สูตร Scone ที่แม่เปปทำ คือสูตรของ Mary Berry พิธีกรรายการอาหารชื่อดังของอังกฤษ ช่วงวัยเด็กเธอเคยป่วยเป็นโรคโปลิโอ กระดูกสันหลังบิดเบี้ยว ทำให้มือและแขนข้างซ้ายของเธออ่อนแรง(จนปัจจุบัน) แต่เธอก็ไม่ย่อท้อต่อชีวิตใดๆ โดยเรียนทำอาหารในโรงเรียนที่อังกฤษ แล้วไปศึกษาด้านทำอาหารต่อในโรงเรียนสอนทำอาหาร Le Cordon Bleu ในฝรั่งเศส กลับมาเริ่มอาชีพโดยเป็นบรรณาธิการของนิตยสารอาหารชื่อดังของอังกฤษ เขียนตำราอาหารออกมาหลายเล่ม ได้รับเชิญไปเป็นกรรมการตัดสินอาหารหลากหลาย โด่งดังในรายการทีวีอังกฤษอย่างสุดๆ
แม่เปปเป็นแฟนตัวยงของเธอเลย เพราะสไตล์การทำอาหาร(แนวอังกฤษ) ที่เธอทำแบบกินในครัวเรือน คือ อาหารอังกฤษที่ขั้นตอนเรียบง่าย ปรุงพิถีพิถันสำหรับสมาชิกในครอบครัว แต่รสชาติอร่อย ช่วงที่แม่เปปอยู่ในอังกฤษ จะนั่งดูรายการทำอาหารในทีวีของเธอทุกวัน(แล้วก็หัดทำให้พ่อบ้านชิม) แถมยังซื้อหนังสือบางเล่มของเธอมาครอบครองด้วย
สโคน สูตรเต็มของ Mary Berry
- 450g/1lb self-raising flour
- 2 level tsp baking powder
- 50g/1¾oz caster sugar
- 100g/3½oz butter, slightly softened, cut into pieces
- 2 free-range eggs
- a little milk
- handful sultanas (optional)
- To serve
strawberry jam
clotted cream.
*** แต่แม่เปปได้นำมาปรับบางสิ่งและนำมาใช้ทำสโคนทุกครั้งดังนี้
ส่วนผสม (1/2 สูตร ของต้นฉบับ : ปริมาณที่ได้ สำหรับ 3-4 คน หรือ กินคนเดียวได้ 2-3 วัน)
1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ถ้วย (Mary ใช้แป้งสาลีอังกฤษเป็นสูตรที่ใส่ ผงฟู+เกลือ ในแป้งแล้ว...แม่เปปเลยนำมาปรับใช้แป้งสาลีไทยเอง)
2. ผงฟู 1+1/4 ชช.
3. น้ำตาลทราย 30 กรัม (เกือบ 3 ชต.)
4. เกลือป่น 1/4 ชช. (แป้งในสูตรต้นฉบับ จะมีเกลือผสมอยู่)
5. เนยสดนิ่ม 50 กรัม
6. ไข่ไก่ 1 ฟอง (เบอร์ไหนก็ได้เพื่อใส่รวมกับนมสด)
7. นมสด *** นำไข่+นมสด ชั่งรวมกันให้ได้ปริมาณ 150 กรัม
8. ลูกเกด ตามชอบ (แม่เปป นำมาปรับใส่ตามชอบ เช่น ลูกเกด/ แครนเบอรี่/ ชีส/ แฮม/ สมุนไพรบางอย่าง)
วิธีทำ
1. ในชามผสม ใส่แป้งสาลี(ร่อนแล้ว)+ผงฟู + น้ำตาลทราย +เกลือ ใช้ส้อมหรือตะกร้อมือคนผสมให้เข้ากัน
2. ใส่เนยสดลงในชามแป้ง แล้วใช้ส้อมหรือปลายนิ้ว ผสมให้เนยเข้ากันกับแป้ง ฝรั่งจะเปรียบเหมือนขนมปังป่น แต่คนไทยมองว่าเหมือนเม็ดทราย
3. ไข่ไก่+นม ตีให้ไข่แตกและผสมเป็นเนื้อเดียวกับนม แล้วนำลงเทในชามผสมแป้ง
4. ใช้ส้อม หรือ ปลายนิ้ว ผสมให้ทุกอย่างรวมกัน แป้งที่ได้จะจับตัวกันเป็นก้อนเล็ก-ใหญ่ แป้งจะนิ่มมากๆ แต่ไม่มีความเหลวนะ
5. นำแป้งในชามผสม คว่ำลงบนโต๊ะหรือแผ่นรองนวดแป้ง (แต่ไม่ต้องนวดนะ)
6. ใช้ปลายนิ้ว หรือฝ่ามือ กด/ตบเบาๆ บนกองแป้งให้เป็นแผ่นเดียวกัน ระหว่างนั้นอาจใช้แป้งสาลีลูบฝ่ามือบางๆ เพื่อรวบแป้งได้ดีขึ้น
7. กดแป้งเบาๆ แผ่ขยายออก และใช้แผ่นตัดแป้งช่วยตะล่อม/กด แบ่งครึ่งและนำวางซ้อนกัน (ขั้นตอนนี้อาจทำซ้ำ 2-3 ครั้งได้ แต่ห้ามนวดแป้งเด็ดขาด)
8. เมื่อกดแป้งแผ่ขยายความหนาตามต้องการ ก็ใช้พิมพ์ตัดแป้งกดลงตรงๆ บนแป้งโดยไม่ต้องหมุนพิมพ์ซ้ายขวาไปมา
9. นำแป้งที่ตัดเป็นรูปทรงแล้ว(ห้ามตบแต่งแป้งด้านข้างใดๆ) วางในถาดอบ(ที่รองกระดาษรองอบไว้) ใช้แปรงทาไข่แดงลงบนหน้าขนม ก่อนนำเข้าอบ ใช้ไฟ 220 องศา 12-15 นาที โดยประมาณ (สโคน ใช้ไฟแรง อบระยะสั้น)
**** แป้งสโคนที่ได้จะมีความนิ่มที่มือสัมผัสได้ กดพิมพ์ลงตรงๆ ถ้าตัดแล้วหมุน หรือใช้มือแตะ/จับยกด้านข้างแป้งวางในถาด จะทำให้แป้งไม่ฟูเป็นชั้นสวยๆ

