สวัสดีค่ะ ทริปยุโรปปลายปีมาแล้วค่ะ ทริปนี้มีเวลาไม่ถึง 10 วัน ก็เลยเลือกประเทศที่อยู่ใกล้กัน เดินทางข้ามประเทศใช้เวลาไม่เยอะ จะได้ใช้เวลาไปเที่ยวเต็มที่ค่ะ สรุปได้ไป 3 ประเทศ คือ
1.ฝรั่งเศส
2.เบลเยียม
3.เนเธอร์แลนด์
โดยที่ใช้เวลาอยู่ฝรั่งเศสนานที่สุดทำให้วีซ่าต้องของที่ฝรั่งเศส สำหรับคนที่ยังไม่มีวีซ่าสามารถเตรียมเอกสารไปขอวีซ่าผ่านตัวแทน TLS Contact สำหรับ Schengen ของประเทศฝรั่งเศสนะคะ
เอกสารที่ใช้ขอวีซ่า
- รูปถ่ายพื้นหลังขาว 1 นิ้วครึ่ง 2 รูป
- ใบนัดและใบ checklist
- แบบฟอร์มขอวีซ่า
- แผนการเดินทาง
- ตั๋วเครื่องบินไปกลับ
- โรงแรมที่พัก
- ใบรับรองการทำงานระบุเงินเดือนและวันลา
- Salary Slip 3 เดือนย้อนหลัง
- Statement 3 เดือนย้อนหลัง
- ประกันเดินทางวงเงิน 2 ล้านบาท
- สำเนา Passport เล่มปัจจุบัน
- สำเนาวีซ่าเชงเก้นที่มีในเล่ม
เอกสารที่เตรียมไปเพิ่ม
- จดหมายแนะนำตัว
- ทะเบียนบ้าน สำเนาและตัวแปล
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- สำเนา Passport ทุกเล่มและหน้าที่มีตราปั้ม
เอกสารทางการเงินล่าสุดไม่เกิน 1 อาทิตย์ เอกสารอื่นๆไม่ควรเกิน 1 เดือน
ใช้เวลารอประมาณ 1 อาทิตย์เล่มส่งคืนถึงบ้านได้วีซ่ามา 5 ปีค่ะ
Trick การเดินทาง
1. ฝรั่งเศส เบลเยียมและเนเธอร์แลนด์ ใช้สกุลเงินยูโรสามารถใช้บัตร Travel Card ได้ เงินสดพกติดตัวไปสักเล็กน้อยพอค่ะ
2. ศึกษาการเดินทางแต่ละเมือง มีบัตรเดินทางประเภทไหนบ้าง แบบ Day Pass Weekly , Duo , Triple ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เยอะกว่าซื้อแบบ Single Ticket
3. จองตั๋วรถไฟผ่าน App Trainline ได้ราคาดี ยิ่งจองล่วงหน้านานยิ่งได้ราคาถูกค่ะ
4. จองตั๋ว Museum ล่วงหน้าผ่าน Agency ใช้ส่วนลดบัตรเครดิต Partner ลดเพิ่มได้อีก และช่วยประหยัดเวลาไม่ต้องต่อแถวซื้อหน้างาน
5. ใช้ eSIM ซื้อผ่าน Trip ได้ราคาดี สัญญาณดี ถูกกว่าเปิด Roaming และ Pysical Sim ค่ะ
6. เตรียมโซ่คล้องกระเป๋าไว้ใช้บนรถไฟ กันโดนขโมยตอนที่เราไม่ได้มอง
7. เตรียมกระเป๋าสำหรับซ่อน Passport บางบางใส่ไว้เสื้อ Coat ป้องกันการโดนล้วงกระเป๋าค่ะ
8. เตรียมถุงผ้าเอาไว้ใช้ใน Supermarket ถุงพาสติกที่ยุโรปไม่ฟรี จะได้ไม่ต้องซื้อทุกครั้ง
บันทึกการเดินทาง : กรุงเทพ - ฝรั่งเศส
