สวัสดีค่ะ เรามีปัญหาชีวิตอย่างนึงที่แก้ไม่ตกหนีไม่พ้น คือ เราทำธุรกิจครอบครัว
โดยเริ่มแรกมีหุ้นคือ พ่อ น้า และยาย ร่วมทุนกันทำธุรกิจครอบครัวขึ้นมา
จนวันนึงพ่อเราเสียชีวิตไปและเราต้องเข้ามาทำงานร่วมกับน้า (ซึ่งไม่ชอบกันอยู่แล้ว)
แต่ต่างคนต่างพยามทำตัวปกติ เพราะต้องร่วมงานกัน ตอนนี้เรากลับมาทำงานที่บ้านได้ 6 ปีแล้ว
รู้สึกว่าตัวเองเสียสุขภาพจิตมาก ทั้งด้านความคิดเห็น การทำงาน ระบบ คือ น้าไม่ค่อยทำงานแต่เวลาผิดพลาดอะไรมาแล้วเขาไม่เข้าใจปัญหา เวลาพูดอธิบายอะไรก็ไม่รับฟัง (อาจเพราะคนละGen) แต่คือ มันทำให้เราเหนื่อยมาก
รวมถึงการใช้ชีวิตต่างๆของเขาด้วย เราอยู่บ้านเดียวกันเป็นครอบครัวใหญ่ ทำงานก็ทำด้วยกันอีก เวลาอยู่ไหนที่มีน้ารู้สึกอึดอัดมาก
เคยมีปัญหาเรื่องงานกัน สิ่งที่เขาทำคือ ไม่พูดกับเรา สั่งงานผ่าน พนักงานคนอื่น ด่าเราให้พนักงานอื่นฟังว่าเงินที่เราใช้ทุกวันนี้เป็นเงินที่เขาหามา เรามาอาศัยเขา ทั้งที่เราก็มาทำงานไม่ได้มานั่งเล่นเฉยๆแล้วแบมือขอเงิน ทั้งที่ความผิดนั้นไม่เกี่ยวกับเรา
ตอนนั้นเราไม่ทนตัดสินใจกลับบ้าน กะว่าจะไม่มาทำงานที่นี่อีกแล้ว ตกเย็นวันนั้นยายเรียกมาคุย เขาพูดอีกเรื่องเลยไม่ตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พูดเอาดีเข้าตัวไปหมด แม่ก็ขอร้องให้อยู่ต่อเราก็เห็นแก่แม่ เลยอยู่ทำงานต่อไปจนถึงปัจจุบัน
สิ่งที่เราแลกมาคือ ตอนนี้รู้สึกสุขภาพจิตแย่มาก ที่ต้องอยู่กับคนแบบนี้ จนต้องไปหาหมอจิตแพทย์ แล้วก็ไม่ได้ทำให้เราดีขึ้นสักเท่าไรเพราะเราต้องอยู่กับคนแบบนี้ไปอีกยาวๆ ทุกวัน เจอกันทั้งที่ทำงานและที่บ้าน แบบใส่หน้ากากเข้าหากัน ทุกวันนี้เหนื่อยมาก ไม่มีความสุข ต้องใส่หน้ากากทุกวัน
แล้วเขาก็มักจะพึ่งพาเรากับแม่ตลอด แต่สิ่งที่เราเจอมาตลอดตั้งแต่เด็กเราไม่อยากอยู่ใกล้คนคนนี้เลยจริงๆ แต่เราไปไหนไม่ได้เพราะคำว่าธุรกิจครอบครัว เพราะคำว่าที่นี่คือบ้าน
ปล. ขอบคุณสำหรับพื้นที่ให้ระบายค่ะ ถ้าตั้งกระทู้ผิดไปหรือยังไงต้องขอโทษด้วยนะคะ
ทำอย่างไรเมื่อต้องร่วมงานกับคนที่เกลียด เมื่อคนคนนั้นเป็นญาติ และงานนั้นคือ ธุรกิจของครอบครัว
โดยเริ่มแรกมีหุ้นคือ พ่อ น้า และยาย ร่วมทุนกันทำธุรกิจครอบครัวขึ้นมา
จนวันนึงพ่อเราเสียชีวิตไปและเราต้องเข้ามาทำงานร่วมกับน้า (ซึ่งไม่ชอบกันอยู่แล้ว)
แต่ต่างคนต่างพยามทำตัวปกติ เพราะต้องร่วมงานกัน ตอนนี้เรากลับมาทำงานที่บ้านได้ 6 ปีแล้ว
รู้สึกว่าตัวเองเสียสุขภาพจิตมาก ทั้งด้านความคิดเห็น การทำงาน ระบบ คือ น้าไม่ค่อยทำงานแต่เวลาผิดพลาดอะไรมาแล้วเขาไม่เข้าใจปัญหา เวลาพูดอธิบายอะไรก็ไม่รับฟัง (อาจเพราะคนละGen) แต่คือ มันทำให้เราเหนื่อยมาก
รวมถึงการใช้ชีวิตต่างๆของเขาด้วย เราอยู่บ้านเดียวกันเป็นครอบครัวใหญ่ ทำงานก็ทำด้วยกันอีก เวลาอยู่ไหนที่มีน้ารู้สึกอึดอัดมาก
เคยมีปัญหาเรื่องงานกัน สิ่งที่เขาทำคือ ไม่พูดกับเรา สั่งงานผ่าน พนักงานคนอื่น ด่าเราให้พนักงานอื่นฟังว่าเงินที่เราใช้ทุกวันนี้เป็นเงินที่เขาหามา เรามาอาศัยเขา ทั้งที่เราก็มาทำงานไม่ได้มานั่งเล่นเฉยๆแล้วแบมือขอเงิน ทั้งที่ความผิดนั้นไม่เกี่ยวกับเรา
ตอนนั้นเราไม่ทนตัดสินใจกลับบ้าน กะว่าจะไม่มาทำงานที่นี่อีกแล้ว ตกเย็นวันนั้นยายเรียกมาคุย เขาพูดอีกเรื่องเลยไม่ตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พูดเอาดีเข้าตัวไปหมด แม่ก็ขอร้องให้อยู่ต่อเราก็เห็นแก่แม่ เลยอยู่ทำงานต่อไปจนถึงปัจจุบัน
สิ่งที่เราแลกมาคือ ตอนนี้รู้สึกสุขภาพจิตแย่มาก ที่ต้องอยู่กับคนแบบนี้ จนต้องไปหาหมอจิตแพทย์ แล้วก็ไม่ได้ทำให้เราดีขึ้นสักเท่าไรเพราะเราต้องอยู่กับคนแบบนี้ไปอีกยาวๆ ทุกวัน เจอกันทั้งที่ทำงานและที่บ้าน แบบใส่หน้ากากเข้าหากัน ทุกวันนี้เหนื่อยมาก ไม่มีความสุข ต้องใส่หน้ากากทุกวัน
แล้วเขาก็มักจะพึ่งพาเรากับแม่ตลอด แต่สิ่งที่เราเจอมาตลอดตั้งแต่เด็กเราไม่อยากอยู่ใกล้คนคนนี้เลยจริงๆ แต่เราไปไหนไม่ได้เพราะคำว่าธุรกิจครอบครัว เพราะคำว่าที่นี่คือบ้าน
ปล. ขอบคุณสำหรับพื้นที่ให้ระบายค่ะ ถ้าตั้งกระทู้ผิดไปหรือยังไงต้องขอโทษด้วยนะคะ