Armello เป็นเกม digital board game ที่ผสมผสานแนวเกมสามแนวเข้าด้วยกันคือ เกมการ์ด, เกมกระดานแบบผลัดตาเดินและการสวมบทบาท โดยในเกมนั้นจะมีตัวละครจากสี่เผ่าให้เลือกเล่น โดยจะต้องทำภารกิจเพื่อบรรลุเป้าหมายหนึ่งเดียวนั้นคือ การขึ้นเป็นผู้นำตัวใหม่ แทนองค์ราชาผู้สติวิปลาสจากการถูกครอบงำโดย Rot แต่หนทางนั้นก็มิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เนื่องด้วยมีคู่แข่งจากเผ่าอื่น ที่พร้อมจะขัดขาหรือไม่ก็ร่วมมือเป็นพันธมิตรชั่วคราวก่อนที่จะหักหลังเราได้ทุกเมื่อเช่นกัน นั้นจึงทำให้การเล่นในแต่ละเกมนั้นจะมอบประสบการณ์ในการเล่นที่แตกต่างไม่ซ้ำกันเลย (โดยเฉพาะเมื่อได้เล่นกับเพื่อน รับรองเลยว่าเจอสารพัดเหลี่ยมร้อยเล่มเกวียนประเคนมาไม่พักในแต่ละเทิร์นเลย)
แต่ก็ใช่ว่าเกมนี้จะไม่มีเนื้อเรื่องหรือประวัติอะไรเลย เพราะหากตามเรื่องราวจากนิยายที่ทางทีมผู้พัฒนาได้ปล่อยออกมาทั้งหมด 7 เล่ม กลับแง้มออกมาว่าเรื่องราวใน Armello นั้นมีอะไรมากกว่าที่เราเห็น และยังน่าสนใจมากอีกด้วย ซึ่งถ้าจะให้เล่าก็ขอเริ่มเกริ่นนำเลยละกันว่า.....
ก่อน Armello จะรวมเป็นหนึ่ง
แต่ครั้นบรรพกาล ก่อนที่ทุกสรรพชีวิตจะถือกำเนิด มีขั้วพลังในธรรมชาติอยู่ 2 ขั้ว นั้นคือ Wyld (พฤกษาบริสุทธิ์) กับ Rot (มลทินเสื่อมสลาย) ซึ่งทั้งสองพลังนี้เป็นพลังที่ถ่วงดุลซึ่งกันและกัน (Wyld เปรียบเป็นพลังแห่งชีวิตและความบริสุทธิ์ ในขณะที่ Rot เปรียบเป็นความเสื่อมสลายและความตาย) ทำให้ธรรมชาติสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ แต่เนื่องด้วยการขาดสิ่งควบคุมที่สามารถถ่วงดุลขั้วพลังทั้งสองได้ในธรรมชาติ จึงทำให้ทั้งสองขั้วพลังต่างผลัดกันขึ้นมามีอิทธิพลเหนืออีกฝั่ง รวมไปถึงเหล่าสรรพชีวิตต่างๆ บนโลกแห่ง Armello ด้วย (และนี้เองอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้บรรดาสัตว์ต่างๆ ใน Armello มีสติปัญญาและสามารถใช้เวทย์มนต์ได้นั้นเอง)
อิทธิพลของ Wyld กับ Rot ที่มีผลต่อเหล่าสรรพชีวิตนั้นมีมากมาย สรรพสัตว์มากมายต่างยำเกรงและเคารพพลังเหนือธรรมชาตินี้ บ้างก็นับถือประหนึ่งดั่งเทพเจ้าผู้บงการทุกสรรพสิ่ง จึงบังเกิดเป็นเหล่าสัตว์ที่ยอมถวายชีวิตและจิตวิญญาณให้กับอำนาจศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองนี้
- เหล่าผู้ที่นับถือ Wyld (Wyld touched) คือเหล่าผู้ที่เชื่อมั่นว่า รุกขไพร (Wyld Tree) คือสิ่งที่สร้างและบงการในทุกสรรพสิ่ง ผ่านตัวแทนหรือเหล่า Druid ผู้ลึกลับ พร้อมพลังแห่งการรักษาและอำนาจลึกลับน่ายำเกรง ที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนด้วยสิ่งที่เท่าเทียมกันผ่านพิธีกรรมบูชายัญ
- เหล่าผู้ที่บูชา Rot (Follower of the Worm) คือเหล่าผู้ที่นับถือและมองว่า Rot คือพลังที่เท่าเทียมกับ Wyld ด้วยพลังแห่งความเสื่อมสลายและการกลืนกิน แต่สำหรับสัตว์ทั่วไปที่ถูกครอบงำโดย Rot มักจะเกิดการเสียสติไปก่อน จนมีสัตว์เพียงน้อยนิดเท่านั้นที่จะยังคงสติจนสามารถเข้าใจเสียงกระซิบพร่ำเรียกจาก Worm.....
