สวัสดีครับ
ช่วงนี้ผมศึกษาพระคัมภีร์และเรื่องราวโบราณหลายอย่าง แล้วเกิดข้อสงสัยว่า สิ่งที่เราเรียกว่า “พระเจ้า” หรือ “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” ที่ปรากฏต่อมนุษย์ อาจไม่ได้เป็นสิ่งเหนือธรรมชาติอย่างที่เราคิด แต่เป็น สิ่งมีชีวิตทรงปัญญาจากอวกาศ ที่มีเทคโนโลยีล้ำยุค จนมนุษย์ยุคโบราณไม่สามารถเข้าใจได้
ลองมาดูหลายเหตุการณ์ในพระคัมภีร์และตีความใหม่ผ่านมุมมองนี้:
---
1. ยาค็อบต่อสู้กับบุรุษ (ปฐมกาล 32)
ในเหตุการณ์นี้ ยาค็อบต้องอยู่คนเดียวและต่อสู้กับบุรุษจนรุ่งอรุณ พระคัมภีร์บอกว่าเขาต่อสู้กับพระเจ้าและมนุษย์ ถ้ามองในมุมเทคโนโลยี บุรุษนี้อาจเป็น มนุษย์ต่างดาวที่มีพละกำลังและความเร็วเหนือมนุษย์ หรืออาจใช้ เทคโนโลยีเพิ่มความแข็งแรงและความทนทาน เช่น ชุดเกราะแรงสนามพลังหรือระบบเพิ่มพลังกล้ามเนื้อ ทำให้การต่อสู้เกินความสามารถของมนุษย์ธรรมดา
---
2. โมเสสแยกทะเลแดง (อพยพ 14)
โมเสสยกไม้เท้าและทะเลแดงแยกออกเป็นสองฝั่ง การอธิบายแบบมนุษย์ต่างดาว คือ โมเสสอาจถูก อุปกรณ์จากอวกาศช่วยสร้างแรงดันน้ำ หรือใช้เทคโนโลยีควบคุมคลื่นความถี่ของน้ำ ทำให้ทะเลแยกออกเป็นสองฝั่ง มนุษย์ยุคนั้นมองว่าเป็นปาฏิหาริย์
---
3. เอลียาห์ขึ้นสู่สวรรค์ด้วยรถเพลิงไฟและม้าไฟ (2 พงศ์กษัตริย์ 2)
เอลียาห์ถูกพาไปด้วยรถเพลิงและม้าไฟ นี่อาจเป็น ยานพาหนะล้ำยุคจากอวกาศ ที่สร้างภาพแสงและไฟให้ดูเหมือนม้าและเพลิง ระบบขับเคลื่อนอาจใช้พลังงานแม่เหล็กหรือแรงขับปฏิกิริยาไฟฟ้าสูง ทำให้มนุษย์โบราณเห็นเป็นไฟและพาหนะเหนือธรรมชาติ
---
4. น้ำพุจากหิน (เฉลยธรรมบัญญัติ 33:21 / ซามูเอล)
การเกิดน้ำพุจากหินอย่างกะทันหัน สามารถตีความได้ว่า มนุษย์ต่างดาวใช้เครื่องมือควบคุมแรงดันน้ำหรือสนามแม่เหล็ก เพื่อดึงน้ำจากใต้ดินขึ้นมาเป็นน้ำพุ มนุษย์ยุคโบราณจึงบันทึกเป็นปาฏิหาริย์
---
5. อับราฮัมต่อสู้กับกองทัพ (ปฐมกาล 14)
อับราฮัมเอาชนะกองทัพที่มีอาวุธเหนือมนุษย์ได้ หากตีความแบบมนุษย์ต่างดาว กองทัพเหล่านั้นอาจใช้ อาวุธเลเซอร์หรือพลาสม่าแบบโบราณ แต่ความฉลาดของมนุษย์ในการวางกลยุทธ์ทำให้รอดมาได้ การต่อสู้จึงไม่ได้เหนือจริง แต่เป็นการทดสอบไหวพริบและความตั้งใจของมนุษย์
---
6. ซามูเอลและแสงบนภูเขา (1 ซามูเอล 3)
การที่ซามูเอลได้ยินเสียงเรียกและเห็นแสงบนภูเขา อาจเป็น สัญญาณหรือแสงเลเซอร์จากมนุษย์ต่างดาว ที่สื่อสารกับเขาเพื่อให้เรียนรู้และเตรียมตัวเป็นผู้นำ
---
7. การปกป้องเมืองโสโดมและโโมรา (ปฐมกาล 19)
