ใครอยากดูบรรยากาศเพชรบุรี 3 วัน 2 คืน แบบเต็ม ๆ คลิกดูใน YouTube ด้านล่างได้เลย
👇[
https://www.youtube.com/watch?v=SOSdJPJvYns]
***ส่วนใครสายอ่าน มาเริ่มกันที่
Day 1
ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงถึงเพชรบุรี อากาศตอนเช้าเย็นสบายสุด ๆเริ่มทริปด้วยมื้อเช้าที่
ร้านข้าวแกงใบตาล บนถนนเพชรเกษมสายเก่า
ใกล้อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง) มีทั้งข้าวราดแกงและก๋วยเตี๋ยวน้ำแดงของเด็ดเมืองพริบพรี
***ราคาประมาณ 40–50 บาท***
จากนั้นขึ้นไปเที่ยว
อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง)
สามารถเลือกเดินหรือขึ้นรถรางไฟฟ้าได้ 20 บาท (ค่าเข้า : คนไทย 60 บาท / เด็ก 15 บาท) ***เวลา 08.30 – 16.30 น.***
ข้างบนมีทั้งพระที่นั่ง พระตำหนัก วัด และกลุ่มอาคารสไตล์นีโอคลาสสิกผสมจีน สวยและมีมุมชมวิวเมืองเพชรบุรีสุดอลัง และมีเจ้าหน้าที่ค่อยแนะนำตลอดทางการเดินบนเขาวัง แนะนำให้เผื่อเวลาเดินชม เพราะพื้นที่กว้างมาก บอกเลยว่าเดินกันขาลากแน่ มีที่ให้ซื้อของที่ระลึกก่อนลงเขาวังด้วยน้าา
ลงจากเขาวังแวะพักที่
พูนสุข Café คาเฟ่เล็ก ๆ ใกล้ทางขึ้นเขา มีทั้งเครื่องดื่มและขนมไทยโบราณ
***ราคาประมาณ 59–199 บาท บรรยากาศร่มรื่น นั่งพักได้เพลิน ๆ***
พอแวะพักกินขนมจากคาเฟ่เสร็จเราก็ไปต่อกับร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อราเชนทร์ สิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ในการกินก๋วยเตี๋ยวของชาวเพชรบุรีนั่นคือ ‘‘ซอสพริก’’
ซึ่งมันเพิ่มความหวานและกลมกล่อมให้กับเนื้อซุปหอมๆให้หอมยิ่งขึ้นไปอีกอย่างไม่น่าเชื่อ
บ่ายไปเรียนรู้วิถีชาวสวนที่
สวนตาลลุงถนอม ต.ถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด พื้นที่กว่า 10 ไร่ สมัยก่อนมีน้ำท่วมบ่อย จึงมีแนวคิดที่จะปลูกต้นตาลที่ทนน้ำและใช้ได้นาน ซึ่งปลูกต้นตาลมามากกว่า 15 ปี โดยสามารถใช้ประโยชน์ไปได้อีกกว่า 200ปี ในทุกๆวันคุณลุงต้องปีนขึ้นไป บีบ นวด และฝานเก็บน้ำตาลจากต้นตาล เกิดผลิตภัณฑ์จากตาลสด ๆ ทั้งขนมตาล น้ำตาลเมา และยังมี Workshop ให้ลองทำจริง
***(ควรจองล่วงหน้า) Tel. 087 800 7716 ***
ปิดท้ายวันแรกที่
แก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติขนาดใหญ่สุดในไทย ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2900 ตารางกิโลเมตร
