คุณแห่งวิชาประพันธ์ไม่สถิต!กับคนอื่น แต่สถิต!อยู่กับพระพุทธเจ้าทั้งหลาย หรือว่าอย่างไร?

กระทู้คำถาม
พิสูจน์ใจ พิสูจน์ตำรา พิสูจน์อักษร?

“เสิร์ชใน พระไตรปิฎก พบคำว่า ‘คาถาประพันธ์’ ในพระไตรปิฎก ๓๗๑ รายการ ฉะนั้น”



ถามว่า สิ่งใด? คือสิ่งที่พระตถาคตลิขิต! เพราะ สิ่งที่สำคัญ เห็นจะไม่ใช่ ประการที่บอกว่า นักศึกษาไม่สนใจ ถ้าเราจะพึงต้อง ให้ความสำคัญ แก่ ประดานักศึกษา หรือที่แถลงว่า ไม่ใช่ เรื่อง อัน นักศึกษายังเข้าใจผิด, แต่น่าที่จะเป็นประเด็นที่เรียกว่า เป็นความเชื่อดี! หรือไม่ ต่างหาก หรือเป็นประเด็นที่ควรจะยกขึ้นวิจัย ต่างหาก, หากว่า มนุษยพิภพ เรานี้ มนุษย์ ยังคงต้องการที่จะสร้าง คนประเภทพระพุทธเจ้า หรือต้องการที่จะสถิตคนประเภทพระพุทธเจ้า, แล้ว คนสมัยใหม่ หรือ นักศึกษาปัจจุบัน ก็อาจจะสงสัย และกังขา อยู่โดยปกติว่า ถ้าการอ้างพระพุทธเจ้า เพื่อสร้างเพื่อทำคุณประโยชน์ แล้วเรื่อง ย่อมเป็นเรื่องดี, แต่ประเด็นการศึกษาที่บริสุทธิ์ หรืองานวิจัยที่บริสุทธิ์ มนุษยชาติเรา โดยทั้งหมดทั้งปวง ที่จริง ต้องทำยิ่งกว่านั้น, คือ ว่าด้วยเรื่อง การศึกษาความจริง ไม่ใช่ที่จะแค่กระทำการ โดยอ้าง, ซึ่ง ที่แท้ ก็สุดแท้แต่จะอ้าง หรือตู่คำ นั้น ๆ เพราะแต่อ้างความเป็นพล!ความ และ หรืออ้าง การประดับอลังการพระพุทธเจ้า ด้วยตั้งตนที่จะถวายชีวิต หรือวิถีชีวิต ตามที่อ้าง

