สวัสดีปี 2025 กับทริปญี่ปุ่นครั้งที่ 2 ของเราสองคน แต่ปีนี้เราจะจัดทริปเดินป่า และเป็นการเดินป่าขึ้นเขาต่างประเทศที่แรกเลยค่ะ มาญี่ปุ่นทั้งทีก็ต้องเดินขึ้นฟูจิซังซะหน่อย ทริปนี้อาจจะยาวสักหน่อยค่ะ เราวางแผนเที่ยงเองนะคะ ไม่ได้มีไกด์ทัวร์ใดๆ เลยค่ะ จะทยอยเล่าไปเรื่อยๆ ตามวันที่เดินทางเลยนะคะ พร้อมแล้วก็เดินทางกันเลยจ๊ะ
เตรียมสัมภาระหลักเรียบร้อยก็ออกเดินทางได้ เราเดินทางช่วงหน้าร้อนนะคะ เพราะฟูจิจะเปิดให้เดินขึ้นได้ช่วงหน้าร้อนเท่านั้น เราจองตั๋วเครื่องบินโปรของการบินไทยล่วงหน้า 2 เดือน 2 คน ไป-กลับ ประมาณ 35,550 บาท ก็ถือว่าราคาดีอยู่นะ ใครมีแผนเดินทางแน่นอนก็เตรียมจองตั๋วล่วงหน้าไว้ก่อนจะได้ราคาถูกค่ะ พวกเราเลิกงานปุ๊บก็ต้องรีบอาบน้ำเดินทางไปสนามบินด้วยระบบขนส่งสาธารณะบ้านเราเลยจ๊ะ แอร์พอร์ตลิงค์ และเตรียมออกเดินทางด้วยสารการบิน Airways ที่นั่ง 46A, 46B เที่ยวบินTG682 เวลา 22:45 น. ของวันอังคารที่ 22 กค. 2025 ค่ะ และสายการบินนี้เป็น Full Service มีอาหารเรียบร้อยนะคะ
นั่งๆ นอนๆ ไม่นาน กำลังเคลิ้มได้ที่ ก็ต้องตื่นมาทานอาหารเช้าก่อนลงเครื่อง รสชาติอาหารก็โอเคอยู่นะ กินเสร็จก็น่าจะได้เวลาเครื่องลงจอดพอดี ประมาณใกล้ๆ 7 โมงเช้าของเวลาท้องถิ่น เราเลือกนั่งฝั่งซ้ายของเครื่องเพื่อจะได้มองเห็นภูเขาไฟฟูจิพอดี ซึ่งอากาศก็เป็นใจได้เห็นคุณฟูจิซังแต่ไกล SAY-HI ทักทายกันหน่อยมองเห็นไกลๆ ตื่นเต้นมาก จริงๆ โตเกียวเป็นเมืองที่สามีไม่ค่อยชอบเท่าไรอาจด้วยความแออัดของผู้คน มีความเป็นเมืองหนาแน่น แต่ทำไงได้หละคุณฟูจิซังเค้าอยู่ที่นี่นิหน่ามาสร้างประสบการณ์ดีๆ ที่นี่กันเถอะ..โตเกียวมีฟูจิซัง...ลุย
เราลงจากสนามบินรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางต่อไปยังคาวากุจิโกะกัน โดยนั่งรถไฟจากสนามบินฮาเนดะ ชานชลา - 2 (สาย Keikyu) ไปลงสถานีชินากาวาก่อน แลัวเปลี่ยนขบวนเพื่อไปยังสถานีโตเกียว บริเวณสถานีขนส่ง Yaesu เพื่อไปขึ้นรถบัสที่นั่นค่ะ ซึ่งเราสามารถเดินทางไปเมืองคาวากุจิโกะโดยรถบัสได้ 2 จุดนะคะ จะขึ้นที่ชินจุกุ หรือโตเกียว ที่สถานีขนส่ง Yaesu ก็ได้ค่ะ เราเลือกขึ้นที่สถานีโตเกียวเพราะอยากมาถ่ายรูปสถานีก่อน และเพื่อความสะดวกควรจองตั๋วขึ้นรถบัสไว้ล่วงหน้าค่ะ และควรมารอรถบัสก่อนเวลาออกประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เพื่อให้มีเวลาหาชานชาลาและจอดรอ รถเค้าออกตรงเวลานะคะ แนะนำจองตั๋วล่วงหน้าทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.highwaybus.com ซึ่งราคาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวันที่เดินทางค่ะ จุดขึ้นรถของสถานีรถบัสโตเกียว (Tokyo Bus Terminal) มีจุดขึ้นรถอยู่ที่โซน Yaesu South Exit หรือ Tokyo Station Yaesu South Exit และจะใช้เวลาเดินทางไปยังสถานีรถไฟคาวากุจิโกะ ประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ขึ้นอยู่กับการจราจร มีค่าโดยสารประมาณ 2,200 – 2,600 เยน (สำหรับผู้ใหญ่) และ 1,100 – 1,300 เยน (สำหรับเด็ก)
ถึงสถานีโตเกียวแล้ว บอกเลยว่าตาลายมากหาทางออกไม่ถูกไม่รู้จะเดินไปทิศไหนก่อนดี ผู้คนขวักไขว่มาก แต่เราต้องหาจุดขึ้นรถบัสก่อน จะได้ไม่พลาดเวลาขึ้นรถ จากนั้นค่อยเดินออกมาถ่ายรูปเช็คอินหน้าสถานีโตเกียว วันนี้ก็แดดดีซะด้วยร้อนแรงซะเหลือเกิน รีบถ่ายรีบกลับไปรอขึ้นรถบัสดีกว่า
ถึงสถานีรถไฟคาวาฟูจิโกะแล้วเราก็เดินมาฝากกระเป๋าที่โรงแรมกันก่อน เพื่อความสะดวกในการเดินทางเราจึงจองโรงแรมที่อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟเลยค่ะ
ฝากกระเป๋าเพื่อไปเที่ยวแล้วค่อยกลับมาเช็คอินอีกทีนะ วันนี้เราจะไปเที่ยวหมู่บ้านน้ำใสกันก่อนนะ เราเดินทางมาถึงหมู่บ้านน้ำใสก็บ่ายสองละ ข้าวเที่ยงยังไม่กิน ลงรถแล้วแวะร้านนี้ก่อนเลย ร้าน Shokujidokoro Maruten Sakanaya อยู่ในหมู่บ้านน้ำใสนี่แหละ เป็นร้านอาหารท้องถิ่น ปลาที่ใช้ในร้านเลี้ยงด้วยน้ำพุธรรมชาติจากภูเขาไฟฟูจิ ทำให้เนื้อปลาแน่นและไม่มีกลิ่นคาว ภายในร้านมีส่วนที่เป็นพื้นกระจกใส ทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นปลาคาร์ปที่ว่าย
อยู่ในบ่อใต้พื้นได้ ผ่อนคลายสุดๆ
กินข้าวเสร็จก็เดินเล่นถ่ายรูปไปจ๊ะ ฝนก็มาพอดีเลย การมีฝนโปรยลงมาก็ทำให้หน้าร้อนของที่นี่ชุ่มชื่นขึ้นเยอะเลยค่ะ พอฟ้าเปิดเราก็มองเห็นคุณ
ฟูจิซังอีกครั้งนึง เป็นการตอนรับที่ดียิ่งของการเดินทางมาญี่ปุ่นในครั้งนี้ เราเดินเล่นถ่ายรูปพอสมควรแก่เวลาก็ต้องรีบเดินไปรอรถเมล์ที่ป้าย 126 Oshino Hakkai (บริเวณด้านหน้าทางเข้า) ก่อน 4 โมงครึ่ง เด่วจะไม่มีรถบัสกลับ เพราะเราต้องไปเช็คอินที่โรงแรมและหามื้อเย็นทานให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมตัวเตรียมร่างก่อนปีนฟูจิในเช้าวันถัดไปจ๊ะ