แป้งสาลีตวงก่อนร่อน +ผงฟู +น้ำตาลทราย+เกลือ

ไข่+นม

ตีให้เข้ากันเตรียมไว้

ใส่เนยสดอ่อนตัว

ใช้ส้อม หรือ ปลายนิ้ว ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน

ทำหลุมตรงกลาง เทนม+ไข่ลงไป

ตะล่อมให้ผสมกันทั่วๆ

อุปกรณ์ที่ต้องมีช่วย แผ่นตัดแป้งหรือแผ่นปาดเค้กนี่ละ

ทำปริมาณน้อย แม่เปปก็จะใช้แรปพลาสติกสำหรับอาหาร ปูบนโต๊ะสำหรับตะล่อมแป้ง พอใช้เสร็จก็ทิ้งพลาสติกได้เลย

กดๆ เบามือโดยใช้แผ่นตัดแป้งช่วย จะต้องการเป็นรูปสี่เหลี่ยม หรือ วงกลมก็ตามชอบเลย แล้วตัดแป้งแบ่งครึ่งวางซ้อนกัน แล้วกดใหม่ให้แผ่ขยายออกไปเช่นเดิม ทำซ้ำๆ 2-3 รอบ เพื่อเวลาอบเขาจะฟูเป็นชั้นๆและจะเป็นรอยแตกตรงกลางให้ ต้องการสโคนหนา-บางแค่ไหน แล้วแต่ความชอบเลย

เทคนิคเล็กน้อยใช้เวลาตัดแป้ง คือใช้พิมพ์วงแหวนจุ่มลงในโหลแป้ง จุ่มแล้วก็สะบัดแป้งออกด้วยนะ จะช่วยให้ตอนตัดสโคนไม่ติดพิมพ์

ขนาดวงแหวน ในภาพที่แม่เปปใช้ เส้นผ่าศูนย์กลาง 4 ซม.หรือ 1 นิ้วครึ่งค่ะ ขนาดเล็กกิน1-2 คำหมด

กดพิมพ์วงแหวนตรงๆจนถึงด้านล่าง ไม่ต้องหมุนพิมพ์ไปมา แป้งเขานุ่มค่ะ แทบไม่ต้องออกแรงกดมากเลย

