กองทัพบก ยืนยันทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย เป็นของใหม่ พบเขมรรื้อลวดหนามลักลอบวางในเขตไทย
.
.
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมถึงกรณี กำลังพลประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บริเวณพื้นที่ห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ว่า
.
“จากรายงานล่าสุด พบว่ามีกำลังพลได้รับบาดเจ็บรวม 4 นาย ได้แก่
.
• จ่าสิบเอก เทอดศักดิ์ สมาพงษ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้อเท้าขวาขาด
.
• พลทหาร วชิระ พันธะนา มีอาการแน่นหน้าอกจากแรงอัด
.
• พลทหาร อภิรักษ์ ศรีชมไชย ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณขา
.
• พลทหาร อนุชา สุจารี มีอาการระคายเคืองตาจากฝุ่นหรือสารเคมีของระเบิด
.
ขณะนี้ทุกนายได้รับการรักษาในโรงพยาบาลในพื้นที่แล้ว”
.
พลตรี วินธัย กล่าวต่อว่า “กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างที่กำลังพลปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนบนเส้นทางที่ใช้เป็นประจำ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นจุดที่ทหารกัมพูชาเคยรุกล้ำเข้ามาวางกำลัง ก่อนจะถอนกำลังออกไปภายหลังเหตุปะทะที่ผ่านมา
.
โดยหลังจากทหารกัมพูชาถอนกำลังออกไปแล้ว ฝ่ายไทยได้เข้าควบคุมพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. 68 พร้อมทั้งได้ดำเนินการเสริมความมั่นคงพื้นที่ ด้วยการกวาดล้างทุ่นระเบิด วางเครื่องกีดขวางลวดหนาม และลาดตระเวนเฝ้าตรวจอย่างต่อเนื่อง
.
ต่อมาเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 68 ตรวจพบว่าแนวลวดหนามที่วางไว้ถูกลักลอบเข้ามารื้อถอน จากนั้นในวันที่ 10 พ.ย. 68 เวลาประมาณ 08.30 น. หน่วยในพื้นที่จึงได้จัดกำลังชุดลาดตระเวนร่วมกับชุดทหารช่าง เข้าพิสูจน์ทราบบริเวณแนวลวดหนามที่ถูกรื้อถอน จนเกิดเหตุกำลังพลเหยียบทุ่นระเบิด มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 นายข้างต้น
.
หลังจากเกิดเหตุ เวลาประมาณ 15.50 น. หน่วยในพื้นที่ได้จัดกำลังร่วมกับชุดตรวจค้น นปท.3 ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บึงมะลู เข้าพิสูจน์ทราบบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยตรวจพบรายละเอียดดังนี้
.
1. หลุมระเบิดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 55 ซม. ลึก 18 ซม. จำนวน 1 หลุม
2. ชิ้นส่วนทุ่นระเบิด PMN-2 อยู่ภายในหลุมและพื้นที่ใกล้เคียง
3. ทุ่นระเบิด PMN-2 เพิ่มเติมจำนวน 3 ทุ่น โดยแต่ละทุ่นวางห่างจากหลุมระเบิดประมาณ 1 เมตร
.
จากหลักฐานที่ปรากฏ จึงสรุปได้ว่า ทุ่นระเบิดดังกล่าวเป็นการลักลอบรื้อถอนลวดหนามและเข้ามาวางทุ่นระเบิดใหม่ในเขตไทย โดยมีเป้าหมายคือกำลังพลที่ลาดตระเวนเส้นทางอยู่เป็นประจำ การกระทำดังกล่าวแสดงถึงความไม่จริงใจในการลดความขัดแย้งของฝ่ายกัมพูชา และสะท้อนถึงความเป็นปรปักษ์ระหว่างกัน ซึ่งขัดต่อปฏิญญาร่วมที่ได้ลงนามไว้อย่างชัดเจน ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อท่าทีของฝ่ายไทยและข้อตกลงต่าง ๆ อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง”
.
.
หลับไม่ลง! “ฮุน เซน” โพสต์แถลงการณ์ “กัมพูชา” ไม่รับข้อกล่าวหาไทย ยืนยัน ไม่เคยวางทุ่นระเบิดใหม่ ขอเดินหน้าตามปฏิญญาสันติภาพ
.
“กัมพูชา” ออกแถลงการณ์ ยืนยัน ไม่เคยวางทุ่นระเบิดใหม่ แต่อาจมีของเก่าที่หลงเหลือช่วงสงครามกลางเมืองเมื่อ 50 ปี และ ขอเดินหน้าตามปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชาต่อไป
.
