มวลอากาศเย็นระลอกปลายเดือนพฤศจิกายน 2568 กับปัจจัยที่จะทำให้กรุงเทพต่ำกว่า 20°C
หลายคนคงได้เห็นการพยากรณ์อากาศช่วงสุดสัปดาห์นี้ที่อุณหภูมิจะลดต่ำลงอีกครั้ง จากมวลอากาศเย็นหรือลมหนาวช่วงปลายเดือนที่กำลังแผ่ลงมาอีกระลอก คาดการณ์วันที่เย็นสุดจะอยู่ช่วงวันที่ 28-30 พ.ย. โดยมีปัจจัยเหล่านี้ที่ทำให้อุณหภูมิลดลงได้ต่ำกว่าลมหนาวระลอกกลางเดือน
[1] อุณหภูมิน้ำทะเลบริเวณทะเลจีนใต้และ MJO
อุณหภูมิน้ำทะเลบริเวณทะเลจีนใต้แถบชายฝั่งจีนตอนใต้ยาวจนถึงชายฝั่งเวียดนามได้เย็นลงอีกจากเมฆฝนที่พัดเข้าชายฝั่งจากคลื่นกระแสลมตะวันออกและจากลมหนาวระลอกก่อนหน้า เสมือนยิ่งเป็นการเปิดทางให้ลมหนาวหรือลมตะวันออกเฉียงเหนือระลอกต่อๆไปสามารถแผ่ลงมาได้ลึกมากยิ่งขึ้น อาจเย็นได้ถึงภาคใต้ตอนบนเลยทีเดียว และ MJO กำลังเปลี่ยนจาก Phase 6 ไป Phase 7 และเริ่มมีกำลังแรง ทำให้เกิดพายุบริเวณฟิลิปปินส์และได้เคลื่อนตัวลงทะเลจีนใต้ช่วยดึงลมหนาวให้แรงขึ้น
[2] พายุโซนร้อนโคโตะบริเวณทะเลจีนใต้
พายุที่เคลื่อนตัวลงทะเลจีนใต้ ระหว่างมวลอากาศเย็นหรือลมหนาวกำลังแผ่ลงมาพอดี หากอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม มันจะมีส่วนช่วยดึงลมหนาวหรือลมตะวันออกเฉียงเหนือ(สีฟ้า)ให้มีกำลังแรงขึ้น พร้อมทั้งช่วยบล็อคลมอุ่น(สีส้ม)จากทิศตะวันออกที่พัดมาจากแปซิฟิกไม่ให้มาตัดกำลังลมหนาวบ้านเรา แต่ตัวพายุก็จะถูกเฉือนด้วยลมหนาวที่แห้งจนอ่อนกำลังลงด้วยเช่นกัน ซึ่งพายุโซนร้อนโคโตะนี้คาดการณ์ว่าจะอ่อนกำลังและขึ้นฝั่งเวียดนามโดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อไทย
[3] ความชื้นต่ำและทิศทางลมจากแผ่นดินใหญ่
ช่วงวันที่ 27-30 พ.ย. ความชื้นจะต่ำมาก จากทิศทางลมที่มาจากแผ่นดินใหญ่ ไม่ได้พัดนำความชื้นมาจากทะเลเลย โดยความชื้นจะต่ำแทบทุกระดับตั้งแต่ระดับผิวพื้น(Surface), ระดับความสูง 1.5 กม.(850h), ระดับความสูง 3 กม.(700h) จนถึงระดับความสูง 5.5 กม.(500h) เลยทีเดียว ทำให้อากาศจะแห้งมาก ส่งผลให้อุณหภูมิต่ำสุดสามารถลดลงได้ต่ำกว่าลมหนาวระลอกกลางเดือนที่มีความชื้นที่สูงกว่าในช่วงแรก
[4] ค่าความกดอากาศ
ค่าความกดอากาศสูงสุดของลมหนาวระลอกปลายเดือน พ.ย. นี้ กรุงเทพคาดการณ์ว่าจะสูงสุดราวๆ 1016 hPa ในช่วงสายๆของวันที่ 27-28 พ.ย. ซึ่งก็พอๆกันหรืออาจจะน้อยกว่าระลอกที่แล้วด้วย โดยลมหนาวระลอกกลางเดือนที่ผ่านมา กรุงเทพมีค่าความกดอากาศสูงสุดที่ 1018.3 hPa เวลา 10.00น. ในวันที่ 21 พ.ย. เพราะฉะนั้น ปัจจัยเรื่องความหนาวเย็นไม่ได้ขึ้นอยู่กับค่าความกดอากาศแต่เพียงอย่างเดียว
[5] อุณหภูมิที่ต่างจากค่าปกติที่ระดับ 850h (ความสูง 1500 ม.)