น้ำจากภูเขาตะนาวศรีไหลลงเขื่อน เล่นน้ำได้สบาย ๆ ก่อนปิดวันด้วยหมูกระทะร้อน ๆ ฟินสุด ๆ ที่พักคือ KKCC แก่งกระจานแคมป์
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Day2
เปิดเช้าวันที่ด้วยการกินข้าว check-out ออกจากที่พัก แล้วมุ่งหน้าตรงไปที่
“ตลาดริมน้ำจามจุรี” อ.แก่งกระจาน ในตอนแรกส่วนตัวเป็นตลาดน้ำธรรมดาแต่พอไปถึงเป็นตลาดที่ใหญ่ เต็มไปด้วยอาหาร ชุมชนและวัฒนธรรมท้องถิ่นเต็มไปหมด นอกจากนี้ยังเป็นตลาดสีเขียว low carbon อีกด้วย ในลำดับแรกที่เราเข้าไปหาก่อนเลยคือของกินนั่นเอง บอกเลยว่าอร่อยหมด อย่างของคาวก็จะเป็นไก่ย่างข้าวเหนียว ในส่วนของหวานมีขนมไทยหลากหลายชนิด ซึ่งในระหว่างที่เรากำลังเพลิดเพลินไปกับของกินที่มากมาย
เราก็ได้ไปสะดุดกับร้าน workshop ของตลาดนี้ ซึ่งเป็นร้านที่มีกระเป๋าลายดอกไม้สีสันสวยงาม ทางเราก็ไม่พลาดจึงได้ขอทำผลงานกับเค้ากันบ้าง
โดยเลือกทำผ้าผูกหัวและถุงผ้า บอกเลยการทำกิจกรรม workshop ครั้งนี้ทั้งสนุก ทั้งตลก
ลายที่ทำออกมานั้นมันทั้งเหมือนและไม่เหมือนที่คาดการณ์เอาไว้ บอกเลยว่าจะจดจำไปอีกนาน
***ควรติดต่อเข้ามาก่อนเผื่อเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมอุปกรณ์และผู้ให้ความรู้ ผ่าน FB: ตลาดริมน้ำจามจุรี ***
หลังจากทำ Workshop มาอย่างเหน็ดเหนื่อย สถานที่ถัดไปที่เราจะไปนั่นก็คือ
พริบพรี คาเฟ่ นั่นเองซึ่งในตอนแรกที่มาถึงตาม GPS ยังหาตัวร้านไม่เจอต้องเดินเข้าไปอีกหน่อยไม่นานมาก แต่พอถึงตัวร้านเท่านั้นแหละ บอกเลยคุ้มค่าเกินเป็นอย่างมากเพราะตัวร้านตั้งอยู่ข้างริมลำธารประกอบกับมีสวนขนาดเล็กเหมาะสำหรับถ่ายรูปเช็คอิน ซึ่งทางเราก็ไม่พลาดขอสั่งมาเป็นเครื่องดื่มและขนมสำหรับการถ่ายรูป check-in หน่อย
หลังจากที่ได้รูปสวยๆ มาในสถานที่ถัดไปในทริปเรานั่นก็คือ
“วัดถ้ำแจง” บอกเราสายบุญเนี่ยห้ามพลาด ตอนที่เรามาก็รู้เลยว่าถึงแน่นอนเพราะมีสถาปัตยกรรมพญานาคสีสันฉูดฉาดขนาดยักษ์ เราก็ไม่พลาดที่จะไปร่วมทำบุญและถ่ายรูป check-in ตามเคย นอกจากนี้เรายังมีทำการเขียนชื่อและคำอวยพรลงบนผ้าแดงแล้วนำไปผูกที่ตัวพญานาคเพื่อเป็นสิริมงคลอีกด้วย และสุดท้ายก็มีเข้าไปพูดคุยกับรองเจ้าอาวาสวัด ได้ถามไถ่ถึงความเป็นมาของสถานที่แห่งนี้อีกด้วย
ก่อนจบวันเราแวะไปเดินเล่นที่งาน
FAT CAMP @Cha-am #2 งานแฟร์ริมทะเลที่จัดขึ้นไล่เลี่ยกับเทศกาลกินหอย ตกหมึก @ชะอำ ช่วงปลายเดือนกันยายน ปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 2 ในวันที่
