ยุคนี้มีปัญหาวุ่นวาย และมีโรคที่ไม่ทราบสาเหตุมากมาย โดยเฉพาะอาการผิดปกติทางจิตใจและพฤติกรรม นั่นมาจาก 2 สาเหตุสำคัญ คือ ทำผิดแล้วไม่กลับเนื้อกลับตัว หรือโดนสายตาริษยาจากญินที่เป็นชัยฏอน (มาร้าย) หรือคนที่มีสายตาริษยา วิธีป้องกันคือห่างไกลจาก 2 สาเหตุนี้
วันนี้นำเสนอเนื้อหาจากนักวิชาการศาสนา สรุปเนื้อหาจากผู้รู้อีกท่านมาให้เกี่ยวกับ "เกราะป้องกันภัยบะลาอฺ (บททดสอบ) และสายตาริษยา" ดังนี้
1. ออกห่างจากการฝ่าฝืนต่ออัลลอฮฺ
เพราะเมื่อใดก็ตามที่เราพยายามที่จะทำตัวของเราให้ออกห่างจากการฝ่าฝืนอัล ลอฮฺซุบฮานะฮูวะตะอาลา จะเป็นเกราะ/โล่ ป้องกันตัวของเราให้รอดพ้นจากการถูกลงโทษ เป็นสาเหตุสำคัญที่จะยับยั้งและป้องกันตัวเราให้ปลอดภัยจากภัยบะลาอฺ (บททดสอบ) และการลงโทษ
และเมื่อใดก็ตามที่ บะลาอฺ (บททดสอบ) นั้นเกิดขึ้นแล้ว การลงโทษเกิดขึ้นแล้ว การที่เราพยายามที่จะออกห่างจากการฝ่าฝืนอัลลอฮฺก็จะเป็นสิ่งที่จะขจัดบะลาอฺ (บททดสอบ) ที่เกิดขึ้นแล้วเช่นกัน (ผ่านหนักเป็นเบา)
เพราะอัลลอฮฺได้กล่าวถึงผลของการเชื่อฟังต่ออัลลอฮฺไว้ในอัลกุรอานว่า “และถ้าหากว่าชาวเมืองเชื่อมั่นศรัทธาและเกรงกลัวอัลลอฮฺ อัลลอฮฺก็จะทรงเปิดประตูแห่งความดี (บารอกะฮฺ) ให้ทุกๆ ด้านจากชั้นฟ้าและแผ่นดิน” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัล-อะอฺรอฟ 96)”
อัลลอฮฺบอกว่า หากว่าชาวเมือง ศรัทธาหากว่าชาวเมืองศรัทธาต่ออัลลอฮฺและสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสั่งใช้ให้พวกเขา ตะวักกัล (มอบหมาย) และพวกเขาก็ยำเกรงต่อพระองค์ ยำเกรงแปลว่า ปฏิบัติตามสิ่งที่พระองค์สั่งใช้ ละทิ้งสิ่งที่พระองค์สั่งห้ามคือไม่ฝ่าฝืนต่ออัลลอฮฺ เมื่อใดที่ชาวเมืองทำเช่นนี้ได้ อัลลอฮฺจะเปิดประตูแห่งริสกี (ปัจจัยยังชีพ) เปิดประตูแห่งความดีงามที่อยู่บนชั้นฟ้าและอยู่บนหน้าแผ่นดิน แปลว่าพระองค์จะประทานริสกีลงมายังพวกเขาจากทางเบื้องบนและทางด้านล่างให้แก่พวกเขาอย่างอุดมสมบูรณ์
และอัลลอฮฺ ตะอาลา ยังได้กล่าวถึงผลร้ายของการฝ่าฝืนต่ออัลลอฮฺและจุดจบของการฝ่าฝืนต่อพระองค์นั้นเอาไว้ในอีกอายะฮฺ (โองการ) หนึ่งบอกว่า
"การบ่อนทำลายได้เกิดขึ้นทั้งทางบกและทางน้ำ (ตัฟซีร: อัลบัยฎอวีย์กล่าวว่า ความหมายของการบ่อนทำลายคือ ความแห้งแล้ง อัคคีภัย อุทักภัย วาตภัย และภัยอื่นๆ ตลอดจนความจำเริญที่ลดน้อยลงนั้น ก็เนื่องมาจากการก่อกรรมทำบาปของมนุษย์นั่นเอง) เนื่องจากสิ่งที่มือของมนุษย์ได้ขวนขวายไว้เพื่อที่พระองค์จะให้พวกเขาลิ้มรสบางส่วนที่พวกเขาประกอบไว้ โดยที่หวังจะให้พวกเขากลับเนื้อกลับตัว” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัรรูม 41 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ประเทศไทย)
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “และแท้จริงบ่าว (คนหนึ่ง) ริสกี (ปัจจัยยังชีพ) จะถูกห้าม (สำหรับเขา) ตราบที่เขายังกระทำความผิด (บัญญัติศาสนา)” (หะดีษหะสัน บันทึกโดยอะห์มัด เลขที่ 22413)
ฉะนั้น เมื่อเราพยายามที่จะออกห่างจากการฝ่าฝืนอัลลอฮฺ นั่นจะเป็นโล่ ทำให้เรานั้นได้รับริสกีที่เพิ่มพูนและมีบารอกะฮฺ (ความจำเริญ) นั่นเอง
มีหะดีษอีกบทหนึ่ง รอซูลกล่าวว่า “คนๆ หนึ่งเขาจะยังไม่ได้รับกับความพินาศจะยังไม่ถูกลงโทษจากอัลลอฮฺ เว้นแต่ว่าเขาทำตัวของเขาเอง” แปลว่า เขาฝ่าฝืนอัลลอฮฺเอง เขาละเมิด เขาทำความผิดในสิ่งที่อัลลอฮฺห้าม เป็นเพราะเขาทำตัวของเขาเอง จึงทำให้เขาได้รับกับการลงโทษ และได้รับกับความพินาศ วัลอิยาซุบิลลาฮฺ (ขอพระองค์ทรงคุ้มครองเราให้ห่างไกลจากสิ่งนี้)
- - -
2. พยายามปกปิดสิ่งที่เกรงว่าจะได้รับอันตรายจากสายตาริษยา (อัลอัยน์)
จำเป็นที่เราจะต้องปกปิดความงามความสวยงาม หรือจุดเด่นอะไรก็ตาม ที่เกรงว่าเราจะได้รับผลร้ายจากสายตาของคนที่ริษยา หรือภาษาอาหรับเรียกว่าอัลอัยน์ (โรคที่เกิดจากสายตาริษยา)
เราจะต้องหลีกเลี่ยงการประดับประดา หรือการพยายามแต่งตัวให้ดูสวยงามเกินความพอดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เราอยู่ในที่อยู่ในที่สาธารณะ เช่น ตลาดหรือตามงานต่างๆ เพราะสถานที่เหล่านั้นมักจะเป็นสถานที่ที่มีชัยฏอน (มารร้าย) ในที่นี้หมายถึง ชัยฏอนในรูปกายของญิน และชัยฏอนในรูปกายของมนุษย์ และยังมีคนที่ชอบอิจฉาริษยาผู้อื่นแฝงและปะปนอยู่เป็นจำนวนมาก
เราจะพบได้ว่าในหลายๆ กรณีของคนที่ถูกอัลอัยน์ (สายตาริษยา) และทําให้เกิดผลร้ายตามมา คนเหล่านั้นมักจะชอบโอ้อวด ชอบโชว์ ด้วยการแต่งกายสวยงาม ทําตัวเป็นจุดเด่นในที่สาธารณะ จึงเป็นเหตุให้คนที่ริษยามองเขาด้วยสายตาอิจฉา หรือพูดถ้อยคําใดออกมาด้วยความริษยา จึงทําให้เกิดผลร้ายตามมากับคนที่ถูกจ้องมอง
นี่ไม่ได้เป็นการกระทําที่ขัดแย้งกับสิ่งที่อัลลอฮฺได้สั่งใช้ให้เรา กล่าวถึงความโปรดปรานที่อัลลอฮุประทานให้ แต่เราจะต้องป้องกันตัวของเราเสียก่อน เพราะเมื่อใดก็ตามที่เราอยู่ในสภาพที่สวยงามเกินความพอดี อยู่ในสังคม ที่สาธารณะ และปะปนกับคนที่ชอบริษยาคนอื่นแล้ว อาจจะทําให้เรานั้นได้รับแต่ผลร้ายตามมาจากสายตาและคำพูดของเขา เมื่อเราไม่มีเกราะป้องกันตัวของเรา เช่น การอ่านบทอัซการขอความคุ้มครอง