แต่ทว่า สิ่งสำคัญ คือ เรื่อง! ‘คุณแห่งการประพันธ์ หรือคุณแห่งวิชาประพันธ์’ ที่เกิดขึ้น, เพราะการที่ มนุษย์ จะพึงต้องได้ หัวข้อ!วิจัย ที่มีความบริสุทธิ์ ในความที่เป็นเนื้อหา ที่วิสุทธิ์ ที่จะพึง เป็นไปแก่สิ่งดี และเป็นแกน ของสุดยอดวิชาความรู้จริง ๆ , คือ อาตมา กล่าวถึง นักศึกษา สมัยนี้ คนสมัยนี้ หรือ นักศึกษา ในภาพสากล ที่เป็น นักศึกษา ในระดับโลก หรือ ระดับนานาชาติ ในสมัยนี้, ที่ เขา จะต้อง ใช้ สามัญสำนึก ที่สุจริต ในการที่จะพึงตั้ง หัวข้อ!วิจัย อยู่ โดยสามารถ หรือ โดยอาจสามารถ ที่จะพึงทุ่มเท ที่จะพึง สละชีวิต ไปให้กับงานวิจัย นั้น ๆ, แต่โดยความ นั้น โดยเบื้องแรก นักศึกษา จึงต้องตั้งหัวข้อ แก่การศึกษา หรือ งานศึกษาอภิมนุษย์ เช่นพระพุทธเจ้า เช่นนี้ ฉะนั้น จึงต้องตั้ง หัวข้อ วิจัยว่า ‘พระพุทธเจ้าทั้งหลาย มีปกติแต่งคำพูด ฉะนั้นหรือ?’ และ หรือว่า ‘พระพุทธเจ้าทั้งหลาย มีปกติแต่งจิต กระนั้นหรือ?’, เช่นนี้! คือการสะท้อน มุมมอง หรือ การที่จะให้ นักศึกษา ได้ตั้งหัวข้อวิจัย และทุ่มเทในการที่จะ ให้ได้บังเกิดผล ซึ่งงานวิจัย ที่ว่า ‘คุณแห่งวิชาประพันธ์สถิต!กับพระพุทธเจ้า (ทั้งหลาย) และ หรือ ว่า ที่จริง พระพุทธเจ้า (ทั้งหลาย) สถิต!อยู่แก่คุณ แห่งวิชาประพันธ์’, อัน! ก็ซึ่ง ประพันธกิจ ประพันธกร อันชัด ๆ นั้น ๆ นั่นเอง ที่ท่านถ่ายทอด สืบต่อกันมา แล้วบันทึก ซึ่ง ก็รู้ ก็เห็น กันชัด ๆ ว่า เป็นร้อยแก้ว เป็นร้อยกรอง ที่มีแบบ มีขนบ มีการประพันธ์ โดยกลบท กลวิธี โดยการ กระทำปัจจัยทางภาษา อยู่แล้ว โดยอย่างดี อย่างไร?,

ซึ่ง ด้วยที่จริง ถ้ามนุษย์ ไม่ยกว่า เป็นการแต่ง เป็นการประพันธ์ ถ้าทำกระนั้น ก็ย่อมเท่ากับ สรุป สารูป ความ พระธรรมคำสอนว่า ‘ไม่มีคุณแห่งวิชาประพันธ์’ แต่เพียง มีคุณ แต่ เป็นวัตถุ หรือข่าวสารเปล่า ๆ ในทางที่เรียกว่า สูตร ที่เป็นผลทางคณิตศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์, ที่ ซึ่ง ที่สุด ถ้าไม่บอกว่า พุทธพจน์ เป็น สูงสุด แห่งคุณ ทางวิชาประพันธ์ ที่จริง ย่อม เป็น การลดค่า! ให้ ‘พุทธธรรม หรือพุทธคุณ ฉะนั้น เป็นเพียงงานคณิตศาสตร์’ หรือวิทยาศาสตร์, ที่ ซึ่ง ก็จะกลาย เป็นการยกขึ้นว่า มิได้ ทำการ เป็นการต่อความเชื่อที่ดี ที่น่าจะเกิดขึ้น แล้วให้วัฒนาสืบไป, ซึ่งความเชื่อดี ก็คือ พึงเชื่อว่า พระไตรปิฎก และตำราคัมภีร์ปกรณ์วิเศษต่าง ๆ ที่ปรากฏแล้ว ในทางที่เป็นไปโดยพระตถาคตลิขิต หรือโดยธรรมจักร ล้วน เป็นงานประพันธ์ และเป็นสูงสุดแห่งคุณ แห่งมงคล แห่งวิธีประพันธ์ ด้วย ซึ่ง วิชาประพันธ์, ซึ่งถ้ามิบอกว่าเป็นเรื่องแต่ง ฉะนั้น เมื่อมุ่งไม่บอก และไม่รับว่าเป็นเรื่องแต่ง ฉะนั้น แล้ว ย่อมที่จะได้รับมาแต่ความไม่สนิทใจ ว่าที่ได้รู้ ได้ทราบด้วย เป็นสิ่งดี  เป็นของดี



แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  พระไตรปิฎก
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่