PM 2.5 ศัตรูของภูมิแพ้
ใกล้เข้าหน้าหนาวทีไร ฝุ่น PM 2.5 ก็ต้องมาต้อนรับพร้อมกันทุกที ปีนี้ก็เช่นกัน ซึ่งฝุ่น PM 2.5 ถือเป็นศัตรูตัวฉกาจ เพราะด้วยความที่มีอนุภาคขนาดเล็กเพียง 2.5 ไมครอน จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อาการภูมิแพ้กำเริบและรุนแรงขึ้นได้ โดยส่งผลต่อทั้งระบบทางเดินหายใจส่วนบน ระบบหายใจส่วนล่าง และระบบผิวหนัง
ในกรณีของระบบทางเดินหายใจส่วนบน มักก่อให้เกิดอาการคัดจมูก จาม และน้ำมูกไหลมากขึ้น เนื่องจากเยื่อบุจมูกจะมีความไวต่อการกระตุ้นมากผิดปกติ จึงบวมอักเสบขึ้นได้เมื่อมีการสูดรับฝุ่น PM 2.5 ในปริมาณมาก
ดูแลตัวเองง่าย ๆ ในสถานการณ์ PM 2.5
1.การล้างจมูก เพื่อเป็นการชะล้างเอาฝุ่นละออง ที่เกาะอยู่บนผนังจมูกออกไป
2.ใช้ยารักษาภูมิแพ้ที่รักษาอยู่เดิมอย่างต่อเนื่อง เช่น การใช้ยาสเตียรอยด์พ่นจมูกสำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ทางจมูก หรือ การใช้ยาสเตียรอยด์พ่นทางปากสำหรับโรคหอบหืด เป็นต้น
3.ควรรีบไปพบแพทย์หากมีอาการผิดปกติ หรือรุนแรงมากขึ้น เพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติม และเริ่มการรักษา
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีรักษา ที่เรียกว่า RF (Radio frequency) หรือการรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุ เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่เหมาะกับผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อการใช้ยา หรือมีอาการคัดจมูกที่เกิดจากเยื่อบุจมูกส่วนล่างโต ซึ่งมีกระบวนการรักษาดังนี้
• แพทย์จะใช้เข็มลักษณะพิเศษใส่เข้าไปในเยื่อบุโพรงจมูกคนไข้
• จากนั้นคลื่นวิทยุจะเปลี่ยนแปลงเป็นพลังงานความร้อน
• เยื่อบุโพรงจมูกจะสร้างพังผืดและหดตัวลง ส่งผลให้ช่องขนาดโพรงจมูกใหญ่ขึ้น
• ผู้ป่วยจึงสามารถหายใจได้โล่งและสะดวกยิ่งขึ้น
PM 2.5 ศัตรูของภูมิแพ้
ใกล้เข้าหน้าหนาวทีไร ฝุ่น PM 2.5 ก็ต้องมาต้อนรับพร้อมกันทุกที ปีนี้ก็เช่นกัน ซึ่งฝุ่น PM 2.5 ถือเป็นศัตรูตัวฉกาจ เพราะด้วยความที่มีอนุภาคขนาดเล็กเพียง 2.5 ไมครอน จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อาการภูมิแพ้กำเริบและรุนแรงขึ้นได้ โดยส่งผลต่อทั้งระบบทางเดินหายใจส่วนบน ระบบหายใจส่วนล่าง และระบบผิวหนัง
ในกรณีของระบบทางเดินหายใจส่วนบน มักก่อให้เกิดอาการคัดจมูก จาม และน้ำมูกไหลมากขึ้น เนื่องจากเยื่อบุจมูกจะมีความไวต่อการกระตุ้นมากผิดปกติ จึงบวมอักเสบขึ้นได้เมื่อมีการสูดรับฝุ่น PM 2.5 ในปริมาณมาก
ดูแลตัวเองง่าย ๆ ในสถานการณ์ PM 2.5
1.การล้างจมูก เพื่อเป็นการชะล้างเอาฝุ่นละออง ที่เกาะอยู่บนผนังจมูกออกไป
2.ใช้ยารักษาภูมิแพ้ที่รักษาอยู่เดิมอย่างต่อเนื่อง เช่น การใช้ยาสเตียรอยด์พ่นจมูกสำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ทางจมูก หรือ การใช้ยาสเตียรอยด์พ่นทางปากสำหรับโรคหอบหืด เป็นต้น
3.ควรรีบไปพบแพทย์หากมีอาการผิดปกติ หรือรุนแรงมากขึ้น เพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติม และเริ่มการรักษา
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีรักษา ที่เรียกว่า RF (Radio frequency) หรือการรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุ เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่เหมาะกับผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อการใช้ยา หรือมีอาการคัดจมูกที่เกิดจากเยื่อบุจมูกส่วนล่างโต ซึ่งมีกระบวนการรักษาดังนี้
• แพทย์จะใช้เข็มลักษณะพิเศษใส่เข้าไปในเยื่อบุโพรงจมูกคนไข้
• จากนั้นคลื่นวิทยุจะเปลี่ยนแปลงเป็นพลังงานความร้อน
• เยื่อบุโพรงจมูกจะสร้างพังผืดและหดตัวลง ส่งผลให้ช่องขนาดโพรงจมูกใหญ่ขึ้น
• ผู้ป่วยจึงสามารถหายใจได้โล่งและสะดวกยิ่งขึ้น
โสต ศอ นาสิกแพทย์ (หู คอ จมูก)