26–27 กันยายน 2568 บรรยากาศสนุกคึกคักสุด ๆ มีทั้งโซนอาหาร เสื้อผ้า และมุมแฮนด์เมดให้เลือกชมแบบไม่ซ้ำ
ฟังดนตรีสดคลอเสียงคลื่นทะเล คือผ่อนคลายและมีความสุขมาก
ไฮไลต์ความมันส์ของงาน สนุกกับดนตรีสไตล์เพชรบุรี ทั้งร้อง ทั้งเต้นกันแบบไม่มีพัก อิ่มจุใจไปกับ
Local Food กว่า 30 ร้าน ที่คัดเมนูเด็ดจากทั่วเพชรบุรีมาเสิร์ฟถึงริมทะเล เติมสีสันด้วยโซนงานอาร์ตและสินค้า DIY สุดครีเอท เดินช้อป เดินชิลได้ตั้งแต่บ่ายยันค่ำ
***
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ FB:ททท.สำนักงานเพชรบุรี ***
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Day 3
เริ่มวันด้วยการไป
ตลาดปูชักสะพานยก อ.บ้านแหลม ตลาดขายของทะเลสด ๆ เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก แนะนำไปช่วง 9 โมงเช้า จะตั้งร้านครบแล้ว ราคาสมเหตุสมผล ของสดจริงแต่ไม่มีวัตถุดิบแปลกใหม่ เหมาะกับคนที่อยากสัมผัสตลาดท้องถิ่นแท้ ๆ สอบถามพี่ชาวเรือมา พี่เขาบอกว่าปกติจะเอาออกพวกปลาหรือปูที่จับได้ไปแกะจากอวนที่บ้าน แล้วค่อยนำมาขายให้คนที่จ้างจับปลาเป็นรายเดือนอีกที เสียดายมั้กกก อยากเห็นตอนแกะจากอวน
ระหว่างทางกลับโรงแรมแวะเจอร้านขายโจ๊กเล็ก ๆ ริมหาดชะอำ เป็นรถเข็นไม่มีชื่อร้าน แต่บอกเลยว่าเด็ดเกินคาด! เมนูแนะนำต้องลองคือ
โจ๊กหมูสับไข่เค็ม รสกลมกล่อม หมูนุ่ม ไข่เค็มเค็มมันกำลังดี เผลอกินแป๊บเดียวหมดชาม ปริมาณอาจจะน้อยไปนิดแต่ความอร่อยให้อภัยได้ ราคาที่ขาย
45 บาท เอง
พิกัดอยู่
ริมหาดชะอำ ใกล้โรงแรม Magic House Hostel ใครผ่านมาเช้า ๆ แนะนำให้ลองเลย อร่อยจริงไม่ติ่งนัง!
ก่อนกลับกรุงเทพฯ ปิดทริปด้วยของฝากจาก
แม่กิมลั้ง ร้านขนมเจ้าดังของเพชรบุรี มีขนมให้เลือกมากมาย ทั้งหม้อแกง ขนมไทย และน้ำพริก
ที่แนะนำสุดคือ “ทาร์ตหม้อแกง กล่องสีชมพู" อร่อยจนต้องซื้อกลับหลายกล่อง พี่เจ้าของร้านใจดีมาก เพื่อนลองชิมน้ำพริกมันปูแล้วของหมด
พี่เขาวิ่งไปตักให้ใหม่ถึงหลังร้าน! แถมซื้อครบ 400 บาทยังมีโปรแถมขนมอีก คุ้มทั้งของฝากและความประทับใจ
บอกเลยว่าทริปนี้พวกเราเที่ยวกันสนุกมากกก ทั้งกิน ทั้งเล่น ทั้งหัวเราะ ใครยังไม่เคยมาเพชรบุรี
ต้องลองมาสักครั้งครับ แล้วจะหลงรักเมืองนี้เหมือนพวกเราแน่ ๆ ร้านอาหารก็อร่อยถูกปากทุกร้านสามารถหาได้ตามโซเชียลเลย
ปล. ปกติจะเลือกร้านที่มีคนไปรีวิวหลายคนละพูดตรงกันว่าโอเคร
