“ภคมน”ร้องไอยะ หลัง“ชนนพัฒฐ์” คุยชาวบ้าน หากรอบนี้เคลียร์ตัวเองเสร็จสิ้น รอบหน้าได้เป็นรัฐมนตรี
.
.
“ภคมน” โพสต์คลิป “ชนนพัฒฐ์” คุยชาวบ้าน หากรอบนี้เคลียร์ตัวเองเสร็จสิ้น รอบหน้าได้เป็นรัฐมนตรีแน่ เชื่อคนพูดคงมั่นใจ ถือเป็นการท้าทายประเทศไทยแบบสุดๆ
.
เมื่อเวลา 20.00 น. นางสาวภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์คลิปนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม ที่กล่าวกับชาวบ้านที่มาให้กำลังใจในตอนหนึ่งว่า จะรีบเคลียร์ตัวเองให้จบ “ถ้าผมเสร็จรอบนี้ รอบหน้าผมได้เป็นรัฐมนตรี และสัญญาว่าจะทำงานอยู่กับชาวบ้านอย่างนี้ตลอดไป อยู่ใกล้ชิดกับทุกคนตลอดไปไม่ทิ้ง” นายชนนพัฒฐ์ กล่าวและว่า ถ้าได้เป็นสส.สมัยหน้าก็ยังจะทำงานแบบนี้ เพราะสนุกและมีความสุขที่ได้เที่ยวไปที่นั่นที ที่นี่ที
.
ซึ่งน.ส.ภคมน ระบุว่า
.
“ถือเป็นการท้าทายกันให้สุดๆไปเลยประเทศไทย ในขณะที่สังคมกำลังจับตาการสอบเส้นทางเงินของนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว แต่เจ้าตัวบอกว่าเคลียร์จบรอบนี้ รอบหน้าเป็นรัฐมนตรีแล้ว ไอยะ!!??” สส.พรรคประชาชนยังระบุด้วยว่า การทุจริตคอร์รัปชันมันเคลียร์ได้มาตลอด รอบนี้ก็คงมั่นใจ มันจะอยู่กันยังไงถ้าคนที่มีชนักติดหลัง กล้าประกาศตัวจะเป็นรัฐมนตรี เหมือนพี่น้องประชาชนพื้นที่เขต4 สงขลาเป็นสมบัติตัวเอง ผูกขาดมั่นใจ จัดสรรอำนาจให้ตัวเองเสร็จสรรพ
.
https://www.facebook.com/reel/2207203219764998/
.
.
"กัมพูชา" โต้โฆษก ทบ."ไทย" กล่าวหารีบเผาศพพลเรือนที่ถูกกระสุนปืนทหารไทยดับ อัดกล่าวหาจากการคาดเดา-ไม่ยึดหลักความจริง
.
นายเนตร ภัคตรา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศกัมพูชา โพสต์ต่อเนื่องกรณีพลเรือนที่อ้างว่าเสียชีวิตจากกระสุนปืนของทหารไทย โดยระบุว่า บทเรียนที่ 2 สำหรับโฆษกกองทัพบก อย่าทำตัวเป็นล่ามสถานการณ์ จงใช้การตรวจสอบข้อเท็จจริงและหลักฐานที่ตรวจสอบแล้วเป็นพื้นฐานในการแถลง คุณกล่าวว่า
.
“พลเรือนชาวกัมพูชาที่ถูกกล่าวหาซึ่งรายงานว่าเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ ถูกเผาเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ซึ่งถือว่าผิดปกติอย่างยิ่ง เพราะการเสียชีวิตนั้นผิดธรรมชาติและควรต้องมีการชันสูตรพลิกศพอย่างเป็นทางการ การเผาศพดูเหมือนจะมีจุดประสงค์เพื่อปกปิดหรือบิดเบือนหลักฐาน โดยทั่วไปแล้ว กัมพูชาจะเผยแพร่หลักฐานและออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวเกิดขึ้น แม้ว่าคณะสังเกตการณ์อาเซียน (AOT) จะเข้าตรวจสอบหลักฐานเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ก็ตาม เรื่องนี้ทำให้เกิดคำถามว่าการเสียชีวิตที่รายงานนั้นเกิดขึ้นจริงหรือเกี่ยวข้องกับการปะทะที่อ้างหรือไม่”
.
แต่ข้อกล่าวหานี้จะล้มเหลวทันทีเมื่อเผชิญหน้ากับความเป็นจริง หลักฐานมีอยู่ตรงนั้น มองเห็นได้โดยสาธารณชน หน่วยงานท้องถิ่น และใครก็ตามที่ต้องการดูอย่างตรงไปตรงมา หน้าที่ของโฆษกคือการพูดความจริง ไม่ใช่การสร้างความสงสัยหรือทำให้สาธารณชนเข้าใจผิด เมื่อโฆษกทหารเลือกที่จะคาดเดาแทนข้อเท็จจริงนั่นไม่ได้เผยให้เห็นการกระทำผิดของกัมพูชา แต่เป็นความสิ้นหวังของไทยในการปกป้องเรื่องเล่าที่เป็นเท็จ
.
.
ทรัมป์ต่อสายตรงถึงไทย-กัมพูชา เพื่อไกล่เกลี่ยข้อพิพาทครั้งใหม่
https://www.dailynews.co.th/news/5303007/
.
