ปฏิวัติการขนส่งแห่งโลกอนาคต ให้เครื่องบิน,รถไฟ,รถบัสเป็นยานพาหนะสนับสนุนการเดินทางแก่กันและกัน ไม่เป็นคู่แข่งกัน

หลายคนมองว่ารถไฟความเร็วสูงเป็นคู่แข่งของรถบัส เครื่องบินก็เป็นคู่แข่งกับรถไฟความเร็วสูง ซึ่งในบางกรณี ยานพาหนะเหล่านี้ก็สามารถเป็นคู่แข่งกันได้ เพราะอย่างเครื่องบินก็สามารถเดินทางให้ถึงเป้าหมายในระยะไกลโดยใช้เวลาน้อยกว่ารถไฟความเร็วสูง แต่ราคาถูกกว่าเล็กน้อย เครื่องบินจึงมีข้อได้เปรียบรถไฟในบางอย่าง แต่ถ้าเดินทางระหว่างเมืองต่อเมือง เช่น พิษณุโลกไปพิจิตร พิษณุโลกไปสุโขทัย รถไฟความเร็วสูงก็จะทำได้ แต่เครื่องบินไม่สามารถทำได้ เพราะเครื่องบินไม่คุ้มค่าในการเดินทางระหว่างเมืองต่อเมือง รถไฟความเร็วสูงชนะเครื่องบินในเรื่องนี้

   ​ถ้าเรารู้จักวางแผน วางระบบให้ดี ก็สามารถทำให้เครื่องบินกับรถไฟความเร็วสูงช่วยสนับสนุนการเดินทางที่รวดเร็วให้แก่กันและกันได้ ไม่เป็นคู่แข่งกัน เกิดประโยชน์แก่ผู้โดยสารอย่างมาก ช่วยให้เกิดการเดินทางถึงที่หมายได้เร็วขึ้น
   ตัวอย่างว่า มีคนต่างชาติเดินทางมาไทย ต้องการเดินทางจากกรุงเทพไปชลบุรี หากอนาคตมีรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบินแล้ว นักท่องเที่ยวก็นั่งเครื่องมาลงสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วนั่งรถไฟความเร็วสูงจากสถานีสุวรรณภูมิไปลงที่สถานีชลบุรีได้ การเดินทางจะสะดวกรวดเร็วมาก แล้วมีรถบัส feeder ที่คอยรับส่งคนจากสถานีรถไฟความเร็วสูงชลบุรีเข้าไปยังจุดต่างๆในพื้นที่อ.เมืองชลบุรี
  หรือถ้าอนาคตรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนเสร็จ ต้องการเดินทางมาเที่ยวอยุธยา ก็นั่งเครื่องบินมาลงดอนเมือง ต่อรถไฟความเร็วสูงหน้าสนามบินดอนเมืองไปลงสถานีรถไฟอยุธยา มีรถบัส feeder คอยรับส่งคนจากสถานีรถไฟวิ่งไปยังพื้นที่รอบเมืองอยุธยา
  นี่คือการให้เครื่องบิน,รถไฟ,รถบัสสามารถสนับสนุนการเดินทางกันทั้งหมด ไม่เป็นคู่แข่งกัน

    การสร้างรถไฟความเร็วสูงนี่ก็อาจทำให้ผู้ประกอบการรถทัวร์หลายเจ้ามีความกังวลเรื่องรายได้จะลดลง จริงๆแล้วไม่ต้องกลัว เพียงแต่โมเดลการหาเงินของรถบัสก็จะเปลี่ยนรูปแบบไปเท่านั้น เปลี่ยนจากการที่รถบัสวิ่งระยะทางไกลๆมาเน้นเป็นรถบัส feeder ที่คอยรับส่งคนจากสถานีรถไฟไปยังพื้นที่รัศมีโดยรอบสถานีรถไฟ 5-10 กิโลเมตรแทน
  เครื่องบิน,รถไฟ,รถบัสมีจุดขายกันคนละอย่าง เครื่องบินเดินทางในระยะ 5 เมืองได้เร็วกว่ารถไฟความเร็วสูง
รถไฟความเร็วสูงเดินทางเชื่อมเมืองต่อเมืองได้ แต่เครื่องบินทำไม่ได้ ทำไม่คุ้ม
รถบัส,รถตู้สามารถวิ่งรับส่งคนไปทุกถนนหนทาง ซึ่งรถไฟกับเครื่องบินทำไม่ได้
แต่ถ้านำสิ่งดีๆมาเติมเต็มให้กันและกัน จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่เดินทางอย่างมากมาย

