ในช่วงหลายวันมานี้ ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนอย่างชัดเจน โดยดัชนีหลักหลายตัวปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และหนึ่งในประเทศที่โดดเด่นคือ สเปน (Spain) และ อิตาลี (Italy) ซึ่งนำกลุ่มหุ้นยุโรปไปข้างหน้าอย่างไม่เสียจังหวะ ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกต่อภาพรวมของภูมิภาคยุโรป
ขอบเขตของการฟื้นตัว
ดัชนี STOXX Europe 600 ซึ่งครอบคลุมหุ้นขนาดใหญ่ – กลาง – เล็กจาก 17 ประเทศในยุโรป ปรับขึ้นอย่างโดดเด่น โดยได้รับแรงหนุนจากภาคธนาคาร และบริษัทที่ประกาศผลประกอบการดีกว่าคาด
สำหรับตลาดสเปนและอิตาลี ในรายงานระบุว่า “ธนาคารหลายแห่งของสเปนและอิตาลี outperform ดัชนี STOXX 600 ของภูมิภาค”
Reuters ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าการซื้อขายในพื้นที่นี้เริ่มได้รับแรงหนุน
เหตุผลเบื้องหลังแนวโน้มบวก
มีปัจจัยหลายประการที่ร่วมขับเคลื่อนให้หุ้นยุโรป โดยเฉพาะในสเปน–อิตาลี เริ่มมีโมเมนตัมขาขึ้น ดังนี้
1.ความคาดหวังเกี่ยวกับนโยบายการเงินและเศรษฐกิจ: นักลงทุนเริ่มมองว่า European Central Bank (ECB) อาจเริ่มผ่อนคลายนโยบายหรือมีท่าทีเอื้อต่อการเติบโต
2.สถานะทางธุรกิจและรายงานกำไร: บริษัทยุโรปหลายแห่งออกผลประกอบการที่เหนือความคาดหมาย ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจว่าโอกาสเติบโตยังมีอยู่
3.การฟื้นตัวของความเชื่อมั่นในตลาดยุโรป: หลังช่วงเวลาที่ตลาดยุโรปล้าหลังตลาดสหรัฐฯมานาน รายงานของ J.P. Morgan ชี้ว่า “โอกาสเสี่ยง/ผลตอบแทนในยุโรปกำลังดีขึ้น”
4.การผสมผสานของภูมิศาสตร์ธุรกิจ: สำหรับอิตาลีและสเปน จำนวนบริษัทเชิงอุตสาหกรรม ธนาคาร และบริการกำลังได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศและการค้าระหว่างประเทศ
ตลาดสเปน–อิตาลี นำเทรนด์
-ตลาดหุ้นอิตาลี (เช่น FTSE MIB) และสเปน (เช่น IBEX 35) มีการเคลื่อนไหวที่โดดเด่น โดยได้รับแรงหนุนจากภาคธนาคาร และบริษัทที่ปรับตัวได้ดีในช่วงล่าสุด นอกจากนี้ หุ้นขนาดกลางและเล็กในอิตาลีเริ่มมีการซื้อขายเพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนว่ามีความเชื่อมั่นกลับเข้ามาในตลาดที่ถูกมองว่าเสี่ยงมาก ในอดีต
สำหรับนักลงทุน / เทรดเดอร์: โอกาสและข้อควรระวัง
-โอกาส:การฟื้นตัวของหุ้นยุโรปโดยเฉพาะสเปน–อิตาลี อาจเปิดทางให้เกิดกลยุทธ์ “ซื้อการฟื้นตัว” (buy the rebound) โดยโฟกัสในกลุ่มธนาคาร อุตสาหกรรม และบริการที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายใน
สภาพคล่องและแรงซื้อเริ่มกลับมา ซึ่งหมายความว่า “รอบใหม่ของ momentum กำลังเริ่มต้น” สำหรับบางหุ้นในยุโรป
-ข้อควรระวัง:แม้ทิศทางจะบวก แต่ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น หรือการเติบโตที่ชะลอตัวอาจฉุดกลับได้ทันที