พระคัมภีร์บรรยายว่าผู้ส่งสารจากพระเจ้ามาปกป้องลอตและครอบครัวจากเมืองชั่วร้าย อาจตีความว่าเป็น มนุษย์ต่างดาวที่มีอุปกรณ์ป้องกันขั้นสูง เช่น ระบบพลังงานป้องกันหรือฟิลด์ชิลด์ เพื่อให้ครอบครัวรอดจากการทำลายเมือง มนุษย์โบราณมองว่าเป็นเพียงการลงโทษจากพระเจ้า แต่จริง ๆ แล้วอาจเป็น การใช้เทคโนโลยีป้องกันภัยขั้นสูง
---
8. ไฟจากฟ้าลงสู่ทับเขา (2 พงศ์กษัตริย์ 1)
เอลียาห์เรียกไฟจากฟ้าเผาทหารที่ไม่เชื่อพระเจ้า ถ้าเป็นมนุษย์ต่างดาว เหตุการณ์นี้อาจเป็น อาวุธพลังงานเลเซอร์หรือพลาสม่าที่ยิงลงจากอากาศ การปรากฏของไฟและเสียงฟ้าร้อง จึงดูเหมือนปาฏิหาริย์ต่อมนุษย์ยุคโบราณ
---
9. การเห็นพระเจ้าในควันและเปลวไฟบนภูเขาซีนาย (อพยพ 19)
โมเสสเห็นพระเจ้าบนภูเขาซีนายพร้อมควันและเปลวไฟ ถ้ามองในแง่มนุษย์ต่างดาว นี่อาจเป็น การสื่อสารโดยใช้เทคโนโลยีแสงและการฉายภาพสามมิติ ทำให้มนุษย์เห็นเป็นเปลวไฟและควัน พร้อมมีเสียงพูดเหมือนพระเจ้าทรงตรัส
---
10. โนอาห์และน้ำท่วมโลก (ปฐมกาล 6–9)
น้ำท่วมโลกเพื่อทำลายความชั่วร้ายของมนุษย์ สามารถตีความได้ว่า มนุษย์ต่างดาวมีเทคโนโลยีควบคุมน้ำหรือสภาพภูมิอากาศขั้นสูง ทำให้เกิดน้ำท่วมจำกัดพื้นที่ที่ต้องการลงโทษ และช่วยเหลือโนอาห์ผ่านเรือที่ถูกออกแบบด้วยเทคโนโลยีล้ำยุค
---
11. การสถิตของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในวันเพนเทคอสต์ (กิจการ 2)
พระคัมภีร์บอกว่ามีลมพัดและไฟสถิตบนศีรษะผู้เชื่อทั้งหมด ถ้าเป็นมนุษย์ต่างดาว นี่อาจเป็น เทคโนโลยีปล่อยพลังงานหรือสนามแม่เหล็กที่ทำให้เกิดแสงและความร้อนแบบเฉพาะเจาะจง ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นเห็นและสัมผัสประสบการณ์เหนือธรรมชาติ
---
12. การปรากฏของอับราฮัมต่อทูตสวรรค์ (ปฐมกาล 18)
พระคัมภีร์บรรยายว่าทูตสวรรค์มาเยี่ยมอับราฮัมและบอกข่าวเกี่ยวกับโซโดม ถ้าเป็นมนุษย์ต่างดาว เหตุการณ์นี้อาจใช้ การปรากฏตัวแบบโฮโลแกรมหรือร่างสมจริง ที่มนุษย์มองว่าเป็นทูตสวรรค์ พร้อมสื่อสารข้อมูลล่วงหน้าเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคต
เหตุผลรองรับจากมุมวิทยาศาสตร์และตรรกะ
1. ข้อจำกัดของมนุษย์โบราณ
มนุษย์ในยุคโบราณยังไม่มีความรู้เรื่องฟิสิกส์ เคมี หรือเทคโนโลยีขั้นสูง
สิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถสร้างได้ เช่น แยกน้ำทะเล, เรียกไฟจากฟ้า, สื่อสารทางไกลด้วยเสียงที่ชัดเจน เป็นเรื่องเกินกว่าความสามารถของคนในยุคนั้น
ดังนั้น เหตุการณ์เหล่านี้อาจเกิดจากสิ่งมีชีวิตที่มี ความรู้และเทคโนโลยีล้ำหน้า