ยกพิมพ์วงแหวนขึ้นมาแป้งสโคนจะติดขึ้นมาเลย แต่....ถ้าจุ่มแป้งมากไป ก็จะทำให้สโคนไม่ขึ้นชั้นฟูได้เหมือนกัน

ถ้าไม่จุ่มแป้ง เราก็ตัดสโคนไปเรื่อยๆจนหมด แล้วค่อยยกเศษแป้งนอกวงแหวนออกขึ้นมา ก่อนจะยกสโคนวงกลมของเราไปวางในถาดอบ ใช้แผ่นตัดแป้งหรือสเปตูล่าก็ได้ ช้อนส่วนก้นยกขึ้นมาวาง สโคนเขาจะอ่อนไหวง่ายถ้าใครไปจับแป้งรอบๆวงเขาจะไม่ยอมขึ้นฟูเป็นชั้นๆ

มาทำแบบใส่ชีสพาร์เมซานลงไปบ้าง แต่ถ้าคนอังกฤษที่เคร่งๆ เขาจะมองว่านี่ไม่ใช่สโคนตามตำรับอังกฤษนะคะ (ทำนองเดียวกับที่ เชฟเจมี่ โอลิเวอร์ ทำแกงเขียวหวานไทยใส่หอมใหญ่ มะเขือเทศ มันฝรั่ง อะไรแบบนั้นเลยละ 55)

แล้วก็พับปิดชีสให้สนิทอยู่ข้างใน

ครั้งนี้ก็ตัดสี่เหลี่ยมง่ายๆ ที่คนอังกฤษเห็นแบบนี้ ก็จะต้องโวยวายอีกแล้วว่า นี่ไม่ใช่สโคนแบบอังกฤษแล้วนะยูว์ ทำครั้งแรกๆ แม่เปปก็ทำตามต้นตำรับอังกฤษเป๊ะเลย แต่เวลาใช้วงแหวนกลมๆตัดแล้วมีเศษแป้งเหลือ ต้องมาเก็บรวบแป้งกดๆให้เป็นแผ่นเพื่อตัดใหม่อีกหลายครั้ง กว่าจะหมดก็มีหงุดหงิดเหมือนกัน แม่เปปเลยใช้วิธีลัด ตัดสี่เหลี่ยมทีเดียว ไม่ต้องมาเก็บเศษแป้งใดๆ ถือว่าสะดวกคนทำ

ใช้แปรงจุ่มไข่แดงทาหน้าก่อนเข้าอบค่ะ บางคนอาจผสมนมเพื่อเจือจางก็ได้ แต่แม่เปปชอบไข่ล้วนๆ อบเสร็จสีสวยถูกใจ

ทาหน้าเขาหน่อย แต่ไม่ต้องเลยไปทาด้านข้างใดๆนะคะ เขาอ่อนไหวง่ายจะไม่ยอมฟูให้เรา (อีกแล้ว 55)

สโคนชอบไฟแรง ระยะเวลาสั้น อบ 200 - 220 องศาค่ะ 12-15 นาทีก็สุก (สูตรของ Mary เขาก็อบ 220 องศา หรือ 200 องศา+เปิดพัดลม)

ออกจากเตาหอมกรุ่นเลยค่ะ ในภาพนี้คือ ใส่ชีสพาร์เมซานชีสเยิ้มทะลักออกมาเชียว รอยแตกแยกเห็นเด่นชัด สีไข่ที่ทาหน้าขนมทำให้สวยจริงๆนะ

ภาพนี้ คือใส่ลูกเกตและแครนเบอรี่ลงไป แม่เปปใส่ซะแน่นเชียว

ตัดสไตล์คนขี้เกียจอีกแล้ว 55

อบเสร็จก็จับใส่ปากชิมได้เลย แทบไม่ต้องเพิ่มเนย แยม หรือ Clotted Cream เพราะมีรสชาติของลูกเกดแครนเบอรี่เต็มๆ สไตล์คนไทยกินสะดวก

กินแล้วเหมือนขึ้นสวรรค์เลย เพราะ....อิ่ม งัย 55

อันนี้ ใส่แฮม ขูดเชดดาร์ชีสที่คนอังกฤษหิ้วมาให้ ใส่แบบไม่ยั้งเลยค่ะ

ใส่เยอะเกิน อันนี้ใช้พิมพ์วงแหวนใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลาง 4นิ้ว