บ่งบอกถึงการเคลื่อนตัวของมวลอากาศเย็นที่เคลื่อนตัวลงมาทางไทยเราในช่วงปลายเดือนนี้ และจะเริ่มอ่อนลงในช่วงต้นเดือน ธ.ค.
[6] อุณหภูมิที่ต่างจากค่าปกติที่ระดับผิวพื้น (ความสูง 2 ม.) ช่วงเวลา 07.00 น.
บ่งบอกถึงพื้นที่ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปกติในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งลมหนาวระลอกปลายเดือน พ.ย. นี้ ช่วงที่เย็นที่สุดจะอยู่ในช่วงวันที่ 28-30 พ.ย. ก่อนที่จะเริ่มอุ่นขึ้นในช่วงต้นเดือน ธ.ค.
[7] พยากรณ์ฝนสะสมรายวัน 24 ชม.
ไทยตอนบนไม่ต้องกังวลเรื่องฝนเลย เพราะอากาศจะแห้งมากในช่วงปลายเดือน ความชื้นอาจเพิ่มขึ้นได้บ้างช่วงต้นเดือน ธ.ค. จากการที่พายุมาขึ้นฝั่งเวียดนาม ส่วนภาคใต้ตอนล่างอาจจะยังมีได้อยู่บ้าง ขึ้นอยู่กับหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณช่องแคบมะละกา ซึ่งทิศทางยังไม่แน่นอน
[8] พยากรณ์อากาศระยะ 10 วัน จาก Weather.com
-- เชียงราย
ลมหนาวระลอกนี้แผ่เข้าภาคเหนือโดยไม่ผ่านทะเลเลย ทำให้อุณหภูมิลดต่ำลงได้มาก และช่วงต้นเดือน ธ.ค. จะค่อยๆอุ่นขึ้น แต่อุณหภูมิจะไม่สวิงไวขึ้นเท่าภาคอีสาน
-- นครพนม
เมืองหน้าด่านลมหนาวของภาคอีสาน ลมแรง อุณหภูมิลดต่ำลงมาก ส่วนช่วงต้นเดือน ธ.ค. จะอุ่นขึ้น อุณหภูมิจะค่อนข้างสวิง
-- กรุงเทพมหานคร
เย็นสุดอยู่ในช่วงวันที่ 28-30 พ.ย. อากาศจะเย็นแห้ง ช่วงกลางวันความชื้นอาจลดลงต่ำ 40% ได้เลย อุณหภูมิแต่ละพื้นที่จะต่างกันได้ 1-2°C ใจกลางเมืองจะอุ่นกว่าหน่อย คาดการณ์ตามปัจจัยข้างต้น อาจได้เจอต่ำกว่า 20°C ครั้งแรกของฤดูหนาวนี้ ส่วนช่วงต้นเดือน ธ.ค. จะอุ่นขึ้น
ปล. ถ้าหากกรุงเทพเกิดอุณหภูมิต่ำสุดต่ำกว่า 20°C ในช่วงเดือนนี้จริง ก็จะนับเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี ที่กรุงเทพสามารถมีอุณหภูมิต่ำสุดต่ำกว่า 20°C ในเดือน พ.ย. ซึ่งครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นคือเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2552 กับอุณหภูมิต่ำสุดในช่วงเช้าที่ 19.2°C (ดอนเมือง) ซึ่งช่วงหลังจากปีนั้นมาเดือน พ.ย. กรุงเทพจะออกแนวร้อนแห้งเป็นส่วนใหญ่ อากาศแห้งแต่ความเย็นยังมาไม่ค่อยถึง ต้องรอเดือน ธ.ค. หรือ ม.ค. กรุงเทพถึงจะพบเจออุณหภูมิต่ำกว่า 20°C ซึ่งปีนี้ค่อนข้างที่จะแปลกอยู่และช่วงระหว่างแต่ละระลอกก็ยังมีลมพัดต่อเนื่อง ทำให้ค่าฝุ่นยังไม่ค่อยสะสม (ช่วงต้นเดือน ธ.ค. หากลมพัดอ่อนฝุ่นอาจเริ่มมา)
...ข้อมูลการพยากรณ์จาก ECMWF...