2. ลักษณะการปรากฏเหนือธรรมชาติ
หลายเหตุการณ์ในพระคัมภีร์ เช่น การปรากฏบนภูเขาซีนาย, การขึ้นสวรรค์ของเอลียาห์, ไฟจากฟ้า ลงโทษทหาร มีลักษณะ ตรงกับเทคโนโลยีการฉายภาพ, แสง, เลเซอร์, หรือสนามพลัง
มนุษย์โบราณมองเห็นสิ่งนี้เป็นปาฏิหาริย์ แต่จริง ๆ อาจเป็น อุปกรณ์เทคโนโลยีขั้นสูงของสิ่งมีชีวิตต่างดาว
3. ความรู้ล่วงหน้าและการสื่อสารทางจิต
พระคัมภีร์หลายตอนแสดงว่า พระเจ้ารู้ล่วงหน้าหรือสามารถสื่อสารข้อมูลเฉพาะบุคคล( คลายโทรศัพท์มือถือที่วันนี้เราสื่อสารที่ไหนก็ได้ในโลก)
หากตีความแบบวิทยาศาสตร์ สิ่งนี้อาจเป็น เทคโนโลยีการสื่อสารระยะไกลขั้นสูง หรือระบบอ่านความคิด (mind scan)
4. ความสามารถเกินกว่ามนุษย์
เหตุการณ์เช่น โนอาห์สร้างเรือขนาดมหึมา, โมเสสแยกทะเล, หรือผู้มีพระวิญญาณได้รับพลังเหนือธรรมชาติ แสดงให้เห็นว่า มีการใช้พลังงานและวัสดุเกินความสามารถมนุษย์ยุคนั้น
การตีความแบบมนุษย์ต่างดาว คือ ใช้เครื่องมือทางวิศวกรรมและพลังงานขั้นสูง ที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์เหล่านี้
5. เหตุผลด้านโบราณคดีและสถาปัตยกรรม
โบราณสถานหลายแห่ง เช่น ปิรามิด, สโตนเฮนจ์, เมกัลิธโบราณ มีความแม่นยำทางคณิตศาสตร์และฟิสิกส์เกินกว่าที่มนุษย์ยุคนั้นจะทำได้
สอดคล้องกับแนวคิดว่า มนุษย์ต่างดาวเป็นผู้ให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีและสถาปัตยกรรม
6. ความสอดคล้องของเหตุการณ์ซ้ำ ๆ
การปรากฏของ “พระเจ้า” หรือ “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” หลายครั้งในหลายยุค สอดคล้องกับ การเยี่ยมเยียนมนุษย์อย่างเป็นระบบ
หากเป็นสิ่งมีชีวิตธรรมดา ก็คงไม่สามารถปรากฏซ้ำหลายสถานที่พร้อมสอนบทเรียนได้อย่างมีระเบียบ
***เราต้องเข้าใจก่อนว่า มนุษย์ยุคโบราณไม่มีความรู้เรื่องฟิสิกส์หรือวิศวกรรมขั้นสูง ทุกสิ่งที่มนุษย์มองว่า “ปาฏิหาริย์” จึงเกินกว่าที่มนุษย์สามารถทำได้ แต่ถ้าเรามองจากมุมของสิ่งมีชีวิตที่พัฒนาเทคโนโลยีมานานกว่า 1,000,000 ปี
อันนี้เพิ่มเติม
https://youtu.be/JOPVG4D5waw?si=s0m2Iz_OAPNG9yOA
https://youtu.be/NQuP82c6jW0?si=oCCnOP8oJVEoS45r
https://youtu.be/uMy1-H2HfFw?si=8_05JvJGigtzDHo0
https://youtu.be/QawJWH3OY2I?si=DnMvVazXeqpnX9DA
https://youtu.be/rApfRhDMj4s?si=PhzmxoWiawwPzYf5
https://youtu.be/_uNub2G0Y6o?si=iNi2RQv4z5nxkZb_																																	  
							
พระเจ้าที่ปรากฏในพระคัมภีร์…อาจเป็นมนุษย์ต่างดาวและเทคโนโลยีล้ำยุค?
