มวลอากาศเย็นระลอกกลางเดือนพฤศจิกายน 2568 กับแนวโน้มที่จะเย็นต่อเนื่อง



มวลอากาศเย็นระลอกกลางเดือนพฤศจิกายน 2568 กับแนวโน้มที่จะเย็นต่อเนื่อง

ช่วงนี้หลายคนคงจะได้เห็นข่าวการพยากรณ์ลมหนาวจากกรมอุตุฯ และตามเพจพยากรณ์ต่าง ๆ กันมาบ้างแล้ว ว่าในช่วงตั้งแต่ราว ๆ กลางเดือนนี้เป็นต้นไป จะมีมวลอากาศเย็นจากจีนแผ่ลงมาหลายระลอก ทำให้อุณหภูมิบริเวณไทยตอนบนลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งดูแนวโน้มแล้วคร่าวๆ อย่างน้อยก็น่าจะยาวเกิน 1 สัปดาห์ โดยเฉพาะช่วงสัปดาห์หน้าที่หลายสำนักพยากรณ์ค่อนข้างจะตรงกันว่าจะมีมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงแผ่ลงมา

[1] อุณหภูมิน้ำทะเลฝั่งแปซิฟิกตะวันตก และ MJO ณ วันที่ 12 พ.ย.

อุณหภูมิน้ำทะเลฝั่งแปซิฟิกตะวันตกค่อนข้างร้อนกว่าปกติ เอื้อต่อการพัฒนาของพายุที่เกิดขึ้นหลายลูกในช่วงก่อนหน้าลากยาวมาถึงช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน และสืบเนื่องจากพายุเกิดถี่และขึ้นฝั่งทางเวียดนามและจีนตอนใต้มาก รวมถึงมวลอากาศเย็นระลอกอ่อนๆก่อนหน้า ทำให้อุณหภูมิน้ำทะเลแถบชายฝั่งบริเวณนั้นลดลง ก็เหมือนเป็นการเปิดทางให้มวลอากาศเย็นที่แผ่ลงมาหลังจากนี้จะทำให้ไทยเย็นได้ง่ายมากขึ้น (อุณหภูมิน้ำทะเลในช่วงเวลาเดียวกันนี้คล้ายกับปีที่แล้วแบบเกือบจะก๊อปปี้วาง แค่ปีนี้บริเวณแถบชายฝั่งจีนตอนใต้เย็นลงเร็วกว่าหน่อย)

MJO ช่วงก่อนหน้าอยู่ในเฟส 5 และปัจจุบันอยุ๋ในเฟส 6 หมายความว่ามีอากาศยกตัวมากกกว่าปกติแถบบริเวณฟิลิปินส์ เกิดพายุ ดังเช่นล่าสุด พายุคัลแมกี (Kalmaegi) และพายุฟงวอง (Fung-Wong) ซึ่งหากมีมวลอากาศเย็นแผ่ลงมา มันจะดึงกระแสลมระดับบนที่เย็นลงมาทางไทยได้มากขึ้น โดยลมหนาวระลอกช่วงวันที่ 13-16 พ.ย. พายุฟงวองก็มีส่วนช่วยโดยทางอ้อมเหมือนกัน เนื่องจากต้นทางความกดอากาศสูงไม่ได้แรง แต่พายุมันก็นำพาลมระดับบนที่เย็นลงมาถึงไทยได้ ระลอกนี้จะเย็นชัดในแถบๆภาคอีสานตอนบน ส่วนการพยากรณ์ MJO หลังจากนี้ก็คาดการณ์ว่าจะอ่อนลงเรื่อยๆ จนแทบไม่มีเฟสหรืออาจจะข้ามไปเฟส 7 อ่อนๆ ในช่วงครึ่งเดือนหลัง

[2] ลมกรดกึ่งเขตร้อน (ระดับ 250hPa / ความสูง 10 กม.) ช่วงระหว่างวันที่ 14-21 พ.ย.