กลางดึกที่ผ่านมา (10พ.ย.68) สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของราชอาณาจักรกัมพูชา ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ใจความสำคัญ ระบุว่า รัฐบาลกัมพูชา มีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับรายงานของสื่อมวลชนที่อ้างถึงแถลงการณ์ของผู้นำไทย วึ่งระบุว่า ประเทศไทยได้ระงับการปฏิบัติตามปฏิญญาร่วม ระหว่างนายกรัฐมนตรีของกัมพูชาและไทย ที่ลงนามร่วมกัน โดยมีนาย โดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียและประธานอาเซียน เป็นสักขีพยาน ณ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568
.
หลังเกิดเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเมื่อวันที่ 10 พ.ย.68 ได้รับบาดเจ็บบริเวณใกล้ปราสาทพระวิหาร และ อ้างเป็นเหตุผลที่ทำให้ไทยระงับการปฏิบัติตามปฏิญญาร่วมกัน ทั้งยังได้ยกเลิกการประกาศปล่อยตัวเชลยศึก 18 คน ในวันที่ 12 พ.ย.นี้
.
รัฐบาลกัมพูชา ปฏิเสธข้อกล่าวหาของไทยอย่างเด็ดขาดว่า กัมพูชาได้วางกับระเบิดลูกใหม่ที่ชายแดนไทย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ทุ่งระเบิดส่วนใหญ่จากสงครามกลางเมืองของกัมพูชาในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 ตามแนวชายแดนกัมพูชา ยังไม่ได้รับการเคลียร์ เนื่องจากความยากลำบากและสถานะของพื้นที่ชายแดน ยังไม่ถูกปักปัน
.
รัฐบาลกัมพูชา ต้องการยืนยันว่า กัมพูชาจะยังคงมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามปฏิญญาร่วม ซึ่งลงนามท่ามกลางเสียงปรบมือจากประชาคมระหว่างประเทศ ซึ่งกัมพูชาในฐานะผู้สนับสนุน และเป็นรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดต่อต้านบุคคล ยืนยัน ไม่เคยใช้ระเบิดใหม่ และจะไม่ทำอย่างนั้น
.
.
วิกฤติ! น้ำท้ายเขื่อนเพิ่ม ชาวบ้านเดือดร้อนหนักท่วมระดับอก หวั่นซ้ำรอยปี65
https://www.dailynews.co.th/news/5288518/
.
กรมชลประทานเพิ่มระบายน้ำเขื่อนสู่พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ทำระดับน้ำสูงขึ้นอีก 30 ซม. ท่วม 7 หมู่บ้าน ตำบลหาดอาษา ชัยนาท กระทบ 1,666 ครัวเรือน คาดอาจไม่หนักเท่าปี 54 แต่อาจซ้ำรอยปี 65
.
เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ กรมชลประทาน ได้แจ้งปรับเพิ่มการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ตอนล่างของลุ่มน้ำจากอัตรา 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 30 เซนติเมตร
.
ล่าสุด สถานการณ์ในพื้นที่ท้าย เขื่อนเจ้าพระยา โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำที่ติดกับลำน้ำใน ต.หาดอาษา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท พบว่าระดับน้ำที่ท่วมขังยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านที่ต้องใช้เรือในการสัญจรเข้าออกบ้านเรือน อีกทั้งบ้าน วัด และโรงเรียนหลายแห่งก็ถูกน้ำท่วม
.
นายสมยศ พันธ์ทรัพย์ ชาวบ้านหมู่ 1 ต.หาดอาษา เปิดเผยว่า น้ำท่วมปีนี้ท่วมหนักมาก และต้องขนของหนีน้ำด้วยความยากลำบาก ปัจจุบันยังคงอาศัยอยู่ในบ้านโดยใช้เรือพายเข้าออก และระดับน้ำที่ท่วมขังขณะนี้สูงถึงระดับอก ซึ่งได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักทั้งในเรื่องอาหารการกินและการดำรงชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม ตนไม่รู้สึกกังวลใจนักหากเขื่อนเจ้าพระยาจะเพิ่มการระบายน้ำอีก เนื่องจากเคยเผชิญกับสถานการณ์ที่หนักกว่านี้มาแล้ว แต่ก็มีการเตรียมความพร้อมรับมืออยู่ตลอด
.
ด้าน นางชัณณ์ญาช์ สุภาวิตา นายกเทศมนตรีตำบลหาดอาษา เปิดเผยว่า ปัจจุบันระดับน้ำในพื้นที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีชาวบ้านได้รับผลกระทบแล้วรวม 7 หมู่บ้าน 1,666 ครัวเรือน ซึ่งทางเทศบาลฯ ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว เช่น การเดินสายไฟฟ้า การตั้งแทงค์น้ำ และการจัดหาห้องสุขาตามจุดที่ประชาชนอพยพขึ้นมาอาศัยอยู่บนถนนริม คันคลองมหาราช นอกจากนี้ยังได้ขอรับการสนับสนุนถุงยังชีพจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อนำมาแจกจ่ายให้กับประชาชน
.
