ลูกจ้างไม่ยอมเซ็นชื่อในหนังสือเลิกจ้าง ต้องจ้างต่อไปจนเกษียณเลยหรือ?

https://www.facebook.com/share/p/1D3pd3gphz/?mibextid=wwXIfr




เป็นคำถามที่อยากให้มี “สติ” ก่อนจะ “สตาร์ท” อย่าถามด้วยความน้อยใจ ปนประชด ถึงขั้นไม่อยากเรียนรู้อะไร

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ถามเป็นฝ่าย HR เพราะคำถามนี้สะท้อนหลายอย่างมาก ว่าผู้ที่ทำหน้าที่นี้อาจยังไม่เข้าใจหน้าที่ทางกฎหมายแรงงานอย่างแท้จริง และจำเป็นต้องเพิ่มเติมความรู้ในส่วนนี้อย่างมาก ซึ่งองค์กรเองก็ต้องให้การสนับสนุน ไม่ใช่เพียงเพื่อพนักงาน แต่เพื่อประโยชน์ขององค์กรเองด้วย

ย้อนกลับไปดู วัตถุประสงค์ของการออกหนังสือเตือนและหนังสือเลิกจ้าง ทั้งสองอย่างนี้เป็น “คำสั่งฝ่ายเดียวของนายจ้าง” เพื่อแจ้งให้ลูกจ้างรับทราบว่าได้กระทำผิดอะไร เหตุใดจึงถูกเตือน หรือเหตุใดจึงถูกเลิกจ้าง

แต่นายจ้างแต่ละแห่งก็มีมาตรฐานและแนวปฏิบัติแตกต่างกัน บางบริษัทลงโทษด้วยเหตุที่คนฟังร้อยคนก็ยังไม่เห็นว่าผิด ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ลูกจ้างมีสิทธิที่จะ “ไม่ลงชื่อรับ” ในหนังสือเตือนหรือหนังสือเลิกจ้าง เพราะอาจไม่เห็นด้วยกับเหตุผลหรือมองว่าการลงโทษไม่เป็นธรรม

ในกรณีเช่นนี้ นายจ้างต้องทำอย่างไร?
ไม่ยากเลย — เพียงอ่านเนื้อหาในหนังสือให้ลูกจ้างฟังต่อหน้าพยาน โดยให้พยานลงชื่อรับรองว่าได้มีการแจ้งเนื้อหาให้ลูกจ้างทราบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเตือนหรือหนังสือเลิกจ้างก็ใช้หลักเดียวกัน เช่น

• หนังสือเตือน: อ่านให้ลูกจ้างฟังต่อหน้าพยาน แจ้งว่ามีการเตือนให้หยุดกระทำการใด หรือให้กระทำสิ่งใด หากไม่ทำจะถูกลงโทษ
• หนังสือเลิกจ้าง: อ่านให้พยานฟังว่าได้แจ้งเลิกจ้างลูกจ้างด้วยเหตุใด มีผลตั้งแต่วันใด แล้วให้พยานลงนามในฐานะผู้รับฟังการแจ้งเลิกจ้าง

การที่ลูกจ้างไม่ลงชื่อในหนังสือจึงไม่ใช่ปัญหาที่ทำให้ “คำสั่งเลิกจ้าง” ไม่มีผล เพราะการลงชื่อของลูกจ้างเป็นเพียงการ “รับทราบ” ไม่ใช่ “การยินยอม” และไม่ใช่เงื่อนไขให้การเลิกจ้างสมบูรณ์

ลูกจ้างอาจมีเหตุผลของเขา เช่น ไม่เห็นด้วยกับข้อกล่าวหา หรือรู้สึกว่าถูกกระทำไม่เป็นธรรม ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของลูกจ้างที่จะปฏิเสธการลงชื่อ แต่สิ่งที่นายจ้างต้องมั่นใจคือ คำสั่งเตือนหรือคำสั่งเลิกจ้างนั้นต้องมีเหตุผล ชอบด้วยกฎหมาย และสามารถพิสูจน์ได้

เพราะหากวันหนึ่งเรื่องไปถึงชั้นศาล สิ่งที่ศาลจะดูไม่ใช่ว่าลูกจ้างเซ็นหรือไม่เซ็น แต่จะดูว่า “เหตุผลในการเลิกจ้างมีมูลหรือไม่” “หลักฐานที่อ้างมีน้ำหนักเพียงใด” และ “กระบวนการลงโทษเป็นธรรมแล้วหรือยัง”

ดังนั้น ถ้าคุณตอบตัวเองได้อย่างมั่นใจว่า การเลิกจ้างครั้งนี้มีเหตุผล มีหลักฐาน มีความเป็นธรรม และสามารถอธิบายต่อศาลได้ว่าทำไมถึงต้องเลิกจ้าง — ต่อให้ลูกจ้างไม่เซ็น คุณก็ไม่จำเป็นต้องจ้างเขาไปจนเกษียณหรือสิ้นอายุขัยแน่นอน

แต่ถ้าตอบตัวเองไม่ได้ ไม่มั่นใจในเหตุผลหรือหลักฐาน แนะนำให้หยุดคิดก่อน แล้วปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านแรงงาน หรือหน่วยงานภาครัฐ เช่น ศาลแรงงาน หรือกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ซึ่งสามารถให้ความเห็นได้ทั้งในมุมของนายจ้างและลูกจ้าง ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่