อบเสร็จ ก็ได้แบบนี้เลยค่ะ ฟูเป็นชั้นไหม ไม่ได้สนใจเลย เพราะแค่ส่วนผสมก็อร่อยเริ่ดแล้ว เหมือนกินขนมปังไส้แฮมชีสสไตล์คนไทยยังงั้นเลยค่ะ

ชีสที่ใส่ พอโดนความร้อนก็ละลายทะลักออกมาด้านข้าง อบเสร็จก็แห้ง เพิ่มความหนุบหนับเวลาเคี้ยวอย่างมากเลย

อันนี้ ใส่ต้นหอมซอย+พริกไทย ผสมลงในตัวสโคนด้วยค่ะ แล้วก็เพิ่มเชดดาร์ชีส แบบวางด้านบนล้วนๆ เลย ตัดสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม

ใส่ปากชิม รสชาติแปลกดี มีกลิ่นต้นหอมอ่อนๆ ได้รสชีสกรอบๆ เค็มๆ แนวพิสดารแต่อร่อย

อันนี้ เป็นต้นตำรับของอังกฤษเลย ไม่ผสมอะไรเพิ่ม แต่ตัดเป็นสามเหลี่ยมง่ายๆ กินกับแยม+เนยสดใส่พิมพ์ทำเป็นรูปหัวใจอีก 55

อันนี้คือสอดไส้ชีสทะลัก ถือเดินกินระหว่างเดินดูต้นไม้ในสวน

แบบกลมเล็กๆ 1-2 คำหมด ขนาดประมาณขนมเปี๊ยะ ไม่ผสมอะไรเพิ่ม รอยแตกแยกแบ่งครึ่งเห็นชัดเจนเลย

อันนี้ ก็แบ่งครึ่งแล้วโปะเนยฉ่ำๆ เยิ้มๆ เพิ่มรอบเอวและ LDL....แต่แม่เปปไม่ได้กินเยอะนะ 55