และนี่แหละคือสภาพของสังคมทุกวันนี้ เราจะพบเห็นกับสิ่งที่เลวร้ายและเป็นอันตราย เพราะคนในสังคมชอบที่จะโพสต์รูปตัวเอง โพสต์รูปลูกตัวเองและครอบครัวลงไปในสื่อสังคมออนไลน์ อยากจะให้คนชื่นชม ให้คนเห็น กล่าวถึงสิ่งที่ดี แต่ปรากฏว่าในสื่อสังคมออนไลน์นั้นมีทั้งคนดี คนไม่ดี มีทั้งคนที่ชอบริษยาคนอื่น สุดท้ายแล้วเด็กน้อยๆ ลูกของเรา ก็อาจจะได้รับผลร้ายจากสายตาและคําพูดของคนที่มองผ่านรูปเด็กคนนั้นผ่านสื่อสังคมออนไลน์ สุดท้ายลูกก็ป่วย ได้รับอันตรายหรือผลร้ายตามมา เพราะเราเองที่เอาลูกของเราลงไปในที่สาธารณะ และเป็นเหตุทําให้ลูกของเรานั้นได้รับอันตรายจากสายตาของคนที่ริษยา โดยที่เรานั้นไม่ได้ระวังตัว
เพราะเมื่อไรที่เราปกป้องตัวของเรา ลูก และครอบครัวของเราได้ นั่นจะเป็นโล่/เกราะป้องกันตัวเราและครอบครัว ให้รอดพ้นจากสายตาของคนที่ริษยาหรือคําพูดของคนที่อิจฉา และรอดพ้นจากการทำร้ายหรือการกระทําที่ไม่ดีของญินและชัยฏอนนั่นเอง
ขออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงปกป้องพวกเราและครอบครัวของพวกเราให้พ้นจากความเลวร้ายทั้งสิ่งที่เรามองเห็นและสิ่งที่เรามองไม่เห็น
วัลลอฮุอะอฺลัม อัลลอฮฺเท่านั้นทรงรู้ดีที่สุด
- - -
เนื้อหาจากการบรรยาย ในยูทูบหัวข้อ
“เกราะป้องกันภัยบะลาอฺ (บททดสอบ) และสายตาริษยา" สอนโดย อ.อัสมัน มีสมบูรณ์
เกราะป้องกันภัยบททดสอบ และสายตาริษยา คือ ห่างไกลจากการทำผิด และไม่เปิดเผยเรื่องส่วนตัว ไม่เป็นจุดเด่นในที่สาธารณะ
วันนี้นำเสนอเนื้อหาจากนักวิชาการศาสนา สรุปเนื้อหาจากผู้รู้อีกท่านมาให้เกี่ยวกับ "เกราะป้องกันภัยบะลาอฺ (บททดสอบ) และสายตาริษยา" ดังนี้
1. ออกห่างจากการฝ่าฝืนต่ออัลลอฮฺ
เพราะเมื่อใดก็ตามที่เราพยายามที่จะทำตัวของเราให้ออกห่างจากการฝ่าฝืนอัล ลอฮฺซุบฮานะฮูวะตะอาลา จะเป็นเกราะ/โล่ ป้องกันตัวของเราให้รอดพ้นจากการถูกลงโทษ เป็นสาเหตุสำคัญที่จะยับยั้งและป้องกันตัวเราให้ปลอดภัยจากภัยบะลาอฺ (บททดสอบ) และการลงโทษ
และเมื่อใดก็ตามที่ บะลาอฺ (บททดสอบ) นั้นเกิดขึ้นแล้ว การลงโทษเกิดขึ้นแล้ว การที่เราพยายามที่จะออกห่างจากการฝ่าฝืนอัลลอฮฺก็จะเป็นสิ่งที่จะขจัดบะลาอฺ (บททดสอบ) ที่เกิดขึ้นแล้วเช่นกัน (ผ่านหนักเป็นเบา)
เพราะอัลลอฮฺได้กล่าวถึงผลของการเชื่อฟังต่ออัลลอฮฺไว้ในอัลกุรอานว่า “และถ้าหากว่าชาวเมืองเชื่อมั่นศรัทธาและเกรงกลัวอัลลอฮฺ อัลลอฮฺก็จะทรงเปิดประตูแห่งความดี (บารอกะฮฺ) ให้ทุกๆ ด้านจากชั้นฟ้าและแผ่นดิน” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัล-อะอฺรอฟ 96)”
