[CR] Backpack Trip แบกเป้เที่ยวโคราช-พิมาย 3วัน 2คืน พักใจแบบป่วนๆ

สวัสดีทุกคน!
กระทู้นี้จะมาแชร์ประสบการณ์ “พักใจแบบป่วน ๆ” ไปกับทริปแบกเป้เที่ยวจังหวัดนครราชสีมา หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “โคราช” ทริปนี้เป็นการเดินทางของพวกเราทั้ง 6 คน ในช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา ใครที่อยากเห็นบรรยากาศการเดินทางแบบเรียบง่าย ได้พักใจ เติมพลัง และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ดี ๆ ไปพร้อมกับกลุ่มเพื่อน บอกเลยว่าห้ามพลาด!  เชิญติดตาม ทริปโคราชของพวกเรา ได้เลย! 
หากใครสนใจอยากดูภาพและคลิปการเดินทางของพวกเรา สามารถติดตามได้ที่คลิปนี้เลย

DAY 0 : ก่อนเริ่มเดินทาง
ก่อนเดินทางประมาณ 2 สัปดาห์ พวกเรา 6 คนได้นัดคุยกันเพื่อวางแผนทริป ตามคอนเซปต์ที่ได้รับมาคือ “Low Cost, High Experiences” หลังจากถกเถียงกันอยู่นาน ก็ลงเอยที่ “ภาคอีสาน” เพราะเป็นพื้นที่ที่พวกเรายังไม่เคยไปเที่ยวมาก่อนเลย และสุดท้ายก็เลือก “จังหวัดนครราชสีมา” หรือ “โคราช” เป็นจุดหมายปลายทางของทริปนี้ ซึ่ง นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เคยกล่าวไว้ว่า  “จังหวัดนครราชสีมา คือ ศูนย์กลางโครงข่ายคมนาคม การท่องเที่ยวเชิงนิเวศและศิลปวัฒนธรรมของภูมิภาค เป็นพื้นที่แห่งนวัตกรรมการเกษตรและอุตสาหกรรม และยังเป็นสังคมคุณภาพสูง” ประโยคนี้ยิ่งทำให้พวกเราอยากไปสัมผัสด้วยตาตัวเองว่า เมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และผู้คนอบอุ่นแห่งนี้จะมีเสน่ห์อย่างไรบ้าง 
แหล่งอ้างอิง : เว็บไซต์สำนักงานจังหวัดนครราชสีมา, 2568

DAY 1 (17 ตุลาคม 2568)
เช้าวันเดินทาง พวกเราทั้ง 6 คนสะพายกระเป๋าเป้คนละใบ มุ่งหน้าไปขึ้นรถทัวร์ของเชิดชัยทัวร์ เส้นทาง กรุงเทพฯ – นครราชสีมา จากสถานีขนส่งหมอชิต 2 ด้วยค่าโดยสารเพียงคนละ 232 บาท รถออกเวลา 07.00 น.
ทริปนี้ถือเป็นการเดินทางไปโคราชครั้งแรกของพวกเราทั้ง 6 คน ความรู้สึกตื่นเต้นและคาดหวังผสมกันอยู่เต็มไปหมด เพราะเป็นการเดินทางไปยังจังหวัดที่พวกเราไม่เคยไปมาก่อน! ระหว่างโดยสาร รถทัวร์มีบริการอาหารเช้าเป็นแฮมเบอร์เกอร์เจ้าดัง (ตัวย่อ M) และน้ำดื่ม 1 ขวด ซึ่งช่วยทำให้พวกเราประหยัดค่าอาหารไปได้อีก 1 มื้อ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงเศษก็มาถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดนครราชสีมาแห่งที่ 2
เมื่อถึงโคราช พวกเราเดินทางต่อด้วยรถสองแถวจากสถานีขนส่งมายัง “ตลาดแม่กิมเฮง” ในราคาเพียงคนละ 20 บาท (แม้ราคาจะสูงกว่าปกติเล็กน้อยเพราะพลาดรอบรถที่ไปตลาดโดยตรง แต่ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ทำให้เราได้พูดคุยกับคนท้องถิ่นมากขึ้น)
บรรยากาศของตลาดแม่กิมเฮงมีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยร้านค้าที่สะท้อนเอกลักษณ์ของวิถีชุมชน มีทั้งร้านตึกแถวและร้านริมทางที่ขายผัก ผลไม้ และอาหารพื้นเมืองหลากหลายชนิดทั้งที่พวกเราเคยเห็นและไม่เคยเห็น แต่ร้านที่พวกเราตั้งใจมาชิมคือ “ขนมจีนประโดกแม่สมนึก” ซึ่งเป็นร้านขึ้นชื่อของโคราช ซึ่งลูกค้าเต็มร้านในช่วงที่พวกเราไปถึง
เมนูที่มีเฉพาะโคราชคือ “ขนมจีนน้ำยาหมู” รสชาติคล้ายน้ำยากะทิแต่มีหมูชิ้นเล็ก ๆ เลือด และมะเขือพวง เพิ่มสัมผัสเฉพาะตัว เส้นขนมจีนมีความหนากว่าที่เคยกินในกรุงเทพฯ แถมยังมีผักสดให้ตักได้ไม่อั้น ถือเป็นเสน่ห์ของร้านขนมจีน ซึ่งราคาเริ่มต้นเพียง 35 บาท ถือว่าคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับคุณภาพและรสชาติ
จากตลาดแม่กิมเฮง เดินต่อเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองโคราชอย่าง “อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม)”  สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2477 เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของท้าวสุรนารี หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ ย่าโม วีรสตรีไทยที่ถูกยกย่องในเรื่องของความดี และเป็นวีรสตรีสามัญชนคนแรกของประเทศที่มีอนุสาวรีย์นี้ บริเวณรอบ ๆ เต็มไปด้วยผู้คนที่มากราบไหว้สักการะย่าโมอย่างไม่ขาดสาย บรรยากาศดูอบอุ่นและศักดิ์สิทธิ์มาก
ด้านหลังอนุสาวรีย์คือ “ประตูชุมพล” หนึ่งในสี่ประตูเมืองเก่าที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน พร้อมกับตำนานความเชื่อที่เล่าขานกันมาว่า
ลอด 1 ครั้ง: จะได้กลับมาโคราชอีก
ลอด 2 ครั้ง: จะได้มาทำงานหรือมาอยู่ที่โคราช
ลอด 3 ครั้ง: จะได้คู่ครองเป็นคนโคราช
พวกเราคิดว่าสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงรากวัฒนธรรมที่ยังคงสืบทอดต่อมาและอาจเป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยเชื่อมโยงคนรุ่นใหม่ กับ ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น 
แหล่งอ้างอิง : ประตูชุมพล

