ขอปรึกษาค่ะ เราคิดเรื่องนี้มาเป็นเดือนจมกับความรู้สึกนี้ว่าควรไปต่อยังไงดี เรื่องมันเริ่มจากเดือนที่แล้ววันนั้นญาติของแม่เสีย แล้วแม่ไปงานศพก่อนจะไปก็มีเรื่องทะเลาะกับพ่อนิดหน่อย แล้วทีนี้ไปเป็นอาทิตย์ไม่ยอมกลับบ้านเราให้น้องชายไปตามกลับทุกวัน แม่อ้างแต่ว่าจะนอนเฝ้างานศพ ทั้งที่งานนั้นอยู่ห่างจากบ้านไม่ไกลขับรถแค่สิบกว่านาทีก็ถึง แล้วที่นั่นมีญาติพี่น้องยายผู้เป็นแม่ของแม่ด้วย ซึ่งทุกคนเมาหมดเวลาเราโทรไปถาม ไหนจะทุกคืนที่คนที่เป็นญาติผู้ชายรุ่นเดียวกับแม่โทรมาถามว่าแม่ถึงบ้านยังสองสามวันติด โดยที่ตลอดระยะเวลาที่ไปเราเชื่อใจตลอด จนกระทั่งวันสุดท้ายวันที่ใส่บาตรเสร็จแม่ก็ยังไม่กลับเราใจคอไม่ดีเพราะว่าอยู่ๆ แก้วมันหล่นลงมาเอง ทั้งที่ไม่มีลมหรืออะไรที่ชวนให้ขยับได้เลย เย็นวันนั้นเราเลยให้น้องไปหาแม่อีกรอบ รอแล้วรอเล่าก็ไม่เจอเป็นสองสามชั่วโมงไม่มีใครบอกเลย ผู้เป็นยายก็อ้างนั่นนี่ จนพ่อบอกให้น้องกลับมา และทีนี้พอน้องกลับทางนั้นโทรมาบอกว่าแม่อยู่ไหน บอกว่านอนอยู่คนเดียวเราเลยขอให้พ่อกับน้องไปดู ซึ่งพอไปกลับเจอกับกลุ่มที่กำลังกินเหล้ากัน พอพ่อกับน้องชายไปแม่กลับวิ่งหนี โดยที่มีพวกในกลุ่มมายืนห้าม หาว่าพ่อจะตีแม่อย่างนั้นอย่างนี้ทั้งที่เป็นอาทิตย์ไม่ยอมกลับบ้าน แล้วทีนี้ตามไม่ได้พ่อเลยกลับ อยู่ๆ น้าที่เป็นน้องสาวแม่โทรมาว่าติดต่อยายไม่ได้ เราเลยโทรติดต่อให้จนกระทั่งพ่อชวนว่าไปด้วยกันไหมไปตามอีกรอบ โดยที่ตอนนั้นสี่ทุ่มกว่าเราลังเล แต่ก็ยอมเพราะใจคอไม่ดี พอไปถึงทุกอย่างกลับมืดสนิทเจอกับลุงที่เป็นพี่ชายของแม่นั่งเมาเฝ้าประตู พร้อมกับประตูที่ปิดลง เราเลยรีบวิ่งไปดูเจอกับคนที่วิ่งหนีไปทางป่า ก่อนที่พ่อจะผลักเข้าไปเราถึงกลับช็อค และทั้งสามคนเห็นเหมือนกันหมด เพราะที่เห็นคือแม่ในสภาพเปลือยเปล่า ในตอนนั้นสมองเราคิดอะไรไม่ทันเมื่อเห็นแบบนั้นจากที่เคยรักกลับทำให้เกลียดโดยไม่รู้ตัวน้ำตาของคนที่เป็นพ่อเราไม่เคยเห็นสักครั้ง กลับไหลลงมา ในตอนนั้นกลับมีแต่เสียงร้องไห้ โดยที่เรื่องนี้ไม่สามารถเอาผิดได้แม้ว่าพ่อกับแม่จะแต่งงานกันมายี่สิบกว่าปี แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส โดยวันที่พ่อไปเพื่อคุยเรื่องทางฝั่งตำรวจยังเอาคนไปซ่อน เพราะพ่อต้องการคำอธิบาย ทางผู้ใหญ่บ้านติดต่อฝั่งแม่ไปก็อ่างว่าพ่อจะมาฆ่า หาว่าพ่อจะทำร้าย ไหนจะผู้เป็นลุงพี่ชายของแม่กลับว่าเมา ทุกคนอ้างเมาหมดทั้งที่พ่อแอบร้องไห้ทุกคืน จนกระทั่งวันที่พ่อตัดสินใจไปบ้านญาติในงานศพต้องการคำตอบ ทีแรกยายแกไม่อยากบอกสุดท้ายทนไม่ไหวเลยบอกว่า