ช่วงนี้ผมศึกษาพระคัมภีร์และเรื่องราวโบราณหลายอย่าง แล้วเกิดข้อสงสัยว่า สิ่งที่เราเรียกว่า “พระเจ้า” หรือ “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” ที่ปรากฏต่อมนุษย์ อาจไม่ได้เป็นสิ่งเหนือธรรมชาติอย่างที่เราคิด แต่เป็น สิ่งมีชีวิตทรงปัญญาจากอวกาศ ที่มีเทคโนโลยีล้ำยุค จนมนุษย์ยุคโบราณไม่สามารถเข้าใจได้
ลองมาดูหลายเหตุการณ์ในพระคัมภีร์และตีความใหม่ผ่านมุมมองนี้:
---
1. ยาค็อบต่อสู้กับบุรุษ (ปฐมกาล 32)
ในเหตุการณ์นี้ ยาค็อบต้องอยู่คนเดียวและต่อสู้กับบุรุษจนรุ่งอรุณ พระคัมภีร์บอกว่าเขาต่อสู้กับพระเจ้าและมนุษย์ ถ้ามองในมุมเทคโนโลยี บุรุษนี้อาจเป็น มนุษย์ต่างดาวที่มีพละกำลังและความเร็วเหนือมนุษย์ หรืออาจใช้ เทคโนโลยีเพิ่มความแข็งแรงและความทนทาน เช่น ชุดเกราะแรงสนามพลังหรือระบบเพิ่มพลังกล้ามเนื้อ ทำให้การต่อสู้เกินความสามารถของมนุษย์ธรรมดา
---
2. โมเสสแยกทะเลแดง (อพยพ 14)
โมเสสยกไม้เท้าและทะเลแดงแยกออกเป็นสองฝั่ง การอธิบายแบบมนุษย์ต่างดาว คือ โมเสสอาจถูก อุปกรณ์จากอวกาศช่วยสร้างแรงดันน้ำ หรือใช้เทคโนโลยีควบคุมคลื่นความถี่ของน้ำ ทำให้ทะเลแยกออกเป็นสองฝั่ง มนุษย์ยุคนั้นมองว่าเป็นปาฏิหาริย์
---
3. เอลียาห์ขึ้นสู่สวรรค์ด้วยรถเพลิงไฟและม้าไฟ (2 พงศ์กษัตริย์ 2)
เอลียาห์ถูกพาไปด้วยรถเพลิงและม้าไฟ นี่อาจเป็น ยานพาหนะล้ำยุคจากอวกาศ ที่สร้างภาพแสงและไฟให้ดูเหมือนม้าและเพลิง ระบบขับเคลื่อนอาจใช้พลังงานแม่เหล็กหรือแรงขับปฏิกิริยาไฟฟ้าสูง ทำให้มนุษย์โบราณเห็นเป็นไฟและพาหนะเหนือธรรมชาติ
---
4. น้ำพุจากหิน (เฉลยธรรมบัญญัติ 33:21 / ซามูเอล)
การเกิดน้ำพุจากหินอย่างกะทันหัน สามารถตีความได้ว่า มนุษย์ต่างดาวใช้เครื่องมือควบคุมแรงดันน้ำหรือสนามแม่เหล็ก เพื่อดึงน้ำจากใต้ดินขึ้นมาเป็นน้ำพุ มนุษย์ยุคโบราณจึงบันทึกเป็นปาฏิหาริย์
---
5. อับราฮัมต่อสู้กับกองทัพ (ปฐมกาล 14)
อับราฮัมเอาชนะกองทัพที่มีอาวุธเหนือมนุษย์ได้ หากตีความแบบมนุษย์ต่างดาว กองทัพเหล่านั้นอาจใช้ อาวุธเลเซอร์หรือพลาสม่าแบบโบราณ แต่ความฉลาดของมนุษย์ในการวางกลยุทธ์ทำให้รอดมาได้ การต่อสู้จึงไม่ได้เหนือจริง แต่เป็นการทดสอบไหวพริบและความตั้งใจของมนุษย์
---
6. ซามูเอลและแสงบนภูเขา (1 ซามูเอล 3)
การที่ซามูเอลได้ยินเสียงเรียกและเห็นแสงบนภูเขา อาจเป็น สัญญาณหรือแสงเลเซอร์จากมนุษย์ต่างดาว ที่สื่อสารกับเขาเพื่อให้เรียนรู้และเตรียมตัวเป็นผู้นำ
---
7. การปกป้องเมืองโสโดมและโโมรา (ปฐมกาล 19)