อัลลอฮฺบอกว่า หากว่าชาวเมือง ศรัทธาหากว่าชาวเมืองศรัทธาต่ออัลลอฮฺและสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสั่งใช้ให้พวกเขา ตะวักกัล (มอบหมาย) และพวกเขาก็ยำเกรงต่อพระองค์ ยำเกรงแปลว่า ปฏิบัติตามสิ่งที่พระองค์สั่งใช้ ละทิ้งสิ่งที่พระองค์สั่งห้ามคือไม่ฝ่าฝืนต่ออัลลอฮฺ เมื่อใดที่ชาวเมืองทำเช่นนี้ได้ อัลลอฮฺจะเปิดประตูแห่งริสกี (ปัจจัยยังชีพ) เปิดประตูแห่งความดีงามที่อยู่บนชั้นฟ้าและอยู่บนหน้าแผ่นดิน แปลว่าพระองค์จะประทานริสกีลงมายังพวกเขาจากทางเบื้องบนและทางด้านล่างให้แก่พวกเขาอย่างอุดมสมบูรณ์
และอัลลอฮฺ ตะอาลา ยังได้กล่าวถึงผลร้ายของการฝ่าฝืนต่ออัลลอฮฺและจุดจบของการฝ่าฝืนต่อพระองค์นั้นเอาไว้ในอีกอายะฮฺ (โองการ) หนึ่งบอกว่า
"การบ่อนทำลายได้เกิดขึ้นทั้งทางบกและทางน้ำ (ตัฟซีร: อัลบัยฎอวีย์กล่าวว่า ความหมายของการบ่อนทำลายคือ ความแห้งแล้ง อัคคีภัย อุทักภัย วาตภัย และภัยอื่นๆ ตลอดจนความจำเริญที่ลดน้อยลงนั้น ก็เนื่องมาจากการก่อกรรมทำบาปของมนุษย์นั่นเอง) เนื่องจากสิ่งที่มือของมนุษย์ได้ขวนขวายไว้เพื่อที่พระองค์จะให้พวกเขาลิ้มรสบางส่วนที่พวกเขาประกอบไว้ โดยที่หวังจะให้พวกเขากลับเนื้อกลับตัว” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัรรูม 41 ตัฟซีรโดย สมาคมนักเรียนเก่าอาหรับ ประเทศไทย)
ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “และแท้จริงบ่าว (คนหนึ่ง) ริสกี (ปัจจัยยังชีพ) จะถูกห้าม (สำหรับเขา) ตราบที่เขายังกระทำความผิด (บัญญัติศาสนา)” (หะดีษหะสัน บันทึกโดยอะห์มัด เลขที่ 22413)
ฉะนั้น เมื่อเราพยายามที่จะออกห่างจากการฝ่าฝืนอัลลอฮฺ นั่นจะเป็นโล่ ทำให้เรานั้นได้รับริสกีที่เพิ่มพูนและมีบารอกะฮฺ (ความจำเริญ) นั่นเอง
มีหะดีษอีกบทหนึ่ง รอซูลกล่าวว่า “คนๆ หนึ่งเขาจะยังไม่ได้รับกับความพินาศจะยังไม่ถูกลงโทษจากอัลลอฮฺ เว้นแต่ว่าเขาทำตัวของเขาเอง” แปลว่า เขาฝ่าฝืนอัลลอฮฺเอง เขาละเมิด เขาทำความผิดในสิ่งที่อัลลอฮฺห้าม เป็นเพราะเขาทำตัวของเขาเอง จึงทำให้เขาได้รับกับการลงโทษ และได้รับกับความพินาศ วัลอิยาซุบิลลาฮฺ (ขอพระองค์ทรงคุ้มครองเราให้ห่างไกลจากสิ่งนี้)
- - -
2. พยายามปกปิดสิ่งที่เกรงว่าจะได้รับอันตรายจากสายตาริษยา (อัลอัยน์)
จำเป็นที่เราจะต้องปกปิดความงามความสวยงาม หรือจุดเด่นอะไรก็ตาม ที่เกรงว่าเราจะได้รับผลร้ายจากสายตาของคนที่ริษยา หรือภาษาอาหรับเรียกว่าอัลอัยน์ (โรคที่เกิดจากสายตาริษยา)