    ความจริงแล้ว สนามบินเชิงพาณิชย์ทั่วประเทศควรจะมีการเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟได้สะดวก เพื่อการเดินทางรวดเร็ว แต่ทุกวันนี้หลายสนามบินก็อยู่ห่างจากสถานีรถไฟหลายกิโลเมตร ถ้าสามารถทำรถไฟไร้คนขับเชื่อมต่อระหว่างสนามบินกับสถานีรถไฟก็จะดีมาก หรือให้มีรถบัส feeder ที่คอยวิ่งรับส่งระหว่างสนามบินกับสถานีรถไฟประจำจังหวัดนั้นๆก็จะดีมาก ทำให้เครื่องบิน,รถไฟ,รถโดยสาร สนับสนุนกันการเดินทางกันอย่างเป็นโครงข่ายเพื่อการเดินทางที่สะดวกรวดเร็ว
    ​ยกตัวอย่าง เดินทางจากกรุงเทพไปลงสนามบินอุดรธานี ก็มีรถบัส feeder จำนวน 4 คัน คอยรับส่งคนจากสนามบินอุดรฯไปที่ต่างๆ
  รถบัสคันที่ 1 ส่งคนไปยังรอบเมืองอุดรธานี
  รถบัสคันที่ 2 ส่งคนไปยังจังหวัดหนองบัวลำภู
  รถบัสคันที่ 3 ส่งคนไปจังหวัดหนองคาย
  รถบัสคันที่ 4 ส่งคนไปสถานีรถไฟอุดรธานี
    จัดเรียงตามนี้ เพราะคนกลุ่มนึงก็ต้องการเดินทางเพื่อมายังจุดต่างๆในอุดรธานี ก็ควรมีรถบัสส่งพวกเขาไปยังพื้นที่ต่างๆในตัวเมือง คนอีก 2 กลุ่มก็ต้องการเดินทางไปต่อยังจังหวัดใกล้เคียงอย่างหนองบัวลำภูและหนองคาย กลุ่มสุดท้ายก็เป็นคนที่ต้องการเดินทางไปยังพื้นที่รอบสถานีรถไฟเล็กๆที่อยู่ระหว่างอุดรฯถึงหนองคาย เช่น สถานีนาพู่และนาทา จึงควรมีรถบัส feeder 4 คันเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม

    ถ้าอนาคตมีแท็กซี่บินได้มาให้บริการที่สนามบินของจังหวัดต่างๆ ก็จะทำให้เกิดเมืองใหม่รอบสนามบินได้ง่ายๆ เพราะจะทำให้คนหันมาใช้บริการการเดินทางทางอากาศมากขึ้น เกิดเมืองใหม่รอบสนามบินเหมือนกับการเกิดเมืองใหม่รอบสถานีรถไฟความเร็วสูง จังหวัดไหนที่มีทั้งสนามบินและสถานีรถไฟความเร็วสูง ก็จะคล้ายๆว่ามีสถานีรถไฟความเร็วสูงประจำจังหวัดถึง 2 แห่งๆ ด้วยการมีแท็กซี่บินได้เดินทางเชื่อมเมืองต่อเมือง

  หากเดินทางข้ามจังหวัด 1-3 จังหวัดด้วยการขนส่งทางอากาศ ก็นั่งโดยสารแท็กซี่บินได้ไป หากต้องเดินทางข้ามจังหวัด 5 จังหวัดขึ้นไป ก็นั่งโดยสารเครื่องบินไป
   พื้นที่รอบสนามบินของจังหวัดจึงเหมาะที่จะเป็นทำเลสร้างเมืองใหม่ใกล้เคียงกับพื้นที่รอบสถานีรถไฟความเร็วสูง ขอให้มีรถ feeder เชื่อมต่อการเดินทางให้สะดวกสบาย คนก็จะแห่มาสร้างบ้านในรัศมี 5-10 กิโลเมตรจากตัวสนามบิน

    ถ้าทำรถไฟทางคู่เสร็จทั่วประเทศ มีเอกชนมาเช่าใช้รางรถไฟ การเดินทางด้วยรถไฟจะน่าสนใจกว่านี้มาก คือทางรฟท.ไม่ต้องทำหน้าทึ่เดินขบวนรถไฟเลยก็ได้ ให้เอกชนซัก 2-3 รายมาเป็นผู้เดินขบวนรถไฟเอง เพราะเชื่ออย่างนึงว่า เอกชนจะเดินขบวนรถไฟได้รวดเร็วและตรงเวลากว่ารฟท.แน่ ซึ่งจะทำให้มีคนขึ้นรถไฟมากกว่าเดิมเยอะมาก แล้วรายได้จากตั๋วรถไฟที่เอกชนได้มา ก็ค่อยเอามาแบ่งเป็นค่าเช่ารางให้รฟท.อีกที ดีกว่าให้รฟท.เป็นผู้เดินขบวนเอง คนขึ้นก็น้อย เพราะให้บริการแย่ ขบวนรถเก่า เดินทางช้าและไม่ตรงเวลา รฟท.เก็บกินค่าเช่าใช้รางก็พอแล้ว

   ขอให้อนาคตทำโครงข่ายรถไฟความเร็วสูงและรถไฟความเร็วธรรมดาให้เรียบร้อย ก็จะช่วยให้ทั้งคนที่มีรายได้มากและรายได้น้อยได้ใช้บริการเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในการเดินทาง เช่น
รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพ-โคราช ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 30 นาที ราคา 538 บาท
รถไฟความเร็วธรรมดา ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 30 นาที ราคา 300 บาท
  รถทัวร์ ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 30 นาที ถึง 3 ชั่วโมง ราคา 230 บาท หาก m6 เสร็จ
  ช่วยให้มีผู้มีรายได้มากและรายได้น้อยที่ต้องการเดินทางมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่