ตั้งแต่ราว ๆ กลางเดือนเป็นต้นไปแนวลมกรดกึ่งเขตร้อนจะเริ่มเคลื่อนลงมาในละติจูดที่ต่ำลง รวมถึงเชิดหัวขึ้นบริเวณแถวญี่ปุ่น โดยมีลมกรดขั้วโลกมาสบเข้ากับลมกรดกึ่งเขตร้อน และเร่งความเร็วลากยาวเฉียงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ความกดอากาศสูงแถวไซบีเรียสะสมจนมีกำลังแรง และความกดอากาศสูงจะสามารถไหลเข้าประเทศไทยโดยตรง **เพิ่มเติมได้ที่ กระทู้ของคุณสมาชิกหมายเลข 1716385 -> https://pantip.com/topic/43088764 <- (คล้ายฉากทัศน์ที่ 1)

[3] ความกดอากาศฝั่งเอเชียตะวันออก ช่วงระหว่างวันที่ 14-21 พ.ย.

แสดงให้เห็นถึงช่วงต้นสัปดาห์หน้า คาดการณ์ว่าจะมีการสะสมตัวของความกดอากาศสูงไซบีเรียที่ศูนย์กลางสูงถึงประมาณ 1060 hPa (อ้างอิง ECMWF) ถือว่าเป็นกำลังแรง และจะเคลื่อนตัวลงมาถึงไทย ซึ่งลักษณะแบบนี้ไม่ค่อยได้พบเจอบ่อยนักในช่วงเดือนพฤศจิกาของช่วงปีหลังๆมานี้ ที่ส่วนใหญ่จะออกแนวร้อนแห้งซะมากกว่า

[4] คาดการณ์ค่าความกดอากาศของลมหนาวแต่ละระลอก (อ้างอิง ECMWF)

ค่าความกดอากาศสูงสุดของระลอกแรก (16 พ.ย.)
- เชียงราย สูงสุดประมาณ 1020 hPa
- กรุงเทพ  สูงสุดประมาณ 1015 hPa

ค่าความกดอากาศสูงสุดของระลอกสอง (18 พ.ย.)
- เชียงราย  สูงสุดประมาณ 1023 hPa
- กรุงเทพ  สูงสุดประมาณ 1016 hPa

[5] แนวลมบนที่ระดับ 850 hPa (ความสูง 1500 ม.) ช่วงวันที่ 10-13 พ.ย.

อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นฟงวอง ที่วกขึ้นเหนือไปสลายตัวแถวๆไต้หวันและเกิดแนวปะทะอากาศบริเวณตอนใต้ของญี่ปุ่น ช่วยดึงลมหนาวระลอกแรกมา ซึ่งนำพาลมระดับบนที่เย็นลงมาถึงไทย ถึงแม้ระลอกแรกความกดอากาศสูงต้นทางจะไม่ได้แรงมากก็ตาม

[6] อุณหภูมิที่ต่างจากค่าปกติที่ระดับ 850 hPa (ความสูง 1500 ม.) ช่วงวันที่ 14-21 พ.ย.

บ่งบอกถึงการเคลื่อนตัวของมวลอากาศเย็นลงมาถึงไทย โดยระลอกแรกช่วงวันที่ 13-16 พ.ย. ร่วมกับอิทธิพลของพายุตามข้อ [5] และระลอกถัดไปซึ่งต้นทางมีกำลังแรง ช่วงวันที่ 17-21 พ.ย.

[7] อุณหภูมิที่ต่างจากค่าปกติที่ระดับผิวพื้น (2 ม.) ช่วงวันที่ 14-21 พ.ย.

ระลอกแรกความเย็นจะดูจางๆ หน่อย เพราะต้นทางยังไม่แรง อาจจะเย็นชัดในภาคอีสานหรือภาคเหนือก่อน ก่อนที่ระลอกถัดไปจะเย็นชัดเจนรวมถึงภาคกลาง

[8] ความชื้นที่ระดับ 500 hPa (ความสูง 5500 ม.) ช่วงวันที่ 15-18 พ.ย.

หลังจากผ่านลมหนาวระลอกแรก ช่วงจังหวะที่ลมหนาวระลอกสองกำลังแผ่ลงมา ได้มีการพยากรณ์ไว้ว่าจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออก (Easterly Wave) พัดนำพาความชื้นเข้ามา ทำให้มีเมฆปกคลุมพร้อมกับลมหนาวและอาจจะเกิดฝนได้ในบางพื้นที่

[9] แนวเมฆที่ก่อตัว ช่วงวันที่ 16-18 พ.ย.