เราจะต้องหลีกเลี่ยงการประดับประดา หรือการพยายามแต่งตัวให้ดูสวยงามเกินความพอดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เราอยู่ในที่อยู่ในที่สาธารณะ เช่น ตลาดหรือตามงานต่างๆ เพราะสถานที่เหล่านั้นมักจะเป็นสถานที่ที่มีชัยฏอน (มารร้าย) ในที่นี้หมายถึง ชัยฏอนในรูปกายของญิน และชัยฏอนในรูปกายของมนุษย์ และยังมีคนที่ชอบอิจฉาริษยาผู้อื่นแฝงและปะปนอยู่เป็นจำนวนมาก
เราจะพบได้ว่าในหลายๆ กรณีของคนที่ถูกอัลอัยน์ (สายตาริษยา) และทําให้เกิดผลร้ายตามมา คนเหล่านั้นมักจะชอบโอ้อวด ชอบโชว์ ด้วยการแต่งกายสวยงาม ทําตัวเป็นจุดเด่นในที่สาธารณะ จึงเป็นเหตุให้คนที่ริษยามองเขาด้วยสายตาอิจฉา หรือพูดถ้อยคําใดออกมาด้วยความริษยา จึงทําให้เกิดผลร้ายตามมากับคนที่ถูกจ้องมอง
นี่ไม่ได้เป็นการกระทําที่ขัดแย้งกับสิ่งที่อัลลอฮฺได้สั่งใช้ให้เรา กล่าวถึงความโปรดปรานที่อัลลอฮุประทานให้ แต่เราจะต้องป้องกันตัวของเราเสียก่อน เพราะเมื่อใดก็ตามที่เราอยู่ในสภาพที่สวยงามเกินความพอดี อยู่ในสังคม ที่สาธารณะ และปะปนกับคนที่ชอบริษยาคนอื่นแล้ว อาจจะทําให้เรานั้นได้รับแต่ผลร้ายตามมาจากสายตาและคำพูดของเขา เมื่อเราไม่มีเกราะป้องกันตัวของเรา เช่น การอ่านบทอัซการขอความคุ้มครอง
และนี่แหละคือสภาพของสังคมทุกวันนี้ เราจะพบเห็นกับสิ่งที่เลวร้ายและเป็นอันตราย เพราะคนในสังคมชอบที่จะโพสต์รูปตัวเอง โพสต์รูปลูกตัวเองและครอบครัวลงไปในสื่อสังคมออนไลน์ อยากจะให้คนชื่นชม ให้คนเห็น กล่าวถึงสิ่งที่ดี แต่ปรากฏว่าในสื่อสังคมออนไลน์นั้นมีทั้งคนดี คนไม่ดี มีทั้งคนที่ชอบริษยาคนอื่น สุดท้ายแล้วเด็กน้อยๆ ลูกของเรา ก็อาจจะได้รับผลร้ายจากสายตาและคําพูดของคนที่มองผ่านรูปเด็กคนนั้นผ่านสื่อสังคมออนไลน์ สุดท้ายลูกก็ป่วย ได้รับอันตรายหรือผลร้ายตามมา เพราะเราเองที่เอาลูกของเราลงไปในที่สาธารณะ และเป็นเหตุทําให้ลูกของเรานั้นได้รับอันตรายจากสายตาของคนที่ริษยา โดยที่เรานั้นไม่ได้ระวังตัว
เพราะเมื่อไรที่เราปกป้องตัวของเรา ลูก และครอบครัวของเราได้ นั่นจะเป็นโล่/เกราะป้องกันตัวเราและครอบครัว ให้รอดพ้นจากสายตาของคนที่ริษยาหรือคําพูดของคนที่อิจฉา และรอดพ้นจากการทำร้ายหรือการกระทําที่ไม่ดีของญินและชัยฏอนนั่นเอง
ขออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงปกป้องพวกเราและครอบครัวของพวกเราให้พ้นจากความเลวร้ายทั้งสิ่งที่เรามองเห็นและสิ่งที่เรามองไม่เห็น
วัลลอฮุอะอฺลัม อัลลอฮฺเท่านั้นทรงรู้ดีที่สุด
- - -
เนื้อหาจากการบรรยาย ในยูทูบหัวข้อ
“เกราะป้องกันภัยบะลาอฺ (บททดสอบ) และสายตาริษยา" สอนโดย อ.อัสมัน มีสมบูรณ์