แม่ได้กับหลานของแกตั้งแต่วันแรกที่ไปงานศพแล้ว คือในวัดเลย ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวยังมีอีกหลายที่ไหนจะมีกลุ่มคนที่กินเหล้า ผู้เป็นยายเห็นนะแต่ไม่เตือนไม่อะไร มีการพยายามบอกให้แม่หนีพ่อ แล้วคนที่แม่ได้ก็เป็นญาติตัวเองอีก ทำให้เราช็อคแล้วช็อคอีก อีกอย่างเราคิดว่าแค่โดนข่มขืนแต่ไม่ใช่เพราะตลอดระยะเวลาที่น้องไปหาแม่ไม่ยอมกลับบ้านเลย และในวัดงานศพเขาเห็นกันหมด ไม่ใช่แค่คนเดียวไง คนที่บ้านเป็นห่วงแต่กลับทำแบบนี้ กระทั่งผ่านมาเป็นเดือนไร้การติดต่อ แต่กลับลงโซเชียลได้ เราที่ต้องจมปลักกลับความเศร้าภาพติดตาทุกคืน เราร้องไห้กับความแตกสลายนี้ที่ไม่คิดว่าคนที่รักจะทำได้ลง แต่ประโยคของผู้เป็นน้ากลับบอกว่าอย่าเกลียดแม่เพราะคนเราไม่ได้ดี100%เราช็อคเพราะไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่กระทั่งตอนที่มีสติยังไม่นึกถึงครอบครัวเลยหรอ ทำให้มันฉุดคิดขึ้นมาเราลืมความเศร้าน้ำตาแทบไม่ไหลเพราะด้านชาไปแล้ว แล้วคือทุกคนว่าพ่อหมดว่าพ่อไม่ดี ทั้งที่คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยคือพ่อ ญาติฝั่งแม่รู้กันหมดแต่ไม่มีใครบอก ถ้าไม่เห็นกับตาคงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นคงจมปลักอยู่แบบนี้ เราคิดมากกลับเรื่องนี้เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน19ปีที่อยู่ด้วยกันไม่มีความหมายเลยใช่ไหม เพราะเขายังใช้ชีวิตปกติ แต่ครอบครัวกลับมีแต่ความเศร้า เราสงสัยมากแม้กระทั่งยายที่เป็นแม่ยังปิดบังเรื่องนี้กับหลานตัวเอง ทุกคนไม่เคยทักมาอธิบายกลับปล่อยให้เรื่องเงียบทำให้เราเจ็บใจเพราะฝังใจมาก ในหัวมีแต่ภาพนั้นย้ำๆ จนเราไม่อยากจะทำอะไรเพราะมันเหนื่อยมันท้อตลอดเลย ตลอดเวลาเราไม่เคยเห็นแม่เป็นนิสัยแบบนี้มาก่อนทำให้เราไม่รู้ควรไปต่อยังไงอีกใจยังรักแต่กลับไม่สามารถลืมเรื่องคืนนั้นได้เลยและยิ่งต้องได้ยินคำพูดจากปากคนในงานกลับทำให้เรายิ่งร้องไห้ เราไม่อยากพูดเรื่องนี้กับพ่อบ่อยๆ เพราะกลัวจะคิดมาก แล้วยิ่งต้องฝืนยิ้มเมื่อมีคนถามหาแม่บ่อยๆ จนเราอยากเริ่มต้นใหม่ จะผิดไหมที่เรารู้สึกว่าให้คำว่าแม่ได้แต่ความรู้สึกมันไม่เหมือนเดิมถ้าจะมองหน้าคงไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ขนาดจะร้องไห้ยังต้องแอบร้องในห้องคนเดียว เพราะไม่อยากให้ทุกคนต้องคิดมาก ทำยังไงถึงจะปล่อยวางเรื่องนี้ได้คะ เพราะภาพมันติดตาตลอดจนเรายังคิดว่าแม่ยังอยู่กับเราแค่คิดน้ำตาก็ไหลเอง
ควรจัดการความรู้สึกนี้แบบไหนดีคะ