แนวเมฆจะเริ่มก่อตัวจากอิทธิพลของคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกในข้อ [8] โดยจะเริ่มทางภาคอีสาน ไล่ไปทาง ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ ร่วมกับลมหนาวกำลังแรงที่กำลังแผ่ลงมา ทำให้อากาศอาจจะเย็นได้ทั้งวันเนื่องจากมีเมฆปกคลุม และบางพื้นที่อาจได้ฝนปนหนาว

[10] พยากรณ์ฝนสะสมรายวัน 24 ชม. ช่วงวันที่ 14-21 พ.ย.

ไทยตอนบนอาจจะเกิดฝนได้ในหลายพื้นที่ช่วงประมาณวันที่ 17-18 พ.ย. จากอิทธิพลของคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออก ส่วนภาคใต้ให้ระวังฝนตกหนัก ตั้งแต่ประมาณวันที่ 18 พ.ย. เป็นต้นไป เนื่องจากลมหนาวหรือมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะมีกำลังแรง

[11] พยากรณ์อากาศระยะ 10 วัน จาก Weather.com
-- เชียงราย
อาจมีฝนได้ในระยะแรก ช่วงสัปดาห์หน้าเนื่องจากค่าความกดอากาศช่วงกลางวันจะสูงขึ้น ทำให้อุณหภูมิสูงสุดในช่วงกลางวันจะต่ำลงด้วย


-- นครพนม
อาจเกิดฝนขึ้นได้จากอิทธิพลคลื่นกระแสฝ่ายลมตะวันออก โดยจะอุ่นขึ้นระหว่างช่วงรอยต่อของลมหนาวทั้งสองระลอก หลังจากนั้นก็จะเย็นต่อเนื่อง


-- กรุงเทพมหานคร
ฝนยังคงมีอยู่ในระยะแรกจากการปะทะของอากาศเย็นกับอุ่นชื้น หลังจากนั้นอากาศจะเริ่มแห้งและเย็นลงบ้าง ก่อนที่ช่วงสัปดาห์หน้าจะได้รับอิทธิพลจากคลื่นกระแสฝ่ายลมตะวันออกนำพาความชื้นเข้ามา ฝนอาจกลับมาตกได้อีกรอบในช่วงวันที่ 18 พ.ย. มีเมฆปกคลุมในบางช่วงร่วมกับค่าความกดอากาศที่สูงขึ้น ทำให้อุณหภูมิสูงสุดช่วงกลางวันจะไม่ร้อนเหมือนช่วงก่อนหน้า



[แถม] พยากรณ์อุณหภูมิผิวพื้นที่ต่างจากค่าปกติเป็นรายสัปดาห์ (ช่วงระยะเวลา 1 เดือนจากนี้)
ให้ดูไว้พอเป็นแนวโน้มละกันครับ เนื่องจากมันเพิ่งเป็นช่วงต้นฤดูหนาว การพยากรณ์ระยะไกลมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แต่ก็ดูจะเป็นสัญญาณที่ดี



[เก็บตก] สถิติพายุหมุนเขตร้อนที่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยในคาบ 74 ปี (พ.ศ.2494-2567) โดย กรมอุตุฯ
- มีพายุที่เข้าไทยในระดับตั้งแต่ดีเปรสชันขึ้นไปจำนวนทั้งหมด 206 ลูก
- มีพายุที่เข้าไทยในเดือนพฤศจิกายนจำนวนทั้งหมด 31 ลูก (คิดเป็น 15.05% จากทั้งหมด)
- มีพายุที่เข้าไทย(ตอนบน)ในเดือนพฤศจิกายนจำนวนทั้งหมด 5 ลูก (คิดเป็น 2.48% จากทั้งหมด)
ดังนั้นมันไม่ใช่เรื่องแปลกที่พายุยังคงเข้าไทย(ตอนบน)ได้ในเดือนพฤศจิกายน เพียงแต่เปอร์เซนต์อาจจะน้อยและอาจไม่ได้เกิดบ่อย ถ้าแปลกสุดผมให้พายุโซนร้อนปาบึกเมื่อปี 2562 ลูกแรกและลูกเดียวในประวัติศาสตร์ของมกราคม(กลางฤดูหนาว)และยังเป็นระดับโซนร้อนอีก



...ข้อมูลการพยากรณ์จาก ECMWF และกรมอุตุนิยมวิทยา...
...ข้อมูลการพยากรณ์ ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568...
...ข้อมูลการพยากรณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยนำเข้าที่ใช้วิเคราะห์ในแต่ละวัน...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่