ถึงสถานีคาวากุจิโกะเรียบร้อยละ เดินไปเช็คอินก่อน คืนนี้เราจะพักที่ Plaza Inn Kawaguchiko ค่ะ สะดวกดีอยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟเลย จองผ่าน Agoda สะดวกมาก ร้านค้ารอบๆ สถานีคาวากุจิโกะมีหลายร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านของฝากตรงข้ามสถานีได้แก่ JAPANESE RESTAURANT Mt.Fuji View ร้านนี้ชั้นล่างจะเป็นร้านขายของฝาก และที่ฝากกระเป๋าสัมภาระ ส่วนชั้นบนเป็นร้านอาหาร เดินถัดไปหน่อยจะเป็นร้าน Hotou Fudou Kawaguchiko Ekimaeten เป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองนี้ค่ะ มีลักษณะเป็นบะหมี่เส้นแบนๆ ในหม้อไฟ แต่เรามาไม่ทันร้านปิดซะก่อนคิดว่าจะมาใหม่หลังจากลงมาจากฟูจิ เพราะเราจะกลับมานอนที่นี่อีกคืนนึงค่ะ เดินไปอีกหน่อยจะมีร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้ๆ สถานีก็คือ 7-11 และเยื้องๆ จะเป็น Lawson เป็นสาขาที่สวยที่สุด เพราะแบล็คกราวมีวิวฟูจิ ทำให้ที่นี่เป็นจุดเช็คอินยอดฮิต เราเข้าไปซื้อ energy gel เป็นเสบียงเดินทางพรุ่งนี้ ส่วนด้านข้างๆ Lawson เป็นซอยบ้านคน เดินเข้าไปจะเห็นเป็นแนวรางรถไฟที่วิ่งเข้าสถานี ยืนถ่ายรูปเล่นไม่นานรถไฟขบวนน่ารักก็วิ่งมาพอดี พร้อมกับวิวฟูจิด้านหลังเช่นเคย ใครว่าฟูจิขี้อายนะไปไหนก็เจอทุกที่เลย
วันนี้แค่นี้ก่อน ต้องรีบกลับไปพักผ่อนนอนให้เต็มที่ตุนแรงสำหรับขึ้นฟูจิพรุ่งนี้จ๊ะ Goodnight
รีวิวทริปเที่ยวโตเกียว-คาวากุจิโกะ-Trekking ปีนเขาฟูจิ-คามาคุระ (7 วัน)
เตรียมสัมภาระหลักเรียบร้อยก็ออกเดินทางได้ เราเดินทางช่วงหน้าร้อนนะคะ เพราะฟูจิจะเปิดให้เดินขึ้นได้ช่วงหน้าร้อนเท่านั้น เราจองตั๋วเครื่องบินโปรของการบินไทยล่วงหน้า 2 เดือน 2 คน ไป-กลับ ประมาณ 35,550 บาท ก็ถือว่าราคาดีอยู่นะ ใครมีแผนเดินทางแน่นอนก็เตรียมจองตั๋วล่วงหน้าไว้ก่อนจะได้ราคาถูกค่ะ พวกเราเลิกงานปุ๊บก็ต้องรีบอาบน้ำเดินทางไปสนามบินด้วยระบบขนส่งสาธารณะบ้านเราเลยจ๊ะ แอร์พอร์ตลิงค์ และเตรียมออกเดินทางด้วยสารการบิน Airways ที่นั่ง 46A, 46B เที่ยวบินTG682 เวลา 22:45 น. ของวันอังคารที่ 22 กค. 2025 ค่ะ และสายการบินนี้เป็น Full Service มีอาหารเรียบร้อยนะคะ