ผู้นำสหรัฐโทรศัพท์สายตรง เพื่อหารือกับทั้งไทยและกัมพูชา ในควาพมยายามคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศ จากกรณีทหารไทยเหยียบกับระเบิดครั้งใหม่ ระหว่างลาดตระเวนตามแนวชายแดนใกล้กับกัมพูชา
.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ว่าทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ โทรศัพท์ถึงฝ่ายไทยและกัมพูชา เพื่อไกล่เกลี่ยความขัดแย้งรอบล่าสุดระหว่างทั้งสองประเทศ และยังประสานงานไปยังมาเลเซีย เพื่อให้ช่วยยุติความตึงเครียดครั้งนี้ด้วย โดยไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า สนทนากับใครบ้าง
.
ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีไทย ระงับปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ ซึ่งลงนามร่วมกับพล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และมีทรัมป์ร่วมสังเกตการณ์ พร้อมกับนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำมาเลเซีย ระหว่างการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( อาเซียน ) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา
.
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยระงับปฏิญญาดังกล่าว เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลัวเกิดเหตุทหารเหยียบทุ่นระเบิด ระหว่างการลาดตระเวนตามแนวชายแดน จนได้รับบาดเจ็บ 4 นาย หนึ่งในนั้นถึงขั้นสูญเสียข้อเท้าขวา ด้านกัมพูชาอ้างเป็นทุ่นระเบิดเก่าตั้งแต่ยุคสงคราม แต่ไทยยืนยันว่า เป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่มีการฝังเมื่อไม่นานมานี้
.
สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า ไทยและกัมพูชาจะกลับมาสู้รบกันอีกครั้ง หลังการต่อสู้ยาวนาน 5 วัน ระหว่างวันที่ 24-28 ก.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความสูญเสียกับทั้งสองประเทศ.
.
ผู้นำสหรัฐโทรศัพท์สายตรง เพื่อหารือกับทั้งไทยและกัมพูชา ในควาพมยายามคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศ จากกรณีทหารไทยเหยียบกับระเบิดครั้งใหม่ ระหว่างลาดตระเวนตามแนวชายแดนใกล้กับกัมพูชา
JJNY : “ภคมน”ร้องไอยะ│"กัมพูชา" โต้โฆษก ทบ."ไทย"│ ทรัมป์ต่อสายตรงถึงไทย-กัมพูชา│เตือนอุณหภูมิลด เปิดชื่อ 11 จว.ฝนถล่ม
.
.
นายเนตร ภัคตรา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศกัมพูชา โพสต์ต่อเนื่องกรณีพลเรือนที่อ้างว่าเสียชีวิตจากกระสุนปืนของทหารไทย โดยระบุว่า บทเรียนที่ 2 สำหรับโฆษกกองทัพบก อย่าทำตัวเป็นล่ามสถานการณ์ จงใช้การตรวจสอบข้อเท็จจริงและหลักฐานที่ตรวจสอบแล้วเป็นพื้นฐานในการแถลง คุณกล่าวว่า
แต่ข้อกล่าวหานี้จะล้มเหลวทันทีเมื่อเผชิญหน้ากับความเป็นจริง หลักฐานมีอยู่ตรงนั้น มองเห็นได้โดยสาธารณชน หน่วยงานท้องถิ่น และใครก็ตามที่ต้องการดูอย่างตรงไปตรงมา หน้าที่ของโฆษกคือการพูดความจริง ไม่ใช่การสร้างความสงสัยหรือทำให้สาธารณชนเข้าใจผิด เมื่อโฆษกทหารเลือกที่จะคาดเดาแทนข้อเท็จจริงนั่นไม่ได้เผยให้เห็นการกระทำผิดของกัมพูชา แต่เป็นความสิ้นหวังของไทยในการปกป้องเรื่องเล่าที่เป็นเท็จ
.
ทรัมป์ต่อสายตรงถึงไทย-กัมพูชา เพื่อไกล่เกลี่ยข้อพิพาทครั้งใหม่
https://www.dailynews.co.th/news/5303007/
.
ผู้นำสหรัฐโทรศัพท์สายตรง เพื่อหารือกับทั้งไทยและกัมพูชา ในควาพมยายามคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศ จากกรณีทหารไทยเหยียบกับระเบิดครั้งใหม่ ระหว่างลาดตระเวนตามแนวชายแดนใกล้กับกัมพูชา
.
ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีไทย ระงับปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ ซึ่งลงนามร่วมกับพล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และมีทรัมป์ร่วมสังเกตการณ์ พร้อมกับนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำมาเลเซีย ระหว่างการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( อาเซียน ) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยระงับปฏิญญาดังกล่าว เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลัวเกิดเหตุทหารเหยียบทุ่นระเบิด ระหว่างการลาดตระเวนตามแนวชายแดน จนได้รับบาดเจ็บ 4 นาย หนึ่งในนั้นถึงขั้นสูญเสียข้อเท้าขวา ด้านกัมพูชาอ้างเป็นทุ่นระเบิดเก่าตั้งแต่ยุคสงคราม แต่ไทยยืนยันว่า เป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่มีการฝังเมื่อไม่นานมานี้
สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า ไทยและกัมพูชาจะกลับมาสู้รบกันอีกครั้ง หลังการต่อสู้ยาวนาน 5 วัน ระหว่างวันที่ 24-28 ก.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความสูญเสียกับทั้งสองประเทศ.
ผู้นำสหรัฐโทรศัพท์สายตรง เพื่อหารือกับทั้งไทยและกัมพูชา ในควาพมยายามคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศ จากกรณีทหารไทยเหยียบกับระเบิดครั้งใหม่ ระหว่างลาดตระเวนตามแนวชายแดนใกล้กับกัมพูชา