[CR] ฮองกง-สายมงสายมู_2025

สวัสดีเที่ยวประจำปีบริษัทฯ กันอีกแล้วจ๊ะ ปีนี้ยังคงบรรยากาศจีนเช่นเคย แต่รอบนี้มาเติมความปังด้วยการไหว้พระที่ฮองกง มาเก๊า กันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ยอดฮิตเช่น วัดอาม่า วัดแชกงหมิว วัดฮองฮำ โบสถ์เซนต์ปอล ประมาณนี้ที่เค้าไปๆ กัน ซึ่งเราก็ยังไม่เคยมาหรอก ครั้งนี้ครั้งแรกของการมาเที่ยวฮองกง มาเก๊า ถือว่าเป็นฤกษ์งามยามดีปี 2025 แต่ก็ยังไม่หลุด Concept นะคะ เราเน้นกินเช่นเคยค่ะ พวกเราเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบิน EMIRATES ...พร้อมแล้วออกเดินทางกันได้เล้ยย”


10:30 น.พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ Check in
14:00 น. ลัดฟ้าสู่เกาะฮ่องกง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม. บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง (อร่อยอยู่นะ)
18:05 น. ถึงสนามบิน CHECK LAP KOK  สนามบินแห่งใหม่ของฮ่องกง สบายๆ สำหรับวันแรก

ก่อนจะแวะทานมื้อเย็นและเข้าที่พัก ไกด์พาเรามาเช็คอินกันที่ Avenue of Stars แลนด์มาร์คของฮ่องกงที่ถือว่าหากใครมาฮ่องกงแล้วไม่ได้มาเช็คอินตรงจุดนี้ ถือว่ายังมาไม่ถึงฮ่องกงนะ จุดนี้เราจะได้ชมทิวทัศน์ที่งดงามผสมผสานกับบรรยากาศสุดโรแมนติกของวิวอ่าววิคตอเรียที่มีการออกแบบที่แปลกตา
ตามหลักฮวงจุ้ย และบนเส้นทางเลียบริมอ่าวนี้ ยังมีรอยมือของเหล่าดาราและผู้มีชื่อเสียงประทับอยู่ตลอดเส้นทางอีกด้วย แต่เราแวะที่นี่แว้บเดียว แว้บเดียวจริงๆ เพราะต้องรีบออกไปยังร้านอาหาร และริมถนนที่เราจอดรถไว้ก็การจราจรติดมากๆ รีบจอด รีบลง รีบถ่ายรูป และรีบๆ ไปด่วนๆ เลยจ๊ะ...แต่เด่วเราจะเดินมาอีกรอบนึงในวันฟรีเดย์ เพราะริมอ่าวนี้ยังมีมิวเซียมและจุดเช็คอินอีกหลายจุดเลยค่ะ

จากนั้นเราก็มาที่ Prudential Hotel ที่พักของเราตลอดทริปนี้ เป็นโรงแรมที่มีทำเลยอดเยี่ยมเลยเพราะเชื่อมต่อกับ MTR สถานี Jordan เดินทางสะดวก มีร้านอาหารและแหล่งช้อปปิ้งมากมาย ออกมาก็เจอเซเว่นเลย ห้องพักมีขนาดกว้างขวางสะอาด และก่อนที่เราจะขนสัมภาระขึ้นไปเก็บ เราจะเดินไปทานมื้อเย็นกันก่อนค่ะ ก็ไม่ไกลใกล้ๆ โรงแรมนี่แหละ อาหารก็จะเป็นแบบโต๊ะจีนค่ะ

จากโรงแรมไม่ไกลในย่าน Jordan จะมีถนนคนเดิน Temple Street Night Market กินอิ่มละก็ออกเดินเล่น สำรวจเมือง และบรรยากาศรอบๆ กันหน่อย ถนนคนเดิน Temple Street Night Market หนึ่งในตลาดยามค่ำคืนที่ครึกครื้นที่สุดแห่งหนึ่งในฮ่องกง ตลอดทางเดินเค้าก็จะปรับดับประดาไปด้วยโคมไฟ ป้ายไฟนีออน รวมถึงอาหารซีฟู๊ดให้เลือกชิมตลอดทางเดิน ถ้าใครพักที่อื่นละนั่งรถไฟใต้ดินมาก็สามารถนั่งมาลงสถานี Jordan ทางออก A ได้นะ เปิด 6 โมงเย็น ถึง 4 ทุ่ม ค่ะ