นั่งๆ นอนๆ ไม่นาน กำลังเคลิ้มได้ที่ ก็ต้องตื่นมาทานอาหารเช้าก่อนลงเครื่อง รสชาติอาหารก็โอเคอยู่นะ กินเสร็จก็น่าจะได้เวลาเครื่องลงจอดพอดี ประมาณใกล้ๆ 7 โมงเช้าของเวลาท้องถิ่น เราเลือกนั่งฝั่งซ้ายของเครื่องเพื่อจะได้มองเห็นภูเขาไฟฟูจิพอดี ซึ่งอากาศก็เป็นใจได้เห็นคุณฟูจิซังแต่ไกล SAY-HI ทักทายกันหน่อยมองเห็นไกลๆ ตื่นเต้นมาก จริงๆ โตเกียวเป็นเมืองที่สามีไม่ค่อยชอบเท่าไรอาจด้วยความแออัดของผู้คน มีความเป็นเมืองหนาแน่น แต่ทำไงได้หละคุณฟูจิซังเค้าอยู่ที่นี่นิหน่ามาสร้างประสบการณ์ดีๆ ที่นี่กันเถอะ..โตเกียวมีฟูจิซัง...ลุย
เราลงจากสนามบินรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางต่อไปยังคาวากุจิโกะกัน โดยนั่งรถไฟจากสนามบินฮาเนดะ ชานชลา - 2 (สาย Keikyu) ไปลงสถานีชินากาวาก่อน แลัวเปลี่ยนขบวนเพื่อไปยังสถานีโตเกียว บริเวณสถานีขนส่ง Yaesu เพื่อไปขึ้นรถบัสที่นั่นค่ะ ซึ่งเราสามารถเดินทางไปเมืองคาวากุจิโกะโดยรถบัสได้ 2 จุดนะคะ จะขึ้นที่ชินจุกุ หรือโตเกียว ที่สถานีขนส่ง Yaesu ก็ได้ค่ะ เราเลือกขึ้นที่สถานีโตเกียวเพราะอยากมาถ่ายรูปสถานีก่อน และเพื่อความสะดวกควรจองตั๋วขึ้นรถบัสไว้ล่วงหน้าค่ะ และควรมารอรถบัสก่อนเวลาออกประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เพื่อให้มีเวลาหาชานชาลาและจอดรอ รถเค้าออกตรงเวลานะคะ แนะนำจองตั๋วล่วงหน้าทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.highwaybus.com ซึ่งราคาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวันที่เดินทางค่ะ จุดขึ้นรถของสถานีรถบัสโตเกียว (Tokyo Bus Terminal) มีจุดขึ้นรถอยู่ที่โซน Yaesu South Exit หรือ Tokyo Station Yaesu South Exit และจะใช้เวลาเดินทางไปยังสถานีรถไฟคาวากุจิโกะ ประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ขึ้นอยู่กับการจราจร มีค่าโดยสารประมาณ 2,200 – 2,600 เยน (สำหรับผู้ใหญ่) และ 1,100 – 1,300 เยน (สำหรับเด็ก)
ถึงสถานีโตเกียวแล้ว บอกเลยว่าตาลายมากหาทางออกไม่ถูกไม่รู้จะเดินไปทิศไหนก่อนดี ผู้คนขวักไขว่มาก แต่เราต้องหาจุดขึ้นรถบัสก่อน จะได้ไม่พลาดเวลาขึ้นรถ จากนั้นค่อยเดินออกมาถ่ายรูปเช็คอินหน้าสถานีโตเกียว วันนี้ก็แดดดีซะด้วยร้อนแรงซะเหลือเกิน รีบถ่ายรีบกลับไปรอขึ้นรถบัสดีกว่า
ถึงสถานีรถไฟคาวาฟูจิโกะแล้วเราก็เดินมาฝากกระเป๋าที่โรงแรมกันก่อน เพื่อความสะดวกในการเดินทางเราจึงจองโรงแรมที่อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟเลยค่ะ