ถัดจากนั้น พวกเราเดินต่อมายัง “หอศิลป์โคราช” ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินน่าสนใจ เพราะภายในจัดแสดงผลงานศิลปะของศิลปินหลากหลายท่าน ทั้งภาพวาดและผลงานแนวสร้างสรรค์ที่สะท้อนเรื่องราวและเอกลักษณ์ของ ความเป็นโคราช บรรยากาศภายในเงียบสงบและเย็นสบาย เพิ่มความเพลิดเพลินในการเดินชมผลงาน ที่สำคัญคือ เข้าชมได้ฟรี!  ถือการเปิดโอกาสให้คนทั่วไปเข้าถึงศิลปะได้อย่างเท่าเทียม ซึ่งระหว่างทางที่พวกเราเดินเท้ามาพวกเราเดินกันเป็นคู่ๆ บางคู่ก็แวะดูของที่วางขายระหว่างทาง แต่ความน่ารักของคนในพื้นที่คือ มีคุณลุงคนหนึ่งขับมอเตอร์ไซต์มาแล้วเรียกพวกเราคู่นึงถามว่า
“หนูมากับ 2 คนข้างหลังนั้นมั้ย ทำไมทิ้งเพื่อน”
ซึ่งความเป็นจริงคือพวกเราเดินชะลอรอเพื่อนตลอด แต่เป็นจังหวะที่เพื่อนแวะดูของขายคุณลุงเลยอาจจะเข้าใจผิดไปได้ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงน้ำใจของคนไทยซึ่งเป็นเสน่ห์ของคนไทยจริงๆ
ต่อมาเมื่อถึงเวลาที่นัดไว้พวกเราเดินเท้ามาที่ “เรือนโคราชเฉลิมวัฒนา” ซึ่งตั้งอยู่เยื้องกับอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ภายในจัดแสดงเรือนโคราชจำลองของ “พ่อคง” พร้อมอุปกรณ์ดั้งเดิมที่ใช้ในการทำเกษตรและดำรงชีวิตในอดีต

นอกจากนี้ยังมี ของที่ระลึกทำจากผ้าพื้นเมืองของไทย เช่น พวงกุญแจ กระเป๋า และเสื้อผ้าให้เลือกซื้อกลับเป็นของฝากได้เช่นกัน  สิ่งที่น่าสนใจคือ การได้พูดคุยกับอาจารย์และผู้ดูแลเรือน ที่อธิบายถึงความสำคัญของ “การอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น” ผ่านการตัดเย็บ พืชพันธุ์ และสถาปัตยกรรมอย่างละเอียด ทำให้เราเห็นคุณค่าของการเรียนรู้จากท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น และยังได้แลกเปลี่ยนมุมมองต่างๆกับอาจารย์หลายๆท่าน การเข้าชมมีค่าใช้จ่ายเพียง 60 บาท แต่แลกกับองค์ความรู้และแรงบันดาลใจที่ได้รับ ถือว่าคุ้มค่าอย่างมาก
ปิดท้ายวันด้วยการแวะรับประทานอาหารที่ร้าน “ข้าว” ร้านอาหารไทยพื้นบ้านที่ตกแต่งในสไตล์ย้อนยุค ใช้ภาชนะเป็นจานสังกะสีรองใบตองและขันเงินใส่น้ำดื่ม

เมนูที่พวกเราสั่ง ได้แก่ ไข่เจียวไข่มดแดง, แกงคั่วหอยขม, กบทอดกระเทียม, ส้มปลาจีน, แหนมคั่วไข่ และแกงป่าเห็ดเผาะไข่ผำ ซึ่งบ้างเมนูก็เคยทานมาแล้ว บางเมนูก็เป็นครั้งแรกของพวกเราบางคน โดยรสชาติอาหารทุกจานอร่อย เข้มข้น ทำให้พวกเราได้รู้จักอาหารพื้นบ้านของคนในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากขึ้น หลังจากทานข้าวเสร็จเรียบร้อยพวกเราก็เดินทางเข้าที่พักที่จองไว้เพื่อพักผ่อนร่างกายเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้ วันแรกของทริปทำให้เรารู้ว่าการเดินทางจริง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีแพลนแน่นทุกอย่าง เพราะความสนุกมักเกิดขึ้นจากสิ่งที่ไม่คาดคิดระหว่างทาง ได้ลองของใหม่ ได้คุยกับคนท้องถิ่น  มันคือเสน่ห์ของการเดินทางแบบแบกเป้
-------------------อ่านต่อที่ comment-------------------
ชื่อสินค้า:   เที่ยงจังหวัดนครราชสีมา
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่