อย่าไล่ราคาสูงเกินไปหรือซื้อในช่วงที่ราคาวิ่งขึ้นเร็วโดยไม่มีการวิเคราะห์พื้นฐานรองรับ
สำหรับเทรดเดอร์ที่เล่นสั้น ควรตั้งจุด Stop-loss และควบคุมความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด เพราะแรงซื้อที่กลับมาอาจหยุดชะงักได้เช่นกัน
กลยุทธ์ที่แนะนำ
-เน้นหุ้นในสเปน–อิตาลีที่มีผลประกอบการดีและอัตราการเติบโตโดดเด่น เลือกบริษัทที่มีความสามารถแข่งขันในตลาดยุโรปหรือมีการขยายตัวระหว่างประเทศ
-พิจารณาใช้ ETF หรือดัชนีที่ให้การเปิดรับยุโรปโดยรวม แต่ให้เพิ่มสัดส่วนของหุ้นสเปน–อิตาลีหากมองว่ามีโอกาสเหนือ
-ตั้งเวลาการเข้าลงทุนในช่วง pull-back ของตลาดยุโรปแทนการเข้าตอนราคาวิ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
-ใช้โครงสร้างความเสี่ยง เช่น การถือครองพอร์ตกระจาย ติดตามผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทในยุโรป และเตรียมพร้อมสำหรับข่าวฉุกเฉินเช่น ECB ประชุมนโยบายใหม่
สรุป
การที่หุ้นยุโรปพุ่งขึ้นโดยมีสเปนและอิตาลีเป็นผู้นำ เป็นสัญญาณว่าโอกาสกำลังเปิดสำหรับภูมิภาคนี้ แม้จะมีความไม่แน่นอน นักลงทุนและเทรดเดอร์ควรใช้โอกาสนี้อย่างรอบคอบ พิจารณาเลือกบริษัทที่ได้ประโยชน์จากพลังซื้อกลับ และเตรียมความพร้อมด้านความเสี่ยง
ตราบใดที่ปัจจัยพื้นฐานและความเชื่อมั่นยังคงรองรับ การเข้าลงทุนในหุ้นยุโรปโดยเฉพาะสเปน–อิตาลี อาจเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตที่สร้างผลตอบแทนได้เหนือกว่าในช่วงที่หลายผู้มองข้าม
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
https://www.ebc.com/th/forex/275184.html
หุ้นยุโรปพุ่ง ตลาดสเปน-อิตาลีนำเทรนด์
ขอบเขตของการฟื้นตัว
ดัชนี STOXX Europe 600 ซึ่งครอบคลุมหุ้นขนาดใหญ่ – กลาง – เล็กจาก 17 ประเทศในยุโรป ปรับขึ้นอย่างโดดเด่น โดยได้รับแรงหนุนจากภาคธนาคาร และบริษัทที่ประกาศผลประกอบการดีกว่าคาด
สำหรับตลาดสเปนและอิตาลี ในรายงานระบุว่า “ธนาคารหลายแห่งของสเปนและอิตาลี outperform ดัชนี STOXX 600 ของภูมิภาค”
Reuters ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าการซื้อขายในพื้นที่นี้เริ่มได้รับแรงหนุน
เหตุผลเบื้องหลังแนวโน้มบวก
มีปัจจัยหลายประการที่ร่วมขับเคลื่อนให้หุ้นยุโรป โดยเฉพาะในสเปน–อิตาลี เริ่มมีโมเมนตัมขาขึ้น ดังนี้
1.ความคาดหวังเกี่ยวกับนโยบายการเงินและเศรษฐกิจ: นักลงทุนเริ่มมองว่า European Central Bank (ECB) อาจเริ่มผ่อนคลายนโยบายหรือมีท่าทีเอื้อต่อการเติบโต
2.สถานะทางธุรกิจและรายงานกำไร: บริษัทยุโรปหลายแห่งออกผลประกอบการที่เหนือความคาดหมาย ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจว่าโอกาสเติบโตยังมีอยู่
3.การฟื้นตัวของความเชื่อมั่นในตลาดยุโรป: หลังช่วงเวลาที่ตลาดยุโรปล้าหลังตลาดสหรัฐฯมานาน รายงานของ J.P. Morgan ชี้ว่า “โอกาสเสี่ยง/ผลตอบแทนในยุโรปกำลังดีขึ้น”