ฝากกระเป๋าเพื่อไปเที่ยวแล้วค่อยกลับมาเช็คอินอีกทีนะ วันนี้เราจะไปเที่ยวหมู่บ้านน้ำใสกันก่อนนะ เราเดินทางมาถึงหมู่บ้านน้ำใสก็บ่ายสองละ ข้าวเที่ยงยังไม่กิน ลงรถแล้วแวะร้านนี้ก่อนเลย ร้าน Shokujidokoro Maruten Sakanaya อยู่ในหมู่บ้านน้ำใสนี่แหละ เป็นร้านอาหารท้องถิ่น ปลาที่ใช้ในร้านเลี้ยงด้วยน้ำพุธรรมชาติจากภูเขาไฟฟูจิ ทำให้เนื้อปลาแน่นและไม่มีกลิ่นคาว ภายในร้านมีส่วนที่เป็นพื้นกระจกใส ทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นปลาคาร์ปที่ว่าย
อยู่ในบ่อใต้พื้นได้ ผ่อนคลายสุดๆ
กินข้าวเสร็จก็เดินเล่นถ่ายรูปไปจ๊ะ ฝนก็มาพอดีเลย การมีฝนโปรยลงมาก็ทำให้หน้าร้อนของที่นี่ชุ่มชื่นขึ้นเยอะเลยค่ะ พอฟ้าเปิดเราก็มองเห็นคุณ
ฟูจิซังอีกครั้งนึง เป็นการตอนรับที่ดียิ่งของการเดินทางมาญี่ปุ่นในครั้งนี้ เราเดินเล่นถ่ายรูปพอสมควรแก่เวลาก็ต้องรีบเดินไปรอรถเมล์ที่ป้าย 126 Oshino Hakkai (บริเวณด้านหน้าทางเข้า) ก่อน 4 โมงครึ่ง เด่วจะไม่มีรถบัสกลับ เพราะเราต้องไปเช็คอินที่โรงแรมและหามื้อเย็นทานให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมตัวเตรียมร่างก่อนปีนฟูจิในเช้าวันถัดไปจ๊ะ
ถึงสถานีคาวากุจิโกะเรียบร้อยละ เดินไปเช็คอินก่อน คืนนี้เราจะพักที่ Plaza Inn Kawaguchiko ค่ะ สะดวกดีอยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟเลย จองผ่าน Agoda สะดวกมาก ร้านค้ารอบๆ สถานีคาวากุจิโกะมีหลายร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านของฝากตรงข้ามสถานีได้แก่ JAPANESE RESTAURANT Mt.Fuji View ร้านนี้ชั้นล่างจะเป็นร้านขายของฝาก และที่ฝากกระเป๋าสัมภาระ ส่วนชั้นบนเป็นร้านอาหาร เดินถัดไปหน่อยจะเป็นร้าน Hotou Fudou Kawaguchiko Ekimaeten เป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองนี้ค่ะ มีลักษณะเป็นบะหมี่เส้นแบนๆ ในหม้อไฟ แต่เรามาไม่ทันร้านปิดซะก่อนคิดว่าจะมาใหม่หลังจากลงมาจากฟูจิ เพราะเราจะกลับมานอนที่นี่อีกคืนนึงค่ะ เดินไปอีกหน่อยจะมีร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้ๆ สถานีก็คือ 7-11 และเยื้องๆ จะเป็น Lawson เป็นสาขาที่สวยที่สุด เพราะแบล็คกราวมีวิวฟูจิ ทำให้ที่นี่เป็นจุดเช็คอินยอดฮิต เราเข้าไปซื้อ energy gel เป็นเสบียงเดินทางพรุ่งนี้ ส่วนด้านข้างๆ Lawson เป็นซอยบ้านคน เดินเข้าไปจะเห็นเป็นแนวรางรถไฟที่วิ่งเข้าสถานี ยืนถ่ายรูปเล่นไม่นานรถไฟขบวนน่ารักก็วิ่งมาพอดี พร้อมกับวิวฟูจิด้านหลังเช่นเคย ใครว่าฟูจิขี้อายนะไปไหนก็เจอทุกที่เลย
วันนี้แค่นี้ก่อน ต้องรีบกลับไปพักผ่อนนอนให้เต็มที่ตุนแรงสำหรับขึ้นฟูจิพรุ่งนี้จ๊ะ Goodnight