พระคัมภีร์บรรยายว่าผู้ส่งสารจากพระเจ้ามาปกป้องลอตและครอบครัวจากเมืองชั่วร้าย อาจตีความว่าเป็น มนุษย์ต่างดาวที่มีอุปกรณ์ป้องกันขั้นสูง เช่น ระบบพลังงานป้องกันหรือฟิลด์ชิลด์ เพื่อให้ครอบครัวรอดจากการทำลายเมือง มนุษย์โบราณมองว่าเป็นเพียงการลงโทษจากพระเจ้า แต่จริง ๆ แล้วอาจเป็น การใช้เทคโนโลยีป้องกันภัยขั้นสูง
---
8. ไฟจากฟ้าลงสู่ทับเขา (2 พงศ์กษัตริย์ 1)
เอลียาห์เรียกไฟจากฟ้าเผาทหารที่ไม่เชื่อพระเจ้า ถ้าเป็นมนุษย์ต่างดาว เหตุการณ์นี้อาจเป็น อาวุธพลังงานเลเซอร์หรือพลาสม่าที่ยิงลงจากอากาศ การปรากฏของไฟและเสียงฟ้าร้อง จึงดูเหมือนปาฏิหาริย์ต่อมนุษย์ยุคโบราณ
---
9. การเห็นพระเจ้าในควันและเปลวไฟบนภูเขาซีนาย (อพยพ 19)
โมเสสเห็นพระเจ้าบนภูเขาซีนายพร้อมควันและเปลวไฟ ถ้ามองในแง่มนุษย์ต่างดาว นี่อาจเป็น การสื่อสารโดยใช้เทคโนโลยีแสงและการฉายภาพสามมิติ ทำให้มนุษย์เห็นเป็นเปลวไฟและควัน พร้อมมีเสียงพูดเหมือนพระเจ้าทรงตรัส
---
10. โนอาห์และน้ำท่วมโลก (ปฐมกาล 6–9)
น้ำท่วมโลกเพื่อทำลายความชั่วร้ายของมนุษย์ สามารถตีความได้ว่า มนุษย์ต่างดาวมีเทคโนโลยีควบคุมน้ำหรือสภาพภูมิอากาศขั้นสูง ทำให้เกิดน้ำท่วมจำกัดพื้นที่ที่ต้องการลงโทษ และช่วยเหลือโนอาห์ผ่านเรือที่ถูกออกแบบด้วยเทคโนโลยีล้ำยุค
---
11. การสถิตของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในวันเพนเทคอสต์ (กิจการ 2)
พระคัมภีร์บอกว่ามีลมพัดและไฟสถิตบนศีรษะผู้เชื่อทั้งหมด ถ้าเป็นมนุษย์ต่างดาว นี่อาจเป็น เทคโนโลยีปล่อยพลังงานหรือสนามแม่เหล็กที่ทำให้เกิดแสงและความร้อนแบบเฉพาะเจาะจง ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นเห็นและสัมผัสประสบการณ์เหนือธรรมชาติ
---
12. การปรากฏของอับราฮัมต่อทูตสวรรค์ (ปฐมกาล 18)
พระคัมภีร์บรรยายว่าทูตสวรรค์มาเยี่ยมอับราฮัมและบอกข่าวเกี่ยวกับโซโดม ถ้าเป็นมนุษย์ต่างดาว เหตุการณ์นี้อาจใช้ การปรากฏตัวแบบโฮโลแกรมหรือร่างสมจริง ที่มนุษย์มองว่าเป็นทูตสวรรค์ พร้อมสื่อสารข้อมูลล่วงหน้าเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคต
เหตุผลรองรับจากมุมวิทยาศาสตร์และตรรกะ
1. ข้อจำกัดของมนุษย์โบราณ
มนุษย์ในยุคโบราณยังไม่มีความรู้เรื่องฟิสิกส์ เคมี หรือเทคโนโลยีขั้นสูง
สิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถสร้างได้ เช่น แยกน้ำทะเล, เรียกไฟจากฟ้า, สื่อสารทางไกลด้วยเสียงที่ชัดเจน เป็นเรื่องเกินกว่าความสามารถของคนในยุคนั้น