Wyld และ Rot สองพลังขั้วตรงข้ามที่ทำให้ธรรมชาติยังขับเคลื่อนต่อไปได้
ยุคสมัยแห่งมังกร
แต่ก็มีสิ่งมีชีวิตอยู่สายพันธุ์หนึ่งที่สามารถเข้าใจแก่นแท้ของ Rot ได้ นั้นก็คือ เหล่าลูกหลานมังกร (Dragon Clan) ที่สามารถเข้าใจเจตจำนงค์แห่ง Rot และสามารถหยิบยืมพลังของมันเอามาใช้ได้ โดยแลกกับการจำยอมตอบสนองต่อความปรารถนาของ Rot เพื่อถ่วงดุลอำนาจกับ Wyld ที่ได้รับการบูชาและน้อมรับเจตจำนงค์จากเหล่าสรรพสัตว์อื่นๆ มากกว่านั้นเอง ซึ่งในสายตาของเหล่าลูกหลานมังกรมองว่า Wyld คือ ขั้วพลังที่วุ่นวายและเอาแน่เอานอนไม่ได้ ทุกสิ่งที่ Wyld มอบให้ ล้วนต้องแลกด้วยสิ่งที่มีค่าเท่ากันเสมอ ดังนั้นหาก Wyld มีอิทธิพลมากไป ก็จะทำให้สังคมของเหล่าสรรพสัตว์ถูกทำลายและกลืนกินด้วยธรรมชาติไปจนหมดสิ้น ในขณะที่ Rot นั้นนำระเบียบกลับคืนสู่ธรรมชาติอันวุ่นวายและอันตราย อันนำมาซึ่งความสงบสุขอันเป็นนิรันดร์
และด้วยอำนาจแห่ง Rot นี้เองจึงทำให้ลูกหลานแห่งมังกรสามารถขึ้นเป็นใหญ่และปกครองเหนือดินแดน Armello ได้โดยไร้ผู้เทียมทัด แต่ด้วยเหตุที่ไม่อาจทราบได้ ในท้ายที่สุดเหล่าลูกหลานแห่งมังกรก็จำต้องหลบหายไป ทิ้งดินแดนแห่ง Armello ไว้ให้สรรพสัตว์อื่นๆ เข้าปกครองกันเอง (อาจสันนิษฐานได้ว่าในยุคสมัยนี้ หลังจากที่ Rot มีอำนาจมากเกินไป จึงทำให้เกิดเหตุบางอย่างที่ทำให้สมดุลแห่งพลังกลับเข้าสู่สภาวะเดิม)
เหล่าลูกหลานมังกรผู้สามารถควบคุม Bane กายเนื้อที่ก่อกำเนิดจากพลังของ Rot
ยุคสมัยแห่งสี่เผ่า
หลังจากอำนาจของเหล่าลูกหลานแห่งมังกรยุติลงไป ก็ถึงเวลาที่เหล่าสรรพสัตว์สายพันธุ์ต่างๆ ใน Armello ได้มีอิสระในการดำรงชีวิตโดยไร้ซึ่งอิทธิพลของ Wyld และ Rot เข้ามาบงการโดยตรง จนทำให้เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับพลังเหนือธรรมชาติเหล่านั้นเริ่มเลือนหายกลายเป็นเรื่องเล่าหรือนิทานพื้นบ้านไปเท่านั้น อย่างมากก็ยังคงมีแค่บางเผ่าที่ยังคงเคารพและยึดถือใน Wyld อยู่บ้าง
แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะสงบเรียบร้อยดี เพราะสัตว์แต่ละสายพันธุ์ต่างก็มีการสร้างอารยธรรมและเมืองของตนเอง ซึ่งนั้นก็นำไปสู่ความขัดแย้งและสงครามที่ไม่เคยมีวันจบสิ้น ผู้อ่อนแอจำต้องยอมอ่อนน้อมต่อผู้ที่แข็งแกร่งกว่า เจ้าเล่ห์กว่า และมั่นคงกว่า
หลังจากผ่านห้วงเวลาแห่งความวุ่นวาย ในที่สุด ก็มี 4 เผ่าที่สามารถยืนหยัดและแผ่อิทธิพลเหนือสรรพสัตว์บน Armello นั้นก็คือ
1. เผ่าหมี (Bear Clan) ผู้รักสงบและความสันโดษ มีความศรัทธาใน Wyld ที่เหนี่ยวแน่นมากที่สุด จึงยังคงมีอาศัยใกล้ชิดกับธรรมชาติด้วยเชื่อว่าจะเป็นการเข้าถึง Wyld ให้ได้มากที่สุด จึงทำให้พวกหมีเป็นเผ่าที่มีความเชี่ยวชาญด้านเวทย์มนต์และจิตวิญญาณเป็นอย่างมาก เมื่อรวมเข้ากับร่างกายที่แข็งแรงมหึมาจึงทำให้เผ่าอื่นๆ ไม่กล้าที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวมากนัก
