โรครองช้ำคืออะไร? อาการ สาเหตุ และวิธีรักษา



โรครองช้ำคืออะไร? อาการ สาเหตุ และวิธีรักษา

เคยไหม…ตื่นเช้ามาก้าวแรกแล้วรู้สึก “เจ็บจี๊ด” ที่ส้นเท้าเหมือนโดนเข็มทิ่ม?
อาการนี้อาจเป็นสัญญาณของ โรครองช้ำ (Plantar Fasciitis) — ภาวะพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบเรื้อรังที่พบมากในคนวัยทำงาน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องยืน เดิน
หรือออกกำลังกายหนักทุกวัน

โรครองช้ำคืออะไร

โรครองช้ำเกิดจากการอักเสบของ “พังผืดใต้ฝ่าเท้า” ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อยืดหยุ่นเชื่อมระหว่างส้นเท้ากับปลายเท้า ทำหน้าที่รองรับน้ำหนักและแรงกระแทกทุกครั้งที่เราเดินหรือวิ่ง เมื่อพังผืดนี้อักเสบจะทำให้เกิดอาการปวดจี๊ดบริเวณส้นเท้า
หากปล่อยไว้นานโดยไม่รักษา อาจพัฒนาเป็นอาการเรื้อรังจนเดินลำบากหรือปวดแม้ขณะยืนเฉย ๆ

อาการของโรครองช้ำ

สัญญาณที่ควรสังเกต:
- ปวดจี๊ดบริเวณส้นเท้า โดยเฉพาะก้าวแรกหลังตื่นนอน
- ปวดคล้ายเข็มทิ่มหรือไฟช็อต
- อาการดีขึ้นเมื่อเดินไปสักพัก
- แต่จะกลับมาเมื่อยืนนานหรือเดินมากเกินไป
- บางรายปวดตลอดวันหากอักเสบรุนแรง

สาเหตุของโรครองช้ำ
- สาเหตุหลักเกิดจาก “แรงกดซ้ำและการใช้งานเท้ามากเกินไป” เช่น
- ยืนหรือเดินนาน เช่น ครู พนักงานขาย
- ใส่รองเท้าที่พื้นแข็งหรือไม่พอดี
- ออกกำลังกายที่กระแทกเท้า เช่น วิ่ง กระโดด
- น้ำหนักตัวมาก
- เอ็นร้อยหวายตึงหรือเท้าแบน
- อายุ 30–50 ปีขึ้นไป

กลุ่มเสี่ยงที่ควรระวัง
- ผู้หญิงใส่ส้นสูงเป็นประจำ
- นักกีฬา/นักวิ่ง
- คนอ้วนหรือผู้สูงอายุ
- ผู้ทำงานยืนนาน (พยาบาล ครู พนักงานร้านค้า)

วิธีวินิจฉัยโรครองช้ำ
แพทย์จะตรวจประวัติและกดหาจุดเจ็บใต้ฝ่าเท้า พร้อมใช้ อัลตราซาวนด์ (Ultrasound) ตรวจพังผืด หรือ เอกซเรย์ (X-ray) เพื่อแยกโรคอื่น เช่น กระดูกงอกที่ส้นเท้า (Heel Spur)

วิธีรักษาโรครองช้ำ
1. การรักษาเบื้องต้น
- พักเท้า – ประคบเย็นวันละ 2 ครั้ง
- ใช้ยาลดอักเสบตามแพทย์สั่ง
- นวดฝ่าเท้าและยืดเอ็นร้อยหวาย
- ใช้แผ่นรองเท้าที่มี Arch Support

2. การทำกายภาพบำบัดและ Shockwave Therapy
Shockwave Therapy คือการใช้คลื่นเสียงพลังงานสูงส่งผ่านเข้าสู่เนื้อเยื่ออักเสบใต้ฝ่าเท้า เพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมและเพิ่มการไหลเวียนโลหิต
- ทำ 3–5 ครั้ง เห็นผลใน 2–4 สัปดาห์
- อาการดีขึ้นกว่า 80–90 % โดยไม่ต้องผ่าตัด

3. การรักษาในรายเรื้อรัง
หากอาการไม่ดีขึ้นใน 3–6 เดือน อาจต้องใช้วิธีขั้นสูง เช่น
- ฉีดยาลดอักเสบเฉพาะจุด
- ฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP Therapy)
- ผ่าตัดในรายที่เอ็นพังผืดหนามาก

วิธีดูแลหลังการรักษา
- ยืดกล้ามเนื้อเท้าและเอ็นร้อยหวายทุกเช้า
- ใส่รองเท้าพื้นนุ่ม มี Arch Support
- หลีกเลี่ยงเดินเท้าเปล่าบนพื้นแข็ง
- ควบคุมน้ำหนัก
- พักจากการออกกำลังกายหนัก

ป้องกันไม่ให้โรครองช้ำกลับมา
- ยืดกล้ามเนื้อเท้าทุกวัน
- เลือกรองเท้าพอดีไม่แข็งเกิน
- หลีกเลี่ยงส้นสูง > 5 ซม.
- เปลี่ยนรองเท้าทุก 6–12 เดือน
- หยุดพักเท้าทุก 1–2 ชม. หากต้องยืนนาน

FAQ : คำถามที่พบบ่อย

Q: โรครองช้ำรักษาหายไหม?
A: หายได้หากรักษาตรงจุดและปรับพฤติกรรม โดยเฉพาะการทำ Shockwave หรือกายภาพบำบัด จะช่วยฟื้นฟูพังผืดให้กลับมาทำงานปกติ ส่วนใหญ่ดีขึ้นใน 1–3 เดือน

Q:  Shockwave เจ็บไหม?
A: อาจรู้สึกตึงหรือปวดเล็กน้อยขณะทำ แต่หายภายในไม่กี่ชั่วโมง ไม่ต้องพักฟื้น ปลอดภัย เห็นผลได้เร็วกว่า ยา

Q: โรครองช้ำต่างจากปวดส้นเท้าทั่วไปยังไง?
A: รองช้ำคือการอักเสบของพังผืดใต้ฝ่าเท้า มักปวดจี๊ดตอนเช้า ส่วนปวดส้นเท้าทั่วไปอาจมาจากกล้ามเนื้อหรือรองเท้าไม่เหมาะ

Q: รองเท้าแบบไหนดีสำหรับคนเป็นรองช้ำ?
A: เลือกรองเท้าพื้นนุ่ม มีอุ้งเท้ารองรับ (arch support) และไม่หลวม ช่วยกระจายแรงกดลดอาการเจ็บส้นเท้าได้มาก

Q: ถ้ารักษาแล้วจะกลับมาอีกไหม?
A: มีโอกาสถ้าไม่ปรับพฤติกรรม เช่น ยืนนาน ใส่รองเท้าแข็ง หรือไม่ยืดกล้ามเนื้อเท้า จึงควรดูแลเท้าอย่างต่อเนื่อง

ติดตามสาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพดี ๆ ได้ที่ > รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่