ชื่อสินค้า: เขาวัง, สวนตาลถุงถนอม, เตี๋ยวราเชน, แก่งกระจาน, ตลาดจามจุรี, วัดพญาราค, คาเฟ่พริบพรี, ตลาดปูชักสะพานยก, โจ๊กไข่เค็ม ริมหาดชะอำ, แม่กิมลั้ง, FAT CAMP @Cha-am
คะแนน:
[CR] [รีวิว] เที่ยวเพชรบุรี 3 วัน 2 คืน ตะลุยของอร่อยตั้งแต่ทะเลยันขนมเมืองพริบพรี
👇[https://www.youtube.com/watch?v=SOSdJPJvYns]
***ส่วนใครสายอ่าน มาเริ่มกันที่
Day 1
ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงถึงเพชรบุรี อากาศตอนเช้าเย็นสบายสุด ๆเริ่มทริปด้วยมื้อเช้าที่ ร้านข้าวแกงใบตาล บนถนนเพชรเกษมสายเก่า
ใกล้อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง) มีทั้งข้าวราดแกงและก๋วยเตี๋ยวน้ำแดงของเด็ดเมืองพริบพรี
***ราคาประมาณ 40–50 บาท***
จากนั้นขึ้นไปเที่ยว อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง)
สามารถเลือกเดินหรือขึ้นรถรางไฟฟ้าได้ 20 บาท (ค่าเข้า : คนไทย 60 บาท / เด็ก 15 บาท) ***เวลา 08.30 – 16.30 น.***
ข้างบนมีทั้งพระที่นั่ง พระตำหนัก วัด และกลุ่มอาคารสไตล์นีโอคลาสสิกผสมจีน สวยและมีมุมชมวิวเมืองเพชรบุรีสุดอลัง และมีเจ้าหน้าที่ค่อยแนะนำตลอดทางการเดินบนเขาวัง แนะนำให้เผื่อเวลาเดินชม เพราะพื้นที่กว้างมาก บอกเลยว่าเดินกันขาลากแน่ มีที่ให้ซื้อของที่ระลึกก่อนลงเขาวังด้วยน้าา
ลงจากเขาวังแวะพักที่ พูนสุข Café คาเฟ่เล็ก ๆ ใกล้ทางขึ้นเขา มีทั้งเครื่องดื่มและขนมไทยโบราณ
***ราคาประมาณ 59–199 บาท บรรยากาศร่มรื่น นั่งพักได้เพลิน ๆ***
พอแวะพักกินขนมจากคาเฟ่เสร็จเราก็ไปต่อกับร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อราเชนทร์ สิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ในการกินก๋วยเตี๋ยวของชาวเพชรบุรีนั่นคือ ‘‘ซอสพริก’’
ซึ่งมันเพิ่มความหวานและกลมกล่อมให้กับเนื้อซุปหอมๆให้หอมยิ่งขึ้นไปอีกอย่างไม่น่าเชื่อ
บ่ายไปเรียนรู้วิถีชาวสวนที่ สวนตาลลุงถนอม ต.ถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด พื้นที่กว่า 10 ไร่ สมัยก่อนมีน้ำท่วมบ่อย จึงมีแนวคิดที่จะปลูกต้นตาลที่ทนน้ำและใช้ได้นาน ซึ่งปลูกต้นตาลมามากกว่า 15 ปี โดยสามารถใช้ประโยชน์ไปได้อีกกว่า 200ปี ในทุกๆวันคุณลุงต้องปีนขึ้นไป บีบ นวด และฝานเก็บน้ำตาลจากต้นตาล เกิดผลิตภัณฑ์จากตาลสด ๆ ทั้งขนมตาล น้ำตาลเมา และยังมี Workshop ให้ลองทำจริง ***(ควรจองล่วงหน้า) Tel. 087 800 7716 ***
ปิดท้ายวันแรกที่ แก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติขนาดใหญ่สุดในไทย ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2900 ตารางกิโลเมตร
