ศาลรัฐธรรมนูญสั่งไม่รับ 2 คำร้อง! ปม “เท้ง ณัฐพงษ์ – พรรคประชาชน” ทำ MOA กับ “อนุทิน” ไม่เป็นการล้มล้างการปกครอง!
.
.
วันที่ 3 พ.ย.2568 ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดีที่น่าสนใจ เกี่ยวกับกรณีการจัดทำบันทึกข้อตกลง (MOA) ระหว่างนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รวม 2 คำร้อง ประกอบด้วย
.
คำร้องที่นายคงเดชา ชัยรัตน์ (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องกล่าวอ้างว่า นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ถูกร้องที่ 2) และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาชน จำนวน 143 คน (ผู้ถูกร้องที่ 3) กระทำการตกลงกันเพื่อแบ่งปันอำนาจอธิปไตย
.
ด้วยการบิดเบือนอำนาจบริหารในบางเรื่องที่ควรจะเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นองค์กรฝ่ายบริหาร ให้มาเป็นอำนาจแฝงของพรรคการเมืองฝ่ายค้านและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคการเมืองนั้น
.
ซึ่งเป็นการทำลายกลไกของระบอบประชาธิปไตย ทำให้ขาดความเข้มแข็งในการถ่วงดุลอำนาจในการปกครองประเทศ ส่งผลให้สัมพันธภาพระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารขาดความเหมาะสม เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานของ รัฐธรรมนูญ โดยพรรคประชาชน (ผู้ถูกร้องที่ 1) เสนอยกคะแนนเสียงสมาชิกสภาผู้แทนพรรคประชาชนให้กับพรรคการเมืองใดที่สามารถนำนโยบายของผู้ถูกร้องที่ 1 ไปดำเนินการเมื่อพรรคการเมืองนั้นได้เป็นรัฐบาล คือ ให้มีการยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือน นับแต่วันที่รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา และจัดให้มีการออกเสียงประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ นำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง
.
ต่อมาผู้ถูกร้องที่ 2 และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOA) และในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงคะแนนเสียงเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้องที่ 3 ได้ดำเนินการตามบันทึกข้อตกลง (MOA) โดยลงคะแนนเสียงเห็นชอบเพื่อให้นายอนุทินดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยผู้ถูกร้องทั้งสามจะปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายค้าน
.
ผู้ร้องยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดและสำนักงานอัยการสูงสุดมีหนังสือแจ้งว่าการกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสามยังไม่เข้าข่ายเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ดังนั้น กรณีจึงไม่มีเหตุที่อัยการสูงสุดจะพิจารณาดำเนินการส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อโปรดวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสอง อัยการสูงสุดจึงมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ
โดยผลการพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยอภิปรายแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้อง คำร้องเพิ่มเติมประกอบ เมื่อบันทึกข้อตกลง (MOA) ระหว่างนายณัฐพงษ์กับนายอนุทิน เป็นการเจรจาหรือการประกาศเจตจำนงทางการเมืองร่วมกัน ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานอื่นที่ชัดเจนเพียงพอที่แสดงให้เห็นได้ว่าผู้ถูกร้องทั้งสามกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย
นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังได้พิจารณาคำร้องที่นายอัครวัฒน์ พงศ์ธนาชลิตกุล (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า การจัดทำบันทึกข้อตกลง (MOA) ระหว่างนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (ผู้ถูกร้องที่ 1) ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน (ผู้ถูกร้องที่ 2) กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล (ผู้ถูกร้องที่ 3) ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 4) โดยตกลงให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสังกัดพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 พิจารณาให้ความเห็นชอบผู้ถูกร้องที่ 3 เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นการได้มาซึ่งอำนาจฝ่ายบริหารที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ โดยอาศัยมติพรรคการเมืองยินยอมให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตกอยู่ภายใต้ข้อผูกมัดแห่งอาณัติ มอบหมาย หรือความครอบงำใด ๆ โดยมีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันไว้ล่วงหน้า
อันมีลักษณะที่เป็นการก้าวก่ายหรือ แทรกแซง เพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 114 และมาตรา 185 การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสี่เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ผู้ร้องยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดเพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าวแล้ว แต่อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
โดยผลการพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบ เมื่อบันทึกข้อตกลง (MOA) ระหว่างผู้ถูกร้องที่ 1 กับผู้ถูกร้องที่ 3 เป็นการเจรจาหรือการประกาศเจตจำนงทางการเมืองร่วมกัน ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอที่แสดงให้เห็นได้ว่า ผู้ถูกร้องทั้งสี่กระทำการอื่นใดอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย
.