2. เผ่าหมาป่า (Wolf Clan) ผู้เก่งกาจด้านการต่อสู้และยึดมั่นในศักดิ์ศรีเป็นที่ตั้ง ซึ่งเกิดจากการรวมหมาป่าจากแต่ละเผ่าบนพื้นที่เทือกเขาแดนเหนือเข้าด้วยกัน โดยปกติแล้วจะไม่ค่อยสนใจเผ่าอื่นมากนัก นอกเสียจากจะเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับผลปรธโยชน์ของเผ่าโดยตรง
3. เผ่าหนู (Rat Clan) ผู้เปี่ยมล้นไปด้วยเล่ห์เพทุบายและเชี่ยวชาญด้านการเมืองการปกครองมาก ทั้งยังเป็นพวกที่มีจำนวนมากที่สุดแล้ว แต่ก็แบ่งกันไปหลายกลุ่มตระกูล ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละกลุ่มตระกูลนั้นก็เพียงแค่จับมือรวมตัวกันอย่างหลวมๆ แต่ลับหลังนั้นก็จ้องจะหักหลังกันตลอดเวลา และคงเพราะด้วยสาเหตุนี้นี่เอง จึงทำให้หนูพวกนี้ยังไม่ครอง Armello ได้สำเร็จสักที...
4. เผ่ากระต่าย (Rabbit Clan) ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์การก่อสร้างและงานประดิษฐ์ และยังเป็นพวกแรกๆ ที่สามารถดึงเอาทรัพยากรแร่จากใต้พื้นพิภพมาแปรธาตุเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งหมดนี้จึงทำให้กระต่ายที่ดูบอบบางกลายเป็นหนึ่งในเผ่าที่ไม่สามารถดูถูกดูแคลนได้เลย ซ้ำยังน่าชื่นชอบถึงความสามารถและชาญฉลาดเหล่านี้ ที่ทำให้เผ่ากระต่ายก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในเผ่าที่มีอิทธิพลไม่แพ้เผ่าอื่นเลย
ยุคสมัยแห่งการรวมเผ่า
แน่นอนว่าทั้ง 4 เผ่ามีความขัดแย้งกันไม่ว่าจะด้วยการเมือง ผลประโยชน์ หรือปัญหายิบย่อยต่างๆ มากมาย แต่ทั้งสี่เผ่าก็รู้ดีว่าการเปิดสงครามเบ็ดเสร็จนั้นไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดแน่นอน จึงได้มีการสร้างข้อตกลงกันในการให้เมืองการค้า Brimwatch ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างชายแดนของทั้งสี่เผ่า ให้เป็นพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การดูแลของทั้งสี่เผ่าที่แบ่งเขตแดนกัน ซึ่งแน่นอนว่าความขัดแย้งยังมีอยู่ เพียงแค่รอเวลาที่จะระเบิดขึ้นมาเท่านั้น
แต่อยู่มาวันหนึ่งก็ได้มีราชสีห์แปลกหน้าผู้ไม่อาจทราบได้ว่ามาจากที่ใด (ราชสีห์คือสิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยมีปรากฏใน Armello มาก่อน) มีข่าวล่ำลือว่าเขานั้นคือเชื้อพระวงศ์ผู้ถูกเนรเทศ บ้างก็ว่าเขานั้นเป็นผู้แปลกหน้าจากแดนไกลที่อาจจะเป็นคนละภพเลยด้วยซ้ำไป แต่สิ่งที่เข้านำติดมาด้วยคือ แผนที่วิเศษที่สามารถเผยพิกัดในสิ่งที่เขาประสงค์ และกองการ์ดเวทย์มนต์ที่เปี่ยมไปด้วยอำนาจเกินจินตนาการ ด้วยของวิเศษเหล่านี้ จึงทำให้เขาใช้มันเพื่อการรวมดินแดน Armello ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