น้ำจากภูเขาตะนาวศรีไหลลงเขื่อน เล่นน้ำได้สบาย ๆ ก่อนปิดวันด้วยหมูกระทะร้อน ๆ ฟินสุด ๆ ที่พักคือ KKCC แก่งกระจานแคมป์
Day2
เปิดเช้าวันที่ด้วยการกินข้าว check-out ออกจากที่พัก แล้วมุ่งหน้าตรงไปที่ “ตลาดริมน้ำจามจุรี” อ.แก่งกระจาน ในตอนแรกส่วนตัวเป็นตลาดน้ำธรรมดาแต่พอไปถึงเป็นตลาดที่ใหญ่ เต็มไปด้วยอาหาร ชุมชนและวัฒนธรรมท้องถิ่นเต็มไปหมด นอกจากนี้ยังเป็นตลาดสีเขียว low carbon อีกด้วย ในลำดับแรกที่เราเข้าไปหาก่อนเลยคือของกินนั่นเอง บอกเลยว่าอร่อยหมด อย่างของคาวก็จะเป็นไก่ย่างข้าวเหนียว ในส่วนของหวานมีขนมไทยหลากหลายชนิด ซึ่งในระหว่างที่เรากำลังเพลิดเพลินไปกับของกินที่มากมาย
เราก็ได้ไปสะดุดกับร้าน workshop ของตลาดนี้ ซึ่งเป็นร้านที่มีกระเป๋าลายดอกไม้สีสันสวยงาม ทางเราก็ไม่พลาดจึงได้ขอทำผลงานกับเค้ากันบ้าง
โดยเลือกทำผ้าผูกหัวและถุงผ้า บอกเลยการทำกิจกรรม workshop ครั้งนี้ทั้งสนุก ทั้งตลก
ลายที่ทำออกมานั้นมันทั้งเหมือนและไม่เหมือนที่คาดการณ์เอาไว้ บอกเลยว่าจะจดจำไปอีกนาน
***ควรติดต่อเข้ามาก่อนเผื่อเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมอุปกรณ์และผู้ให้ความรู้ ผ่าน FB: ตลาดริมน้ำจามจุรี ***
หลังจากทำ Workshop มาอย่างเหน็ดเหนื่อย สถานที่ถัดไปที่เราจะไปนั่นก็คือ พริบพรี คาเฟ่ นั่นเองซึ่งในตอนแรกที่มาถึงตาม GPS ยังหาตัวร้านไม่เจอต้องเดินเข้าไปอีกหน่อยไม่นานมาก แต่พอถึงตัวร้านเท่านั้นแหละ บอกเลยคุ้มค่าเกินเป็นอย่างมากเพราะตัวร้านตั้งอยู่ข้างริมลำธารประกอบกับมีสวนขนาดเล็กเหมาะสำหรับถ่ายรูปเช็คอิน ซึ่งทางเราก็ไม่พลาดขอสั่งมาเป็นเครื่องดื่มและขนมสำหรับการถ่ายรูป check-in หน่อย
หลังจากที่ได้รูปสวยๆ มาในสถานที่ถัดไปในทริปเรานั่นก็คือ “วัดถ้ำแจง” บอกเราสายบุญเนี่ยห้ามพลาด ตอนที่เรามาก็รู้เลยว่าถึงแน่นอนเพราะมีสถาปัตยกรรมพญานาคสีสันฉูดฉาดขนาดยักษ์ เราก็ไม่พลาดที่จะไปร่วมทำบุญและถ่ายรูป check-in ตามเคย นอกจากนี้เรายังมีทำการเขียนชื่อและคำอวยพรลงบนผ้าแดงแล้วนำไปผูกที่ตัวพญานาคเพื่อเป็นสิริมงคลอีกด้วย และสุดท้ายก็มีเข้าไปพูดคุยกับรองเจ้าอาวาสวัด ได้ถามไถ่ถึงความเป็นมาของสถานที่แห่งนี้อีกด้วย