...ข้อมูลการพยากรณ์ ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568...
...ข้อมูลการพยากรณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับข้อมูลใหม่ที่ใช้วิเคราะห์ในแต่ละวัน...
[เพิ่มเติม] ฝนที่ตกหนักตกแช่อย่างมหาศาลจนทำสถิติใหม่บริเวณภาคใต้ตอนล่าง
ฝนที่ตกหนักตกแช่จนทำสถิติใหม่บริเวณภาคใต้ตอนล่าง
จนทำให้เกิดอุทกภัยในหลายจังหวัด ในช่วงแรกเกิดจากลมหนาวระลอกกลางเดือน พ.ย. พัดดันร่องมรสุมเคลื่อนลงไปยังภาคใต้ตอนล่าง ลมหนาวกำลังแรงพัดผ่านอ่าวไทยนำความชื้นเข้าหาชายฝั่งทางภาคใต้ตอนล่างต่อเนื่อง
ช่วงต่อมาเกิดหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณช่องแคบมะละกาเกิดเป็นลมหมุนวน (Cyclonic) ที่แทบจะไม่เคลื่อนที่ไปไหน อาจเพราะเกิดการคานกันระหว่างลมทางฝั่งซีกโลกเหนือและลมทางซีกโลกใต้พอดีตามร่องมรสุม ทำให้เกิดลมหมุนวนเวียนอยู่บริเวณนั้น ดึงลมนำความชื้นเข้าหาชายฝั่งอย่างต่อเนื่องทั้งภาคใต้ตอนล่างและมาเลเซีย ทำให้ฝนตกหนักตกแช่ทั้งวันทั้งคืนต่อเนื่อง เกิดเป็นปริมาณฝนสะสมสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ได้บันทึกมา
มวลอากาศเย็นระลอกปลายเดือนพฤศจิกายน 2568 กับปัจจัยที่ทำให้กรุงเทพต่ำกว่า 20°C
หลายคนคงได้เห็นการพยากรณ์อากาศช่วงสุดสัปดาห์นี้ที่อุณหภูมิจะลดต่ำลงอีกครั้ง จากมวลอากาศเย็นหรือลมหนาวช่วงปลายเดือนที่กำลังแผ่ลงมาอีกระลอก คาดการณ์วันที่เย็นสุดจะอยู่ช่วงวันที่ 28-30 พ.ย. โดยมีปัจจัยเหล่านี้ที่ทำให้อุณหภูมิลดลงได้ต่ำกว่าลมหนาวระลอกกลางเดือน
[1] อุณหภูมิน้ำทะเลบริเวณทะเลจีนใต้และ MJO
อุณหภูมิน้ำทะเลบริเวณทะเลจีนใต้แถบชายฝั่งจีนตอนใต้ยาวจนถึงชายฝั่งเวียดนามได้เย็นลงอีกจากเมฆฝนที่พัดเข้าชายฝั่งจากคลื่นกระแสลมตะวันออกและจากลมหนาวระลอกก่อนหน้า เสมือนยิ่งเป็นการเปิดทางให้ลมหนาวหรือลมตะวันออกเฉียงเหนือระลอกต่อๆไปสามารถแผ่ลงมาได้ลึกมากยิ่งขึ้น อาจเย็นได้ถึงภาคใต้ตอนบนเลยทีเดียว และ MJO กำลังเปลี่ยนจาก Phase 6 ไป Phase 7 และเริ่มมีกำลังแรง ทำให้เกิดพายุบริเวณฟิลิปปินส์และได้เคลื่อนตัวลงทะเลจีนใต้ช่วยดึงลมหนาวให้แรงขึ้น
[2] พายุโซนร้อนโคโตะบริเวณทะเลจีนใต้