ในเริ่มแรก เขาปลดปล่อยทาสในเหมืองทองของพวกหนูที่ถูกลอบขุดในเขตแดนของหมาป่า แล้วชักจูงให้ทาสที่โกรธแค้นเข้าเผาทำลายอาคารสำคัญในย่านหนูใน Brimwatch โดยกุหลักฐานปลอมว่าพวกกระต่ายเป็นพวกอยู่เบื้องหลัง ทำให้พวกหนูและกระต่ายรบกัน ส่วนพวกหมีที่มีพันธะสัญญาในการเข้ามาแทรกแซงเพื่อความสงบของเมืองนั้นก็ยอมนิ่งเฉย เพราะราชสีห์ได้ใช้พลังแห่งการ์ดในการเสกศิลาวิญญาณ (Spirit Stone) หนึ่งในสิ่งล้ำค่าและทรงพลังของ Wyld ที่พวกหมีบูชานับถือ แลกกับการที่พวกหมีต้องไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งครั้งนี้ หลังการศึกจบที่ชัยชนะแบบเบ็ดเสร็จของพวกหนู ราชสีห์ก็แจ้งข่าวเรื่องการลอบขุดทองของพวกหนูในดินแดนหมาป่า จึงทำให้กองกำลังหมาป่าเข้ากวาดล้างกองกำลังส่วนใหญ่ของหนู ซึ่งในท้ายที่สุดนี้เองราชสีห์ก็ได้ใช้เวทย์ Rot จากการ์ดในการอัญเชิญ Bane (สิ่งมีชีวิตที่เกิดจากการรวมกันของ Rot) กำจัดผู้นำของทัพหมาป่า แล้วร่วมมือพวกหมีและกองกำลังหมาป่าที่เหลือในการกำจัด Bane ด้วยศิลาวิญญาณจนสิ้นซาก
หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมด ราชสีห์ก็ได้ชักชวนผู้นำทั้งสี่เผ่ามาทำข้อตกลงร่วมกันในการรวมเผ่าเพื่อสถาปนาอาณาจักร Armello เพื่อยุติความขัดแย้งทั้งหมดที่เกิดขึ้น แล้วสร้างความร่วมมือและสันติภาพที่ถาวร โดยมีข้อตกลงดังนี้
1. เมือง Brimwatch จะต้องถูกยุบลงแล้วสร้างใหม่เป็นป้อมปราการที่จะเป็นศูนย์กลางแห่งอาณาจักร Armello โดยมีเหล่ากระต่ายเป็นผู้ออกแบบ
2. เหล่าหมาป่าสนับสนุนส่งกองกำลังหมาเผ่า Retriever ชั้นยอดเป็นกองกำลังองครักษ์รักษาพระองค์
3. เหล่าหนูเป็นผู้ออกแบบกฏหมายและระเบียบการปกครอง ที่จะสร้างความเป็นธรรมให้กับสิ่งมีชีวิตทุกเผ่าพันธุ์
4. เหล่าหมีจะเป็นผู้นำทางด้านจิตวิญญาณ และได้รับอนุญาตให้สามารถศึกษาศาสตร์แห่ง Wyld ได้ตามปรารถนา
Armello รวมเป็นหนึ่ง
แต่ความสงบสุขนี้ก็สั้นนัก มีข่าวลือมากมายว่าองค์ราชานั้นถูกครอบงำโดย Rot ที่เริ่มหวนคืนมา ราชาผู้สติเริ่มวิปลาสนำไปสู่ความขัดแย้งทุกข์ยากที่เริ่มก่อตัวขึ้น และแน่นอนว่านี้เป็นโอกาสที่หลายเผ่าต่างเฝ้ารอและเตรียมตัวสำหรับศึกชิงบังลังก์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่ไม่ใช่เพียงแต่ต้องระวังการฉวยโอกาสทางการเมืองจากเผ่าอื่นๆ เพียงเท่านั้น เพราะแม้แต่เหล่าลูกหลานแห่งมังกรก็ยังหวนคืนกลับมา พร้อมๆ กับกลุ่มอิสระที่ไม่สังกัดฝ่ายอีกมากมายที่อาศัยจังหวะโกลาหลที่กำลังจะตามมา เพื่อประโยชน์ส่วนตัวด้วยเช่นกัน
ถ้าอยากรู้ว่าเรื่องราวต่อไปจะเป็นยังไงนั้น ก็ขอให้ลองไปเล่นเกมนี้ดู แล้วกำหนดโชคชะตาขึ้นมาแล้วก้าวขึ้นเป็นผู้นำแห่ง Armello ด้วยตัวเองเลย...........