ก่อนจบวันเราแวะไปเดินเล่นที่งาน FAT CAMP @Cha-am #2 งานแฟร์ริมทะเลที่จัดขึ้นไล่เลี่ยกับเทศกาลกินหอย ตกหมึก @ชะอำ ช่วงปลายเดือนกันยายน ปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 26–27 กันยายน 2568 บรรยากาศสนุกคึกคักสุด ๆ มีทั้งโซนอาหาร เสื้อผ้า และมุมแฮนด์เมดให้เลือกชมแบบไม่ซ้ำ
ฟังดนตรีสดคลอเสียงคลื่นทะเล คือผ่อนคลายและมีความสุขมาก
ไฮไลต์ความมันส์ของงาน สนุกกับดนตรีสไตล์เพชรบุรี ทั้งร้อง ทั้งเต้นกันแบบไม่มีพัก อิ่มจุใจไปกับ Local Food กว่า 30 ร้าน ที่คัดเมนูเด็ดจากทั่วเพชรบุรีมาเสิร์ฟถึงริมทะเล เติมสีสันด้วยโซนงานอาร์ตและสินค้า DIY สุดครีเอท เดินช้อป เดินชิลได้ตั้งแต่บ่ายยันค่ำ
***ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ FB:ททท.สำนักงานเพชรบุรี ***
Day 3
เริ่มวันด้วยการไป ตลาดปูชักสะพานยก อ.บ้านแหลม ตลาดขายของทะเลสด ๆ เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก แนะนำไปช่วง 9 โมงเช้า จะตั้งร้านครบแล้ว ราคาสมเหตุสมผล ของสดจริงแต่ไม่มีวัตถุดิบแปลกใหม่ เหมาะกับคนที่อยากสัมผัสตลาดท้องถิ่นแท้ ๆ สอบถามพี่ชาวเรือมา พี่เขาบอกว่าปกติจะเอาออกพวกปลาหรือปูที่จับได้ไปแกะจากอวนที่บ้าน แล้วค่อยนำมาขายให้คนที่จ้างจับปลาเป็นรายเดือนอีกที เสียดายมั้กกก อยากเห็นตอนแกะจากอวน
ระหว่างทางกลับโรงแรมแวะเจอร้านขายโจ๊กเล็ก ๆ ริมหาดชะอำ เป็นรถเข็นไม่มีชื่อร้าน แต่บอกเลยว่าเด็ดเกินคาด! เมนูแนะนำต้องลองคือ โจ๊กหมูสับไข่เค็ม รสกลมกล่อม หมูนุ่ม ไข่เค็มเค็มมันกำลังดี เผลอกินแป๊บเดียวหมดชาม ปริมาณอาจจะน้อยไปนิดแต่ความอร่อยให้อภัยได้ ราคาที่ขาย 45 บาท เอง
พิกัดอยู่ ริมหาดชะอำ ใกล้โรงแรม Magic House Hostel ใครผ่านมาเช้า ๆ แนะนำให้ลองเลย อร่อยจริงไม่ติ่งนัง!
ก่อนกลับกรุงเทพฯ ปิดทริปด้วยของฝากจาก แม่กิมลั้ง ร้านขนมเจ้าดังของเพชรบุรี มีขนมให้เลือกมากมาย ทั้งหม้อแกง ขนมไทย และน้ำพริก
ที่แนะนำสุดคือ “ทาร์ตหม้อแกง กล่องสีชมพู" อร่อยจนต้องซื้อกลับหลายกล่อง พี่เจ้าของร้านใจดีมาก เพื่อนลองชิมน้ำพริกมันปูแล้วของหมด
พี่เขาวิ่งไปตักให้ใหม่ถึงหลังร้าน! แถมซื้อครบ 400 บาทยังมีโปรแถมขนมอีก คุ้มทั้งของฝากและความประทับใจ
บอกเลยว่าทริปนี้พวกเราเที่ยวกันสนุกมากกก ทั้งกิน ทั้งเล่น ทั้งหัวเราะ ใครยังไม่เคยมาเพชรบุรี
ต้องลองมาสักครั้งครับ แล้วจะหลงรักเมืองนี้เหมือนพวกเราแน่ ๆ ร้านอาหารก็อร่อยถูกปากทุกร้านสามารถหาได้ตามโซเชียลเลย
ปล. ปกติจะเลือกร้านที่มีคนไปรีวิวหลายคนละพูดตรงกันว่าโอเคร
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น