บินไปยุโรปด้วยสายการบิน Singapore Airlines ควรจะมีเวลาต่อเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมงขั้นต่ำเนื่องจากว่าสนามบินสิงคโปร์เป็นสนามบินที่ใหญ่มาก ครั้งที่ผ่านมากระเป๋ามาไม่ทัน มีเวลาแค่ 1 ชั่วโมง ทำให้ต้องมาเอากระเป๋าที่สนามบินปารีสเองค่ะ Check in เรียบร้อย มานั่งเล่นที่ Coral Lounge ใช้เครื่องบิน A350 ที่นั่ง 3-3-3 ต่อเครื่องที่สิงคโปร์
บินต่อไปมาที่สนามบิน Paris Charles de Gaulle Airport Aéroport ใช้เครื่องบิน Boeing 777 ที่นั่ง 3-3-3
บินอีก 14 ชั่วโมง บินไฟท์ยาวกลางคืนถึงเช้า ส่วนมากใช้เวลาบนเครื่องไปกับการนอน จะได้มีแรงเที่ยวทั้งวันที่ปารีสค่ะ
บันทึกการเดินทาง : ฝรั่งเศส
ก่อนเข้าเมืองซื้อตั๋วแบบรายอาทิตย์ชื่อ Pass ว่า Navigo Weekly เติมใส่บัตรที่มีอยู่แล้ว ราคารายอาทิตย์อยู่ที่ 31.6 € สำหรับคนที่ซื้อบัตรใหม่จะต้องติดรูปถ่ายที่บัตรด้วยไม่งั้นจะอาจจะโดนค่าปรับถ้าสุ่มตรวจแล้วเจอว่าไม่ได้ติดรูป ข้อดีของบัตรนี้คือสามารถใช้เดินทางใน Paris ได้ไม่จำกัดทุกโซนตั้งแต่วันจันทร์-อาทิตย์ และ เดินทางไปนอกเมืองได้ด้วย นั่งรถไฟมาที่สถานี Gare Du Nord เอากระเป๋าเดินทางฝากไว้ที่ Locker อยู่บริเวณในสถานีค่ะ ตู้ Locker ใหญ่สุดสามารถใส่กระเป๋า Size 24 นิ้วได้สองใบ
คล่องตัวแล้ว มาดูหอไอเฟลยามเช้าก่อนย้อนแสงที่ สถานีรถไฟใต้ดินสถานี Trocadero เดินตามป้าย Eiffel Tower เห็นชัดเจนค่ะ ทางออกเป็นบันไดเลื่อน
ตอนนี้คนยังไม่ค่อยเยอะ เดินเล่นชื่นชมบรรยากาศยามเช้ากันสบายใจ มาต่อที่ Louvre Museum นั่งรถไฟใต้ดินมาที่สถานี Palais Royal เปิด 09:00-18:00 ปิดวันอังคาร และปิด 21:00 วันพุธกับศุกร์ค่ะ แนะนำให้จองตั๋วเข้าชมมาล่วงหน้าจะได้ไม่ต้องต่อแถวยาว
เดินทะลุสวนหน้าพิพิธภัณฑ์ ตรงจุดนี้จะเป็นมุมถ่ายรูปยอดฮิตสีขาวดำ หรือที่เรียกว่า Palais Royal มาเช้าเช้าจะได้มุมแบบนี้ค่ะ ถ่ายไม่ติดคนค่ะ
ไปทานมื้อแรกในฝรั่งเศสกัน นั่งรถไฟใต้ดินสายสีชมพูลงสถานี La Peletier ตรงมาที่ร้าน Bouillon Chartier Grands Boulevards เปิดประตูเข้ามาร้านสวยอลังการ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นร้านอาหารฝรั่งเศสเก่าแก่แห่งหนึ่งที่เปิดตั้งแต่ปี 1896 ค่ะ ร้านเปิด 11.30-00:00
สั่งเมนูแรก Escargot เป็นออร์เดิร์ฟ เรียกน้ำย่อย หรือน้องคือหอยทากที่เรารู้จักค่ะ