ภาพสุดท้าย โปะแยมสตอเบอรี่ทำเอง แยมโฮมเมดสไตล์หวานน้อยๆ แต่เน้นสตอเบอรี่เต็มๆ

ขอตัวไปกินต่อละ
Scone ฉบับรวมมิตรใส่สารพัด
สูตร Scone ที่แม่เปปทำ คือสูตรของ Mary Berry พิธีกรรายการอาหารชื่อดังของอังกฤษ ช่วงวัยเด็กเธอเคยป่วยเป็นโรคโปลิโอ กระดูกสันหลังบิดเบี้ยว ทำให้มือและแขนข้างซ้ายของเธออ่อนแรง(จนปัจจุบัน) แต่เธอก็ไม่ย่อท้อต่อชีวิตใดๆ โดยเรียนทำอาหารในโรงเรียนที่อังกฤษ แล้วไปศึกษาด้านทำอาหารต่อในโรงเรียนสอนทำอาหาร Le Cordon Bleu ในฝรั่งเศส กลับมาเริ่มอาชีพโดยเป็นบรรณาธิการของนิตยสารอาหารชื่อดังของอังกฤษ เขียนตำราอาหารออกมาหลายเล่ม ได้รับเชิญไปเป็นกรรมการตัดสินอาหารหลากหลาย โด่งดังในรายการทีวีอังกฤษอย่างสุดๆ
แม่เปปเป็นแฟนตัวยงของเธอเลย เพราะสไตล์การทำอาหาร(แนวอังกฤษ) ที่เธอทำแบบกินในครัวเรือน คือ อาหารอังกฤษที่ขั้นตอนเรียบง่าย ปรุงพิถีพิถันสำหรับสมาชิกในครอบครัว แต่รสชาติอร่อย ช่วงที่แม่เปปอยู่ในอังกฤษ จะนั่งดูรายการทำอาหารในทีวีของเธอทุกวัน(แล้วก็หัดทำให้พ่อบ้านชิม) แถมยังซื้อหนังสือบางเล่มของเธอมาครอบครองด้วย
สโคน สูตรเต็มของ Mary Berry
แป้งสาลีตวงก่อนร่อน +ผงฟู +น้ำตาลทราย+เกลือ
ไข่+นม
ตีให้เข้ากันเตรียมไว้
ใส่เนยสดอ่อนตัว
ใช้ส้อม หรือ ปลายนิ้ว ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน
ทำหลุมตรงกลาง เทนม+ไข่ลงไป
ตะล่อมให้ผสมกันทั่วๆ
อุปกรณ์ที่ต้องมีช่วย แผ่นตัดแป้งหรือแผ่นปาดเค้กนี่ละ
ทำปริมาณน้อย แม่เปปก็จะใช้แรปพลาสติกสำหรับอาหาร ปูบนโต๊ะสำหรับตะล่อมแป้ง พอใช้เสร็จก็ทิ้งพลาสติกได้เลย
กดๆ เบามือโดยใช้แผ่นตัดแป้งช่วย จะต้องการเป็นรูปสี่เหลี่ยม หรือ วงกลมก็ตามชอบเลย แล้วตัดแป้งแบ่งครึ่งวางซ้อนกัน แล้วกดใหม่ให้แผ่ขยายออกไปเช่นเดิม ทำซ้ำๆ 2-3 รอบ เพื่อเวลาอบเขาจะฟูเป็นชั้นๆและจะเป็นรอยแตกตรงกลางให้ ต้องการสโคนหนา-บางแค่ไหน แล้วแต่ความชอบเลย
เทคนิคเล็กน้อยใช้เวลาตัดแป้ง คือใช้พิมพ์วงแหวนจุ่มลงในโหลแป้ง จุ่มแล้วก็สะบัดแป้งออกด้วยนะ จะช่วยให้ตอนตัดสโคนไม่ติดพิมพ์
ขนาดวงแหวน ในภาพที่แม่เปปใช้ เส้นผ่าศูนย์กลาง 4 ซม.หรือ 1 นิ้วครึ่งค่ะ ขนาดเล็กกิน1-2 คำหมด
กดพิมพ์วงแหวนตรงๆจนถึงด้านล่าง ไม่ต้องหมุนพิมพ์ไปมา แป้งเขานุ่มค่ะ แทบไม่ต้องออกแรงกดมากเลย
ยกพิมพ์วงแหวนขึ้นมาแป้งสโคนจะติดขึ้นมาเลย แต่....ถ้าจุ่มแป้งมากไป ก็จะทำให้สโคนไม่ขึ้นชั้นฟูได้เหมือนกัน
ถ้าไม่จุ่มแป้ง เราก็ตัดสโคนไปเรื่อยๆจนหมด แล้วค่อยยกเศษแป้งนอกวงแหวนออกขึ้นมา ก่อนจะยกสโคนวงกลมของเราไปวางในถาดอบ ใช้แผ่นตัดแป้งหรือสเปตูล่าก็ได้ ช้อนส่วนก้นยกขึ้นมาวาง สโคนเขาจะอ่อนไหวง่ายถ้าใครไปจับแป้งรอบๆวงเขาจะไม่ยอมขึ้นฟูเป็นชั้นๆ
