลอดเวลา
· บางรายมีเลือดกำเดาไหลจากเยื่อบุจมูกอักเสบจนเกิดแผลเล็ก ๆ
ฝุ่น PM 2.5 ตัวร้ายทำภูมิแพ้กำเริบ
⚠️ หากปล่อยไว้นานโดยไม่รักษา อาจกลายเป็นภาวะ ไซนัสอักเสบเรื้อรัง หรือ คัดจมูกเรื้อรัง ซึ่งทำให้คุณภาพชีวิตลดลงและรบกวนการนอนหลับ
✨ ดูแลตัวเองอย่างไรให้ปลอดภัยในวันที่ค่าฝุ่นพุ่งสูง
✅ หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะในวันที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน
✅ สวมหน้ากาก N95 หรือ KN95 ทุกครั้งที่ต้องออกนอกบ้าน
✅ ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ เพื่อลดการสะสมของฝุ่นในโพรงจมูก
✅ รับประทานยาและพ่นยารักษาภูมิแพ้ อย่างต่อเนื่องตามแพทย์สั่ง
✅ ติดตามค่าฝุ่นแบบเรียลไทม์ ผ่านแอปฯ Air4Thai หรือเว็บไซต์กรมควบคุมมลพิษ
4 วิธี ดูแลดวงตาจากฝุ่น PM 2.5
🩷 รักษา “คัดจมูกเรื้อรัง” ด้วยเทคโนโลยี RF (Radiofrequency)
สำหรับผู้ที่มีภาวะ เยื่อบุจมูกส่วนล่างโต หรืออาการ
คัดจมูกเรื้อรังที่ไม่ตอบสนองต่อการใช้ยา ปัจจุบันมีเทคโนโลยีการรักษาที่เรียกว่า
“RF (Radiofrequency)” หรือการรักษาด้วยคลื่นวิทยุ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้👨⚕️ แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กใส่เข้าไปในเยื่อบุโพรงจมูก แล้วส่งคลื่นความถี่วิทยุให้เปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน เพื่อทำให้เยื่อบุที่บวมโตหดตัวลง ส่งผลให้โพรงจมูกเปิดกว้างขึ้น ผู้ป่วยสามารถหายใจได้โล่งและสบายมากขึ้น
✅ ข้อดีของการรักษาด้วย RF
· ใช้ ยาชาเฉพาะที่ ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
· ใช้เวลาเพียง 10–15 นาที
· ฟื้นตัวเร็ว เห็นผลภายใน 2 สัปดาห์
· หากมีอาการกลับมาอีก สามารถทำซ้ำได้อย่างปลอดภัย
📣 การเตรียมตัวก่อนและหลังการรักษาด้วย RF
ก่อนทำ RF
· พักผ่อนให้เพียงพอ ป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจ
· หยุดยากลุ่มแอสไพรินหรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 7–10 วัน
หลังทำ RF
· 24–48 ชั่วโมงแรก หลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูกแรง ๆ
· งดออกกำลังกายหนักหรือยกของหนัก
· หากมีเลือดออกเล็กน้อย ให้ นอนศีรษะสูงและประคบน้ำแข็ง
· หากเลือดไม่หยุดหรือออกมากผิดปกติ ให้รีบพบแพทย์ทันที
นัดหมายแพทย์รักษาอาการคัดจมูกเรื้อรังด้วยเทคโนโลยี RF
😷 ป้องกันวันนี้…ลดโอกาสเจ็บป่วยระยะยาว
ฝุ่น PM 2.5 ไม่ใช่แค่ปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่คือ “ภัยเงียบ” ที่กระทบต่อสุขภาพโดยตรง โดยเฉพาะในผู้ที่มีภูมิแพ้หรือคัดจมูกเรื้อรัง การดูแลตัวเองให้ห่างจากฝุ่น และเข้ารับการรักษาที่ถูกวิธีตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้คุณกลับมาหายใจโล่งได้อีกครั้ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ติดต่อสอบถามได้ที่
ศูนย์หูคอจมูก
โรงพยาบาลเวชธานี อินเตอร์เนชั่นแนล
โทร.02-734-0000 ต่อ 3400
ฝุ่น PM2.5 พุ่ง!! คัดจมูกเรื้อรัง อย่ามองข้าม เสี่ยงไซนัสอักเสบไม่รู้ตัว