ดังนั้น เหตุการณ์เหล่านี้อาจเกิดจากสิ่งมีชีวิตที่มี ความรู้และเทคโนโลยีล้ำหน้า
2. ลักษณะการปรากฏเหนือธรรมชาติ
หลายเหตุการณ์ในพระคัมภีร์ เช่น การปรากฏบนภูเขาซีนาย, การขึ้นสวรรค์ของเอลียาห์, ไฟจากฟ้า ลงโทษทหาร มีลักษณะ ตรงกับเทคโนโลยีการฉายภาพ, แสง, เลเซอร์, หรือสนามพลัง
มนุษย์โบราณมองเห็นสิ่งนี้เป็นปาฏิหาริย์ แต่จริง ๆ อาจเป็น อุปกรณ์เทคโนโลยีขั้นสูงของสิ่งมีชีวิตต่างดาว
3. ความรู้ล่วงหน้าและการสื่อสารทางจิต
พระคัมภีร์หลายตอนแสดงว่า พระเจ้ารู้ล่วงหน้าหรือสามารถสื่อสารข้อมูลเฉพาะบุคคล( คลายโทรศัพท์มือถือที่วันนี้เราสื่อสารที่ไหนก็ได้ในโลก)
หากตีความแบบวิทยาศาสตร์ สิ่งนี้อาจเป็น เทคโนโลยีการสื่อสารระยะไกลขั้นสูง หรือระบบอ่านความคิด (mind scan)
4. ความสามารถเกินกว่ามนุษย์
เหตุการณ์เช่น โนอาห์สร้างเรือขนาดมหึมา, โมเสสแยกทะเล, หรือผู้มีพระวิญญาณได้รับพลังเหนือธรรมชาติ แสดงให้เห็นว่า มีการใช้พลังงานและวัสดุเกินความสามารถมนุษย์ยุคนั้น
การตีความแบบมนุษย์ต่างดาว คือ ใช้เครื่องมือทางวิศวกรรมและพลังงานขั้นสูง ที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์เหล่านี้
5. เหตุผลด้านโบราณคดีและสถาปัตยกรรม
โบราณสถานหลายแห่ง เช่น ปิรามิด, สโตนเฮนจ์, เมกัลิธโบราณ มีความแม่นยำทางคณิตศาสตร์และฟิสิกส์เกินกว่าที่มนุษย์ยุคนั้นจะทำได้
สอดคล้องกับแนวคิดว่า มนุษย์ต่างดาวเป็นผู้ให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีและสถาปัตยกรรม
6. ความสอดคล้องของเหตุการณ์ซ้ำ ๆ
การปรากฏของ “พระเจ้า” หรือ “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” หลายครั้งในหลายยุค สอดคล้องกับ การเยี่ยมเยียนมนุษย์อย่างเป็นระบบ
หากเป็นสิ่งมีชีวิตธรรมดา ก็คงไม่สามารถปรากฏซ้ำหลายสถานที่พร้อมสอนบทเรียนได้อย่างมีระเบียบ
***เราต้องเข้าใจก่อนว่า มนุษย์ยุคโบราณไม่มีความรู้เรื่องฟิสิกส์หรือวิศวกรรมขั้นสูง ทุกสิ่งที่มนุษย์มองว่า “ปาฏิหาริย์” จึงเกินกว่าที่มนุษย์สามารถทำได้ แต่ถ้าเรามองจากมุมของสิ่งมีชีวิตที่พัฒนาเทคโนโลยีมานานกว่า 1,000,000 ปี
อันนี้เพิ่มเติม
https://youtu.be/JOPVG4D5waw?si=s0m2Iz_OAPNG9yOA
https://youtu.be/NQuP82c6jW0?si=oCCnOP8oJVEoS45r
https://youtu.be/uMy1-H2HfFw?si=8_05JvJGigtzDHo0
https://youtu.be/QawJWH3OY2I?si=DnMvVazXeqpnX9DA
https://youtu.be/rApfRhDMj4s?si=PhzmxoWiawwPzYf5
https://youtu.be/_uNub2G0Y6o?si=iNi2RQv4z5nxkZb_