มาทำแบบใส่ชีสพาร์เมซานลงไปบ้าง แต่ถ้าคนอังกฤษที่เคร่งๆ เขาจะมองว่านี่ไม่ใช่สโคนตามตำรับอังกฤษนะคะ (ทำนองเดียวกับที่ เชฟเจมี่ โอลิเวอร์ ทำแกงเขียวหวานไทยใส่หอมใหญ่ มะเขือเทศ มันฝรั่ง อะไรแบบนั้นเลยละ 55)
แล้วก็พับปิดชีสให้สนิทอยู่ข้างใน
ครั้งนี้ก็ตัดสี่เหลี่ยมง่ายๆ ที่คนอังกฤษเห็นแบบนี้ ก็จะต้องโวยวายอีกแล้วว่า นี่ไม่ใช่สโคนแบบอังกฤษแล้วนะยูว์ ทำครั้งแรกๆ แม่เปปก็ทำตามต้นตำรับอังกฤษเป๊ะเลย แต่เวลาใช้วงแหวนกลมๆตัดแล้วมีเศษแป้งเหลือ ต้องมาเก็บรวบแป้งกดๆให้เป็นแผ่นเพื่อตัดใหม่อีกหลายครั้ง กว่าจะหมดก็มีหงุดหงิดเหมือนกัน แม่เปปเลยใช้วิธีลัด ตัดสี่เหลี่ยมทีเดียว ไม่ต้องมาเก็บเศษแป้งใดๆ ถือว่าสะดวกคนทำ
ใช้แปรงจุ่มไข่แดงทาหน้าก่อนเข้าอบค่ะ บางคนอาจผสมนมเพื่อเจือจางก็ได้ แต่แม่เปปชอบไข่ล้วนๆ อบเสร็จสีสวยถูกใจ
ทาหน้าเขาหน่อย แต่ไม่ต้องเลยไปทาด้านข้างใดๆนะคะ เขาอ่อนไหวง่ายจะไม่ยอมฟูให้เรา (อีกแล้ว 55)
สโคนชอบไฟแรง ระยะเวลาสั้น อบ 200 - 220 องศาค่ะ 12-15 นาทีก็สุก (สูตรของ Mary เขาก็อบ 220 องศา หรือ 200 องศา+เปิดพัดลม)
ออกจากเตาหอมกรุ่นเลยค่ะ ในภาพนี้คือ ใส่ชีสพาร์เมซานชีสเยิ้มทะลักออกมาเชียว รอยแตกแยกเห็นเด่นชัด สีไข่ที่ทาหน้าขนมทำให้สวยจริงๆนะ
ภาพนี้ คือใส่ลูกเกตและแครนเบอรี่ลงไป แม่เปปใส่ซะแน่นเชียว
ตัดสไตล์คนขี้เกียจอีกแล้ว 55
อบเสร็จก็จับใส่ปากชิมได้เลย แทบไม่ต้องเพิ่มเนย แยม หรือ Clotted Cream เพราะมีรสชาติของลูกเกดแครนเบอรี่เต็มๆ สไตล์คนไทยกินสะดวก
กินแล้วเหมือนขึ้นสวรรค์เลย เพราะ....อิ่ม งัย 55
อันนี้ ใส่แฮม ขูดเชดดาร์ชีสที่คนอังกฤษหิ้วมาให้ ใส่แบบไม่ยั้งเลยค่ะ
ใส่เยอะเกิน อันนี้ใช้พิมพ์วงแหวนใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลาง 4นิ้ว
อบเสร็จ ก็ได้แบบนี้เลยค่ะ ฟูเป็นชั้นไหม ไม่ได้สนใจเลย เพราะแค่ส่วนผสมก็อร่อยเริ่ดแล้ว เหมือนกินขนมปังไส้แฮมชีสสไตล์คนไทยยังงั้นเลยค่ะ
ชีสที่ใส่ พอโดนความร้อนก็ละลายทะลักออกมาด้านข้าง อบเสร็จก็แห้ง เพิ่มความหนุบหนับเวลาเคี้ยวอย่างมากเลย
อันนี้ ใส่ต้นหอมซอย+พริกไทย ผสมลงในตัวสโคนด้วยค่ะ แล้วก็เพิ่มเชดดาร์ชีส แบบวางด้านบนล้วนๆ เลย ตัดสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม
ใส่ปากชิม รสชาติแปลกดี มีกลิ่นต้นหอมอ่อนๆ ได้รสชีสกรอบๆ เค็มๆ แนวพิสดารแต่อร่อย
อันนี้ เป็นต้นตำรับของอังกฤษเลย ไม่ผสมอะไรเพิ่ม แต่ตัดเป็นสามเหลี่ยมง่ายๆ กินกับแยม+เนยสดใส่พิมพ์ทำเป็นรูปหัวใจอีก 55
อันนี้คือสอดไส้ชีสทะลัก ถือเดินกินระหว่างเดินดูต้นไม้ในสวน
แบบกลมเล็กๆ 1-2 คำหมด ขนาดประมาณขนมเปี๊ยะ ไม่ผสมอะไรเพิ่ม รอยแตกแยกแบ่งครึ่งเห็นชัดเจนเลย
อันนี้ ก็แบ่งครึ่งแล้วโปะเนยฉ่ำๆ เยิ้มๆ เพิ่มรอบเอวและ LDL....แต่แม่เปปไม่ได้กินเยอะนะ 55
ภาพสุดท้าย โปะแยมสตอเบอรี่ทำเอง แยมโฮมเมดสไตล์หวานน้อยๆ แต่เน้นสตอเบอรี่เต็มๆ
ขอตัวไปกินต่อละ