🥶 ทุกปีในช่วงฤดูหนาว หลายพื้นที่ของประเทศไทยมักต้องเผชิญกับ “ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5” ที่ลอยปกคลุมทั่วเมือง โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และภาคเหนือ ค่าฝุ่นในอากาศมักเกินมาตรฐานและส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวทางเดินหายใจ เช่น โรคภูมิแพ้ เยื่อบุจมูกอักเสบ หรือภาวะคัดจมูกเรื้อรัง
🚨 ฝุ่น PM 2.5 มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมถึง 20 เท่า สามารถแทรกซึมเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่างได้อย่างง่าย จึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัวทางเดินหายใจ เช่น โรคภูมิแพ้หรือโรคหอบหืด
🚫 ผลกระทบของ PM 2.5 ต่อระบบทางเดินหายใจ
⚠️ ผลกระทบระยะสั้น
· ระคายเคืองดวงตา จมูก และลำคอ
· ไอ จาม น้ำมูกไหล หายใจไม่สะดวก
· ปอดทำงานลดลง
· โรคประจำตัว เช่น หอบหืดหรือโรคหัวใจ กำเริบได้ง่าย
⚠️ ผลกระทบระยะยาว
· เสี่ยงเกิดหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
· สมรรถภาพปอดลดลงอย่างถาวร
· เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งปอด เนื่องจาก PM 2.5 จัดเป็น “สารก่อมะเร็งกลุ่มที่ 1”
· ผู้ป่วยภูมิแพ้เรื้อรัง มีแนวโน้มอาการกำเริบบ่อย และเกิดการอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูกซ้ำซ้อน
⛔ สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม
ฝุ่นพิษขนาดเล็กนี้อาจกระตุ้นให้เกิดอาการทางจมูก เช่น
· จาม คันจมูก น้ำมูกไหล
· เสมหะไหลลงคอ
· หายใจไม่โล่ง คัดจมูกตลอดเวลา
· บางรายมีเลือดกำเดาไหลจากเยื่อบุจมูกอักเสบจนเกิดแผลเล็ก ๆ
⚠️ หากปล่อยไว้นานโดยไม่รักษา อาจกลายเป็นภาวะ ไซนัสอักเสบเรื้อรัง หรือ คัดจมูกเรื้อรัง ซึ่งทำให้คุณภาพชีวิตลดลงและรบกวนการนอนหลับ
✨ ดูแลตัวเองอย่างไรให้ปลอดภัยในวันที่ค่าฝุ่นพุ่งสูง
✅ หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะในวันที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน
✅ สวมหน้ากาก N95 หรือ KN95 ทุกครั้งที่ต้องออกนอกบ้าน
✅ ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ เพื่อลดการสะสมของฝุ่นในโพรงจมูก
✅ รับประทานยาและพ่นยารักษาภูมิแพ้ อย่างต่อเนื่องตามแพทย์สั่ง
✅ ติดตามค่าฝุ่นแบบเรียลไทม์ ผ่านแอปฯ Air4Thai หรือเว็บไซต์กรมควบคุมมลพิษ
🩷 รักษา “คัดจมูกเรื้อรัง” ด้วยเทคโนโลยี RF (Radiofrequency)
สำหรับผู้ที่มีภาวะ เยื่อบุจมูกส่วนล่างโต หรืออาการคัดจมูกเรื้อรังที่ไม่ตอบสนองต่อการใช้ยา ปัจจุบันมีเทคโนโลยีการรักษาที่เรียกว่า “RF (Radiofrequency)” หรือการรักษาด้วยคลื่นวิทยุ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
😷 ป้องกันวันนี้…ลดโอกาสเจ็บป่วยระยะยาว
ฝุ่น PM 2.5 ไม่ใช่แค่ปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่คือ “ภัยเงียบ” ที่กระทบต่อสุขภาพโดยตรง โดยเฉพาะในผู้ที่มีภูมิแพ้หรือคัดจมูกเรื้อรัง การดูแลตัวเองให้ห่างจากฝุ่น และเข้ารับการรักษาที่ถูกวิธีตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้คุณกลับมาหายใจโล่งได้อีกครั้ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้