นายกเทศมนตรีตำบลหาดอาษายอมรับว่ายังคงเป็นกังวล เนื่องจากทราบว่าปริมาณน้ำทางตอนบนของเขื่อนเจ้าพระยายังมีมาก ทำให้บางจุดระดับน้ำเกือบถึงชั้น 2 ของตัวบ้าน และหวั่นเกรงว่าสถานการณ์ในปีนี้อาจจะไม่หนักเท่าปี 54 แต่อาจซ้ำรอยเหตุการณ์น้ำท่วมหนักเมื่อปี 2565 หากเขื่อนเจ้าพระยาจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำไปที่อัตรา 2,900 – 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทางเทศบาลฯ ก็จะดำเนินการกรอกกระสอบทรายกั้นบนถนนสายคันคลองมหาราชทันที เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลข้ามลงสู่คลองมหาราช ซึ่งอาจส่งผลให้มวลน้ำกัดเซาะถนนจนพังทลายได้
JJNY : ยันทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย เป็นของใหม่│“ฮุน เซน”โพสต์ไม่รับข้อกล่าวหา│วิกฤติ!น้ำท้ายเขื่อนเพิ่ม│ทั่วไทยมีฝนลดลง
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมถึงกรณี กำลังพลประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บริเวณพื้นที่ห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ว่า
.
“จากรายงานล่าสุด พบว่ามีกำลังพลได้รับบาดเจ็บรวม 4 นาย ได้แก่
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
จากหลักฐานที่ปรากฏ จึงสรุปได้ว่า ทุ่นระเบิดดังกล่าวเป็นการลักลอบรื้อถอนลวดหนามและเข้ามาวางทุ่นระเบิดใหม่ในเขตไทย โดยมีเป้าหมายคือกำลังพลที่ลาดตระเวนเส้นทางอยู่เป็นประจำ การกระทำดังกล่าวแสดงถึงความไม่จริงใจในการลดความขัดแย้งของฝ่ายกัมพูชา และสะท้อนถึงความเป็นปรปักษ์ระหว่างกัน ซึ่งขัดต่อปฏิญญาร่วมที่ได้ลงนามไว้อย่างชัดเจน ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อท่าทีของฝ่ายไทยและข้อตกลงต่าง ๆ อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง”
.
.
กลางดึกที่ผ่านมา (10พ.ย.68) สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของราชอาณาจักรกัมพูชา ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ใจความสำคัญ ระบุว่า รัฐบาลกัมพูชา มีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับรายงานของสื่อมวลชนที่อ้างถึงแถลงการณ์ของผู้นำไทย วึ่งระบุว่า ประเทศไทยได้ระงับการปฏิบัติตามปฏิญญาร่วม ระหว่างนายกรัฐมนตรีของกัมพูชาและไทย ที่ลงนามร่วมกัน โดยมีนาย โดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียและประธานอาเซียน เป็นสักขีพยาน ณ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568
.
หลังเกิดเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเมื่อวันที่ 10 พ.ย.68 ได้รับบาดเจ็บบริเวณใกล้ปราสาทพระวิหาร และ อ้างเป็นเหตุผลที่ทำให้ไทยระงับการปฏิบัติตามปฏิญญาร่วมกัน ทั้งยังได้ยกเลิกการประกาศปล่อยตัวเชลยศึก 18 คน ในวันที่ 12 พ.ย.นี้
.
รัฐบาลกัมพูชา ปฏิเสธข้อกล่าวหาของไทยอย่างเด็ดขาดว่า กัมพูชาได้วางกับระเบิดลูกใหม่ที่ชายแดนไทย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ทุ่งระเบิดส่วนใหญ่จากสงครามกลางเมืองของกัมพูชาในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 ตามแนวชายแดนกัมพูชา ยังไม่ได้รับการเคลียร์ เนื่องจากความยากลำบากและสถานะของพื้นที่ชายแดน ยังไม่ถูกปักปัน
.
รัฐบาลกัมพูชา ต้องการยืนยันว่า กัมพูชาจะยังคงมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามปฏิญญาร่วม ซึ่งลงนามท่ามกลางเสียงปรบมือจากประชาคมระหว่างประเทศ ซึ่งกัมพูชาในฐานะผู้สนับสนุน และเป็นรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดต่อต้านบุคคล ยืนยัน ไม่เคยใช้ระเบิดใหม่ และจะไม่ทำอย่างนั้น
https://www.dailynews.co.th/news/5288518/
.
กรมชลประทานเพิ่มระบายน้ำเขื่อนสู่พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ทำระดับน้ำสูงขึ้นอีก 30 ซม. ท่วม 7 หมู่บ้าน ตำบลหาดอาษา ชัยนาท กระทบ 1,666 ครัวเรือน คาดอาจไม่หนักเท่าปี 54 แต่อาจซ้ำรอยปี 65
.