.
ไอซ์ รักชนก ฟาด ไผ่ ชาวบ้านรู้ทั้งเมือง ใครอยู่เบื้องหลัง สลากกินแบ่งรัฐบาล ชี้ หลักฐานจะทิ่มตา
https://www.matichon.co.th/politics/news_5439489
.
ไอซ์ รักชนก ฟาด ไผ่ ชาวบ้านรู้ทั้งเมือง ใครอยู่เบื้องหลัง สลากกินแบ่งรัฐบาล ชี้ หลักฐานจะทิ่มตา เชื่อ แม้เป็นเอกสารลับ น่าจะหาอ่านได้ไม่ยาก
.
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ภายหลังกรณีที่นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคกล้าธรรม (กธ.) มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรียกร้องให้นางสาวรัชนก นำพยานหลักฐานในข้อกล่าวหาต่างๆออกมาเปิดเผย ต่อสาธารณชนว่ามีบุคคลใดที่กระทำความผิด หรือเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดนั้นๆ
.
ด้านนางสาวรักชนก ยืนยันว่า พยานหลักฐานหลายๆอย่าง ชัดเจนอยู่แล้ว หากนายไผ่ ยังจะตามหาหลักฐานอยู่ ตนค่อนข้าง งง เพราะผลการตรวจสอบต่างๆของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบ เมื่อครั้งที่ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ท่านสามารถไปตรวจสอบได้แม้จะเป็นเอกสารลับ แต่ก็สามารถไปหาอ่านได้ ดังนั้นเวลาที่พรรคเราเปิดเผยเรื่องอะไรเรามีหลักฐาน จึงอยากยกตัวอย่างเช่นเรื่องโควตาหวยที่มี ร.ท.ธนเดช เพ็งสุข สส.กทม. ที่นำมาเปิดเผย จริง ๆ สเตทเม้นท์มี 5 แผ่น และตนดูหมดแล้ว
.
รวมทั้งมีเอกสารในกระบวนการที่อยู่ในกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พร้อมยืนยันว่าทุกเคสที่เราทำมีหลักฐานทั้งหมด ดังนั้นไม่ต้องถามว่าฝ่ายค้านมีหลักฐานหรือไม่เพราะพวกเราเปิดหมด
.
“อยากถามรัฐบาลว่า มานั่งถามทำไมว่ามีหลักฐานหรือไม่ เพราะขนาดพรรคประชาชนยังมีเอกสารที่ออกมาโชว์ซึ่งอยู่ในกระบวนการยุติธรรม แล้วรัฐบาลจะไม่มีเอกสารตัวนี้อยู่ในมือจริงหรือ เราจึงอยากจี้ถามคืนว่าตอนนี้ฝ่ายรัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่ ” นางสาวรักชนก กล่าวและว่า ส่วนที่ถามว่าตนเองคิดเห็น
อย่างไรต่อกรณีของนายไผ่ ก็อยากให้ประชาชนแสดง ความคิดเห็นเองดีกว่า เพราะว่าตนเองพูดเยอะไปแล้ว
.
“ทุกคนไม่ทราบหรอคะ บริษัทเขาเคยเปิดขายหวย คือตนไม่เข้าใจว่าข้อเท็จจริง ที่เป็นข้อเท็จจริง ที่จะทิ่มตาจะบอดอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าเราจะมาถามกันอีกทำไม” น.ส.รักชนก กล่าว
.
เมื่อถามว่าการที่ตนเองได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับการเปิดโปงกระบวนการสลากกินแบ่งรัฐบาล น.ส.รักชนก กล่าวว่า ตรงนี้ทราบกันดีเพราะข้อมูลดังกล่าวมีการเปิดเผยต่อสาธารณะชนเป็นเวลานาน ซึ่งทุกคนรู้ว่าวิธีการและบุคคลใดเป็น 5 เสือ และ รู้ดีว่าใครเป็นบุคคลที่เปิดบริษัท จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล
.
อย่างไรก็ตามตนไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้มากกว่านี้ เพราะเวทีนี้ไม่เหมาะสมซึ่งตนจะหาโอกาสชี้แจงต่อไป
.
.
ต้นตำรับ ดีแต่พูด ย้อนจม.เปิดผนึกถึงอภิสิทธิ์ ยก 16 ข้อ ถามกลับ จำที่พูดได้บ้างไหม
https://www.matichon.co.th/politics/news_5439464
.