เดินเล่นถ่ายรูป ก่อนเข้านอนจ้า

สวัสดี DAY-2
วันนี้เราจะข้ามฝั่งไปเที่ยวที่มาเก๊า แต่ก่อนอื่นจะไปเราแวะทานมื้อเช้าก่อนออกเดินทางนะ ร้านอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมเท่าไร เดินข้ามถนนไปอีกฝั่ง เป็นอาหารเช้าของฮองกงนะ พวกโจ๊กฮองกง ซาลาเปา ขนมจีบ ประมาณนี้แหละจากนั้นเราจะเดินทางจากฮองกงโดยข้ามสะพานฮ่องกง จูไห่ มาเก๊า โดยรถโค้ช เป็นสะพาน HZMB หรือสะพานเชื่อมระหว่าง ฮ่องกง จูไห่ มาเก๊า  เป็นสะพานอุโมงค์ข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก ช่วยลดเวลาเดินทางระหว่างฮ่องกง มาเก๊า และจูไห่ได้มาก พร้อมชมวิวทะเลตลอดเส้นทาง ซึ่งวันนี้เราจะไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมริมทะเล - โบสถ์เซนต์ปอล - เซนาโด้สแควร์ - วัดเจ้าแม่กวนอิม - THE VENETIAN และก็ข้ามสะพานฮ่องกง จูไห่ มาเก๊า จากนั้นก็ข้ามกลับมานอนที่ฮ่องกงที่เดิม


จุดนี้แลนด์มาร์ค คนล้านแปด ถ่ายปุ๊บเดินออกเลยจ๊ะ

ก่อนกลับเราแวะเที่ยวไปสัมผัสความอลังการของโรงแรมที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองมาเก๊า เดอะเวเนเชี่ยนสักหน่อย ที่นี่มีร้านค้าแบรนด์เนมชั้นนำมากมาย โดดเด่นด้วยเนื้อที่เพื่อการเสี่ยงโชคหลากหลายรูปแบบ (แต่เราไม่ได้เข้าไปหรอกนะ) เราเดินชมบรรยากาศเวนิส ล่องเรือกอนโดล่าในดินแดนเวนิสแห่งตะวันออก และสิ่งบันเทิงมากมาย เช่น ร้านขายสินค้าต่าง ๆ ร้านอาหาร POPMART และถ้าใครมาที่นี่สิ่งที่ห้ามพลาดเลยคือ ทาร์ตไข่ Lord Stow's Bakery อันเลิศรส ต่อคิวยาวนานด้วยนะ เราต้องฝากไกด์ซื้อให้เลยอะ ก็คืออร่อยจริงอะ ชิ้นเดียวมันไม่พอ 55++

กิน-เที่ยว-ช๊อป-สายมูขอพรที่มาเก๊าเรียบร้อย เราก็เดินทางกลับมายังฮองกงกันค่ะ นั่งรถโค้ชเหมือนเดิมข้ามสะพานมายังด่านตรวจคนเข้าเมือง (ซึ่งนานมากเป็นชั่วโมงเลย) เริ่มหิวด้วยมาถึงโรงแรมก็คือเดินหาของกินก่อนเลย เป็นร้านจากไกด์แนะนำมาซึ่งอยู่ข้างๆ โรงแรมเลยค่ะ เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อลูกชิ้น ขี้เกียจเดินอะนะก็ลองสักหน่อยเค้าว่าอร่อยเราก็อย่าไปเชื่อ ไปลองชิมดู น้ำซุปจะออกใสๆ หนะ ส่วนตัวก็พอทานได้ เราสั่งปลาและแอบกินเนื้อของเพื่อนอร่อยดี มีแบบพวกลวกจิ้มด้วยนะ กินเสร็จก็เดินเล่นต่อสักหน่อย อยู่มาเก๊าไม่ได้ช๊อปปิ้งอะไรเลย ราคาสินค้าค่าเงินเค้าแพงมากๆ ได้แต่ดูไปเพลินๆ เราเลยแวะดูร้านยาข้างโรงแรมอีกเช่นเคยถือว่าโรงแรมนี้ดีมากใกล้ทุกอย่างมีทุกอย่างจริงๆ  บัตร youtrip ที่พกไปนี่คือรูดเพลินมาก