Main Course เป็น Steak เนื้อทานคู่กับ French fries เพิ่งเคยมาทานร้านนี้ครั้งแรกโดยรวมโอเค ราคาไม่แพง บริการดี
Next Station … ของคาวต่อด้วยของหวาน เดินย่อยสัก 5 นาทีตรงมาที่ร้าน Amorino Gelato สาขา Paris Bonne Nouvelle Gelato ฝรั่งเศสที่ทำเป็นรูปดอกกุหลาบ เลือก Size จ่ายเงินบอกจำนวนรสที่ต้องการ ไม่จำกัดรสนะคะ เราสั่ง 2 รส เป็นพิทาชิโอและสตอเบอร์รี่ค่ะ ร้านเปิด 12:00-23:50 วันจันทร์-ศุกร์เปิดบ่ายโมง
[CR] ฝรั่งเศส เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ : ทริปสบายสบายของเราสามคน
2.เบลเยียม
3.เนเธอร์แลนด์
เอกสารที่ใช้ขอวีซ่า
- รูปถ่ายพื้นหลังขาว 1 นิ้วครึ่ง 2 รูป
- ใบนัดและใบ checklist
- แบบฟอร์มขอวีซ่า
- แผนการเดินทาง
- ตั๋วเครื่องบินไปกลับ
- โรงแรมที่พัก
- ใบรับรองการทำงานระบุเงินเดือนและวันลา
- Salary Slip 3 เดือนย้อนหลัง
- Statement 3 เดือนย้อนหลัง
- ประกันเดินทางวงเงิน 2 ล้านบาท
- สำเนา Passport เล่มปัจจุบัน
- สำเนาวีซ่าเชงเก้นที่มีในเล่ม
เอกสารที่เตรียมไปเพิ่ม
- จดหมายแนะนำตัว
- ทะเบียนบ้าน สำเนาและตัวแปล
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- สำเนา Passport ทุกเล่มและหน้าที่มีตราปั้ม
Trick การเดินทาง
1. ฝรั่งเศส เบลเยียมและเนเธอร์แลนด์ ใช้สกุลเงินยูโรสามารถใช้บัตร Travel Card ได้ เงินสดพกติดตัวไปสักเล็กน้อยพอค่ะ
2. ศึกษาการเดินทางแต่ละเมือง มีบัตรเดินทางประเภทไหนบ้าง แบบ Day Pass Weekly , Duo , Triple ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เยอะกว่าซื้อแบบ Single Ticket
3. จองตั๋วรถไฟผ่าน App Trainline ได้ราคาดี ยิ่งจองล่วงหน้านานยิ่งได้ราคาถูกค่ะ
4. จองตั๋ว Museum ล่วงหน้าผ่าน Agency ใช้ส่วนลดบัตรเครดิต Partner ลดเพิ่มได้อีก และช่วยประหยัดเวลาไม่ต้องต่อแถวซื้อหน้างาน
5. ใช้ eSIM ซื้อผ่าน Trip ได้ราคาดี สัญญาณดี ถูกกว่าเปิด Roaming และ Pysical Sim ค่ะ
6. เตรียมโซ่คล้องกระเป๋าไว้ใช้บนรถไฟ กันโดนขโมยตอนที่เราไม่ได้มอง
7. เตรียมกระเป๋าสำหรับซ่อน Passport บางบางใส่ไว้เสื้อ Coat ป้องกันการโดนล้วงกระเป๋าค่ะ
8. เตรียมถุงผ้าเอาไว้ใช้ใน Supermarket ถุงพาสติกที่ยุโรปไม่ฟรี จะได้ไม่ต้องซื้อทุกครั้ง
บันทึกการเดินทาง : กรุงเทพ - ฝรั่งเศส
บันทึกการเดินทาง : ฝรั่งเศส
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้