Armello อารัมภบทเรื่องราวก่อนศึกชิงบังลังก์
แต่ก็ใช่ว่าเกมนี้จะไม่มีเนื้อเรื่องหรือประวัติอะไรเลย เพราะหากตามเรื่องราวจากนิยายที่ทางทีมผู้พัฒนาได้ปล่อยออกมาทั้งหมด 7 เล่ม กลับแง้มออกมาว่าเรื่องราวใน Armello นั้นมีอะไรมากกว่าที่เราเห็น และยังน่าสนใจมากอีกด้วย ซึ่งถ้าจะให้เล่าก็ขอเริ่มเกริ่นนำเลยละกันว่า.....
ก่อน Armello จะรวมเป็นหนึ่ง
แต่ครั้นบรรพกาล ก่อนที่ทุกสรรพชีวิตจะถือกำเนิด มีขั้วพลังในธรรมชาติอยู่ 2 ขั้ว นั้นคือ Wyld (พฤกษาบริสุทธิ์) กับ Rot (มลทินเสื่อมสลาย) ซึ่งทั้งสองพลังนี้เป็นพลังที่ถ่วงดุลซึ่งกันและกัน (Wyld เปรียบเป็นพลังแห่งชีวิตและความบริสุทธิ์ ในขณะที่ Rot เปรียบเป็นความเสื่อมสลายและความตาย) ทำให้ธรรมชาติสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ แต่เนื่องด้วยการขาดสิ่งควบคุมที่สามารถถ่วงดุลขั้วพลังทั้งสองได้ในธรรมชาติ จึงทำให้ทั้งสองขั้วพลังต่างผลัดกันขึ้นมามีอิทธิพลเหนืออีกฝั่ง รวมไปถึงเหล่าสรรพชีวิตต่างๆ บนโลกแห่ง Armello ด้วย (และนี้เองอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้บรรดาสัตว์ต่างๆ ใน Armello มีสติปัญญาและสามารถใช้เวทย์มนต์ได้นั้นเอง)
อิทธิพลของ Wyld กับ Rot ที่มีผลต่อเหล่าสรรพชีวิตนั้นมีมากมาย สรรพสัตว์มากมายต่างยำเกรงและเคารพพลังเหนือธรรมชาตินี้ บ้างก็นับถือประหนึ่งดั่งเทพเจ้าผู้บงการทุกสรรพสิ่ง จึงบังเกิดเป็นเหล่าสัตว์ที่ยอมถวายชีวิตและจิตวิญญาณให้กับอำนาจศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองนี้
- เหล่าผู้ที่นับถือ Wyld (Wyld touched) คือเหล่าผู้ที่เชื่อมั่นว่า รุกขไพร (Wyld Tree) คือสิ่งที่สร้างและบงการในทุกสรรพสิ่ง ผ่านตัวแทนหรือเหล่า Druid ผู้ลึกลับ พร้อมพลังแห่งการรักษาและอำนาจลึกลับน่ายำเกรง ที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนด้วยสิ่งที่เท่าเทียมกันผ่านพิธีกรรมบูชายัญ
- เหล่าผู้ที่บูชา Rot (Follower of the Worm) คือเหล่าผู้ที่นับถือและมองว่า Rot คือพลังที่เท่าเทียมกับ Wyld ด้วยพลังแห่งความเสื่อมสลายและการกลืนกิน แต่สำหรับสัตว์ทั่วไปที่ถูกครอบงำโดย Rot มักจะเกิดการเสียสติไปก่อน จนมีสัตว์เพียงน้อยนิดเท่านั้นที่จะยังคงสติจนสามารถเข้าใจเสียงกระซิบพร่ำเรียกจาก Worm.....