พายุที่เคลื่อนตัวลงทะเลจีนใต้ ระหว่างมวลอากาศเย็นหรือลมหนาวกำลังแผ่ลงมาพอดี หากอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม มันจะมีส่วนช่วยดึงลมหนาวหรือลมตะวันออกเฉียงเหนือ(สีฟ้า)ให้มีกำลังแรงขึ้น พร้อมทั้งช่วยบล็อคลมอุ่น(สีส้ม)จากทิศตะวันออกที่พัดมาจากแปซิฟิกไม่ให้มาตัดกำลังลมหนาวบ้านเรา แต่ตัวพายุก็จะถูกเฉือนด้วยลมหนาวที่แห้งจนอ่อนกำลังลงด้วยเช่นกัน ซึ่งพายุโซนร้อนโคโตะนี้คาดการณ์ว่าจะอ่อนกำลังและขึ้นฝั่งเวียดนามโดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อไทย
[3] ความชื้นต่ำและทิศทางลมจากแผ่นดินใหญ่
ช่วงวันที่ 27-30 พ.ย. ความชื้นจะต่ำมาก จากทิศทางลมที่มาจากแผ่นดินใหญ่ ไม่ได้พัดนำความชื้นมาจากทะเลเลย โดยความชื้นจะต่ำแทบทุกระดับตั้งแต่ระดับผิวพื้น(Surface), ระดับความสูง 1.5 กม.(850h), ระดับความสูง 3 กม.(700h) จนถึงระดับความสูง 5.5 กม.(500h) เลยทีเดียว ทำให้อากาศจะแห้งมาก ส่งผลให้อุณหภูมิต่ำสุดสามารถลดลงได้ต่ำกว่าลมหนาวระลอกกลางเดือนที่มีความชื้นที่สูงกว่าในช่วงแรก
[4] ค่าความกดอากาศ
ค่าความกดอากาศสูงสุดของลมหนาวระลอกปลายเดือน พ.ย. นี้ กรุงเทพคาดการณ์ว่าจะสูงสุดราวๆ 1016 hPa ในช่วงสายๆของวันที่ 27-28 พ.ย. ซึ่งก็พอๆกันหรืออาจจะน้อยกว่าระลอกที่แล้วด้วย โดยลมหนาวระลอกกลางเดือนที่ผ่านมา กรุงเทพมีค่าความกดอากาศสูงสุดที่ 1018.3 hPa เวลา 10.00น. ในวันที่ 21 พ.ย. เพราะฉะนั้น ปัจจัยเรื่องความหนาวเย็นไม่ได้ขึ้นอยู่กับค่าความกดอากาศแต่เพียงอย่างเดียว
[5] อุณหภูมิที่ต่างจากค่าปกติที่ระดับ 850h (ความสูง 1500 ม.)
บ่งบอกถึงการเคลื่อนตัวของมวลอากาศเย็นที่เคลื่อนตัวลงมาทางไทยเราในช่วงปลายเดือนนี้ และจะเริ่มอ่อนลงในช่วงต้นเดือน ธ.ค.
[6] อุณหภูมิที่ต่างจากค่าปกติที่ระดับผิวพื้น (ความสูง 2 ม.) ช่วงเวลา 07.00 น.
บ่งบอกถึงพื้นที่ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปกติในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งลมหนาวระลอกปลายเดือน พ.ย. นี้ ช่วงที่เย็นที่สุดจะอยู่ในช่วงวันที่ 28-30 พ.ย. ก่อนที่จะเริ่มอุ่นขึ้นในช่วงต้นเดือน ธ.ค.
[7] พยากรณ์ฝนสะสมรายวัน 24 ชม.