ต้นตำรับ ดีแต่พูด ย้อนจม.เปิดผนึกถึงอภิสิทธิ์ ยก 16 ข้อ ถามกลับ จำที่พูดได้บ้างไหม
.
วันที่ 3 พฤศจิกายน น.ส.จิตรา คชเดช นักเคลื่อนไหวด้านแรงงาน ผู้ที่ชูป้าย “ดีแต่พูด” ใส่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ เป็นคนแรก โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
.
จดหมายเปิดผนึกจากจิตรา ถึงนายอภิสิทธิ์
เมื่อ 19 มิถุนายน 2554
.
กรุณาอ่านให้จบจะได้รู้ว่า นายอภิสิทธิ์ “ ดีแต่พูด” แบบไหน อย่ากลับมาฟอกตัวเอง!!!
.
เรียน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
.
ดิฉันขอแนะนำตัวก่อน ดิฉันเป็นคนที่เสียภาษี และไปเลือกตั้งทุกครั้งและร่วมแสดงความเห็นทางการเมืองและรวมกลุ่มกันมาตลอด ช่วงที่ประเทศไทยไม่เป็นประชาธิปไตยหรือนักการเมือง ข้าราชการ นายทุนเข้ามากดขี่ แสวงหาผลประโยชน์จากคนจนๆอย่างพวกเรา
.
ในวันนี้เป็นวันครบรอบ 1ปี เดือน พอดี ดิฉันได้ไปร่วมกิจกรรมรำลึกถึงวีรชนที่เสียชีวิตในเหตุการณ์รัฐบาลสั่งให้สลายการณ์ชุมนุมของพี่น้องเสื้อแดงจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และมีผู้หญิงและเด็กด้วย
.
กลับมาดิฉันได้อ่านจดหมายของคุณ”จากอภิสิทธิ์ฉบับที่ 5 “ผมไม่ได้ดีแต่พูด” มันทำให้ดิฉันจำเป็นต้องตอบจดหมาย เพราะพาดพิงถึงดิฉันโดยตรงว่า”กระบวนการนี้เริ่มจากการให้คนเสื้อแดงไปชูป้ายที่งานวันแรงงานที่องค์กรเอกชนจัดขึ้นเพื่อ ให้ ส.ส.เพื่อไทยเอาไปขยายผลในสภาและการสร้างกระแส ” เพราะคนแรกที่ถือป้ายคือดิฉันร่วมกันกับเพื่อนๆ อดีตคนงานไทรอัมพ์ฯ ที่ถูกนายจ้างเลิกจ้าง และถูกอดีตรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานซึ่งอยู่พรรคเดียวกะคุณขณะนั้น ได้เอาจักรเย็บผ้าที่มีผู้บริจาคมาให้กับคนที่ถูกเลิกจ้างไปถึง 150ตัว
.
อะไรบ้างที่เป็นแรงบันดาลใจที่ดิฉันต้องมาถือป้ายให้คุณในวันงานเสวนา “100ปีวันสตรีสากล”ที่จัดโดยกลุ่มบูรณาการสตรี ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งดิฉันได้ชี้แจงไปหลายครั้งแล้วผ่านสื่อต่างๆ แต่คุณคงไม่มีเวลาอ่านและทำความเข้าใจและได้วิเคราะห์ว่าปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากตัวของคุณเอง ไม่ได้เกิดจากคนถือป้ายคนแรก คุณมักจะโทษคนอื่นเสมอ
JJNY : 5in1 ไม่รับคำร้อง! ทำ MOA│ไอซ์ฟาดไผ่│ต้นตำรับดีแต่พูด│กัมพูชาผวาหนัก เจอขุดพิกัด│โลกรอศาลชี้ขาดเรื่อง“ภาษีทรัมป์”
.
ไอซ์ รักชนก ฟาด ไผ่ ชาวบ้านรู้ทั้งเมือง ใครอยู่เบื้องหลัง สลากกินแบ่งรัฐบาล ชี้ หลักฐานจะทิ่มตา
https://www.matichon.co.th/politics/news_5439489
.
.
ต้นตำรับ ดีแต่พูด ย้อนจม.เปิดผนึกถึงอภิสิทธิ์ ยก 16 ข้อ ถามกลับ จำที่พูดได้บ้างไหม
https://www.matichon.co.th/politics/news_5439464
.
เมื่อ 19 มิถุนายน 2554