ยุคสมัยแห่งการรวมเผ่า
แน่นอนว่าทั้ง 4 เผ่ามีความขัดแย้งกันไม่ว่าจะด้วยการเมือง ผลประโยชน์ หรือปัญหายิบย่อยต่างๆ มากมาย แต่ทั้งสี่เผ่าก็รู้ดีว่าการเปิดสงครามเบ็ดเสร็จนั้นไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดแน่นอน จึงได้มีการสร้างข้อตกลงกันในการให้เมืองการค้า Brimwatch ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างชายแดนของทั้งสี่เผ่า ให้เป็นพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การดูแลของทั้งสี่เผ่าที่แบ่งเขตแดนกัน ซึ่งแน่นอนว่าความขัดแย้งยังมีอยู่ เพียงแค่รอเวลาที่จะระเบิดขึ้นมาเท่านั้น
แต่อยู่มาวันหนึ่งก็ได้มีราชสีห์แปลกหน้าผู้ไม่อาจทราบได้ว่ามาจากที่ใด (ราชสีห์คือสิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยมีปรากฏใน Armello มาก่อน) มีข่าวล่ำลือว่าเขานั้นคือเชื้อพระวงศ์ผู้ถูกเนรเทศ บ้างก็ว่าเขานั้นเป็นผู้แปลกหน้าจากแดนไกลที่อาจจะเป็นคนละภพเลยด้วยซ้ำไป แต่สิ่งที่เข้านำติดมาด้วยคือ แผนที่วิเศษที่สามารถเผยพิกัดในสิ่งที่เขาประสงค์ และกองการ์ดเวทย์มนต์ที่เปี่ยมไปด้วยอำนาจเกินจินตนาการ ด้วยของวิเศษเหล่านี้ จึงทำให้เขาใช้มันเพื่อการรวมดินแดน Armello ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
ในเริ่มแรก เขาปลดปล่อยทาสในเหมืองทองของพวกหนูที่ถูกลอบขุดในเขตแดนของหมาป่า แล้วชักจูงให้ทาสที่โกรธแค้นเข้าเผาทำลายอาคารสำคัญในย่านหนูใน Brimwatch โดยกุหลักฐานปลอมว่าพวกกระต่ายเป็นพวกอยู่เบื้องหลัง ทำให้พวกหนูและกระต่ายรบกัน ส่วนพวกหมีที่มีพันธะสัญญาในการเข้ามาแทรกแซงเพื่อความสงบของเมืองนั้นก็ยอมนิ่งเฉย เพราะราชสีห์ได้ใช้พลังแห่งการ์ดในการเสกศิลาวิญญาณ (Spirit Stone) หนึ่งในสิ่งล้ำค่าและทรงพลังของ Wyld ที่พวกหมีบูชานับถือ แลกกับการที่พวกหมีต้องไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งครั้งนี้ หลังการศึกจบที่ชัยชนะแบบเบ็ดเสร็จของพวกหนู ราชสีห์ก็แจ้งข่าวเรื่องการลอบขุดทองของพวกหนูในดินแดนหมาป่า จึงทำให้กองกำลังหมาป่าเข้ากวาดล้างกองกำลังส่วนใหญ่ของหนู ซึ่งในท้ายที่สุดนี้เองราชสีห์ก็ได้ใช้เวทย์ Rot จากการ์ดในการอัญเชิญ Bane (สิ่งมีชีวิตที่เกิดจากการรวมกันของ Rot) กำจัดผู้นำของทัพหมาป่า แล้วร่วมมือพวกหมีและกองกำลังหมาป่าที่เหลือในการกำจัด Bane ด้วยศิลาวิญญาณจนสิ้นซาก
หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมด ราชสีห์ก็ได้ชักชวนผู้นำทั้งสี่เผ่ามาทำข้อตกลงร่วมกันในการรวมเผ่าเพื่อสถาปนาอาณาจักร Armello เพื่อยุติความขัดแย้งทั้งหมดที่เกิดขึ้น แล้วสร้างความร่วมมือและสันติภาพที่ถาวร โดยมีข้อตกลงดังนี้
1. เมือง Brimwatch จะต้องถูกยุบลงแล้วสร้างใหม่เป็นป้อมปราการที่จะเป็นศูนย์กลางแห่งอาณาจักร Armello โดยมีเหล่ากระต่ายเป็นผู้ออกแบบ
2. เหล่าหมาป่าสนับสนุนส่งกองกำลังหมาเผ่า Retriever ชั้นยอดเป็นกองกำลังองครักษ์รักษาพระองค์
3. เหล่าหนูเป็นผู้ออกแบบกฏหมายและระเบียบการปกครอง ที่จะสร้างความเป็นธรรมให้กับสิ่งมีชีวิตทุกเผ่าพันธุ์
4. เหล่าหมีจะเป็นผู้นำทางด้านจิตวิญญาณ และได้รับอนุญาตให้สามารถศึกษาศาสตร์แห่ง Wyld ได้ตามปรารถนา