ไทยตอนบนไม่ต้องกังวลเรื่องฝนเลย เพราะอากาศจะแห้งมากในช่วงปลายเดือน ความชื้นอาจเพิ่มขึ้นได้บ้างช่วงต้นเดือน ธ.ค. จากการที่พายุมาขึ้นฝั่งเวียดนาม ส่วนภาคใต้ตอนล่างอาจจะยังมีได้อยู่บ้าง ขึ้นอยู่กับหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณช่องแคบมะละกา ซึ่งทิศทางยังไม่แน่นอน
[8] พยากรณ์อากาศระยะ 10 วัน จาก Weather.com
-- เชียงราย
ลมหนาวระลอกนี้แผ่เข้าภาคเหนือโดยไม่ผ่านทะเลเลย ทำให้อุณหภูมิลดต่ำลงได้มาก และช่วงต้นเดือน ธ.ค. จะค่อยๆอุ่นขึ้น แต่อุณหภูมิจะไม่สวิงไวขึ้นเท่าภาคอีสาน
-- นครพนม
เมืองหน้าด่านลมหนาวของภาคอีสาน ลมแรง อุณหภูมิลดต่ำลงมาก ส่วนช่วงต้นเดือน ธ.ค. จะอุ่นขึ้น อุณหภูมิจะค่อนข้างสวิง
-- กรุงเทพมหานคร
เย็นสุดอยู่ในช่วงวันที่ 28-30 พ.ย. อากาศจะเย็นแห้ง ช่วงกลางวันความชื้นอาจลดลงต่ำ 40% ได้เลย อุณหภูมิแต่ละพื้นที่จะต่างกันได้ 1-2°C ใจกลางเมืองจะอุ่นกว่าหน่อย คาดการณ์ตามปัจจัยข้างต้น อาจได้เจอต่ำกว่า 20°C ครั้งแรกของฤดูหนาวนี้ ส่วนช่วงต้นเดือน ธ.ค. จะอุ่นขึ้น
ปล. ถ้าหากกรุงเทพเกิดอุณหภูมิต่ำสุดต่ำกว่า 20°C ในช่วงเดือนนี้จริง ก็จะนับเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี ที่กรุงเทพสามารถมีอุณหภูมิต่ำสุดต่ำกว่า 20°C ในเดือน พ.ย. ซึ่งครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นคือเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2552 กับอุณหภูมิต่ำสุดในช่วงเช้าที่ 19.2°C (ดอนเมือง) ซึ่งช่วงหลังจากปีนั้นมาเดือน พ.ย. กรุงเทพจะออกแนวร้อนแห้งเป็นส่วนใหญ่ อากาศแห้งแต่ความเย็นยังมาไม่ค่อยถึง ต้องรอเดือน ธ.ค. หรือ ม.ค. กรุงเทพถึงจะพบเจออุณหภูมิต่ำกว่า 20°C ซึ่งปีนี้ค่อนข้างที่จะแปลกอยู่และช่วงระหว่างแต่ละระลอกก็ยังมีลมพัดต่อเนื่อง ทำให้ค่าฝุ่นยังไม่ค่อยสะสม (ช่วงต้นเดือน ธ.ค. หากลมพัดอ่อนฝุ่นอาจเริ่มมา)
...ข้อมูลการพยากรณ์จาก ECMWF...
...ข้อมูลการพยากรณ์ ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568...
...ข้อมูลการพยากรณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับข้อมูลใหม่ที่ใช้วิเคราะห์ในแต่ละวัน...
[เพิ่มเติม] ฝนที่ตกหนักตกแช่อย่างมหาศาลจนทำสถิติใหม่บริเวณภาคใต้ตอนล่าง
ฝนที่ตกหนักตกแช่จนทำสถิติใหม่บริเวณภาคใต้ตอนล่าง จนทำให้เกิดอุทกภัยในหลายจังหวัด ในช่วงแรกเกิดจากลมหนาวระลอกกลางเดือน พ.ย. พัดดันร่องมรสุมเคลื่อนลงไปยังภาคใต้ตอนล่าง ลมหนาวกำลังแรงพัดผ่านอ่าวไทยนำความชื้นเข้าหาชายฝั่งทางภาคใต้ตอนล่างต่อเนื่อง
ช่วงต่อมาเกิดหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณช่องแคบมะละกาเกิดเป็นลมหมุนวน (Cyclonic) ที่แทบจะไม่เคลื่อนที่ไปไหน อาจเพราะเกิดการคานกันระหว่างลมทางฝั่งซีกโลกเหนือและลมทางซีกโลกใต้พอดีตามร่องมรสุม ทำให้เกิดลมหมุนวนเวียนอยู่บริเวณนั้น ดึงลมนำความชื้นเข้าหาชายฝั่งอย่างต่อเนื่องทั้งภาคใต้ตอนล่างและมาเลเซีย ทำให้ฝนตกหนักตกแช่ทั้งวันทั้งคืนต่อเนื่อง เกิดเป็นปริมาณฝนสะสมสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ได้บันทึกมา