มาถึงวันที่ 3 สำหรับทริปนี้แล้วนะจ๊ะ
วันนี้เค้าให้อิสระใครอยากจะไปเที่ยวไหนก็ได้เพราะว่าบางคนอยากเดินช๊อปปิ้ง บางคนอยากไปเที่ยวดีสนีย์แลนด์ ก็เลยอนุญาติให้แต่ละคนไปเที่ยวกันเองตามสบาย ส่วนเราวางแผนคร่าวๆ สำหรับวันนี้มาบ้าง ก็คือเราจะเดินชมเมืองด้วยการนั่งรถไฟใต้ดินไปยังฝั่งฮองกง ซึ่งเป็นย่านธุรกิจอย่าง เซ็นทรัล (Central) รวมถึงเมืองเก่าของที่นั่นด้วย เช่น Art Lane : ถนน สตรีทอาร์ต ฮ่องกง Street Art จุดถ่ายรูปสุดปัง และข้ามกลับมาเดินเล่นที่ฝั่งเกาลูนอีกครั้ง เพื่อมาช๊อปปิ้งในย่านจิมซาจุ่ย และเดินชมมิวเซียมริมอ่าววิตอเรียกอีกครั้ง แต่ก่อนเดินทางเราจะต้องหาอะไรรองท้องกันก่อนนะ อยากกินโจ๊กฮองกงมากเลย เพราะเป็นคนชอบกินโจ๊ก เช้านี้ต้องเดินตามหาสักหน่อย ปักหมุดแล้วเห็นมีร้านติ่มซัมอยู่ไม่ไกลจากโรงแรม เด่วเราจะค่อยๆ เดินชมเมืองไปด้วย ถ่ายรูปเล่นไปด้วย รับรองว่าวันนี้เดินมากกว่าสองหมื่นก้าวแน่นอน

กินติ่มซำเรียบร้อยเราก็เดินไปนั่งรถไฟใต้ดิน จากสถานีจอร์แดนไปลงสถานีเซ็นทรัลฝั่งฮองกงกันค่ะ ใช้เวลา 15 นาทีโดยประมาณ มั่วๆ ซั่วๆ ไป เป็นการเดินทางคนเดียวครั้งแรกเลยอะ ตื่นเต้นมากแต่สนุกดี พยายามมองป้ายบอกทาง และดูแอ๊ปในมือถือไปด้วย ก็ไม่ได้ยากมากนะ ค่าโดยสารก็ใช้บัตร YOUTRIP แตะเข้าออกได้เลย สะดวกมาก

จากสถานีเซ็นทรัล ถ่ายรูปจนเหงื่อฉ่ำแล้วเดินเล่นรอบๆ สักพักแล้วเดินทางต่อจ๊ะ เราจะไปถนนสตรีทอาร์ต จากสถานีเซ็นทรัลไปลงสถานี Sai Ying Pun ทางออก A3 (เออละก็คือออกผิด) ถ้าออกทางออก 3 ก็คือเจอเลย แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ เดินอ้อมเล่นและก็ได้หาอะไรกินไปด้วยเลย ซึ่งในย่าน Sheung Wan – Sai Ying Pun ยังเป็นย่านที่ขายอาหารทะเลตากแห้ง ใบชา สมุนไพร ภาพทั้งหมดที่เราเห็นในสถานีแห่งนี้ คือบรรยากาศจริงที่เกิดขึ้นในอดีตจนถึงปัจจุบัน บรรยากาศโดยรวมก็คือเหมือนเยาวราชบ้านเราเลยอะ

เราทานมื้อกลางวันริมถนน ไม่ได้พยายามตามหาร้านในรีวิวเจอร้านไหนก็กินเลย เจอร้านโจ๊กน่ากินอีกละ รีบเลี้ยวเข้าเลยดูจากราคาไม่แรงมากนัก แต่กินไม่ได้เลยจ๊ะ มีแต่เมนูแป้งๆ อะ เหมือนจะน่ากิน สั่งแล้วก็อิ้งไปเลย กินรองท้องไปก่อนเด่วเราต้องเดินต่อไปยังถนนสตรีทอาร์ต ฮ่องกง แห่งใหม่ที่ปังที่สุด ติดกับย่าน Sheung Wan ใกล้ โรงแรม iClub Sheung Wan จ๊ะ



จากถนนสตรีทอาร์ต เรานั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานีจิมซาจุ่ย แล้วแวะชม Hong Kong Museum of Art ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะฮ่องกง ที่นี่มีผลงานศิลปะมากมาย และมุมถ่ายรูปที่สวยงาม ไม่ต้องเสียค่าเข้าชม ตั้งอยู่ริมน้ำจิมซาจุ่ย ติดกับท่าเรือวิกตอเรีย และยังมีพิพิธภัณฑ์อวกาศฮ่องกงด้วยนะแต่ที่นี่จะเสียค่าเข้าโดยผู้ใหญ่ราคา 10 ดอลลาร์ฮ่องกงเท่านั้น