4.การผสมผสานของภูมิศาสตร์ธุรกิจ: สำหรับอิตาลีและสเปน จำนวนบริษัทเชิงอุตสาหกรรม ธนาคาร และบริการกำลังได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศและการค้าระหว่างประเทศ
ตลาดสเปน–อิตาลี นำเทรนด์
-ตลาดหุ้นอิตาลี (เช่น FTSE MIB) และสเปน (เช่น IBEX 35) มีการเคลื่อนไหวที่โดดเด่น โดยได้รับแรงหนุนจากภาคธนาคาร และบริษัทที่ปรับตัวได้ดีในช่วงล่าสุด นอกจากนี้ หุ้นขนาดกลางและเล็กในอิตาลีเริ่มมีการซื้อขายเพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนว่ามีความเชื่อมั่นกลับเข้ามาในตลาดที่ถูกมองว่าเสี่ยงมาก ในอดีต
สำหรับนักลงทุน / เทรดเดอร์: โอกาสและข้อควรระวัง
-โอกาส:การฟื้นตัวของหุ้นยุโรปโดยเฉพาะสเปน–อิตาลี อาจเปิดทางให้เกิดกลยุทธ์ “ซื้อการฟื้นตัว” (buy the rebound) โดยโฟกัสในกลุ่มธนาคาร อุตสาหกรรม และบริการที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายใน
สภาพคล่องและแรงซื้อเริ่มกลับมา ซึ่งหมายความว่า “รอบใหม่ของ momentum กำลังเริ่มต้น” สำหรับบางหุ้นในยุโรป
-ข้อควรระวัง:แม้ทิศทางจะบวก แต่ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น หรือการเติบโตที่ชะลอตัวอาจฉุดกลับได้ทันที
อย่าไล่ราคาสูงเกินไปหรือซื้อในช่วงที่ราคาวิ่งขึ้นเร็วโดยไม่มีการวิเคราะห์พื้นฐานรองรับ
สำหรับเทรดเดอร์ที่เล่นสั้น ควรตั้งจุด Stop-loss และควบคุมความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด เพราะแรงซื้อที่กลับมาอาจหยุดชะงักได้เช่นกัน
กลยุทธ์ที่แนะนำ
-เน้นหุ้นในสเปน–อิตาลีที่มีผลประกอบการดีและอัตราการเติบโตโดดเด่น เลือกบริษัทที่มีความสามารถแข่งขันในตลาดยุโรปหรือมีการขยายตัวระหว่างประเทศ
-พิจารณาใช้ ETF หรือดัชนีที่ให้การเปิดรับยุโรปโดยรวม แต่ให้เพิ่มสัดส่วนของหุ้นสเปน–อิตาลีหากมองว่ามีโอกาสเหนือ
-ตั้งเวลาการเข้าลงทุนในช่วง pull-back ของตลาดยุโรปแทนการเข้าตอนราคาวิ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
-ใช้โครงสร้างความเสี่ยง เช่น การถือครองพอร์ตกระจาย ติดตามผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทในยุโรป และเตรียมพร้อมสำหรับข่าวฉุกเฉินเช่น ECB ประชุมนโยบายใหม่
สรุป
การที่หุ้นยุโรปพุ่งขึ้นโดยมีสเปนและอิตาลีเป็นผู้นำ เป็นสัญญาณว่าโอกาสกำลังเปิดสำหรับภูมิภาคนี้ แม้จะมีความไม่แน่นอน นักลงทุนและเทรดเดอร์ควรใช้โอกาสนี้อย่างรอบคอบ พิจารณาเลือกบริษัทที่ได้ประโยชน์จากพลังซื้อกลับ และเตรียมความพร้อมด้านความเสี่ยง
ตราบใดที่ปัจจัยพื้นฐานและความเชื่อมั่นยังคงรองรับ การเข้าลงทุนในหุ้นยุโรปโดยเฉพาะสเปน–อิตาลี อาจเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตที่สร้างผลตอบแทนได้เหนือกว่าในช่วงที่หลายผู้มองข้าม
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:https://www.ebc.com/th/forex/275184.html