เราสามารถถ่ายรูปและชมวิวไปเรื่อยๆ ได้นะคะ ใกล้ๆ นี้ก็มีสัญลักษณ์แห่งกาลเวลาของฮ่องกง ซึ่งเป็นหอนาฬิกาเก่าแก่ที่ยังยืนหยัดท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเมืองใหญ่ มีชื่อเป็นทางการคือหอนาฬิการถไฟเกาลูน - แคนตันในอดีต มีความสูง 44 เมตร เมื่อปี 1915 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสถานีรถไฟเกาลูนแคนตันในจิมซาโจ่ย และมักเรียกกันว่าหอนาฬิกาจิมซาจุ่ยตามสถานที่ตั้ง

เราเดินไปถ่ายรูปกับบรูซลี ดาราจีนที่โด่งดังระดับฮอลลีวูด ด้วยความสามารถด้านศิลปะการต่อสู้แบบจีทคุนโด้ ก่อนจะเดินไปจับจองที่นั่ง เพื่อชมกการแสดง Symphony of Lights ที่ริมแม่น้ำ ซึ่งสามารถมองเห็นตึกของฮ่องกงกว่า 40 ตึก ทั้งฝั่งฮ่องกงและเกาลูนเปิดไฟขึ้นพร้อมกันอย่างสวยงาม แต่ละตึกจะยิงแสงเลเซอร์สีต่างๆ ให้เข้ากับจังหวะเพลงที่เปิดตลอดการแสดงโชว์ อลังการสุดๆ สามารถยืนชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย และมีตอน 2 ทุ่มของทุกวันค่ะ

หลังจากชมแสงสีเสียงแล้ว เราก็เดินข้ามมาที่ฝั่งจิมซาจุ่ย แวะช๊อปปิ้งของฝาก และหาอะไรทานก่อนกลับโรงแรมสักเล็กน้อยจ๊ะ (เดินกลับโรงแรมด้วยนะ)


วันสุดท้ายของทริปนี้ มูกันให้ฉ่ำๆ เริ่มจากวัดหวังต้าเซียน ซึ่งเป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในฮ่องกง ขึ้นชื่อด้านการรักษาโรค เสริมโชคชะตา และความรัก ที่นี่รวมเทพเจ้าไว้หลายองค์ โดยเฉพาะเทพเจ้าหวังต้าเซียน และเทพเจ้าหยกโหลวที่คนไทยนิยมมาขอพรเพื่อความสมหวังในชีวิต

ก่อนจะไปมูกันต่อที่วัดแชกงหมิว หรือ วัดกังหันลม เราแวะทานมื้อเที่ยงกันก่อนค่ะ ชื่อร้าน "Thai Pot" ที่นี่ไม่ได้เป็นบุฟเฟ่นะ เลือกได้ว่าจะหมูหรือเนื้อมีหม้อแยกหรือรวมกันก็ได้ พร้อมน้ำและเครื่องเคียงใดๆ ก็พอรับทานได้นะ  

มาถึงวัดแชกงหมิวก็ทำพิธีขอพรกันค่ะ วัดนี้ดังอยู่แล้ว ไม่ต้องอธิบายให้มากความ เฮงๆๆ กันถ้วนหน้าค่ะ

ไปต่อกันที่พระใหญ่เกาะลันเตา เป็นศูนย์กลางสำคัญของพุทธศาสนาในฮ่องกงองค์พระพุทธรูปเป็นรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ความสูงถึง 34 เมตร โดยเราจะนั่งกระเช้าไปและเดินต่อไปอีกหน่อยค่ะ เราชอบที่นี่มากค่ะ อากาศเย็นสบาย รับพรสบายกายใจเลยค่ะ

จบทริปสายมู แบบปังตลอดทั้งปีเรียบร้อย มาดูกันว่าพรที่ขอไว้จะเป็นจริงหรือไหม แต่สิ่งที่ได้แน่นอนคือความสบายใจ สบายพุงค่ะ

สำหรับคนที่มีเวลาไม่มาก การมาเที่ยวฮ่องกงในวันหยุดสั้นๆ ถือเป็นเรื่องง่ายค่ะ เสาร์อาทิตย์ก็ยังมาได้ เดินทางไม่นาน ของกินมากมายด้วยค่ะ ขอให้ทริปฮองกงเป็นทริปที่สนุกในวันหยุดของทุกคนนะคะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่